รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 236 จี้หลิงชวน ฉันคิดถึงคุณมาก

“ในตอนนี้เธออยู่ที่ศูนย์การแพทย์ซีไน่ชาน ฉันได้พูดคุยกับแพทย์ที่นั่นแล้ว ตอนนี้เธอไม่ได้บาดเจ็บถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิต แกไม่ต้องกังวล” เวินจิ่งอธิบาย
“อืม ฉันเข้าใจแล้ว” หลังจากจี้หลิงชวนพูดจบเขาก็วางสาย จากนั้นเขาก็เรียกแท็กซี่และตรงไปยังศูนย์การแพทย์ซีไน่ชาน
เวินจิ่งไม่วางใจที่จะให้เขาไปเพียงลำพัง เมื่อวางสายโทรศัพท์เขาก็ตรงไปยังโรงพยาบาลเช่นกัน
เวินจิ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากนักและเขามาถึงเร็วกว่าจี้หลิงชวน เขารอบริเวณประตูทางเข้าโรงพยาบาลประมาณ20นาที จากนั้นเขาก็เห็นจี้หลิงชวนที่กำลังลงจากรถแท็กซี่
จี้หลิงชวนเองก็เห็นเวินจิ่ง เมื่อทั้งคู่สบสายตากัน เวินจิ่งเห็นท่าทางกังวลใจของพี่น้องเขา เขาจึงพยักหน้าให้กับจี้หลิงชวนและพูดว่า “ฉันจะพาแกไปพบเธอที่ห้องพักผู้ป่วยก่อน”
เวินจิ่งกำลังศึกษาปริญญาเอกด้านการแพทย์ในสหรัฐอเมริกา เขามักจะมาที่โรงพยาบาลพร้อมกับอาจารย์เพื่อเข้าร่วมการผ่าตัดที่สำคัญ ดังนั้นเวินจิ่งจึงคุ้นเคยกับโรงพยาบาลเป็นอย่างดี
ผู้ที่คุ้นเคยกับถนนหนทางได้เดินนำจี้หลิงชวนไปยังแผนกผู้ป่วยใน หลังจากที่เขานำจี้หลิงชวนไปยังห้องพักผู้ป่วยแล้วเวินจิ่งก็พูดกับจี้หลิงชวนว่า “อยู่ในห้องนี้ แกเข้าไปก่อน หลังจากที่แกเจอเธอแล้ว ฉันจะเล่ารายละเอียดให้แกฟัง”
จี้หลิงชวนพยักหน้า เวินจิ่งเดินไปและนั่งลงบนเก้าอี้ข้างทางเดิน
จี้หลิงชวนยืนอยู่หน้าประตูห้องพักผู้ป่วย มือของเขาที่กำลังเหยียดออกไปและสัมผัสประตูนั้นแข็งทื่อในทันที ความรู้สึกต่างๆพรั่งพรูเข้ามา ชูเหยานั้นหายตัวไปเป็นเวลาห้าปี ในช่วงห้าปีที่ผ่านมาจี้หลิงชวนไม่เคยเลิกตามหาตัวชูเหยา แต่เหมือนกับว่าชูเหยานั้นได้จากเขาไปแล้วจริงๆ ไม่ว่าจะตามหาอย่างไรจี้หลิงชวนก็ตามหาเธอไม่พบ
แต่จู่ๆทันใดนั้น บุคคลที่เขาตามหามาเป็นระยะเวลาห้าปีก็ปรากฏตัวขึ้น จี้หลิงชวนนั้นกลัวจริงๆว่านี่อาจเป็นเพียงแค่ความฝัน
เขาค่อยๆสูดลมหายเข้าใจออก หลังจากปรับอารมณ์ของตัวเองให้คงที่แล้ว จี้หลิงชวนเอื้อมมือออกไปและสัมผัสประตูห้องจากนั้นเขาก็ค่อยๆผลักบานประตูที่กำลังปิดอยู่ให้เปิดออก
ทันทีที่ประตูเปิดออก จี้หลิงชวนที่ยืนอยู่บริเวณประตู สายตาของเขามองเห็นคนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงของผู้ป่วยเป็นอันดับแรก
ใบหน้าเล็กๆนั้นซีดเผือดและดูน่ากลัว มีรอยฟกช้ำมากมายบนหน้าผาก เพียงแค่มองก็รู้ได้ในทันทีว่าเธอได้รับบาดเจ็บ
ร่างกายซูบผอม เธอนอนขดตัวอยู่บนเตียงราวกับสัตว์ตัวน้อยที่กำลังบาดเจ็บ
แต่เพียงครั้งแรกที่จี้หลิงชวนเห็น เขาก็รู้ในทันทีว่านี่คือชูเหยาที่เขาตามหามานานถึงห้าปี
จี้หลิงชวนเม้มริมฝีปากแน่น เขาอดไม่ได้ที่จะก้าวเท้าเบาๆและค่อยๆก้าวไปยังเตียงผู้ป่วยที่ชูเหยากำลังนอนอยู่
ชูเหยาในตอนนี้กับชูเหยาเมื่อห้าปีก่อนนั้นเปลี่ยนไปมาก ชูเหยาเมื่อห้าปีที่แล้วนั้นเธอทั้งงดงาม ดูสดใส มีชีวิตชีวา ชูเหยาในตอนนี้แม้ว่าเธอจะยังไม่ลืมตา จี้หลิงชวนกลับสัมผัสได้เลยว่าชูเหยานั้นซูบผอมและโทรมจากภายใน
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เวินจิ่งพูดก่อนหน้านี้ว่าชูเหยานั้นได้รับการช่วยเหลือออกมาจากโรงรถ หัวใจของเขาราวกับว่าถูกก้อนหินขนาดใหญ่ทับไว้และทำให้รู้สึกหายใจลำบาก
เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดเลยว่าระยะเวลา5ปีที่ผ่านมานี้ ชูเหยาผ่านมันมาได้อย่างไร!
นิ้วมือทั้งสิบของเขานั้นกำแน่น
อาจเป็นเพราะว่าจี้หลิงชวนจ้องมองชูเหยานานเกินไป ชูเหยาที่กำลังหลับใหล ดูเหมือนว่าจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง ขนตาที่ยาวสสวยและงอนก็เริ่มขยับ วินาทีถัดมา ชูเหยาก็ค่อยๆลืมตาขึ้น
เมื่อเผชิญหน้ากับใบหน้าที่หล่อเหลาของจี้หลิงชวนแล้วชูเหยานั้นนิ่งงันไปชั่วครู่ เธอมองไปที่ใบหน้าของจี้หลิงชวนด้วยสีหน้าที่ว่างเปล่า เธอไม่กล้าแม้แต่จะกะพริบตา เธอเกรงว่าหากเธอกะพริบตาจี้หลิงชวนอาจจะหายไป
เมื่อทั้งคู่สบสายตากัน ทั้งจี้หลิงชวนและชูเหยาต่างก็ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา กระทั่งดวงตาของชูเหยาเริ่มแดงก่ำและน้ำตาของเธอก็รินไหลออกมาอย่างอดไม่ได้
จี้หลิงชวนจ้องมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาของชูเหยา คิ้วของเขาขมวดแน่นราวกับว่าหัวใจกำลังเจ็บปวด เขามองชูเหยาและอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ชูเหยา!”
เมื่อได้ยินคำพูดของจี้หลิงชวน เหมือนกับว่าชูเหยานั้นดูตื่นตกใจ เธอไม่สนใจน้ำตาบนใบหน้าของเธอ เธอรีบดึงผ้าห่มที่อยู่บนร่างกายของเธอและดึงมันมาคลุมตัวเองเอาไว้
จี้หลิงชวนเห็นเช่นนั้นก็เกรงว่าชูเหยาจะอุดอู้อยู่ภายในผ้าห่ม เขาจึงรีบเอื้อมมือไปดึงผ้าห่มไว้ ขณะที่เขาจับผ้าห่ม เขาก็เอ่ยว่า “ชูเหยา เราไม่เจอกันตั้ง5ปีแล้ว เธอไม่อยากเจอฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ทันทีที่สิ้นเสียงของจี้หลิงชวน มือของชูเหยาที่กำผ้าห่มไว้แน่นก็ค่อยๆคลายลง จี้หลิงชวนจึงค่อยๆเปิดผ้าห่มจากนั้นเขาก็เห็นชูเหยาในชุดผู้ป่วยของโรงพยาบาล
ชูเหยาที่ไม่อาจควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป เธอรีบโผเข้าหาจี้หลิงชวน แขนเล็กๆของเธอนั้นกอดเอวของจี้หลิงชวนไว้แน่น จากนั้นร่างกายของเธอก็เข้าสู่อ้อมแขนของจี้หลิงชวน เธอพูดออกมาอย่างสะอึกสะอื้น “จี้หลิงชวน ใช่คุณจริงๆใช่ไหม ฉันคิดว่าตลอดทั้งชีวิตของฉันอาจจะไม่ได้พบคุณอีกแล้ว จี้หลิงชวน ฉันกลัวมาก กลัวมาก ฉันคิดถึงคุณทุกวัน ฉันคิดว่าฉันจะต้องตายแน่ๆ”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่สั่นเครือของชูเหยา หัวใจของจี้หลิงชวนราวกับว่าถูกฉีกออกจากกันอย่างรุนแรง เขาเอื้อมมือออกไปและโอบกอดชูเหยาไว้โดยไม่รู้ตัว ภายในความคิดของเขาฉายภาพใบหน้าเล็กๆของมู่ซีซีที่คล้ายคลึงกับชูเหยาโดยไม่สามารถอธิบายได้ มือทั้งสองของจี้หลิงชวนนั้นชะงักในทันที วินาทีถัดมา จี้หลิงชวนนั้นไม่ได้โอบกอดชูเหยา แต่เขานั้นเอื้อมมือออกไปและลูบหลังปลอบโยนชูเหยาอย่างเบามือ “ชูเหยา ไม่ต้องร้อง ทุกอย่างผ่านไปแล้ว ตอนนี้เธอเองก็ปลอดภัยแล้ว หลังจากนี้จะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว”
จี้หลิงชวนปลอบโยนด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา จากนั้นชูเหยาก็ค่อยๆสงบสติอารมณ์และหยุดร้องไห้ จี้หลิงชวนอดไม่ได้ที่จะจ้องมองชูเหยาอย่างเป็นกังวลและถามว่า “ชูเหยา ห้าปีที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่? เธอไม่ต้องกลัว หากว่ามีใครมาทำร้ายเธอ ฉันจะทำให้คนพวกนั้นได้รับโทษอย่างสาสม!”
ชูเหยาได้ยินเสียงของจี้หลิงชวน แต่กลับผลักจี้หลิงชวนออกและผละตัวออกห่างจากอ้อมกอดของเขา เธอเอนกายนอนลงบนเตียงคนไข้ เธอหลับตาลงด้วยสีหน้าบึ้งตึง เห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการเอ่ยถึงหัวข้อนี้ “หลิงชวน ขอโทษด้วย ฉันเหนื่อยมาก ไม่อยากพูดถึงเรื่องราวในห้าปีที่ผ่านมากับคุณเลย….”
ขณะที่เธอเอ่ย น้ำตาของเธอก็รินไหลลงมาอีกครา เธอร้องไห้และพูดว่า “หากว่าคุณอยากรู้ คุณก็ไปถามเวินจิ่งเถอะ เมื่อวานเขาเองก็อยู่ เขาได้ยินทุกอย่าง”
จี้หลิงชวนขมวดคิ้วแน่น เขามองท่าทีและอารมณ์ของเธอในตอนนี้ เขาทำได้เพียงพยักหน้าและปลอบโยนเธอ “อืม งั้นเธอพักผ่อนเถอะ”
ขณะเขาพูด จี้หลิงชวนลุกขึ้นและเดินออกจากห้องไป เวินจิ่งที่รออยู่ด้านนอกบริเวณทางเดิน เมื่อเขาเห็นจี้หลิงชวนออกมา เขาก็ลุกขึ้นและเดินไปหาจี้หลิงชวนพร้อมกับพูดว่า “ไม่เหมาะที่จะคุยที่นี่ ฉันยังไม่ได้กินอาหารเที่ยง แกเองก็คงเหมือนกัน งั้นหาที่นั่งทานอาหารแล้วระหว่างนั้นเราก็ค่อยคุยกัน
หลังจากเวินจิ่งพูดจบ เขาเห็นว่าจี้หลิงชวนยังคงมองไปทางห้องพักผู้ป่วยของชูเหยาด้วยสีหน้ากังวล เวินจิ่งจึงพูดอธิบายว่า “แกไม่ต้องกังวลเรื่องชูเหยาหรอก ฉันให้พยาบาลที่นี่คอยดูแลเธอแล้ว”
จี้หลิงชวนได้ยินเช่นนั้นจึงพยักหน้าและเดินตามเวินจิ่งออกจากโรงพยาบาล
ทั้งสองพบร้านอาหารยุโรปแถวโรงพยาบาล ทันทีที่พวกเขานั่งลง จี้หลิงชวนขมวดคิ้วแน่นและมองไปทางเวินจิ่งพร้อมกับถามว่า “เวินจิ่ง ในช่วงห้าปีที่ผ่านมานี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับชูเหยา?”

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset