เสี่ยวเฉิงพลันขมวดคิ้ว
คนเป็นพ่อที่สันดานแบบนี้มีอยู่จริงด้วย?
เขาพลันถอนหายใจ “งั้นก็หยุดร้องไห้ก่อน”
สาวน้อยคนนั้นพลันจับมุมเสื้อของเสี่ยวเฉิงเอาไว้แน่นและกล่าวคำพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนออกมา“พี่คะ! พี่ช่วยเข้าไปหาตัวคุณพ่อหนูหน่อยได้ไหม? ถึงคุณพ่อจะติดเล่นการพนัน แต่เขาทำไปก็เพราะต้องหารหาเงินให้ได้มากขึ้นสำหรับการรักษาชีวิตแม่ก็เท่านั้นเอง คุณพ่อรู้ดีว่าวันนี้คุณแม่จะต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่นี่เขาเข้าไปตั้งแต่เช้าแล้วยังไม่ออกมาเลย หนูเลยคิดว่ามันต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่ พี่เจ้าหน้าที่ช่วยเข้าไปข้างในแล้วก็ตามหาคุณพ่อให้หนูหน่อยได้ไหมคะ? ตอนนี้หนูไม่รู้แล้วว่าต้องทำยังไงดี ถ้าไม่มีเงินก้อนนั้น คุณแม่ก็จะไม่ได้รับการผ่านตัดในคืนนี้ แล้วถ้าทุกอย่างต้องเป็นแบบนั้น… หนูก็ไม่รู้แล้วว่าจะต้องทำยังไงกับชีวิตต่อไปดี”
เสี่ยวเฉิงพลันรู้สึกเห็นใจเล็กน้อย “แล้วเธอมีโทรศัพท์ไหม?”
สาวน้อยพยักหน้า
“แล้วมีรูปคุณพ่อบ้างไหม?” เสี่ยวเฉิงถาม
สาวน้อยรีบหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ามาทันที จากนั้น เธอก็รีบยื่นรูปของคุณพ่อให้กับเสี่ยวเฉิง “นี่รูปคุณพ่อค่ะ เขาชื่อหยางกงเซีย หนูขอร้องล่ะ พี่เจ้าหน้าที่ช่วยตามหาคุณพ่อให้หนูด้วยนะคะ! แต่ถ้าคืนนี้คุณแม่จะไม่รอด… ก็ช่วยบอกเขาให้หยุดเล่นแล้วก็ออกมาให้คุณแม่เจอหน้าเป็นครั้งสุดท้ายก็ยังดี…”
เสี่ยวเฉิงพลันพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นก็รีบหน่อยแล้วล่ะ เพราะจะได้กลับไปหาคุณแม่ของเธอให้ทันด้วย ยังไงก็เถอะ คุณแม่อยู่ที่โรงพยาบาลไหนล่ะ? แล้วเธอชื่ออะไร?”
“คุณแม่อยู่ที่โรงพยาบาลฝอซานค่ะ เธอชื่อหลินเฟิง”
“โอเค เข้าใจแล้ว ฉันจะรีบเข้าไปหาตัวพ่อของเธอให้”
“ขอบคุณมากเลยนะคะพี่เจ้าหน้าที่!” สาวน้อยรู้สึกขอบคุณ เธอพลันเช็ดน้ำตาหลังจากได้พบกับความหวังครั้งสุดท้าย
ถึงกระนั้น เห็นได้ชัดว่าเสี่ยวเฉิงจะไม่เข้าไปในคาสิโนทั้งที่ใส่ชุดเครื่องแบบตำรวจอยู่ เขารีบขับรถกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สถานี จากนั้น เสี่ยวเฉิงก็รีบนั่งรถแท็กซี่เพื่อไปยังคาสิโน ทว่า ระหว่างที่เสี่ยวเฉิงพยายามจะเข้าไปในคาสิโน ผู้คุมทั้งสองก็พลันรู้สึกเหมือนเคยเห็นเขามาก่อน
“หน้าคุณคุ้นมากเลยนะ”
แต่ยังโชคดีที่ทั้งสองจำไม่ได้ว่าเสี่ยวเฉิงเป็นตำรวจ
“พอดีฉันชอบมาแถวนี้บ่อยน่ะ คุ้นหน้ากันก็คงจะไม่แปลกหรอก” เสี่ยวเฉิงพลันกลอกตาและเดินตรงเข้าไป มันเป็นคาสิโนยิ่งใหญ่และอลังการมาก ห้องโถงหนึ่งห้องมีพื้นที่อย่างน้อยประมาณสองถึงสามพันตารางเมตร อีกทั้ง ที่นี่ยังมีโต๊ะพนันมากกว่าห้าสิบโต๊ะ! แถมที่นี่ยังมีเกมพนันทุกเกมเลยด้วย! ถึงอย่างไร แต่ละโต๊ะก็สามารถรองรับแขกประมาณสามถึงห้าคน หากมองภาพรวม ภายในห้องโถงยักษ์แห่งนี้ต้องมีนักพนันอย่างน้อยสองร้อยคน นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีห้องวีไอพีสำหรับแขกสุดพิเศษอยู่ที่ชั้นสอง ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวดีกว่าอีกด้วย โดยปกติแล้ว ห้องวีไอพีนั้นจะมีไว้สำหรับบุคคลสาธารณะหรือแขกที่ไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ว่าพวกเขาอยู่ที่นี่ อีกทั้ง ห้องวีไอพียังต้องใช้การเดิมพันที่สูงขึ้นและมีข้อกำหนดว่าแต่ละคนจะต้องนำเงินติดตัวมาจำนวนเท่าไหร่
เสี่ยวเฉิงพลันถามทุกคนรอบกาย ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็พบว่าบุคคลที่จะเข้าไปในห้องวีไอพีแบบส่วนตัวที่ชั้นสองได้นั้นจะต้องมีเงินมากกว่าห้าล้าน! ด้วยเหตุนั้น เสี่ยวเฉิงก็รู้สึกมั่นใจแล้วว่าจะต้องเจอตัวหยางกงเซียภายในห้องโถงนี้แน่ แต่ทว่า ไม่ว่าเสี่ยวเฉิงจะพยายามเดินหาและไล่ถามทุกคนขนาดไหน เขาก็ไม่พบใครที่หน้าเหมือนหยางกงเซียเลย และในตอนนี้ เวลาของเสี่ยวเฉิงก็กำลังใกล้จะหมดลงแล้ว ทันทีที่นึกย้อนไปถึงใบหน้าที่หมดหนทางของสาวน้อยคนนั้น เสี่ยวเฉิงก็พลันรู้สึกสงสารและกลัวว่าเธอจะต้องเสียพ่อและแม่ไป นั่นก็เพราะเสี่ยวเฉิงเองก็ต้องสูญเสียคุณพ่อไปตั้งแต่เขายังเด็กเหมือนกัน
ทันใดนั้น เสี่ยวเฉิงก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรหาเซินเหยาทันที
ดูเหมือนว่าเธอจะยังคงโกรธในเรื่องที่เสี่ยวเฉิงทำลงไปเมื่อคราวก่อนอยู่
“ช่วยอะไรหน่อยได้ไหม?” เสี่ยวเฉิงรีบเข้าประเด็น
“ไม่” เซินเหยารีบตอบกลับมาทันที
“ช่วยชีวิตคน”
“งั้นก็รีบพูดมาว่าเรื่องอะไร?!”
“เธอพอจะมีเงินสักสองแสนหยวนไหม?” เสี่ยวเฉิงถามขึ้น
เซินเหยาพลันกัดฟันแน่ “เสี่ยวเฉิง ฉันจะบอกอะไรให้นะ… พอกันที! นายลืมสิ่งที่ตัวเองทำไปแล้วหรือยังไงกัน? นี่นายยังมีหน้ามาขอยืมเงินฉันอีกเหรอเนี่ย?”
“ไปที่โรงพยาบาลฝอซาน ตามหาผู้หญิงที่ชื่อหลินเฟิง ไปถามแผนกการเงินทีว่าค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดของเธอเท่าไหร่ แล้วก็ช่วยจ่ายเงินพร้อมกับบอกให้พวกเขาเริ่มทำการผ่าตัดให้หน่อยเถอะ”
เซินเหยาพลันเผยเสียงหัวเราะออกมา “นายคิดว่าฉันจะช่วย? ด้วยเหตุผลอะไรล่ะ?”
เสี่ยวเฉิงพลันถอนหายใจ “เซินเหยา ฉันขอพูดตามตรงนะ เธอเป็นผู้หญิงที่โคตรจะน่ารักเลยล่ะ”
“ฮึ!” เซินเหยาพลันตะคอกอย่างเย็นชา “งั้นก็ช่วยอธิบายให้มันมากกว่านี้หน่อยสิ?!”
“ก็ไม่รู้จะบอกเธอยังไงหรอกนะ แต่ตอนที่ฉันเผลอฉีกกระโปรงของเธอขาด ฉันก็รู้สึกมีอารมณ์แล้วก็ปึ๋งปั๋งขึ้นมาเลยล่ะ”
ทันใดนั้น เซินเหยาก็พลันเบิกตากว้างและตะโกนกลับมา“ไอ้คนบ้ากามเอ๊ย! ก็ได้… นายชนะ!”