ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย ตอนที่ 1
Author: 여님 (ยอนิม)
หลังจากที่ออกมาจากงานเลี้ยงรุ่นสมัยมอปลายแล้ว กลุ่มเพื่อนกลุ่มหนึ่งก็พากันมาต่อที่ผับ คิมชายหนุ่มหน้าสวย ถึงแม้ว่าจะเคลียเรื่องในอดีตกับคนที่ตนเองเฝ้ารอมาตลอดได้แล้ว แต่ก็อดที่จะรู้สึกเจ็บไม่ได้ เมื่อเห็นคนที่เคยโอบกอดตนเองกำลังโอบกอดชายหนุ่มอีกคน อยู่ตรงกันข้ามกับที่ตนเองนั่ง ถึงแม้จะรู้ดีว่าเดย์ไม่เคยรักตนเองเลยแม้แต่นิด แต่ก็ยังเฝ้ารอว่าสักวัน เดย์จะหันมารักตนเองได้บ้าง แต่เปล่าเลย คนที่เดย์รักก็คืออิฐ ชายหนุ่มที่เป็นรักแรกและรักสุดท้ายของเดย์ คิมลอบมองคนทั้งคู่ด้วยความปวดใจ แม้แต่หางตา เดย์ก็ไม่ได้แลมาทางคิมเลยสักนิด เพราะสายตาของเดย์จับจ้องแต่อิฐคนเดียวเท่านั้น
“มึงไม่เป็นอะไรนะ” จิม เพื่อนรักอีกคนกระซิบถามด้วยความเป็นห่วง คิมยิ้มรับอ่อนๆ
“ไม่เป็นอะไร ไม่ต้องห่วงหรอก” คิมบอกกลับไปพร้อมกับส่งยิ้มให้เพื่อนตนเอง ก่อนจะนั่งดื่มไปเรื่อยๆ จนเห็นว่าดึกมากแล้ว กลุ่มเพื่อนก็พากันออกมาจากผับ เสียงพูดคุยยังคงไม่หยุด
“เฮ้ย คิม มึงขับกลับไหวรึเปล่า ให้กูไปส่งมั้ย” ทอยเพื่อนอีกคนถามขึ้น
“สบายมาก กูดื่มน้อยกว่าพวกมึงอีกนะ” คิมบอกกลับยิ้มๆ ก่อนจะหันมามองเดย์กับอิฐ
“ขับกลับดีๆนะครับพี่คิม” อิฐพูดบอกออกมาอีกคน คิมยิ้มรับนิดๆ
“กูไปก่อนนะ” คิมพูดบอกพร้อมกับมองหน้าเดย์ไปด้วย
“อืม” เดย์ตอบรับสั้นๆ ซึ่งคิมรู้ว่าที่เดย์ตอบรับ เพราะถูกอิฐเอาศอกกระทุ้งให้ตอบรับคำพูดของคิม คิมยิ้มนิดๆ ก่อนจะพากันแยกย้ายกันไป คิมขึ้นมาบนรถก่อนขับรถกลับมายังคอนโดของตนเอง เมื่อจอดรถที่ลานจอดรถแล้ว คิมก็ฟุบหน้าไปกับพวงมาลัยรถ
“ฮึกกก…ฮือออ…..” คิมที่นั่งอดทนมาตลอดในผับ และตลอดทางที่ขับรถกลับคอนโด ปล่อยโฮออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ หลายปีที่เฝ้าคอย แต่พอได้กลับมาเจอ อีกฝ่ายก็มีคนที่รักมากไปแล้ว
“ฮึกก…กูจะขอร้องไห้เพราะมึง เป็นครั้งสุดท้ายนะเดย์…ฮึกก…แล้วกูจะกลับไปเป็นเพื่อนมึงเหมือนเดิม” คิมพูดกับตนเองเสียงสะอื้น คิมนั่งร้องไห้อยู่สักพัก ก่อนจะลงจากรถ แล้วขึ้นห้องพักของตนเองด้วยน้ำตานองหน้า ร่างบางเดินเข้าไปในห้องนอน พร้อมกับล้มตัวลงนอนอย่างหมดแรง ร่างบางสั่นสะท้านเพราะแรงสะอื้น ก่อนจะผล็อยหลับไปเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“คม เข้ามาในห้องชั้นหน่อย” เสียงทุ้มของชายวัย 30 ปลายๆ พูดกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะวางลงที่โต๊ะหน้ากระจก พร้อมกับยืนนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวส่องกระจกเพื่อสำรวจตัวเองไปพลางๆ
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูห้องนอนสุดหรูของโรงแรมดังขึ้น ก่อนที่จะถูกเปิดออก คม ชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาเข้ม เดินเข้ามาพร้อมกับเหลือบมองไปทางเตียงกว้าง ที่ตอนนี้มีชายหนุ่มนอนขด ตัวสั่นระริก สภาพเหมือนกับผ่านสงครามมอะไรมาสักอย่าง
“ครับนาย” คมตอบรับผู้เป็นเจ้านายของตนเอง
“เดี๋ยวเอาเงินมาให้เด็กคนนี้ แล้วให้ใครพาไปส่งด้วย อ่อ สั่งอาหารเช้าขึ้นมาให้ชั้นด้วย” อีกฝ่ายตอบกลับ คมก้มหัวรับคำก่อนจะเดินไปหาชายหนุ่มที่นอนอยู่
“ใส่เสื้อผ้าซะ จะให้คนพาไปส่ง” คมพูดบอกกับอีกฝ่ายเสียงเรียบ ชายหนุ่มรีบลุกมาใส่เสื้อผ้าด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา ร่องรอยต่างๆบนร่างกายบ่งบอกถึงความเร่าร้อนและรุนแรงของเรื่องบนเตียงได้เป็นอย่างดี หลังจากที่คมพาชายหนุ่มคนดังกล่าวออกไปและจัดการทุกอย่างตามคำสั่งเรียบร้อยแล้ว ก็กลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง พบว่าเจ้านายตัวเองแต่ตัวเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
“เรียบร้อยแล้วครับนาย” คมพูดบอก
“อืม ขอบใจ สั่งอาหารเช้าขึ้นมาให้ชั้นแล้วใช่มั้ย” เจ้านายของคมพูดถาม
“ครับ อีกสักพักก็คงเอาขึ้นมาส่ง” คมพูดบอกออกมา
“แล้วสั่งให้ทุกคนรึเปล่า” เจ้านายของคมถามต่อ
“ครับ” คมตอบกลับอีกครั้ง ก่อนที่เจ้านายจะพยักหน้ารับแล้วเดินนำออกไปนอกห้องนอน ลูกน้องที่อยู่ภายในห้องโถงกลางต่างก้มหัวให้กับ กมล ผู้มีอิทธิพลในด้านมืด ที่หลายคนกล่าวขานกันว่าเป็นมาเฟียที่เลือดเย็นที่สุด และมีลูกน้องฝีมือดีเยอะที่สุดเช่นเดียวกัน กมลโบกมือไล่ให้ทุกคนทำตัวตามสบาย เพราะเขาเองไม่ได้เลี้ยงลูกน้องเพื่อรับใช้อย่างเดียว แต่เค้าเลี้ยงดูเหมือนญาติพี่น้องของตัวเอง กมลนั่งที่โต๊ะติดบานกระจกใสมีแก้วกาแฟร้อนๆเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว คมลูกน้องคนสนิท เดินเอาหนังสือพิมพ์มาให้
“ขอบใจ” กมลบอกกลับ ก่อนจะคลี่หนังสือพิมพ์มาอ่านฆ่าเวลารออาหารเช้า
“นายครับ ตกลงว่าเด็กคนเมื่อกี้ถูกใจนายรึเปล่าครับ” คมถามเป็นเรื่องปกติ
“ไม่ค่อยถูกใจเท่าไร ถึงปากจะตกลงว่าชั้นจะรุนแรงแค่ไหนก็ได้ แต่พอเอาเข้าจริงก็สนองชั้นได้ไม่ถึงใจอย่างที่ชั้นต้องการ” กมลตอบกลับด้วยท่าทีนิ่งๆ สายตาก็มองตัวหนังสือในหนังสือพิมพ์ไปด้วย
“ขอโทษครับ ครั้งต่อไป ผมจะหาที่ดีกว่านี้มาให้” คมบอกกลับ กมลยกยิ้มนิดๆ
“อย่าคิดมาก ชั้นไม่ได้ซีเรียสเรื่องพวกนี้หรอกน่า ชั้นเข้าใจ จะมีใครที่จะมารองรับอารมณ์คนอย่างชั้นได้ล่ะ จริงมั้ย” กมลบอกกลับยิ้มๆ ลูกน้องทุกคนรู้ดีว่า รสนิยมของกมลเป็นยังไง กมลไม่ชอบผู้หญิง เขาชอบเด็กหนุ่มๆมากกว่า ซึ่งก็ไม่มีลูกน้องคนไหนรู้สึกรังเกียจหรือคาใจอะไร ทุกคนยังคงให้ความยอมรับนับถือกมลเหมือนเดิม กมลเองก็ไม่เคยคิดจะปกปิดความชอบของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นแวดวงของคนที่ร่วมงานกันก็ตาม และที่สำคัญรสนิยมบนเตียงกมลค่อนข้างเป็นพวกซาดิสต์และรุนแรง จึงทำให้ไม่มีคู่ขาคนไหนทนอยู่ได้นาน บางคนเสนอตัวมาทดสอบเพราะรู้ว่าเงินดี แต่พอเจอเข้าจริงๆ ก็ไม่กล้ามาเป็นครั้งที่ 2 จึงทำให้กมล ไม่คิดที่จะคบหาใครเป็นตัวเป็นตน อาจจะเป็นเพราะหน้าที่การงานที่ทำอยู่ ทำให้ไม่สามารถมีชีวิตส่วนตัวได้อย่างที่ใจต้องการ
ออดดด
เสียงออดหน้าห้องดังขึ้น ลูกน้องของกมลคนหนึ่งเดินไปเปิดประตู ก่อนจะช่วยกันทยอยเข็นรถอาหารเช้าเข้ามาภายในห้องพัก เวลาที่จะหลับนอนกับใคร กมลจะเลือกใช้ห้องพักชั้นบนสุดของทางโรงแรมซึ่งเป็นโรงแรมที่กมลเป็นหุ้นส่วนใหญ่อยู่ กมลไม่เคยคิดจะพาใครกลับไปที่บ้านใหญ่ของตนเอง
“พวกนายก็กินกันไปได้เลย ไม่ต้องรอให้ชั้นกินอิ่มหรอก เดี๋ยวเราต้องเข้าสำนักงานกันอีก” กมลพูดบอกกับลูกน้อง ลูกน้อง 5 คน ยกเว้นคม แยกย้ายกันไปนั่งกินรวมกันอีกด้านของห้อง ส่วนคมต้องนั่งกินกับเจ้านายตนเองเป็นเรื่องปกติ
“มีอะไรจะรายงานมั้ย พูดไปกินไปได้ ชั้นไม่ถือ” กมลพูดถามคมขึ้นมา
“เมื่อคืนก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ คนของเราที่ดูแลผับทั้ง 8 ที่ บอกว่ามีพวกมาก่อกวนบ้าง แต่คนของเราก็จัดการได้หมด ส่วนเรื่องสินค้าคืนนี้จะถูกส่งมากับเรือ ขึ้นฝั่งตอน 5 ทุ่ม รอคำสั่งจากนายว่าจะให้พวกผมเป็นคนไปเช็คสินค้า หรือว่านายจะไปด้วยตัวเอง” คมพูดบอกออกมา กมลพยักหน้ารับช้าๆ
“อืม ชั้นไปดูด้วยตัวเองดีกว่า ว่าแต่อย่าลืมจัดการพวกการท่าด้วยล่ะ” กมลพูดบอกอีกครั้ง
“เรียบร้อยแล้วครับ” คมตอบกลับ เขาได้จัดการยัดเงินให้กับพวกระดับสูงที่ตรวจสินค้าที่มากับเรือไว้เรียบร้อยแล้ว จึงไม่มีปัญหาว่าจะถูกจับได้ว่าขนอะไรมาบ้าง เมื่อนั่งกินข้าวกันไปเรื่อยๆ คุยเรื่องการเมืองบ้าง เรื่องธุรกิจบ้างเรียบร้อยแล้ว กมลก็สั่งให้ลูกน้องเตรียมรถและลงจากห้องพักสุดหรู เพื่อขึ้นรถไปยังสำนักงานของตนเอง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Tru…Tru..Tru
เสียงโทรศัพท์ของคิมดังขึ้น ขณะที่เจ้าตัวกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง ดวงตากลมแดงก่ำจากการร้องไห้หนักเมื่อคืน มือเรียวควนหาโทรศัพท์ของตนเองก่อนจะกดรับสาย
“ฮาโหล” เสียงยานคางของคิมดังขึ้น
(“พี่คิม วันนี้พี่จะเข้าสำนักงานมั้ยคะ”) เสียงหญิงสาวดังมาตามสาย ผู้ซึ่งเป็นหุ้นส่วนในการทำสำนักงานบัญชีร่วมกัน เมื่อได้ยินคำถาม คิมผงกหัวไปมองนาฬิกา จึงรู้ว่าตอนนี้ 10 โมงกว่าแล้ว
“ขอเข้าช่วงบ่ายล่ะกันนะเมย์ เมื่อคืนพี่ไปงานเลี้ยงรุ่นมา ดื่มหนักไปหน่อย” คิมบอกอีกฝ่ายตรงๆ ซึ่งอีกฝ่ายก็หัวเราะเบาๆมาตามสาย
(“ค่ะ เมย์จะได้ไม่ต้องส่งเมลล์รายละเอียดงานของลูกค้าไปให้ พี่คิมมาดูที่สำนักงานเองล่ะกันนะคะ”) หญิงสาวบอกกลับ
“อืมๆ ขอบใจนะ” คิมบอกส่งท้ายก่อนจะวางสายไป ร่างบางนอนหงายมองเพดานห้องนิ่งๆ ภาพของเดย์กับอิฐเมื่อคืนยังคงเด่นชัดในความทรงจำ
“เฮ้อ ทำใจเว้ยคิม” คิมพูดกับตัวเองถึงแม้ว่าใจจะเจ็บ ร่างบางลุกไปอาบน้ำเพราะเมื่อคืนเล่นนอนหลับทั้งชุดที่ออกไปงานเลี้ยง เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว คิมก็ทำอาหารเช้าของตนเองง่ายๆกิน ก่อนจะเตรียมของเพื่อออกไปยังสำนักงานของตนเองและหุ้นส่วน ร่างบางเปิดประตูเข้าไปในสำนักงาน มีพนักงานดูแลเรื่องเอกสารและรับลูกค้าด้านหน้าหันมามองพร้อมกับยกมือไหว้ หญิงสาวที่ชื่อเมย์รีบเดินออกมาหาคิมทันที
“พี่คิม ตานั่นมาอีกแล้วอ่ะพี่” เมย์รีบมาบอกกับคิมก่อน เมื่อลูกค้าขี้หลีที่ชอบมาก้อร่อก้อติกกับคิม ได้เข้ามาเที่ยวหาคิม คิมถอนหายใจออกมาเบาๆ
“อยู่ไหนล่ะ” คิมถามขึ้น
“เมย์ให้รอที่ห้องรับรองแขกค่ะ ไม่อยากให้ไปรอที่ห้องทำงานพี่คิม” หญิงสาวบอกกลับ
“ขอบใจนะ ไปบอกคุณการันต์ด้วย ว่าอีกสักพักพี่จะเข้าไปคุยด้วย ขอเก็บของก่อน” คิมบอกกลับไป หญิงสาวพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินไปทำหน้าที่ตามที่คิมบอก ร่างบางเดินไปทางห้องทำงานของตนเอง แล้วเปิดประตูเอาของเข้าไปเก็บ สักพักก็เดินไปยังห้องรับรองแขก ทันทีที่คิมเปิดประตูเข้าไป อีกฝ่ายก็รีบเปิดปากยิ้มกว้างออกมาทันที
“สวัสดีครับคุณการันต์” คิมยกมือไหว้อีกฝ่ายที่อายุมากกว่าตนเอง
“ไม่ต้องไหว้พี่ก็ได้ครับน้องคิม พี่นึกว่าวันนี้จะมารอน้องคิมเก้อซะแล้ว” อีกฝ่ายตอบออกมาพร้อมกับมองคิมด้วยสายตาแพรวพราว
“คุณการันต์มีอะไรจะให้ทางสำนักงานเรารับใช้ก็ฝากกับเมย์ไว้ก็ได้นะครับ จะได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งรอ เพราะยังไงผมกับเมย์ต้องช่วยกันตัดสินใจเรื่องงานอยู่แล้ว” คิมพูดอย่างเป็นทางการ เป็นการเป็นงาน
“ไม่เสียเวลาหรอกครับ พี่อยากมาเจอหน้าคิมด้วย” อีกฝ่ายตอบกลับมาโดยไม่สนใจน้ำเสียงเรียบนิ่งของคิมแต่น้อย อาจจะเป็นเพราะคิมมีรูปร่างและใบหน้าที่สวยหวานไปทางผู้หญิง เลยทำให้หลายคนไม่ค่อยเกรงกลัวเท่าไร แต่เพราะยังไม่มีใครรู้ว่ามีคิมโหมดดาร์กอยู่เหมือนกัน
“คุณการันต์เข้ามาวันนี้มีเรื่องอะไรเหรอครับ” เมื่ออีกฝ่ายไม่สนใจในน้ำเสียงของคิม คิมเองก็ไม่สนใจในน้ำเสียงของอีกฝ่ายเช่นเดียวกัน
“อย่าเครียดเรื่องงานมากสิครับ พี่ว่าจะมาชวนคิมไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันเท่านั้นเอง” อีกฝ่ายตอบกลับ คิมลอบถอนหายใจออกมาเบาๆอย่างเหนื่อยใจ
“ผมทานข้าวมาแล้วครับ ขอโทษด้วย ถ้าคุณการันต์ไม่มีอะไรจะให้ทางสำนักงานผมรับใช้ ผมคงต้องขอตัว เพราะมีงานของลูกค้าท่านอื่นรออยู่อีกเยอะ ผมไม่มีเวลามาคุยเรื่องไร้สาระ ขอโทษด้วยครับ” พูดจบคิมก็เดินออกไป ทิ้งให้อีกฝ่ายนั่งกัดฟัน ใช่ว่าจะไม่เคยได้ยินคำพูดเย็นชาแบบนี้ แต่เพราะมากี่ครั้งถ้าไม่ได้มาเรื่องงานก็ถูกตอกกลับแบบนี้ทุกที
“จิน ส่งแขกให้พี่ด้วยนะ” คิมพูดบอกกับเลขาหน้าห้องของตนเอง ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องทำงานอย่างไม่สนใจว่าการันต์จะรู้สึกยังไง ตอนแรกคิมก็พูดแบบรักษาน้ำใจบ้าง แต่พอพักหลังๆ อีกฝ่ายเข้ามาวุ่นวายจนเกินพอดี คิมจึงไม่มีอะไรต้องให้รักษาน้ำใจกันอีก เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายได้ใจจนเกินไป
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูห้องทำงานของคิมดังขึ้น ก่อนที่ประตูจะเปิดออก
“ว่าไงเมย์” คิมถามหญิงสาวที่เดินเข้ามา
“กลับไปแล้วนะคะ หน้าบูดเป็นตูดลิงไปเลย” หญิงสาวเดินเข้ามารายงานอย่างขำๆ
“ดีแล้วล่ะ” คิมบอกกลับ
“ตาการันต์นี่ก็แปลกนะพี่คิม มาทีไรก็โดนไล่กลับทุกที แต่ก็ยังจะมา สงสัยโรคจิต” หญิงสาวพูดบอกออกมา
“ช่างเค้าเหอะ เดี๋ยวก็เบื่อไปเอง” คิมพูดบอกก่อนจะเอนพิงพนักเก้าอี้ทำงาน
“เมื่อคืนหนักเหรอคะพี่คิม ตาบวมเชียว” หญิงสาวถามขึ้น คิมชะงักไปนิด
“อืม กินเลี้ยงเสร็จพวกเพื่อนๆมันก็ชวนไปต่อกันอีกน่ะ” คิมบอกกลับ
“ไหนงานที่บอกล่ะ เอามาดูหน่อยสิ” คิมชวนหญิงสาวคุยเรื่องงานเพื่อเปลี่ยนเรื่อง ก่อนที่คิมจะใช้เวลาช่วงบ่ายทำงานในสำนักงานของตนเอง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
1 เดือนผ่านไป
ตั้งแต่วันงานเลี้ยงรุ่น คิมก็ไม่เคยเจอหน้าเดย์กับอิฐอีกเลย ถึงแม้ว่าจะมีเบอร์โทรแต่คิมก็ไม่กล้าที่จะโทรไป ทุกๆวัน คิมก้มหน้าก้มตาทำงาน เพื่อจะไม่ให้คิดเรื่องของเดย์ พอเลิกงานก็ออกไปนั่งดื่มคนเดียวบ้าง กับพนักงานในสำนักงานบ้าง
“พี่คิม คืนนี้ไปดื่มกันมั้ยคะ เมย์เจออยู่ร้านหนึ่ง น่าเข้าไปนั่งมากแต่จะค่อนข้างไฮโซหน่อย เพราะเป็นร้านในโรงแรม เมย์เลยไม่กล้าไปคนเดียว พี่คิมไปกับเมย์หน่อยนะ” หญิงสาวพูดชวน คิมยิ้มนิดๆ เพราะหญิงสาวเป็นนักดื่มตัวยงชอบไปสรรหาร้านบรรยากาศดีๆเพื่อนั่งดื่มแล้วเอามารีวิวลงอินเตอร์เนต
“เอาสิ” คิมตอบรับทำให้หญิงสาวยิ้มกว้าง
“เมย์ชวนจินกับแฟนจินไปด้วยนะพี่คิม” หญิงสาวบอกอีก คิมก็พยักหน้ารับ ก่อนจะนั่งทำงานต่อจนเวลาล่วงเลยมาจนประมาณ 1 ทุ่ม เมย์ก็เดินเข้ามาตาม คิมจึงเก็บของเพื่อปิดสำนักงาน
“เมย์จะไปรถพี่มั้ย” คิมถามขึ้น
“เมย์เอารถไปเองดีกว่าค่ะ พี่คิมจะได้ไม่ต้องย้อนมาส่งเมย์เอารถที่สำนักงานอีก” หญิงสาวบอกกลับ ก่อนจะยืนรอแฟนของจินเลขาหน้าห้องของคิม แล้วขับรถตามกันไปยังร้านที่เมย์ชวนไป เมื่อไปถึงคนทั้งสี่ก็มายืนรวมตัวกันที่หน้าประตูทางเข้าร้าน ซึ่งตอนนี้ก็มีนักท่องเที่ยวบางส่วนเข้าไปนั่งดื่มไม่เยอะมากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจต่างชาติบ้างคนไทยบ้าง เพราะแต่ละคนแต่งตัวดูดีกันทั้งนั้น
“โหยย พี่เมย์จะมาร้านแบบนี้ก็ไม่บอก ผมจะได้ใส่สูทมา” แฟนของจินพูดขึ้น
“เว่อร์ไปแล้วโก้ ใส่ชุดทำงานแบบนี้ก็เข้าได้ ขออย่างเดียวไม่ใส่เสื้อยืดกางเกงเลรองเท้าแตะก็พอ” เมย์บอกกลับ ทำเอาจินกับโก้หัวเราะขำคิกคัก คิมเองก็ยืนยิ้มนิดๆ
“พี่ว่าเราเข้าไปข้างในกันเถอะ” คิมพูดชวน หญิงสาวพยักหน้ารับก่อนที่คนทั้งสี่จะพากันเดินเข้าไปด้านใน บรรยากาศในร้านค่อนข้างหรูหราเหมือนที่เมย์พูดบอก มีทั้งโต๊ะสำหรับคนที่มาเป็นกลุ่ม และบาร์นั่งเดี่ยว พนักงานออกมาต้อนรับก่อนจะพากลุ่มของคิมไปยังโต๊ะนั่ง ซึ่งติดกับกระจกที่มีน้ำไหลจากด้านบนของกระจกอยู่ด้านนอก เพิ่มบรรยากาศโรแมนติกและหรูหราได้ดี แสงไฟก็สลัวๆ ไม่มืดจนเกินไปนัก เท่าที่คิมมองไปรอบๆก็พอจะรู้ว่าบางคนก็จะพาคู่ค้าทางธุรกิจมานั่งดื่มไปด้วยคุยเรื่องงานไปด้วยที่นี่ เมื่อสั่งเครื่องดื่มและถูกนำมาเสริฟเรียบร้อยแล้ว ทั้งสี่คนก็นั่งดื่มนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ เมย์ก็ถ่ายรูปเครื่องดื่ม พร้อมกับจดรายละเอียดยิกๆเพื่อไปรีวิว เมื่อได้ข้อมูลสมใจก็นั่งคุยเล่นกันต่อ คิมนั่งดื่มเงียบๆ มองสายน้ำที่ไหลอยู่ด้านนอกนิ่งๆ
“พี่คิม พี่คิม” เมย์เรียกคิม ทำให้คิมสะดุ้งนิดๆ แล้วหันมามอง
“มีอะไรเหรอเมย์” คิมถามกลับ
“พี่คิมเป็นอะไรรึเปล่า หรือว่าไม่ชอบร้านนี้คะ” หญิงสาวถามออกมาอย่างเกรงใจเพราะตนเองเป็นคนชวนคิมมา
“เปล่าหรอก พี่ชอบ แต่พอดีพี่นั่งคิดอะไรเพลินไปหน่อยน่ะ” คิมบอกยิ้มๆ
“พี่คิมมีอะไรไม่สบายใจบอกพวกผมได้นะพี่” โก้พูดบอกเพราะมาดื่มกับคิมและเมย์บ่อยจนสนิทกันดี
“ใช่ค่ะ หลายอาทิตย์ที่ผ่านมา จินรู้สึกเหมือนพี่คิมไม่ค่อยร่าเริงเลย” เลขาของคิมพูดบอกออกมาบ้าง คิมมองคนทั้งสามอย่างชั่งใจก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
“พี่ถามอะไรหน่อยได้มั้ย” คิมเกริ่นนำขึ้น คนทั้งสามก็ตั้งตารอฟัง
“เราจะทำยังไง เพื่อให้ลืมคนๆหนึ่งได้ แต่ไม่ได้ลืมแบบขาดเลยนะ แบบว่าลืมความรู้สึกพิเศษที่มีให้คนนั้นเพื่อกลับมาเป็นคนรู้จักกันธรรมดาเหมือนเดิมน่ะ” คิมพูดถามขึ้นมา
“พี่คิมอกหักเหรอ” เมย์ถามออกมาตรงๆ คิมยิ้มรับนิดๆ
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้ แต่เรียกว่าเป็นรักข้างเดียวดีกว่านะ” คิมพูดแก้ให้ ทั้งสามคนมองหน้ากันนิดๆ ไม่คิดว่าคิมจะทุกข์ใจเพราะเรื่องนี้
“ถ้าถามจิน จินขอใช้ประสบการณ์ตัวเองมาบอกล่ะกันนะคะ เมื่อก่อนจินก็เคยแอบรักคนๆหนึ่ง รักมาก แต่เมื่อรู้ว่าเค้าไม่ได้คิดกับเราแบบที่เราคิดกับเค้าก็เฮิร์ทหนักอยู่ช่วงหนึ่งเลยล่ะค่ะ แต่พอหลังจากที่จินมาเจอกับโก้ โก้ก็ทำให้จินลืมเรื่องของคนๆนั้น ทำให้จินรู้ว่าจริงๆแล้วมีคนที่รักเราอีกมากมาย เราไม่จำเป็นต้องไปเรียกร้องหาความรักจากคนที่ไม่ได้รักเรา” หญิงสาวพูดพร้อมกับหันไปมองหน้าคนรัก ที่นั่งบีบมือจินอยู่ยิ้มๆ คิมมองเลขาของตนเองอย่างอึ้งนิดๆ เพราะไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน
“จินกำลังจะบอกพี่คิมว่า ให้พี่คิมหาคนมาทดแทนคนๆนั้นงั้นเหรอ” เมย์ถามกลับ
“ก็ประมาณนั้นแหละค่ะ แต่ไม่ได้หมายถึงว่าให้รีบหาหรือหาใครก็ได้นะคะ จินคิดว่าถ้าถึงเวลา คนๆนั้น คนที่ใช่สำหรับเราก็จะมาหาเราเองน่ะค่ะ แต่ที่จินพูดบอกแบบนี้ เพราะไม่อยากให้พี่คิมไปยึดติดกับคนที่ทำให้พี่เสียใจ อยากให้พี่คิมรู้ว่ายังมีคนที่ใช่สำหรับที่คิมรออยู่แน่นอนค่ะ” หญิงสาวพูดบอกออกมา คิมยิ้มรับนิดๆ
“ขอบใจนะสำหรับคำแนะนำ” คิมบอกกลับยิ้มๆ ก่อนที่จะนั่งคุยกันไปเรื่อยๆอีก จนเวลาล่วงเลยไปจน 4 ทุ่มกว่าๆ
“เมย์ว่าเรากลับกันดีกว่าค่ะ” หญิงสาวพูดชวน
“พวกเรากลับไปก่อนเถอะ พี่ขอนั่งดื่มที่นี่อีกสักพัก เผื่อเจอคนที่ใช่” คิมบอกยิ้มๆ ไม่ให้น้องๆเป็นห่วง
“อยู่คนเดียวได้แน่เหรอคะพี่คิม” เมย์ถามออกมา
“ได้ พี่ไม่ใช่เด็กนะ” คิมบอกกลับ ก่อนที่คนทั้งสามจะตอบรับพร้อมกับจ่ายเงินค่าเครื่องดื่มที่โต๊ะ พอคนทั้งสามกลับไปแล้ว คิมก็เดินมานั่งตรงบาร์พร้อมกับสั่งเครื่องดื่มมาดื่มต่อคนเดียว
..
..
..
..
..
“ขอบใจทุกคนมาก เหนื่อยหน่อยนะวันนี้ เดี๋ยวไปหาอะไรดื่มกันก่อนล่ะกัน” กมลพูดบอกกับลูกน้องตนเอง หลังจากที่ไปตรวจสินค้าล็อตล่าสุดที่ท่าเรือเรียบร้อยแล้วและกำลังจะเดินทางกลับ
“นายจะไปที่ไหนดีครับ” คมถามขึ้น
“ไปดื่มที่บาร์ของโรงแรมนั่นแหละ บอกคนของเราให้ติดตามไปแค่ 5 คนก็พอ ที่เหลือให้กลับไปพักผ่อนได้” กมลบอกกลับ คมจึงจัดการสั่งลูกน้องแล้วขับรถพากมลมายังบาร์ของโรงแรม ทันทีที่กมลก้าวเข้าบาร์ พนักงานรีบมาต้อนรับกันอย่างดีพร้อมกับพาไปห้องส่วนตัว กมลเดินผ่านในส่วนของบาร์ก็พบกับชายหนุ่มหน้าหวานกำลังนั่งดื่มอยู่คนเดียว แต่ก็เพียงเหลือบมองด้วยหางตาเท่านั้น เพราะไม่คุ้นหน้าคุ้นตาสักเท่าไร ก่อนจะเดินนำเข้าไปในห้อง VIP กมลสั่งเครื่องดื่มมาให้ลูกน้องและตนเองนั่งดื่มกันไปเรื่อยๆ
“นายครับ คืนนี้อยากให้ผมหาเด็กให้รึเปล่า” คมถามเจ้านายตนเอง กมลนั่งคิดสักพัก
“หามาสักคนล่ะกัน” กมลตอบกลับ เพราะเขาเองไม่ได้ระบายมาสามวันแล้ว เนื่องจากวุ่นวายอยู่กับสินค้าที่จะส่งเข้ามา แต่พอพูดสั่ง ใบหน้าหวานๆของคนที่นั่งดื่มอยู่ที่บาร์เหล้าก็แทรกเข้ามาในความคิด เพราะชายหนุ่มหน้าสวยหวานตรงสเปคของกมลทุกอย่าง แต่เรื่องบนเตียง กมลคิดว่าอีกฝ่ายคงรับตนเองไม่ไหวแน่ๆ ถึงจะเป็นมาเฟีย แต่กมลก็ไม่เคยคิดบังคับขืนใจใคร
..
..
..
..
..
นั่งดื่มคนเดียวได้สักพัก คิมก็รู้สึกมึนๆเมาๆ เพราะเอาแต่นั่งดื่มไปแล้วคิดเรื่องของเดย์ไปด้วย
//ทำยังไงกูถึงจะลืมกอดของมึงได้วะเดย์// คิมพึมพำออกมาเบาๆ ดวงตาสวยฉ่ำปรือ
//หรือว่ากูควรจะหาคนมาทดแทน มาทำให้กูลืมกอดของมึงดีล่ะ// คิมยังคงพึมพำออกมาอีก นั่งดื่มนานๆก็รู้สึกอยากจะเข้าห้องน้ำ คิมจึงเดินเซไปเขาห้องน้ำของทางบาร์ ทันทีที่ชายหนุ่มเดินเข้าไปในห้องน้ำ สายตาของเสือหิวบางตัวก็จ้องมองมาเหมือนกับว่าเจอเหยื่ออันโอชะ คิมเดินเซไปทำธุระของตนเอง แต่ไม่ทันที่เสือหิวจะเข้าขย้ำเหยื่อ ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีคนเดินเข้ามาในห้องน้ำซึ่งทำให้ทุกคนแทบจะวิ่งออกไปจากห้องน้ำเมื่อเห็นว่าเป็นกมลกับคม คิมที่ยืนทำธุระเรียบร้อยก็เดินเซมาล้างมือ ดวงตาคู่สวยปะทะเข้ากลับสายตาคมของกมลที่จ้องมองคิมหัวจรดเท้า ซึ่งกมลเองก็ไม่คิดว่าจะได้มาเจอหนุ่มหน้าหวานคนนี้ในห้องน้ำเหมือนกัน
“คุณมองผมเหรอ” คิมถามด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ ทำให้คมลูกน้องของกมลขมวดคิ้วนิดๆ กมลยกมือห้ามไม่ให้คมพูดอะไรออกไป
“ใช่ ชั้นมองนาย” กมลตอบกลับ ตอนนี้ในห้องน้ำมีเพียง กมล คิม และคมลูกน้องของกมลเท่านั้น คิมหันหน้ามามองกมลอีกครั้งตรงๆ พร้อมกับพิงตัวไปกับอ่างล้างมือเพื่อพยุงตัวเองไม่ให้ล้มลงไป
“คุณสนใจผมเหรอ” คิมถามอีก กมลเลิกคิ้วนิดๆ พร้อมกับยกยิ้มมุมปาก
“ใช่ ชั้นสนใจนาย แล้วที่นายถามชั้นแบบนี้ หมายความว่าไง” กมลถามกลับ คิมกัดริมฝีปากของตนเองนิดๆ ซึ่งกมลมองแล้วรู้สึกยั่วยวนมากในสายตาของตนเอง ไหนจะใบหน้าแดงก่ำเพราะฤทธิ์ของแอลกฮอล์อีก คิมขยับเดินเข้าหากมล คมเองก็เตรียมพร้อมคอยระวังให้เจ้านายตัวเอง เพราะไม่รู้ว่าคิมคือใคร
“คุณดูดีจังเลยนะ ดูดีแบบนี้จะใจดีช่วยกอดผมหน่อยได้มั้ย” คิมพูดบอกออกมาด้วยสายตาเว้าวอน สติที่จะคิดไตร่ตรองไม่มีแล้วในนาทีนี้ คิมอยากจะหาใครสักคนมาช่วยกอดตนเองเพื่อลบล้างและทดแทนอ้อมกอดที่คิมไม่มีวันได้กลับคืนมา คิมยกมือโอบรอบคอของกมลเอาไว้ สายตาของคิมสั่นระริกเหมือนคนกำลังหาทางออกในใจ
“ช่วยผม ช่วยทำให้ผมลืมกอดของเค้าที ได้โปรด ทำกับผมยังไงก็ได้ ช่วยผม” คิมพูดบอกออกมาเสียงแผ่ว ขาทั้งสองข้างเริ่มจะยืนไม่อยู่จนกมลต้องยกแขนขึ้นมาโอบรอบเอวบางเอาไว้ กลิ่นหอมอ่อนๆผสมกับกลิ่นหวานหอมของเหล้าทำให้กมลรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเหมือนกับได้เจอของที่ตามหามานาน
“นายครับ ผมว่า..” คมรู้สึกห่วงความปลอดภัยของเจ้านายตนเอง เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเข้ามาเพื่อจุดประสงค์อะไรกันแน่
“ไม่เป็นไร ชั้นจัดการได้” กมลบอกกลับ คมจึงได้แต่ยืนมองนิ่งๆ
“เด็กน้อย แน่ใจนะว่าจะให้ชั้นช่วยนาย” กมลถามขึ้น รับรู้ดีว่าคนในอ้อมแขนของตนเองกำลังโหยหาอะไรบางอย่าง
“แน่ใจ” คิมตอบกลับ กมลยกยิ้มมุมปาก
“ถ้าเกิดอะไรขึ้นนายจะไม่คิดเสียใจทีหลังนะ” กมลถามอีก คิมก็พยักหน้ารับ ตอนนี้คิมต้องการไออุ่นจากใครสักคนมาดับความหนาวเหน็บในใจของตนเอง
“คม โทรไปยกเลิกเด็กที่นายเรียกมา แล้วเตรียมห้องให้ชั้นด้วย” กมลพูดบอก
“แต่นายครับ นายไม่เคยพาคนที่ไม่ใช่เด็กขายขึ้นห้องนะครับ” คมพูดเตือน
“ชั้นบอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร” กมลหันไปมองลูกน้องตนเองด้วยสายตานิ่งๆ ทำให้คมจำต้องก้มหัวยอมรับแต่โดยดี
“ครับ” คมตอบรับ ก่อนที่กมลจะช้อนตัวของคิมขึ้นมาอุ้มเอาไว้ในท่าเจ้าหญิง คิมยกมือโอบรอบคอของกมลเอาไว้ทันที พร้อมกับซุกหน้าไปกับอกแกร่งด้วยความมึนหัว
“เตรียมใจเอาไว้นะเด็กน้อย ชั้นจะทำให้นายลืมกอดของใครคนนั้นไปอย่างแน่นอน” กมลพูดขึ้นก่อนจะอุ้มคิมเดินออกไป โดยไม่ให้ลูกน้องตนเองช่วยแต่อย่างไร
2 Be Con
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อัพกมลคิมตอนแรกแล้วจร้า
คิดว่าง่ายไปมั้ย ง่ายเนอะ ฮ่าๆๆ
คิมก็น่าตีเกิ๊น ไปกับเขาง่ายๆได้ไงกัน
อาจจะไม่สนุกนักต้องขอโทษด้วยนะคร่า
ตอนแรกอาจจะไม่มีอะไรมากนัก เพราะว่าเกริ่นนำคนทั้งสองก่อนนะคร่า