ราชาเหนือราชั้น ตอนที่ 125 : ปีกเสือขาวในต่านาน
“มันเจ็บ! เจ็บมาก! ความเจ็บปวดมากถึงขนาดที่เซี่ยงเส้าหยุนไม่อาจหยุดคร่ำครวญได้ แต่หลังจากสายฟ้าสีม่วงโดยกําเนิดพุ่งเข้าสู่บาดแผล ความรู้สึกราวกับมีน้ำมันมาราดกองไฟหรือราวกับทาเกลือที่แผล ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นช่างรุนแรงจนดูเหมือนจะเจาะเข้าไปในกระดูก
ชั่วขณะที่เซี่ยงเส้าหยุนกําลังจะยอมแพ้ให้แก่สายฟ้าสีม่วงโดยกําเนิด ความรู้สึกก็เปลี่ยนไป ความเจ็บปวดลดลง ในขณะที่เลือดที่จับตัวเป็นก้อนเริ่มละลายอย่างเชื่องช้า ในเวลาเดียวกัน พลังของเขาก็เพิ่มขึ้น มันเข้าใจได้ว่าร่างกายของเขากําลังฟื้นฟู เพราะเหตุนี้ เขาจึงอนุญาตให้สายฟ้าสีม่วงโดยกําเนิดเข้าสู่บาดแผล และยอมอดทนต่อความเจ็บปวด
ด้วยเป็นอีกหนึ่งการบรรเทาอาการบาดเจ็บ แต่การเกิดใหม่อีกครั้งจะต้องใช้พลังสายฟ้า แต่ก็มีพลังที่ตื่นขึ้นซึ่งสามารถปลุกศักยภาพภายในของพลังชีวิตเขาได้
ด้วยพลังจากตัวยามากมายที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของเซียงเส้าหยุนมาตลอดหลายปีที่บิดาจับเขาลงไปต้มในหม้อยา พลังสายฟ้าได้เปิดใช้งานทําให้สรรพคุณของตัวยาที่ฝังอยู่ภายในช่วยเร่งการฟื้นตัว ในขณะที่แผลหายอย่างรวดเร็ว ความเจ็บปวดก็เริ่มลดลง
เขารู้สึกดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป และหลังจากนั้นไม่นานก็รู้สึกว่าอาการบาดเจ็บได้รับการเยียวยาโดยสมบูรณ์ เขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอีก และในที่สุดการฟื้นฟูก็สิ้นสุดลง เขาฉีกผ้าพันแผลออกอย่างรวดเร็ว และพบว่ามีเนื้อใหม่มาแทนที่ซึ่งดูอ่อนโยนเหมือนผิวของเด็กทารก และสะเก็ดแผลก็หลุดออกไปจนหมด
“เราฟื้นฟูแล้ว! ในที่สุดเราก็ฟื้นฟูได้แล้ว! ฮ่า ฮ่า!” เซี่ยงเส้าหยุนระเบิดเสียงหัวเราะ เป็นความคิดที่เลวร้ายที่จะเผชิญหน้ากับบาดแผลฉกรรจ์ในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน ด้วยมีอันตรายทุกฝีก้าว แต่ตอนนี้ ทุกสิ่งดีขึ้นแล้ว เขาฟื้นฟูเสร็จสิ้น ความทั้งพลัง และความแข็งแกร่งเองก็เพิ่มขึ้น เพิ่มความมั่นใจในการเผชิญหน้ากับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในการแข่งขัน
เซี่ยงเส้าหยุนมองดูเสี่ยวไป่ที่ห่างไปไม่ไกล เสี่ยวไป่ดูเหมือนกําลังฟื้นฟูเช่นกัน และขณะที่กําลังชําแหละอสรพิษจระเข้ทองคําที่เขาล่ามาก่อนหน้านี้ เซี่ยงเส้าหยุนรู้ดีว่าสัตว์อสูรรักษาตัวได้รวดเร็วกว่ามนุษย์มาก แต่ความเร็วในการฟื้นฟูของเสี่ยวไป่ยังคงเกินความคาดหมาย
“เสี่ยวไป่ เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง?” เซี่ยงเส้าหยุนถาม
“แน่นอน ข้าสบายดี ลูกพี่” เสี่ยวไป่ตอบ
“ช่างรวดเร็วนัก! เจ้าไปแข็งแกร่งแบบนี้ได้อย่างไร?” เซี่ยงเส้าหยุนถามด้วยความสงสัย
“ข้าเป็นถึงปีศาจชั้นสูงขั้นสี่! และได้ย่อยแก่นปีศาจที่ยังไม่ได้แยกออกก่อนหน้านี้ มันได้เพิ่มความเร็วในการฟื้นฟู ทั้งความแข็งแกร่ง และระดับยุทธ์ รวมถึงร่างกายทางกายภาพ ด้วย” เสียวไป่ตอบอย่างซื่อตรง
“อะไรนะ? ปีศาจชั้นสูงขั้นสี่แล้วหรือ?” เซี่ยงเส้าหยุนร้องเสียงดัง
“ใช่ ทั้งแก่นปีศาจ และเขี้ยวพยัคฆ์ที่ข้ากินเข้าไป และหลังจากย่อยทั้งสองขนหมด เพราะของทั้งสองสิ่งมาจากราชาปีศาจ เป็นเรื่องธรรมดาที่ข้าจะบรรลุถึงระดับนี้” เสี่ยวไป่กล่าวไร้ซึ่งความประหลาดใจใด
นั่นตอบข้อสงสัยทั้งหมอของเซี่ยงเส้าหยุนได้ดี เสี่ยวไป่ได้ย่อยแก่นปีศาจ และเขี้ยวพยัคฆ์ แล้วได้บรรลุเป็นปีศาจชั้นสูงขั้นสี่ เซี่ยงเส้าหยุนจําได้ว่าก่อนหน้านั้น เสี่ยวไป่สามารถสังหารอสรพิษจระเข้ทองคําที่เป็นปีศาจชั้นสูงขั้นสี่ ตอนนี้ เขาสามารถต่อกรกับสัตว์ร้ายขั้นห้า หรือหกได้แล้ว”
“ดูเหมือนเสี่ยวไป่จะมีสายเลือดที่พิเศษมาก น่าเสียดายที่สายเลือดของเขาเจือจางไปด้วยสายเลือดธรรมดามาก ถ้าเราสามารถหาโลหิตเสือขาวมาได้ เขาอาจจะแปรสภาพเป็นเสือขาวตัวจริงก็ได้” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวคําเบา
เมื่อทั้งสองรักษาบาดแผลแล้ว พวกเขาเริ่มออกเดินทางอีกครั้ง ในตอนนี้ เซี่ยงเส้าหยุนจะไม่ทําอะไรบู่มบ่ามเหมือนเช่นเคย มิเช่นนั้น เขาอาจไปไม่ถึงสถานที่ซึ่งเสี่ยวไป่กล่าวก่อนหน้า ด้วยเริ่มสังเกตสภาพแวดล้อม พยายามหาเส้นทางอื่นเพื่อไปให้ถึงจุดหมาย แต่สิ่งที่พบคือวัชพืช และต้นไม้หนาทึบ จึงไม่รู้ว่าเส้นทางใดจะมีอสรพิษจระเข้ทองคํารอคอย
“เสี่ยวไป่ ด้วยความแข็งแกร่งของเรา มันจะเป็นเรื่องยากที่จะไปถึงสถานที่ ที่เจ้าสัมผัสได้” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น
เสี่ยวไป่ไม่ได้กล่าวสิ่งใด เขาเริ่มเดินทางไปโดยรอบ สูดอากาศซ้ำไปซ้ำมา หลังจากนั้นเขาวิ่งกลับไปหาเซี่ยงเส้าหยุน “ลูกพี่ เราสามารถใช้เส้นทางที่ไม่มีสัตว์ร้ายได้”
“เจ้าอาศัยดมกลิ่นเอางั้นหรือ?” เซี่ยงเส้าหยุนถาม
“ไม่เลย ข้าเพียงรู้สึกเท่านั้น” เสี่ยวไป่ตอบกลับโดยฉับพลัยก่อนจะกล่าวเสริม “ข้าไม่ใช่สุนัขนะ!”
“แน่นอน เราจะลองไปดู ไม่ว่าอย่างไร เราก็มีคะแนนมากพอแล้ว เราสามารถมุ่งมั่นตามล่าสมบัติได้ในตอนนี้ อาจจะต้องสังหารอสรพิษจระเข้ทองคําอีกมากเมื่อไปถึง” เซียงเส้าหยุนพยักหน้า
เซี่ยงเส้าหยุนกระโดดขึ้นไปบนหลังเสี่ยวไป่ และและให้เสือน้อยนาทาง เขามั่นใจเต็มเปี่ยมว่าเสียวไป่จะไม่นาพาเขาไปตาย แต่สิ่งที่เสี่ยวไป่กระทํา ทําให้เจาตกใจมากจนหัวใจแทบจะโผล่ออกจากปาก เส้นทางที่เขาเลือกนั้น แท้จริงแล้วเป็นหุบเขากว้างจากก่อนหน้านี้ เสียวไปพุ่งตัว และกระโดดลงหน้าผา
“เสี่ยวไป่ นี่เจ้าทําอะไร?” เซี่ยงเส้าหยุนเกือบจะกระโดดลงจากหลังเสียวไป่ แต่หากเขาทําเช่นนั้น คงจะร่วงลงไปในนรกอันไร้ก้นบึง ในขณะที่หัวใจกําลังสูบฉีดอย่างรุนแรงด้วยความวิตกกังวล ทันใดนั้น ปีกสีขาวคู่หนึ่งถึงอกขึ้นที่หลังของเสี่ยวไป่
ฟึ่บ! ฟึ่บ!
ปีกสีขาวเงางามกระพือในอากาศอย่างสง่างาม เคลื่อนไหวรวดเร็วราวกับสายฟ้า
เซี่ยงเส้าหยุนตกตะลึงอย่างที่สุด เขาไม่คาดคิดว่าเสี่ยวไป่จะมีปีกงอกเช่นนี้ รู้สึกราวกับอยู่ในฝัน
“ปีกเสือขาวในตํานาน!” เซี่ยงเส้าหยุนร้องเสียงดัง เมื่อสัมผัสถึงออร่าอันเฉียบคมที่ปีกปล่อยออก
ตํานานกล่าวว่า เสือขาวเป็นเสือที่มีปีก เซี่ยงเส้าหยุนไม่มั่นใจว่าเป็นเรื่องจริง เนื่องจากเป็นสิ่งที่เขาเห็นจากคําสลักโบราณบางส่วน หลังจากได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเสี่ยวไป่ ตอนนี้เขาเชื่อว่าคําสลักนั่นถูกต้อง ในที่สุดก็มั่นใจว่าสายเลือดของเสี่ยวไป่เกี่ยวของกับเสือขาวแน่นอน
ขณะที่เซี่ยงเส้าหยุนขอยู่บนหลัง เสี่ยวไป่บินลงไปยังบริเวณหุบเขา และเริ่มลงต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกมนุษย์ และสัตว์ร้ายพบตัว ด้วยเพราะเสียวไป่สามารถบินได้ พวกเขาจึงสามารถเดินทางได้อย่างรวดเร็ว และไร้ซึ่งความกังวล เพราะอสรพิษจระเข้ทองคําไม่อาจโจมตีได้ สิ่งที่พวกเขากังวลคือราชาปีศาจ
หุบเขานั่นเป็นทางเดียวที่จะลงไปยังส่วนลึกของหุบเขา แม่น้ำทองคํา หากพวกเขาบินต่อไปก็จะถึงจุดหมาย เมื่อคิดเช่นนั้นเซี่ยงเส้าหยุนก็เริ่มกระวนกระวายใจ แม้ว่าเสี่ยวไป่สามารถหลีกเลี่ยงอันตรายได้ แล้วถ้าหากเราพบกับอสรพิษจระเข้ทองคําที่เป็นราชาปีศาจที่นี่เล่า?”
“เสี่ยวไป่ ช้าลงหน่อยเถอะ ให้ข้าได้คิดสักนิด” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าว
“ไม่ต้องกังวลไปลูกพี่ ข้าสัมผัสถึงอสรพิษจระเข้ทองคําไม่ได้เลย แถวนี้” เสี่ยวไป่ตอบ
“ข้ารู้ แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะรอคอยที่จุดหมายของเราหรอกนะ” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าว หลังจากหยุด เขาก็กล่าวต่อ “อีกไกลไหม จึงจะถึงสถานที่ที่เจ้าสัมผัสถึง? และเจ้าสัมผัสถึงสิ่งใดกันแน่?”
“มันอยู่ตรงนั้น ข้าไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่มันเกี่ยวข้องกับสายเลือดของข้า มีความรู้สึกที่ใกล้ชิดมาก ลูกพี่ ข้าต้องไปที่นั่น ข้าอยากไปเพียงลําพังเสียด้วยซ้ำ” เสี่ยวไป่กล่าว ความกระหายลุกโชนขึ้น
“ไม่ มันอาจจะอันตรายมากหากเจ้าไปเพียงลําพัง เราจะเผชิญหน้ากับอันตรายไปด้วยกัน หากเจ้าต้องการจะไป ข้าจะไปกับเจ้า แต่พยายามซ่อนตัวหน่อย อย่าได้ผลีผลามหากไม่จําเป็น” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าว เขาตัดสินใจใช้โอกาสนี้เพื่อดูว่าเสี่ยวไป่เด็ดเดี่ยวเพียงใด
บางที่อาจมีความลับอันน่าอัศจรรย์