รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 44 เธอน่าจะรสชาติดีกว่านะ

คิดแล้วมู่ซีซีก็รู้สึกเกรงใจป้าหลิง เธอส่ายหน้าปฏิเสธออกไป“ป้าหลิงคะ……ขอบคุณมากค่ะ แต่ว่าหนูอยากจะลองทำดูก่อน……”
พูดไปพลางมู่ซีซีก็อดไม่ได้ที่จะถามป้าหลิงด้วยความกังวลว่า“ป้าหลิงคะ……ป้าคิดว่า อาหารที่หนูทำวันนี้ จี้หลิงชวนจะชอบทานไหมคะ?”
นึกถึงภาพที่มู่ซีซีทำอาหารเมื่อกี้ป้าหลิงถึงกลับไม่รู้ว่าจะตอบเธออย่างไร……
แต่พอเห็นสีหน้าที่มีความกังวลใจของมู่ซีซี ป้าหลิงคิดว่าไม่ควรพูดให้เธอเสียกำลังใจจะดีกว่า ป้าหลิงจึงพูดปลอบใจเธอว่า“คุณมู่เป็นคนลงมือทำอาหารด้วยตัวเองแบบนี้ อีกทั้งล้วนแต่เป็นอาหารที่คุณชายจี้ชอบ ทั้งตั้งใจทำและใส่ใจในทุกรายละเอียด มีหรือว่าคุณชายจี้จะไม่ชอบ”
สิ่งที่ทั้งสองคนคุยกันในห้องครัว ได้ยินเข้ามาถึงหูของจี้หลิงชวนที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าประตู
เมื่อจี้หลิงชวนได้ยินในสิ่งที่มู่ซีซีพูด เขารู้สึกพึงพอใจอยู่ลึกๆ พร้อมกับใบหน้าที่เผยให้เห็นถึงรอยยิ้มเล็กน้อย
อืม นี่มู่ซีซีตั้งใจเข้าครัวเพื่อเขาอย่างนั้นเหรอ?ไม่เลวนี่
จี้หลิงชวนอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา รอยยิ้มของเขายังดูอ่อนโยนมากอีกด้วย
คำพูดปลอบใจของป้าหลิงก็พูดได้ไม่เลวจริงๆ อืม พรุ่งนี้จะพิจารณาเพิ่มเงินเดือนให้!
เมื่อมองมู่ซีซีจากทางด้านหลังที่กำลังยุ่งทำนู่นทำนี่อยู่ในห้องครัว จี้หลิงชวนรู้สึกว่าภาพแบบนี้มู่ซีซีชั่งดูน่ารักเหลือเกิน
ทำให้เขารู้สึกชุ่มชื่นหัวใจ ถึงกลับแสยะยิ้มออกมา และในขณะนั้นเองจี้หลิงชวนก็ยื่นมือออกไปเคาะประตู“ก๊อกๆๆ……”
ป้าหลิงและมู่ซีซีที่กำลังทำอาหารกันอยู่ในห้องครัวหันหลังกลับมามองที่หน้าประตู และพบว่าจี้หลิงชวนกลับมาแล้ว
เมื่อเห็นว่าเป็นจี้หลิงชวน ทั้งสองคนถึงกลับชะงัก
มู่ซีซีได้สติกลับมาก่อน ทันทีที่เห็นจี้หลิงชวนเธอรู้สึกแปลกใจมาก เธอไม่รู้ว่าจะทำยังไงจึงรีบร้อนถามออกไปว่า“อ้าว คุณชายจี้ ทำไมคุณถึงได้กลับมาเร็วนักล่ะ?”
พูดไปพลางมู่ซีซีก็ก้มลงดูนาฬิกาที่ข้อมือ นี่เพิ่งจะผ่านไปยี่สิบกว่านาทีเองนะ……
มู่ซีซีนึกถึงเรื่องที่เธอคุยกันกับป้าหลิงเมื่อกี้ หน้าของเธอก็แดงขึ้นมาทันที…… ไม่รู้ว่าจี้หลิงชวนเข้ามาตอนไหน เรื่องที่คุยกับป้าหลิงเมื่อกี้เขาจะได้ยินหรือเปล่านะ……
ทางด้านของป้าหลิงเพิ่งจะได้สติกลับคืนมา รีบโค้งคำนับต้อนรับจี้หลิงชวน“คุณชายจี้กลับมาแล้วเหรอคะ”
เมื่อป้าหลิงพูดจบ ในห้องครัวที่เงียบสงบมีเสียงพูดอันเย็นชาและดูเคร่งขรึมของจี้หลิงชวนดังขึ้นมา“ป้าหลิง เย็นวันนี้ ผมให้ป้าหยุดได้หนึ่งวัน ป้ารีบกลับไปพักผ่อนเถอะ”
ป้าหลิงเป็นคนในพื้นที่ของเมืองหรงมาแต่เดิม บ้านของป้าหลิงก็อยู่ในเมืองหรง ทันทีที่ป้าหลิงได้ยินคำสั่งของจี้หลิงชวนก็รีบตอบรับทันที จากนั้นป้าหลิงก็ถอดผ้ากันเปื้อนออกและเดินออกไปจากห้องครัว
ทันทีที่ป้าหลิงออกไป จี้หลิงชวนก็ค่อยๆเดินเข้ามาในห้องครัว
ตอนนี้ในคฤหาสน์อันใหญ่โตเหลือเพียงแค่จี้หลิงชวนและมู่ซีซีสองคน
เมื่อมู่ซีซีเห็นจี้หลิงชวนเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ หัวใจของเธอก็เต้นเร็วขึ้นมาในชั่วขณะ เธอจับตะหลิวไม้ที่อยู่ในมือแน่น มู่ซีซีรู้สึกตื่นเต้นและทำอะไรไม่ถูก
และแล้วจี้หลิงชวนก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของมู่ซีซี
เห็นแววตาที่มึนๆงงๆของมู่ซีซีที่มองมายังตัวเขา จี้หลิงชวนก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ เขามองไปที่มู่ซีซีที่มีท่าทางเขินอาย พร้อมกับพูดและหัวเราะไปด้วยว่า“ถ้าเธอยังมองฉันแบบนี้ กลัวว่าอาหารในกระทะคงจะไหม้หมดแน่!”
คำพูดของจี้หลิงชวนเมื่อกี้เรียกสติของมู่ซีซีให้กลับมา เธอรีบมองอาหารในกระทะทันที เป็นอย่างที่คิด อาหารในกระทะมีกลิ่นไหม้โชยออกมานิดๆแล้ว
มู่ซีซีรีบหรี่ไฟเตาแก๊สลงในทันที จากนั้นก็รีบใช้ตะหลิวไม้พลิกอาหาร
แต่เห็นได้ชัดเลยว่า อาหารที่อยู่ในกระทะมันไหม้ส่วนหนึ่งแล้ว……
มู่ซีซีขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกเสียดาย พอมู่ซีซีเห็นว่าอาหารที่ไหม้ไปเล็กน้อยเริ่มสุกแล้ว เธอก็รีบปิดแก๊ส และหยิบจานออกมาตักอาหารใส่จาน
ส่วนจี้หลิงชวนที่ยืนอยู่ทางด้านข้างเพิ่งจะมองเห็นว่าในไมโครเวฟ มีอาหารอีกสองจานที่ทำเสร็จแล้วและกำลังอุ่นอยู่
จี้หลิงชวนยื่นมือออกไปเปิดไมโครเวฟและหยิบเอาอาหารสองจานที่อุ่นอยู่ออกมา
ทันทีที่จี้หลิงชวนเห็นอาหารทั้งสองจานก็เดาได้ทันทีว่าอาหารสองจานนี้จะต้องเป็นฝีมือของมู่ซีซีแน่!
นั่นเป็นเพราะว่าอาหารสองจานนี้ มันดูหน้าตาแปลกๆ จนมองไม่ออกว่าทำมาจากอะไร เห็นเพียงแค่สีของอาหารในจานที่ดูเป็นสีดำๆไหม้ๆ
หากว่านี่เป็นฝีมือของป้าหลิงล่ะก็ กลัวว่าจี้หลิงชวนคงจะไล่ออกไปนานแล้ว!
จี้หลิงชวนมองดูอาหารทั้งสองจาน เขาพูดอะไรไม่ออก ได้แต่เม้มริมฝีปาก พร้อมกับคิดอยู่ในใจว่า อืม แม้ว่าจะเป็นครั้งแรก แต่ก็ไม่ละความพยายาม!
มู่ซีซีที่ยืนอยู่ทางด้านข้าง ทันทีที่จัดจานอาหารเสร็จ ก็เหลือบไปเห็นจี้หลิงชวนยกอาหารจานที่เหลือออกมา เธอรู้สึกอายจนหน้าแดงไปหมด “ขอโทษนะ ……นี่เป็นครั้งแรกของฉัน……ดูเหมือนว่าจะล้มเหลว……”
เมื่อมู่ซีซีเห็นหน้าตาอาหารของตัวเองที่ดูดำๆไหม้ๆก็พูดไม่ออกเหมือนกัน……กับจี้หลิงชวนแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง……
คิดไปพลางมู่ซีซีก็รู้สึกผิดต่อจี้หลิงชวน เธอมองไปที่เขาและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดว่า“อย่างนั้น……ถ้าอย่างนั้นเราสั่งอาหารมากินกันดีกว่า……”
เมื่อจี้หลิงชวนเห็นสีหน้าของมู่ซีซีอย่างนั้นแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา พร้อมกับตอบกลับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดูอ่อนโยน“ไม่ต้องหรอก แม้ว่ามันจะดูไม่ค่อยน่ากิน แต่มันก็น่าจะลองกินดูสักครั้ง”
นี่เป็นครั้งแรกที่มู่ซีซีลงมือทำอาหารด้วยตัวเองเชียวนะ
ทันทีที่มู่ซีซีได้ยินสิ่งที่จี้หลิงชวนพูดเมื่อกี้ เธอแปลกใจมากพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองเขา
ดวงตาอันงดงามคู่นี้ของมู่ซีซีเป็นประกายแสดงให้เห็นถึงความซาบซึ้งต่อคำพูดของจี้หลิงชวน
เดิมทีมู่ซีซีคิดว่าจี้หลิงชวนจะรังเกียจ แต่คิดไม่ถึงว่าคนที่มีรสนิยมอันเยี่ยมยอดอย่างจี้หลิงชวนจะไม่มีทีท่ารังเกียจเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังพูดออกมาอีกว่าจะลองกินดู ทำให้มู่ซีซีรู้สึกชุ่มชื่นใจขึ้นมาบ้าง นี่เป็นการทำอาหารครั้งแรกของเธอนะ แน่นอนว่ามู่ซีซีก็ต้องหวังว่าจี้หลิงชวนจะชอบอาหารของเธอ
สายตาอันเปล่งประกายของมู่ซีซีที่มองมายังจี้หลิงชวน ทำให้จี้หลิงชวนพูดอะไรไม่ออก เขารู้สึกตื่นเต้นไปหมด เลือดในตัววิ่งก็พลุ่งพล่านไม่หยุด
มู่ซีซีคนนี้เป็นแม่มดชัดๆ!เพียงสายตาของเธอที่มองมาก็ทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่อยู่ซะแล้ว !
ลูกกระเดือกที่อยู่บนคอของจี้หลิงชวนเคลื่อนที่ขึ้นลงอย่างควบคุมไม่ได้ และทันใดนั้นเองสายตาของจี้หลิงชวนก็ดูเคร่งขรึมขึ้น
เขาเดินเข้าไปใกล้มู่ซีซีอีกก้าว พร้อมกับยื่นมือออกไปจับตรงเอวอันเรียวบางของมู่ซีซี
จากนั้นก็อุ้มเอาร่างกายของมู่ซีซีขึ้นมา และวางเธอลงบนเคาน์เตอร์ของห้องครัว

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset