รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 233: ยอมรับความจริง

“นั่งลงก่อน”
คุณนายหญิงจี้เปิดปากพูด
จี้หลิงชวนและมู่ซีซีทั้งสองคนพยักหน้า หาเก้าอี้แล้วนั่งลงข้างเตียงคุณนายหญิงจี้
ทันทีที่จี้หลิงชวนและมู่ซีซีเข้ามา พวกเขาก็เห็นรอยน้ำตาที่เปียกชื้นบนใบหน้าของคุณนายหญิงจี้ และดวงตาบวมแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่าคุณนายหญิงจี้เพิ่งจะร้องไห้
จี้หลิงชวนถูกเลี้ยงดูมาโดยคุณนายหญิงจี้ เมื่อจี้หลิงชวนโตมาอายุขนาดนี้แล้วเขาเห็นคุณนายหญิงจี้ ร้องไห้ 2 ครั้ง ครั้งแรกคือเมื่อตอนที่นำขี้เถ้าของคุณป้าของจี้หลินชวนกลับบ้าน และอีกครั้งหนึ่งคือเมื่อตอนที่พ่อแม่ของเขาเสียชีวิตอย่างกะทันหัน
และนี่เป็นครั้งที่สามที่จี้หลิงชวนเห็นคุณย่าร้องไห้และเขาก็รู้สึกขมขื่นขึ้นมา เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะพูดคำที่เขาเตรียมไว้ตั้งแต่แรกอย่างไร
สุดท้ายคุณนายหญิงจี้ มองดูจี้หลิงชวนและมู่ซีซีทั้งสองและทำลายความเงียบลงแล้วพูดขึ้นทีละคำ: “หลิงชวน ซีซีไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆของคุณป้าของหลานจริงๆหรือ?”
ในขณะที่พูดอยู่นั้นน้ำสียงที่อ่อนล้าของคุณนายหญิงจี้หยุดชะงัก หลังจากผ่านไปหลายวินาที น้ำเสียงของเธอก็สั่นเทาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดต่อว่า: “ลูกสาวแท้ ๆของคุณป้าเกิดมาได้ไม่นานก็เสียแล้วจริง ๆเหรอ?”
ทันทีที่คุณนายหญิงจี้พูดจบ ทั้งจี้หลิงชวนและมู่ซีซีทั้งสองต่างรู้อยู่แก่ใจดี คุณหมอพูดถูก คุณนายหญิงจี้จำเรื่องราวคำพูดครั้งก่อนของจี้หลิงชวนได้
ดวงตาของคุณนายหญิงจี้ยังคงจ้องมองไปที่จี้หลิงชวนอย่างไม่กะพริบตา แต่จี้หลิงชวนผู้ซึ่งตั้งใจแน่วแน่อยู่เสมอพอถึงเวลานี้เขากลับรู้สึกลังเลและเม้มริมฝีปากแน่น
กลัวว่าคุณนายหญิงจี้จะรับไม่ได้ และถูกกระตุ้นให้อาการหนักขึ้นอีกครั้ง
จี้หลิงชวนเงียบไปครู่หนึ่ง และคุณนายหญิงจี้ค่อย ๆ มองไปที่จี้หลิงชวนอีกครั้งและกล่าวว่า :”หลิงชวน บอกความจริงกับย่ามาตรง ๆเถอะ หลานวางใจได้ย่าไม่ได้เป็นคนอ่อนแอขนาดนั้น ย่ายังไหว! ย่าแค่ต้องการรู้ความจริง”
จี้หลิงชวนมองดูท่าทางแน่วแน่ของคุณย่า และเม้มริมฝีปากแน่นแล้วจึงพูดช้า ๆ ว่า :“คุณย่าครับ ผมขอให้ฟางเซิ่งตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว หลักฐานทั้งหมดเป็นที่แน่ชัดยืนยันแล้วว่าลูกสาวแท้ ๆของคุณป้าคลอดออกมาไม่นานก็เสียชีวิตแล้ว ซีซีเป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทของคุณป้าครับ เธอเสียชีวิตหลังจากที่ซีซีเกิดได้ไม่นาน เมื่อเห็นว่าซีซียังเด็กอยู่และน่าสงสารอย่างมาก และประจวบเหมาะลูกสาวของตัวเองก็เพิ่งเสียไป คุณป้าก็เลยรับเลี้ยงซีซีเหมือนเป็นลูกสาวของตัวเองครับ”
ทันทีที่จี้หลิงชวนพูดจบ คุณนายหญิงจี้ก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ น้ำตาก็ไหลออกมาทันที
ทั้งจี้หลินวนและมู่ซีซีต่างกังวลใจและรีบร้องออกมา :“ คุณย่า”
คุณนายหญิงจี้รู้สึกเหนื่อยแล้ว เธอหลับตาลง และพูดกับทั้งจี้หลิงชวนและมู่ซีซีว่า: “ย่าเข้าใจแล้ว หลิงชวน มู่ซีซี หลาน ๆออกไปก่อนเถอะ ย่ารู้สึกเหนื่อยมากแล้ว ย่าอยากพักผ่อนสักพัก”
ทันทีที่คุณนายหญิงจี้พูดแบบนี้ จี้หลิงชวนและมู่ซีซีถึงแม้ว่าทั้งสองจะไม่วางใจเท่าไหร่แต่ก็ทำได้เพียงเดินออกจากห้องพักฟื้นคนไข้โดยดี
มู่ซีซีและจี้หลิงชวนทั้งสองรออยู่ข้างนอกห้องพักฟื้นคนไข้ทั้งคืนอย่างกังวลใจ จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อคุณหมอเข้ามาดูอาการคนไข้ มู่ซีซีและจี้หลิงชวนทั้งสองจึงรีบเดินตามหลังคุณหมอเข้าไปในห้องพักฟื้นคนไข้
หลังจากพักผ่อนหนึ่งคืน แม้ว่าใบหน้าของคุณนายหญิงจี้จะยังดูซีดเซียวเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับเมื่อวานก็นับว่าดีขึ้นมากแล้ว
เบ้าตายังแดงก่ำอยู่ และในแววตาของเธอนั้นดูว่างเปล่า ราวกับว่าคุณนายหญิงจี้มีอายุมากขึ้นหลายปีในชั่วข้ามคืน
แพทย์ตรวจดูร่างกายของคุณนายหญิงจี้อย่างละเอียดแล้วผลปรากฏว่ามีค่าดัชนีมวลกายปกติ แพทย์กล่าวว่าบ่ายวันนี้คุณนายหญิงจี้ก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว
ในห้องพักฟื้นคนไข้ก็เหลือเพียงจี้หลิงชวน มู่ซีซีและคุณนายหญิงจี้สามคนเท่านั้นแล้ว
ทั้งจี้หลิงชวนและมู่ซีซีทั้งสองยืนอยู่ตรงหน้าคุณนายหญิงจี้ด้วยความกังวลเล็กน้อย และมีคำพูดมากมายที่จะพูดปลอบใจคุณนายหญิงจี้ แต่เมื่อพวกเขามองไปที่คุณนายหญิงจี้ที่ตอนนี้บนใบหน้ารู้สึกหดหู่ และดูเหมือนคำพูดปลอบใจที่เตรียมจะพูดเหล่านั้น ถึงพูดไปมันก็เหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว
เมื่อคุณนายหญิงจี้มองไปที่จี้หลิงชวนและมู่ซีซีทั้งสองเงียบกริบ แต่ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวลและความห่วงใย ทันใดนั้นเธอก็ค่อย ๆยิ้มให้กับจี้หลิงชวนและมู่ซีซีพร้อมพูดขึ้นว่า: “หลานทั้งสองไม่ต้องกังวลใจแล้ว ย่าไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น และ จะไม่ล้มลงง่าย ๆหรอกนะ”
ใช่สิ สำหรับคุณนายหญิงจี้แล้วเธอผ่านเรื่องราวเลวร้ายที่เกิดขึ้นในครอบครัวก็ไม่ใช่น้อย เมื่อสมัยสาวๆสามีสุดที่รักของเธอเสียชีวิตด้วยอาการป่วย พอช่วงวัยกลางคน ลูกสาวและลูกชายพร้อมลูกสะใภ้ของเธอก็เสียชีวิตอย่างกะทันหัน ซึ่งทำให้เธอต้องออกตามหาหลานสาวที่หายตัวไปตลอดทั้งชีวิต ในที่สุดก็หาหลานสาวที่หายตัวไปจนเจอ เดิมคิดว่าจะสามารถชดใช้ให้ลูกสาวของตัวเองได้ แต่ใครจะรู้ว่าสุดท้ายแล้วผลลัพธ์ก็คือกลับหาผิดคน หลานสาวที่หายตัวไปของตัวเองนั้นได้เสียชีวิตไปตั้งแต่เมื่อ 19 ปี ที่แล้ว
ถ้าไม่มีความหวังในตอนแรก คุณนายหญิงจี้อาจไม่รู้สึกทรมานใจขนาดนี้หรอก สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดคือการมีความหวังจากนั้นกลับกลายเป็นความผิดหวัง
อย่างไรก็ตามถ้าคุณนายหญิงจี้ใจไม่แข็งพอแล้วล้มลงง่าย ๆแล้วล่ะก็ เกรงว่าสิบปีก่อนตอนที่ลูกสาว ลูกชาย และลูกสะใภ้ตายจากไปทีละคนคุณนายหญิงจี้คงจะผ่านเรื่องเร็วร้ายตั้งแต่ตอนนั้นไปไม่ได้แล้วล่ะ
“ไม่ต้องเป็นห่วง ย่าไม่เป็นไร ย่าแค่เสียใจนิดหน่อย……” ในขณะที่คุณนายหญิงจี้พูดอยู่นั้นก็มองไปทางจี้หลิงชวนและมู่ซีซีแล้วยิ้มให้ทั้งสองคนแล้วพูดว่า: “ในเมื่อหลานทั้งสองคนไม่ใช่ลูกพี่ลูกน้องกัน ถ้าเช่นนั้นความสัมพันธ์ระหว่างหลานทั้งสองคนก็ตัดสินใจกันเอาเองเถอะ”
ในขณะที่พูดอยู่นั้นคุณนายหญิงจี้มองไปที่มู่ซีซีที่ดวงตาแดงก่ำ และจับมือของมู่ซีซีอีกครั้ง แม้ว่าทั้งสองคนจะมีไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองก็ไม่สามารถทิ้งไปได้ง่าย ๆ คุณนายหญิงจี้ไม่ได้โทษมู่ซีซี อีกทั้งเพราะมู่ซีซีก็ไม่รู้ความจริงตั้งแต่ตอนแรก
ในขณะที่คุณนายหญิงจี้คิดอยู่นั้นเธอก็มองไปที่มู่ซีซีด้วยรอยยิ้มพร้อมพูดกับเธอว่า: “ซีซี ในใจของคุณย่าก็คิดว่าหนูเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวแล้ว ไม่ว่าหนูจะเป็นหลานสาวของย่าก็ดี หรือเป็นภรรยาของจี้หลิงชวนก็ดี หนูก็เปรียบเสมือนเป็นคนในของครัวครอบและเป็นคนสำคัญของย่า”
เมื่อมู่ซีซีได้ยินแบบนั้นแล้วเธอก็อดกลั้นไม่ไหวน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาน้อย ๆ และเธอก็กุมมือของคุณนายหญิงจี้เอาไว้แน่น
แม้ว่าคุณนายหญิงจี้ปากจะบอกว่าเธอไม่เป็นไร และสามารถรับได้กับทุกสถานการณ์ แต่เรื่องนี้ทำให้คุณนายหญิงจี้บอบช้ำภายในจิตใจไม่น้อยเลย
หลังจากออกจากโรงพยาบาล คุณนายหญิงจี้ไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์ของตระกูลจี้ แต่ขอให้คุณแม่จางจัดการหาบ้านพักคนชราและเธอก็เข้าไปอาศัยอยู่ที่นั่น
จี้หลิงชวนไม่สามารถเกลี้ยกล่อมคุณนายหญิงจี้ได้ และไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปฏิบัติตาม
สำหรับมู่ซีซี เธอไม่ใช่หลานสาวของคุณนายหญิงจี้อีกต่อไปแล้ว เธอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยถ้าตัวเองยังอาศัยอยู่ในคฤหาสน์นี้ต่อไปอีก และเธอก็ได้ย้ายกลับไปอยู่กับจี้หลิงชวนที่คฤหาสน์ที่ทั้งสองเคยอาศัยอยู่ด้วยกัน
ในที่สุดช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายและอุปสรรคต่าง ๆก็สิ้นสุดลงแล้ว
เนื่องจากอาการบาดเจ็บของจี้หลิงชวน เขาจึงต้องรักษาตัวอยู่ที่บ้านหลายวัน และเมื่อรักษาตัวหายเขาก็กลับไปทำงานที่บริษัททันที ฟางเซิ่งก็รีบมารายงานทันที
“คุณชายจี้ครับ คนร้ายผู้ลักพาตัวมู่อวี๋เฟยก่อนหน้านี้ได้ถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตแล้วครับ ส่วนมู่อวี๋เฟย…… เราได้ส่งคนออกไปตามหาตามริมฝั่งแม่น้ำ และพวกเขาก็ยังได้แจ้งความกับสถานีตำรวจในหลายเมืองนั้นอีกด้วยครับ แต่หลายวันมานี้ไม่ว่าจะเป็นข่าวเกี่ยวกับตัวมู่อวี๋เฟยหรือศพก็ไม่มีข่าวคราวใด ๆเลยครับ “

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset