ราชาเหนือราชั้น ตอนที่ 131 : ราชาปีศาจขั้นเก้า
พื้นที่อันมืดมิดภายในหัวของเด็กหนุ่มเป็นเหมือนกับดักที่สามารถแช่แข็งทุกสิ่งภายใน มันเกิดขึ้นจากการผสมผสานระหว่างพรสวรรค์สัญชาตญาณและพรสวรรค์จินตภาพ
แต่ก่อนหน้านั้น พรสวรรค์ทั้งสองทําได้เพียงสร้างพื้นที่อันมืดมิดเท่านั้นแต่ด้วยพลังอันไร้ตัวตนรูปแบบหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะมีมาตั้งแต่เซี่ยงเส้าหยุนกําเนิด และดูเหมือนตัวของเซี่ยงเส้าหยุนเองก็ไม่รู้ที่มาของพลังนี้เช่นกัน เขาทราบแต่เพียงบางประสบการณ์ที่คล้ายกันเมื่อเปิดใช้งานพื้นที่อันมืดมิดโดยไม่ได้ตั้งใจ และในที่สุดก็ร อดชีวิตจากการเผชิญอันตรายในตอนนั้น
วิญญาณของพยัคฆ์ขาวคํารามอย่างหวาดกลัว แต่ก็ไม่อาจทําสิ่งใดได้ด้วยเพราะถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด ครั้งวิญญาณพยัคฆ์ขาวยังมีชีวิตเขาเคยเป็นผู้รอบรู้ จึงคํารามด้วยความตกใจเมื่อมองเห็นความมืดมิดที่แผ่ออกมา “นี่มันภายในขอบเขตวิญญาณของตระกูลจักรพรรดิหมิงโยว! บ้าฉิบ!”
มีเพียงส่วนเล็กของวิญญาณพยัคฆ์ขาวที่ส่งเข้าไปในร่างกายของเซี่ยงเส้าหยุนส่วนเล็กพยายามดิ้นรนอย่างไม่ลดละในพื้นที่อันมืดมิดแต่ก็ไม่อาจหลุดพ้นไปได้ทําให้ออร่าสีทองอันร้ายกาจถูกกดทับอย่างสมบูรณ์และถูกยับยั้งด้วยพลังที่ไม่อาจบรรยายได้
“โฮก! โฮก!”
วิญญาณพยัคฆ์ขาวคํารามอย่างไม่พอใจ หากเขาส่งพลังส่วนใหญ่มาที่นี่คงไม่ถูกขอบเขตวิญญาณดักจับได้ในที่สุดวิญญาณพยัคฆ์ขาวก็หยุดดิ้นรนและแปรสภาพเป็นกลุ่มก้อนพลังงานสีทองอันร้ายกาจซึ่งดูราวกับลูกพยัคฆ์ที่ว่านอนสอนง่าย และไม่พยายามทําร้ายเซี่ยงเส้าหยุนอีกต่อไป
“ตระกูลจักรพรรดิหมิงโยวหรือ? ขอบเขตวิญญาณ? พวกมันคือสิ่งใดกัน? เหตุใดเราจึงไม่เคยได้ยิน?” เซี่ยงเส้าหยุนคิดสัญชาติญาณบ่งบอกว่ามีความลับอันยิ่งใหญ่ถูกซ่อนอยู่ในพื้นที่อันดํามืดนี้น่าเสียดายที่เขาไม่อาจทราบว่าความลับนั่นคืออะไร
“ลืมมันไปเสีย เปล่าประโยชน์ที่จะคิดถึงมัน ตอนนี้เราควรจดจํากับการดูดซับพลังนี่” เซี่ยงเส้าหยุนหยุดครุ่นคิด และเริ่มหมุนเวียนวิชายุทธ์ก่อนจะดึงเอาพลังวิญญาณพยัคฆ์เข้าไปสู่เก้าดวงดาวเด็กหนุ่มลังเลว่าควรจะแยกกลุ่มพลังงานนี้ออกจากเก้าดว งดาวดีหรือไม่แต่ท้ายที่สุดเขาก็ต่อต้านมัน
“ในเมื่อมีดวงดาวอัสนีแล้ว เราอาจจะสร้างดวงดาวสีทองได้เช่นกัน” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวคําเบาขณะตัดสินใจที่จะเก็บพลังวิญญาณของพยัคฆ์ขาวไว้ในดวงดาวที่สอง
ในขณะที่ฝากพลังวิญญาณพยัคฆ์ไว้ ดวงดาวที่สองเริ่มริบหรี่ลงในขณะที่พยายามดูบซับพลังงานใหม่ แต่แหล่งพลังงานนี้มีความโกรธเกรี้ยวของพยัคฆ์ขาว ซึ่งเป็นพลังโดยกําเนิดของพยัคฆ์ขาวมันมีพลังทําลายล้างอย่างน่าหวาดหวั่น และทําให้ดาวดวงที่สองไปสู่ความพินาศ
สิ่งที่เด็กหนุ่มเรียนรู้จากการดูดซับพลังงานสายฟ้าก่อนหน้านี้เขาดึงพลังวิญญาณพยัคฆ์ขาวออกส่วนหนึ่ง และแบ่งไปสู่ทะเลจักรวาลดวงดาวและกระบี่ราชันผ่าเมฆาทันที
ทะเลจักรวาลดวงดาวสามารถดูดซับพลังงานได้ทุกประเภทตราบใดที่พลังงานมีปริมาณที่เหมาะสม มันจะดูดซับ และขยายพื้นที่จัดเกบโดยใช้พลังงานที่ดูดซับเข้ามา
สําหรับกระบี่ราชันผ่าเมฆานั่น มันมีพลังของมังกรและพยัคฆ์แล้วดังนั้นพลังวิญญาณพยัคฆ์ขาวจึงเข้ากันได้ดี และเติมเต็มพลังงานที่ขาดหายไปของกระบี่ ทําให้มันกลับมาเปล่งประกายแวววาวอีกครั้งด้วยการแยกพลังวิญญาณนั่น ทําให้เซี่ยงเส้าหยุนรู้สึกดีขึ้นมาก
ดวงดาวที่สองเริ่มเติบใหญ่ขึ้นอย่างเชื่องช้า และมันพลังงานภายในเองก็เพิ่มขึ้นมหาศาล ส่วนพลังงานที่รั่วไหลออกจากดวงดาวมันได้ไหลผ่านร่างกายราวกับสายธารแห่งดวงดาว ท่วมไปทั่งเส้นลมปราณและขยายจุดฝังเข็ม
เซี่ยงเส้าหยุนเพิ่งบาดเจ็บหนักมาก่อนหน้านี้ แต่ด้วยพลังภายในได้เติมเต็มเขาอีกครั้ง ช่วงกลางขั้นแปด ช่วงท้ายขั้นแปดช่วงสูงสุดของขั้นแปด.จนในที่สุดเขาได้บรรลุขั้นเก้าแล้วถึงกระนั้นระดับยุทธ์ก็ยังเติบโตอย่างไม่หยุดหย่อน
ด้านนอกของหุบเขาทะเลสาบทองคํายอดฝีมือระดับราชาของทั้งฝั่งมนุษย์และอสรพิษจระเข้ทองคําได้เข้าปะทะกัน การต่อสู้มีเหตุผลอันใด?มนุษย์ต้องการครอบครอบหุบเขาทะเลสาบทองคําในขณะที่เหล่าอสรพิษจระเข้ทองคําไม่เห็นด้วย
ดังนั้น จึงเกิดการต่อสู้ขึ้น
แม้ว่าราชาอสรพิษจระเข้ทองคําจํานวนมากจะถูกสังหารโดยคลื่นเสียงก่อนหน้าแต่การยึดครองพื้นที่แห่งนี้มาเป็นเวลานานหลายปีจึงก่อกําเนิดราชาปีศาจขั้นเก้าขึ้นในหมู่พวกมัน
ชั่วขณะที่ราชาปีศาจได้ปรากฏตัวขึ้น มนุษย์สองคนได้ถูกสังหารในขณะที่เหอหลัว โม่ฉาเก้อ ราชาสายฟ้าวัยเยาว์ และผู้อื่นถูกบังคับให้ล่าถอยออกจากหุบเขาทะเลสาบทองคํา ด้วยอสรพิษจระเข้ทองคํามองว่าที่แห่งนี้คืออาณาเขตของมัน ดังนั้นจึงไม่ยอมให้มนุษย์ ยึดครองพื้นที่แห่งนี้
โชคดีสําหรับฝั่งมนุษย์ ราชาปีศาจขั้นเก้ายังอยู่ในหุบเขามิเช่นนั้นมนุษย์มากมายจะต้องถูกสังหาร
“ถอยก่อน เราอนุญาตให้อสรพิษจระเข้ทองคําครอบครองพื้นที่แห่งนี้อย่างอิสระไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าพวกมันจะเติบโตและแข็งแกร่งถึงเพียงนี้”เหอหลัวถอนหายใจเขาดูค่อนข้างเสียใจ
ราชาปีศาจขั้นเก้าได้โจมตี และทําลายเกราะราชาที่เขาสวมใส่แต่โชคดีที่มีฝีเท้าที่ว่องไว มิเช่นนั้นเขาคงต้องตายอยู่ในหุบเขา
“อาจเกี่ยวข้องกับความลับแห่งหุบเขาทะเลสาบทองคําเช่นกันแต่พวกมันไม่อาจเก็บซ่อนความลับได้อีกเมื่อถึงเวลาเราจะล้างบางเหล่าอสรพิษจระเข้ทองคํา” ราชาสายฟ้าวัยเยาว์กล่าวขณะเลียริม ฝีมาก
“ข้าสงสัยว่าผู้ใดจากพลับพลาจะมาในยามนี้ หากเป็นท่านรองจ้าวพลับพลาราชาสายฟ้าสามารถมาด้วยตนเองล่ะก็ เราจะได้ไม่ต้องเกรงกลัวสิ่งใดอีก”มีผู้หนึ่งกล่าวอย่างประจบประแจง
ราชาสายฟ้าเป็นทั้งอาจารย์ และบิดาบุญธรรมของราชาสายฟ้าวัยเยาว์และยังเป็นยอดฝีมือผู้อยู่จุดสูงสุดของระดับราชาและใกล้จะบรรลุระดับถัดไปในอีกไม่กี่ก้าว
“สงสัยบิดาของข้าจะมาที่นี่ด้วยเหตุใดเขากําลังยุ่งกับการบรรลุในขั้นถัดไป”ราชาสายฟ้าวัยเยาว์กล่าว พร้อมกับสายตาที่แสดงความเคารพด้วยมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เขาคิดชื่นชมเช่นนี้และบิดาของเขาก็คือหนึ่งในไม่กี่คน
“นั่นถือเป็นข่าวดี! รองจ้าวพลับพลาจะต้องบรรลุสําเร็จอย่างแน่นอน!” ผู้ประจบกล่าว
แม้แต่เหอหลัวเองก็ยิ้ม และกล่าว “ท่านรองจ้าวพลับพลาเป็นยอดฝีมือสูงสุดและยากที่จะหาผู้เทียบเคียงได้ ด้วยความสามารถถึงขนาดที่ท่านผู้เฒ่าปรมาจารย์ชื่นชม และยังมีโอกาสที่จะบรรลุสําเร็จด้วยโป๊หลี่ หากมียอดฝีมือระดับจักรพรรดิคอยหนุนหลังแล้วคงไม่มีผู้ใดบังอาจยั่วยุท่านได้อีก”
โม่ฉาเก้อไม่ชอบในความเย่อหยิ่งของราชาสายฟ้าวัยเยาว์แต่เมื่อเผชิญหน้ากับบุตรบุญธรรมของยอดฝีมือระดับจักรพรรดิเขาเองก็ถูกบังคับให้ลดศีรษะลง “ขอแสดงความยินดีกับพลับพลาขอบนภาของเราที่จะมียอดฝีมือระดับสูงสุดอีกคนหนึ่ง”
ระหว่างนั้น เหล่าราชาอสรพิษจระเข้ทองคําจํานวนมากได้รวมตัวกันและเข้าใกล้หลุมที่สร้างขึ้นใหม่ ราชาปีศาจอสรพิษจระเข้ทองคําขั้นเก้าได้กลายสภาพเป็นมนุษย์ตัวผอมสูง เขามีดวงตาสามเหลี่ยมคู่หนึ่ง มีผมราวกับเกล็ดงู และสวมเกราะที่ทําจากเกล็ดของจระเข้และยังเปล่าออร่าปีศาจออกมา
ราชาปีศาจมากมายยืนล้อมรอบเขา พวกมันต่างแปลงร่างเป็นมนุษย์ เมื่อมองไปยังซากอสรพิษจระเข้ทองคํารอบตัวสีหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความกลัว
“ท่านหัวหน้าฝูง เสียคํารามของพยัคฆ์มาจากที่นี่ดูเหมือนจักรพรรดิพยัคฆ์จะอยู่ข้างใต้นี้”ราชาปีศาจกล่าวด้วยความตกตะลึง
หัวหน้าฝูงของอสรพิษจระเข้ทองคําเงียบ เขาคว้าอากาศที่ว่างเปล่าทําให้ศพของเหล่าอสรพิษทองคําจํานวนมากบินเข้ามาอยู่ในมือทันทีที่ศพเข้ามาอยู่ในมือ ปรากฏออร่าสีทองอันร้ายกาจนั่นพวกมันเป็นเศษ
ม่านตาของหัวหน้าฝูงอสรพิษจระเข้ทองคําหดตัวลง เขากล่วงด้วยน้ําเสียงแหบแห้ง “ฝูงอสรพิษจระเข้มองคําแข็งแกร่งขึ้นหลังจากร่างกายของเราเปลี่ยนแปลง ด้วยออร่าทองคําอันร้ายกาจที่เข้ามาหล่อเลี้ยงพวกเราหากไม่มีออร่านั่น ก็จะไม่มีอสรพิษจระเข้ทองคําในตอนนี้ท่านจักรพรรดิพยัคฆ์ หากท่านได้ยินเสียงของข้าโปรดอนุญาตให้เราเป็นผู้ติดตามท่านด้วยเถิด”
เขาคุกเข่าลงตรงหน้าหลุมนั่น