รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 121: มู่ซีซีไม่ใช่ลูกแท้ๆของคุณแม่ใช่ไหมคะ?

ขอเพียงมู่ซีซีและฉู่จือหยวนคบกัน ไม่ช้าก็เร็วคนฉลาดอย่างจี้หลิงชวนต้องระแคะระคายและจับได้อย่างแน่นอน จากนั้นก็ต้องได้เห็นธาตุแท้ของมู่ซีซีเป็นแน่!
มู่อวี๋เฟยรอคอยวันที่จี้หลิงชวนเกลียดมู่ซีซี
แต่สิ่งที่มู่อวี๋เฟยไม่คาดคิดก็คือ จี้หลิงชวนรู้เรื่องนี้เร็วกว่าที่เธอคาดคิดเอาไว้ อีกทั้งเขายังรู้ความจริงก่อนที่มู่ซีซีจะตอบตกลงคบกับฉู่จือหยวนเสียอีก
ผลลัพธ์ที่มู่อวี๋เฟยได้คาดการเอาไว้ก่อนล่วงหน้านั้น มันกลับตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง แต่มู่อวี๋เฟยยังคงไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างจี้หลิงชวนและมู่ซีซี
เวลานี้เมื่อคุณแม่มู่ได้ยินคำพูดที่มู่อวี๋เฟยพูดออกมา เธอก็ขมวดคิ้วเช่นกัน เธอกัดฟันแล้วพูดด้วยน้ำเสียงโมโห: “ใช่! นังมู่ซีซีนังเด็กสารเลว ! ถ้าไม่ใช่เพราะแก เราจะมาตกระกำลำบากแบบนี้ได้อย่างไรกันล่ะ ! แม่ไม่ควรเลี้ยงไว้ แม่น่าจะบีบคอมันให้ตายๆไปเลยตั้งแต่ตอนนั้นซะ! เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะมันคนเดียวที่เป็นตัวซวย !!!”
“ใช่ค่ะ! คุณแม่คะ ตอนนั้นคุณไม่ควรให้นังมู่ซีซีมันเกิดออกมาลืมตาดูโลกเลยนะคะ!” ถ้าคุณแม่ไม่คลอดมู่ซีซีออกมา ตอนนี้อาจเป็นไปได้ว่าคนที่ตระกูลจี้เลือกนั้นอาจเป็นเธอก็ได้ ! ! !
ในเวลานี้คุณแม่มู่เกลียดชังมู่ซีซีอย่างยิ่ง จู่ ๆเมื่อได้ยินมู่อวี๋เฟยพูดเช่นนี้ คุณแม่มู่รีบตอบกลับด้วยมู่อวี๋เฟยโดยไม่ทันคิดว่า:“แม่ไม่เคยคลอดมู่ซีซีนังสารเลวนั้น !”
ทันทีที่พูดจบ สีหน้าของคุณแม่มู่ก็เปลี่ยนไปทันที เธอรีบเอามือปิดปากของตัวเองไว้ แววตาของเธอนั้นบ่งบอกว่าเธอรู้สึกเสียใจที่พูดออกไปโดยไม่คิด
เมื่อกี้เธอพูดเร็วเกินไป! และเธอลืมไปว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่ควรพูดออกมาอย่างยิ่ง แม้ว่าจะเป็นลูกสาวของเธออย่างมู่อวี๋เฟยก็ตาม พูดไม่ได้จริงๆ
มู่อวี๋เฟยที่อยู่ด้านข้าง เธอตกตะลึงอย่างมากเมื่อได้ยินสิ่งที่คุณแม่มู่เพิ่งพูด ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยจ้องมองไปที่คุณแม่มู่อย่างไม่กล้าเชื่อว่ามันจะเป็นความจริง หลังจากผ่านไปสิบกว่าวินาที ทันทีที่เธอได้สติกลับคืนมา เธอรีบคว้าแขนคุณแม่มู่ด้วยดวงตาเบิกกว้างด้วยความสงสัยแล้วถามอย่างรวดเร็วว่า:“ คุณแม่คะ เมื่อกี้นี้คุณแม่พูดว่าอะไรนะคะ ?คุณแม่ไม่ได้คลอดมู่ซีซี ?จริงๆเหรอคะ ?มู่ซีซีไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของคุณแม่ใช่ไหมคะ?”
ยิ่งมู่อวี๋เฟยถามเยอะเท่าไหร่ในใจของเธอก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้น มู่ซีซีไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆของคุณพ่อและคุณแม่ของเธออย่างแน่นอน
อันที่จริงมู่อวี๋เฟยรู้อยู่แก่ใจว่าคุณพ่อและคุณแม่ของเธอปฏิบัติต่อเธอและมู่ซีซีต่างกันขนาดไหน ก่อนหน้านี้เธอเคยรู้สึกพอใจอย่างมาก เธอเพียงรู้สึกว่าคุณพ่อและคุณแม่ของเธอนั้นรักเธอที่สุด คุณพ่อและคุณแม่ไม่เคยรักมู่ซีซีน้องสาวที่เกิดมาเพื่อแย่งความรักของเธอสักนิด
ดังนั้นตั้งแต่เล็กจนโตมู่อวี๋เฟยเกลียดมู่ซีซีมาก และเธอไม่เคยยอมรับว่ามู่ซีซีเป็นน้องสาวของตน
นอกจากนี้โดยปกติแล้วคุณพ่อมู่และคุณแม่มู่นั้นมักจะเพิกเฉยต่อมู่ซีซี ดังนั้นมู่อวี๋เฟยก็ยิ่งได้ใจและไม่ชอบขี้หน้ามู่ซีซีมากขึ้นไปอีก และเธอก็มักจะรังแกกลั่นแกล้งมู่ซีซีอยู่ตลอดเวลา!
ตอนนี้ หลังจากที่ได้ยินประโยคคุณแม่มู่เพิ่งหลุดปากพูดเมื่อกี้นี้ ยิ่งทำให้มู่อวี๋เฟยเข้าใจทุกอย่างได้ในทันที ไม่น่าแปลกใจเลยที่คุณพ่อกับคุณแม่ปฏิบัติต่อเธอและมู่ซีซีมีแตกต่างกันมากขนาดนั้น
เป็นเพราะว่าคนหนึ่งเป็นลูกแท้ๆ อีกคนหนึ่งเป็นลูกที่ถูกเก็บมาเลี้ยง คิดว่าหากเป็นคนอื่นก็คงจะปฏิบัติแบบนี้เช่นกัน
เมื่อคุณแม่มู่ต้องเผชิญกับคำถามของมู่อวี๋เฟย คุณแม่มู่ก็แสดงอาการตื่นตระหนกและมีพิรุธออกมาทางสายตา เธอมองดูรอบๆ อย่างช่วยไม่ได้และมองไปทางคุณพ่อมู่ที่กำลังหลับอยู่บนเตียงเหล็กเตียง
และเมื่อคุณแม่มู่หวนนึกย้อนน้ำเสียงที่ถูกคุณพ่อมู่ข่มขู่อย่างน่ากลัวนั้น : “แม่จะเล่าอะไรให้หนูฟังนะ ถ้าหนูกล้าเอาเรื่องที่มู่ซีซีไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของเราไปเปิดเผยให้คนอื่นรู้แล้วล่ะก็ หากมีใครรู้เรื่องนี้เข้าแล้ว เราสองคนแม่ลูกต้องตายแน่เลย! และถ้าแม่รู้ว่าลูกนำเรื่องนี้ไปบอกให้คนอื่นรู้ แม่จะเล่นงานแกนะ เข้าใจไหม!”
เมื่อนึกถึงคำพูดของคุณพ่อมู่แล้ว คุณแม่มู่ก็รู้สึกตื่นตระหนกจนสั่นไปทั้งตัว
ใช่จ๊ะ ถ้าหากเรื่องที่มู่ซีซีไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของพวกเรารั่วไหลจนทำให้คนอื่นรู้ ถ้าเช่นนั้นทั้งคู่ก็ต้องตายแน่ๆ! ! !
แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะลำบากมากอยู่แล้ว แต่การมีชีวิตอยู่ก็ยังดีกว่าตายนะ! เธอยังไม่อยากตายตอนนี้!
ในขณะที่คิดอยู่นั้นคุณแม่มู่ก็ได้สติคืนกลับมา และพยายามทำสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติที่สุด และหันหน้าไปที่มู่อวี๋เฟยลูกสาวของตัวเองพร้อมพูดว่า :“มู่อวี๋เฟย ลูกเข้าใจผิดแล้วล่ะ ประโยคที่แม่พูดเมื่อกี้นี้แม่พูดเพราะความโกรธเท่านั้น ความหมายของแม่คือในเวลานั้นแม่ไม่ควรคลอดมู่ซีซีออกมาเลย แต่ในตอนนี้ในเมื่อคลอดออกมาแล้ว มู่ซีซีเป็นลูกอีกคนของแม่และความจริงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ”
เมื่อมู่อวี๋เฟยได้ยินสิ่งที่แม่ของเธอพูดแล้ว เธอขมวดคิ้วแน่นและจ้องมองไปที่คุณแม่ของตัวเองด้วยความสงสัย
เธอไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่า เธอรู้สึกเหมือนกับว่าคุณแม่กำลังปิดบังอะไรบางอย่างอยู่ยังไงยังงั้นแหละ
และในตอนนี้ มู่อวี๋เฟยเองก็ค่อนข้างมั่นใจว่าสิ่งที่คุณแม่มู่พูดเมื่อกี้ดูเหมือนจะไม่ผิด แต่เหมือนราวกับว่าเธอได้ระเบิดเรื่องที่เธอปกปิดความขุ่นเคืองที่อยู่ในใจของเธอมาเป็นเวลานาน
นอกจากนี้ท่าทางที่คุณแม่มู่นั้นแสดงออกมาว่ามีอคติและรังเกียจมู่ซีซีมาโดยตลอด ตอนนี้มู่อวี๋เฟยคิดย้อนกลับไป ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามันแปลกๆ ในโลกนี้มีจะแม่คนไหนที่เกลียดชังลูกของตัวเองโดยไม่มีเหตุผลเช่นนี้หรือ?
คำตอบเดียวนั้นก็คือ มู่ซีซีไม่ใช่ลูกแท้ๆของคุณแม่อย่างแน่นอน
เมื่อนึกขึ้นได้อย่างนี้ มู่อวี๋เฟยก็แสดงความรู้สึกออกทางแววตาว่ามีความสุขมากอย่างบอกไม่ถูก
ถ้าหากมู่ซีซีไม่ใช่ลูกหลานตระกูลมู่จริงๆแล้วล่ะก็ ถ้าเป็นเช่นนั้นคงเป็นข่าวดีสำหรับมู่อวี๋เฟยมากๆเลยล่ะ!
ขอเพียงเมื่อถึงเวลาที่เรื่องนี้ได้ปล่อยข่าวออกไปแล้ว คาดว่ามู่ซีซีคงไม่ได้ย่างกายเข้าบ้านตระกูลจี้ได้อีก
ครอบครัวตระกูลจี้นั้นเป็นตระกูลผู้ดีและไม่สามารถที่จะยินยอมให้ผู้หญิงที่ไม่รู้สกุลรุนชาติอย่างมู่ซีซีเข้าตระกูลจี้เป็นแน่?
ยิ่งคิดมู่อวี๋เฟยก็ยิ่งรู้สึกมีความสุข ไม่แน่ว่าชาติตระกูลของมู่ซีซีนั้นอาจจะมีประวัติด่างพร้อยก็เป็นได้!
หากเธอตรวจสอบแน่ชัดแล้ว การกำจัดมู่ซีซีนั้นก็คงไม่ใช่เรื่องยากอะไร
ในขณะที่มู่อวี๋เฟยคิดอยู่นั้น เธอก็มองไปทางคุณแม่มู่ด้วยแววตาที่ตื่นเต้นและมีความสุขเป็นอย่างมาก
เมื่อทั้งสองสบตากัน คุณแม่มู่รู้จักนิสัยลูกในไส้ของเธอเป็นอย่างดี แค่มองก็รู้แล้วว่ามู่อวี๋เฟยคิดวางแผนจะทำอะไร
ใจเธอเต้นแรงตุบตุบและเต้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ!
ไม่ได้นะ เธอจะปล่อยให้มู่อวี๋เฟยรู้ว่ามู่ซีซีนั้นเป็นใครมาจากไหนไม่ได้เด็ดขาด!
ในขณะที่คิดคุณแม่มู่คิดอยู่นั้น เธอรู้สึกเสียใจที่พลั้งปากพูดเรื่องนี้ออกมา จนแทบอยากจะตบปากของตัวเอง เธอยังคงพยายามทำให้สีหน้าของเธอดูปกติที่สุดแล้วพูดกับมู่อวี๋เฟยว่า:“อวี๋เฟย นี่ลูกคิดวางแผนจะทำอะไรอีกแล้วใช่ไหม! แม้ว่าแม่จะไม่อยากยอมรับความจริงข้อนี้ แต่มู่ซีซีนั้นเป็นลูกที่อยู่ในครรภ์ของแม่มาตั้ง 10 เดือน สิ่งที่แม่เพิ่งพูดไปเมื่อกี้นี้เป็นเพราะแม่พูดด้วยความโมโหจริงๆ”
ในขณะที่คุณแม่มู่พูดอยู่นั้น สีหน้าของมู่อวี๋เฟยยังคงจ้องมองเธอด้วยแววตาที่สงสัยและไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูด คุณแม่มู่ขมวดคิ้วและดึงเสื้อของตัวเองขึ้น เปิดหน้าท้องให้มู่อวี๋เฟยดู เธอเห็นแค่เพียงหน้าท้องของคุณแม่มู่นั้นมีพุงหน่อยๆและตรงท้องนั้นยังมีรอยแผลเป็นยาวคล้ายตะขาบสองเส้นที่ตัดกันเหมือนไม้กางเขน

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset