ราชาเหนือราชัน – ตอนที่ 40 : มุ่งหน้าสู่น้ำพุดวงดาวปฐพี บรรลุถึงระดับดวงดาว!

เสี่ยวไป่คำรามด้วยเสียงดุดันดังก้องไปทั้งถ้ำ เมื่อเซี่ยงเส้าหยุนได้ยินเช่นนั้น  มันใช้เวลาสักพักก่อนจะสงบลง เมื่อความวุ่นวายสิ้นสุดลง เซี่ยงเส้าหยุนมองไปที่เสี่ยวไป่ที่เติบใหญ่ขึ้น ตอนนี้มันมีขนาดใหญ่เทียบเท่าสัตว์อสูรขนาดเล็กทั่วไป ที่หน้าผาก เขาพบกับคำว่า “ราชัน” สลักไว้อย่างชัดเจน นอกจากนี้แรงกดดันที่แผ่ออกมา มิได้อ่อนแอไปกว่าเสือลายที่โตเต็มวัยเลย

เมื่อสังเกตเห็นเสี่ยวไป่ ในตอนนี้ยังไม่นับเป็นสัตว์ที่โตเต็มวัย กระนั้นแม้จะยังเยาว์ แต่ก็แสดงออร่าที่น่าทึ่งออกมา ตอกย้ำสายเลือดของผู้เป็นสัตว์ชั้นสูง

“จะเกิดอะไรขึ้น หากเสี่ยวไป่สามารถสร้างแก่นอสูรขึ้นได้เอง และเพิ่มพูนการฝึกยุทธ์ของมันอย่างมีนัยยะ?” เซี่ยงเส้าหยุนทำได้เพียงสงสัย จ้องมองเสือตรงหน้าไม่ได้แสดงอาการไม่สบายใจแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน เสี่ยวไป่เริ่มดูดซับปราณของสัตว์ที่หนาแน่น ขนเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองช้า ๆ ดูเหมือนมันต้องใช้เวลาปรับตัวกับแก่นอสูร

“เสี่ยวไป่มีจิตวิญญาณอันอุดมสมบูรณ์ตั้งแต่แรกเกิด ผลกระทบซึ่งเกิดจากแก่นอสูรนั้น อยู่ในการคำนวณของมัน เราควรปล่อยให้มันปรับตัวกับแก่น เข้าไปข้างในก่อนดีกว่า” เซี่ยงเส้าหยุนพึมพำกับตนเอง หลังจากมั่นใจว่าเสี่ยวไป่ไม่ได้รับผลข้างเคียงอันใด เขายังคงเดินหน้าต่อไป

หลังจากเดินเป็นเวลานาน เซี่ยงเส้าหยุนพบกับแสงสีทองด้านหน้า พลังวิญญาณเคลื่อนที่อย่างเชื่องช้ามาทางเขา ทำให้เขามีความสุขมาก ขณะเดินเข้าไปใกล้เพื่อนมองดู เขาพบกับดอกไม้สีทองเบ่งบานอยู่บนหิน มันคงจะเป็นดอกงูน้ำหลากทองคำเป็นแน่! มีผู้พบเห็นมันกระโจนไปรอบบริเวณราวกับงูน้ำหลาก พลังวิญญาณกวัดแกว่งไปมาทำให้มีออร่าอันลี้ลับ

“นะ นี่มันดอกไม้งูน้ำหลากสีทองอายุห้าร้อยปีนี่! มันเบ่งบานถึงห้ากลีบ! สิ่งนี้คงเป็นสมุนไพรวิญญาณที่เติบโตพร้อมกับการแปรสภาพของงูน้ำหลาก! มันเป็นยาวิญญาณระดับกลาง! แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับแปรสภาพยังคลุ่มคลั่งเมื่อพบเห็นสิ่งนี้!” เซี่ยงเส้าหยุนลูบมือของตนอย่างเป็นสุข

ดอกไม้งูน้ำหลากสีทองมีสสารของงูน้ำหลากอยู่ ผู้ฝึกยุทธ์ที่กลืนมัน ไม่เพียงแต่จะได้รับความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังสามารถแปรเปลี่ยนพลังปราณให้เป็นงูน้ำหลากได้อีกด้วย มันจะเพิ่มพลังการต่อสู้อย่างมีนัยสำคัญ

เซี่ยงเส้าหยุนยังไม่รีบถอนมันออก ในท้ายที่สุดเขายังคงเป็นเพียงผู้ฝึกยุทธ์ระดับพื้นฐาน การกินมันในตอนนี้ดูจะเสียเปล่า ผลลัพธ์จะชัดเจนกว่ามากหากรอจนกว่าเขาจะบรรลุถึงระดับดวงดาว

ในขณะที่ดอกไม้งูน้ำหลากสีทองกำลังดูดซับพลังวิญญาณในอากาศ ในบริเวณโดยรอบนั้นไร้ซึ่งยาวิญญาณ แม้จะยังมียาเก่าอยู่บ้าง

นอกจากนี้เมื่อเซี่ยงเส้าหยุนเดินต่อ เขาพบว่าถ้ำใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ กลิ่นชื้นในอากาศรุนแรงขึ้น และพลังงานวิญญาณธรรมชาติหนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ

ติ๋ง ติ๋ง …

เซี่ยงเส้าหยุนได้ยินเสียงหยดน้ำ แม้จะไม่ดังนัก ภายในถ้ำอันกว้างใหญ่ เสียงดังขึ้นหลายคราจนเห็นได้ชัดเจน

ดวงตาของเซี่ยงเส้าหยุนสบเข้ากับหยดน้ำสองสามหยด ที่ร่วงหล่นลงมาจากหน้าผา นอกจากนี้ ที่ด้านล่างยังมีสระน้ำที่เกิดจากธรรมชาติซึ่งเต็มไปด้วยน้ำพุที่หลั่งไหล ที่สะดุดตาคือน้ำพุที่เต็มไปด้วยดวงดาวนับหมื่น ส่องสว่างไปทั่วทั้งบริเวณเล็ก ๆ

เมื่อได้เห็นสระน้ำแอ่งน้อย เซี่ยงเส้าหยุนกระโจนไปทันที หมายที่จะดื่มน้ำในบ่อ

“น้ำพุดวงดาวปฐพี! มันคือน้ำพุดวงดาวปฐพี!” เซี่ยงเส้าหยุนยินดียิ่ง

เซี่ยงเส้าหยุนไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป เขารีบวิ่งไปยังบ่อน้ำแอ่งเล็ก เขาตักน้ำขึ้นและดื่มโดยไร้ความลังเล ทุกหยดของน้ำพุดวงดาวปฐพีมีค่าเกินกว่าจะหาสิ่งใดเปรียบ แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับดวงดาว สิ่งนี้ก็หรูหราเกินกว่าจะเอื้อนเอ่ย

แม้ว่าเซี่ยงเส้าหยุนดื่มมันอย่างหิวกระหาย หากมีผู้ใดทันได้เห็น พวกเขาคงจะหมดสติและคิดว่า ‘ชายผู้นี้ช่างสิ้นเปลืองเสียจริง!’

ด้วยน้ำพุดวงดาวปฐพีเข้าสู่ท้องอย่างเชื่องช้า ผังจักรราศีของเซี่ยงเส้าหยุนเริ่มสุกสกาวขึ้น มันดูดซับน้ำจากน้ำพุดวงดาวปฐพีโดยตรง ผังจักรราศีเริ่มปล่อยพลังงานบริสุทธิ์ออก ไหลเวียนไปทั่วทั้งเส้นลมปราณภายในร่างกาย จุดฝังเข็มทั้งสามร้อยหกสิบห้าจุดส่องสว่างขึ้น ดูดซับพลังงานอันน่าทึ่งเช่นเดียวกัน

เซี่ยงเส้าหยุนเริ่มนั่งขัดสมาธิและเปิดใช้งานตำราราชันพิชิตสวรรค์ ความแข็งแกร่งเติบโตขึ้นราวกับดอกไม้ไฟ ช่วงสูงสุดของระดับพื้นฐานขั้นแปด พลังงานที่เพิ่มขึ้นนั้น เพียงพอที่จะทำให้บรรลุถึงระดับดวงดาวขั้นแรก

หลังจากก้าวเข้าสู่ช่วงกลางของระดับดวงดาวขั้นแรก เซี่ยงเส้าหยุนจัดการหยุดมันทันที มิเช่นนั้นพลังงานที่เอ่อล้นจะทำให้เขาบรรลุถึงช่วงสูงสุดของระดับดวงดาวขั้นแรก หรืออาจจะขึ้นไปถึงขั้นสองอย่างไร้ปัญหา

น้ำพุดวงดาวปฐพี! มันเป็นน้ำพุวิญญาณที่สามารถปลุกผังจักรราศีได้! แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับดวงดาว หากดื่มไปเพียงเล็กน้อย ก็สามารถทำให้บรรลุสองหรือสามขั้นอย่างง่ายดาย

อย่างไรเสียดวงดาวทั้งเก้าของเซี่ยงเส้าหยุนนั้นตื่นขึ้นมานานแล้ว นอกจากนี้ปริมาณพลังที่เขาต้องการดูดซับนั้น มากกว่าผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นเป็นสิบเท่า! หลังจากดื่มน้ำจากน้ำพุดวงดาวปฐพีปริมาณมาก เขาจึงได้บรรลุถึงระดับดวงดาวขั้นแรก

สิ่งที่สำคัญมาก เซี่ยงเส้าหยุนใช้พลังที่เหลืออยู่เสริมสร้างรากฐาน เขาไม่ต้องการสูญเสียพลังงานไปแม้แต่น้อย นอกจากนี้อาการบาดเจ็บภายในถูกฟื้นฟูอย่างทั่วถึง ไม่หลงเหลือแผลเก่าสักแผล น้ำพุดวงดาวปฐพียังทำให้เส้นลมปราณและจุดฝังเข็มถูกชำระล้าง ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการฝึกวิทยายุทธ์ที่โดดเด่นอยู่แล้ว ให้มากขึ้นไปอีก

นี่คือสิ่งมหัศจรรย์ของน้ำพุดวงดาวปฐพี ไม่ใช่สิ่งที่น้ำพุธรรมดาจะสามารถเปรียบได้ หลังจากผ่านการแปรสภาพจากน้ำพุดวงดาวปฐพี เมื่อเซี่ยงเส้าหยุนเปิดตาขึ้น ทันทีที่เงยหน้า แสงสองดวงเปล่งออกราวกับคมมีดถูกยิงออกจากดวงตา หากมีผู้ใดเห็นสิ่งนี้ คงจะพบว่าเป็นได้ยากที่จะจ้องเข้าไปในดวงตาของเด็กหนุ่ม

ผ่านไปเพียงครู่เดียว เซี่ยงเส้าหยุนพบว่าดวงตาของเขาชัดเจนหาที่เปรียบไม่ได้ เขาสามารถมองเห็นได้ชัดเจนแม้ในพื้นที่มืดมิด

“เราสามารถแปรสภาพดวงตาจากสวรรค์ได้เช่นนี้หรือ?” เซี่ยงเส้าหยุนถามตนเอง ตื่นเต้นเกินกว่าจะเชื่อ เขาเริ่มทดสอบดวงตา ก่อนจะพบว่าไม่มีสิ่งใดหลุดรอดจากสายตาเขาไปได้ เขาสามารถมองเห็นมดตัวจ้อยได้จากระยะไกลด้วยซ้ำ

“เราเคยได้ยินมาว่า ดวงตาแห่งสวรรค์สามารถมองเห็นทุกสิ่ง มาดูกันว่าเราจะสามารถมองผ่านก้อนหิน ก้อนนั้นได้ไหม!” ดวงตาของเซี่ยงเส้าหยุนมองไปยังเศษหิน กระนั้นเขาพบว่าไม่อาจมองทะลุเข้าไปภายในได้ จากนั้นเขามั่นใจว่ามีเพียงสายตาเท่านั้นที่เปลี่ยนไป ความต้องการพัฒนาดวงตาแห่งสวรรค์ยังคงเป็นหนทางของเขา

เซี่ยงเส้าหยุนรู้สึกหดหู่เล็กน้อย โดยปกติดวงตาแห่งสวรรค์จะก่อตัวขึ้นตั้งแต่แรกเกิด ผู้ที่พบว่าไร้ซึ่งดวงตาแห่งสวรรค์นับเป็นเรื่องยากที่จะฝึกฝน นอกจากนี้เขาไม่เคยฝึกฝนดวงตามาก่อนแม้กระทั่งสำหรับเขา ฉะนั้นดวงตาของเขามีพลังราวกับร่างกายอย่างแน่นอน หากเขาฝึกฝนมันเช่นเดียวกับร่างกาย

ทันใดนั้นเอง เซี่ยงเส้าหยุนพบว่าพื้นสั่นสะเทือน ราวกับมีบางสิ่งขนาดใหญ่คลืบคลายเข้ามา

ตูม ตูม!

สัตว์อสูรดูเหมือนจะมายังจุดที่เขาอยู่ มันตัวใหญ่มากจนทำให้ถ้ำสั่นสะเทือนได้!

“โฮก!”

เมื่อได้ยินเสียงคำรามภายในถ้ำ ทำให้เซี่ยงเส้าหยุนปวดหัว

“บ้าฉิบ! บริเวณด้านหน้าสถานที่นี้ควรเป็นอาณาเขตของลิงคิงคองยักษ์! มันไม่ควรเป็นผู้คุ้มครองน้ำจากน้ำพุดวงดาวปฐพีสิ!” เซี่ยงเส้าหยุนตื่นตระหนกในพลัน การแสดงออกเปลี่ยนไปราวกับกำลังจะตาย

เซี่ยงเส้าหยุนหยิบน้ำเต้าที่ว่างเปล่าจำนวนหนึ่ง และเก็บน้ำให้ได้มากที่สุด ซึ่งเขาเตรียมน้ำเต้าเหล่านี้เพื่อมาเก็บน้ำจากน้ำพุดวงดาวปฐพีอยู่แล้ว และถึงเวลาต้องใช้มันเสียที

เมื่อเซี่ยงเส้าหยุนรู้สึกว่าลิงคิงคองยักษ์เข้ามาใกล้แล้ว เขาเก็บน้ำเต้าที่เต็มอย่างรวดเร็ว ขณะที่วิ่งสุดชีวิตกลับไปที่ทางเข้า เส้นทางนั้นคับแคบมาก ไม่มีทางที่ลิงคิงคองยักษ์จะสามารถไล่เขาได้ ดังนั้นเขาจึงผ่านเรื่องอันตรายไปได้อย่างฉิวเฉียด

I’m not the Overlord! ราชาเหนือราชัน

I’m not the Overlord! ราชาเหนือราชัน

我不是大魔王
Score 7.8
Status: Ongoing Released: 2019 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I’m not the Overlord! ราชาเหนือราชัน เรื่องย่อ นครขอบนภา เมืองอู่ ตำหนักยุทธ์ ตำหนักยุทธ์คือสถานที่ในเมืองอู่ ที่ได้คัดเลือกผู้ฝึกยุทธ์จากต่างเมืองมาเป็นลูกศิษย์ ทุกฤดูใบไม้ผลิ จะมีการคัดเลือกลูกศิษย์หน้าใหม่ เพราะเหตุนั้น บุตรหลานและผู้เยาว์จากหลากหลายหมู่บ้านใกล้เคียง ต่างก็หลั่งไหลกันมาเพื่อเข้ารับการทดสอบเข้าตำหนักยุทธ์ พวกเขาต่างมาแสวงหาซึ่งกำลัง ในปีนี้ การคัดเลือกเป็นลูกศิษย์ของตำหนักยุทธ์ ได้สิ้นสุดลงไปแล้ว วันนี้ได้มีเด็กหนุ่มผู้หนึ่งที่แต่งตัวราวกับบัณฑิตได้ยืนอยู่ตรงหน้าประตูหลักของตำหนักยุทธ์ อ้อนวอนขออนุญาตเพื่อให้ได้เข้าไป เด็กหนุ่มผู้นี้น่าจะมีอายุราวสิบห้าถึงสิบหกปีและมีคุณสมบัติที่ผ่านการขัดเกลามาอย่างดี เป็นเด็กหนุ่มที่มีใบหน้าที่หล่อเหลาเจิดจ้า ข้อบกพร่องคือร่างกายมีรูปร่างที่ผอมและเสื้อผ้าของเขาก็ขาดรุ่งริ่งราวกับผ่านพ้นอะไรมามากมาย ไม่ต่างกับบัณฑิตผู้ยากไร้ “เจ้าหนุ่ม ข้ากล่าวไปหลายครั้งแล้วไม่ใช่หรือ เหตุใดเจ้ายังดื้อรั้นอยู่อีก? ช่วงเวลาที่ตำหนักยุทธ์ได้คัดเลือกเหล่าลูกศิษย์ได้เสร็จสิ้นไปแล้ว ถ้าหากเจ้าอยากจะเข้าร่วมตำหนัก เจ้าจงรอฤดูใบไม้ผลิครั้งหน้าและจงกลับมาอีกครั้งหนึ่ง” ทหารยามที่ยืนเฝ้าสังเกตการณ์ข้างหน้าตำหนักได้กล่าวต่อสักคำหนึ่งกับเด็กหนุ่มราวกับใกล้จะหมดความอดทน ทหารยามอีกคนหนึ่งเผยท่าทีดุร้ายจับจ้องประหนึ่งคมมีดไปยังเด็กหนุ่มพร้อมตะคอกใส่ “เจ้ามาที่นี่ก็สามวันแล้ว หากเจ้ายังไม่ไปให้พ้นจากตรงนี้ อย่าหาว่าพวกข้าไม่เตือนนะ” ทหารยามทั้งสองเชี่ยวชาญในการรับมือกับบุคคลที่ไร้ยางอายที่จะคิดเข้าไปให้ได้ เด็กหนุ่มเผยรอยยิ้มเจิดจ้าและหัวเราะ พูดว่า “พี่ชายทั้งสองอย่าทำเช่นนี้เลยข้า เซี่ยงเส้าหยุนเป็นอัจฉริยะที่พบเห็นได้ในรอบร้อยปี! ตราบใดที่พวกท่านอนุญาตให้ข้าเข้าไปข้างใน ข้าก็จะได้เป็นลูกศิษย์ของตำหนักยุทธ์อย่างแน่นอน ไม่เพียงเท่านั้นนะ ข้ายังจะเป็นลูกศิษย์ที่เลิศล้ำที่สุดในประวัติศาสตร์ของตำหนักยุทธ์! และเมื่อนั้นข้าจะไม่ลืมบุญคุณของท่านทั้งสองเลย” “ไร้สาระ! เรียกตัวเองว่าอัจฉริยะในรอบร้อยปีงั้นรึ? มองดูรูปร่างผอมบางของเจ้าก่อนไหม? ข้าเดิมพันว่าเจ้ารับหมัดของข้าไม่ได้ด้วยซ้ำ!” ทหารยามเผยสายตาดุร้ายขณะที่เขาตวาดเด็กหนุ่มพร้อมปล่อยหมัดออกไป ขณะที่หมัดกำลังเข้าใกล้ เด็กหนุ่มที่เรียกตัวเองว่าเซี่ยงเส้าหยุนตะโกนขึ้น “หยุดนะ” ดูเหมือนว่าเสียงร้องของเซี่ยงเส้าหยุนจะได้ผล มีพลังอำนาจบางอย่าง ราวกับว่าเขาคือบุคคลที่คนนับหมื่นจะต้องตกอยู่ภายใต้ตัวเขา ทหารยามผู้ที่มีสีหน้าดุดันเหม่อมองชั่วขณะหนึ่ง ดูเหมือนจะมีบางสิ่งที่แปลกประหลาดจากตัวเด็กหนุ่ม แรงกดดันมหาศาลที่อธิบายไม่ได้ที่ฉายผ่านดวงตาที่มองมา ถึงแม้ว่าทหารยามยังคงเย้ยหยันอย่างเย็นชา “กลัวแล้วงั้นรึ? งั้นก็ไสหัวไปซะไม่อย่างนั้นวันนี้จะต้องได้เห็นดีกันแน่” “นี่มันช่างน่าขัน นายน้อยผู้นี้ได้พบเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ใยจึงต้องหวาดกลัวด้วยเล่า?” เซี่ยงเส้าหยุนคิดกับตัวเอง แต่ทว่าท่าทียังคงชวนสงสารเวทนา เขาเผยรอยยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ดูสิ่งนี้สิ!” ในมือของเขาปรากฎชิ้นส่วนหินที่ส่องแสง หินก้อนนั้นดูบริสุทธิ์และไร้มลทิน ผู้ใดพบเห็นย่อมต้องตกตะลึง ทหารยามหวาดระแวงที่จะจ้องมองหินก้อนนั้น เมื่อมองให้ดี สีหน้าของเขาดูเปลี่ยนไปราวกับว่ามีบางสิ่งกำลังจะเกิดขึ้น เซี่ยงเส้าหยุน หัวเราะ “ฮี่ฮี่ อยากได้ใช่มั้ยล่ะ? ถ้าเกิดว่าให้คุณชายคนนี้ได้เข้าสู่ตำหนัก เจ้าเศษหินนี่…” เพี๊ยะ! ก่อนที่เซี่ยงเส้าหยุนจะพูดจบ ทหารยามได้ฟาดฝ่ามือใส่เขา หินส่องแสงโดนตบหลุดไปจากมือของเซี่ยงเส้าหยุน “เจ้ากล้าดียังไงถึงได้ใช้หินขยะนี่มาติดสินบนข้า! ข้าคิดว่าถ้าเจ้าไม่ได้เห็นโลงศพ เจ้าก็จะไม่มีวันหลั่งน้ำตาสินะ” ทหารยามยกหมัดขวาเข้าใส่เซี่ยงเส้าหยุนและกำลังจะต่อยไปยังใบหน้าของเด็กหนุ่ม “เวรเอ้ย ข้าจะเจอคนมีตาแต่หามีแววไม่อีกเท่าไหร่กัน” เซี่ยงเส้าหยุนก่นด่าตัวเขาเอง เขาหลับตาลงโดยที่ไม่ต้องทะเลาะเพราะรู้ว่าตัวเขาเองไม่มีทักษะที่จะต้านรับมันได้ ขณะที่กำปั้นกำลังจะเข้าไปทักทายใบหน้าของเด็กหนุ่ม ก็มีเสียงทุ้มลึกและดุดัน ดังขึ้น “หยุดเดี๋ยวนี้!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset