ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love] – ตอนที่ 2

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย ตอนที่ 2

Author: 여님  (ยอนิม)

 

กมลอุ้มคิมผ่านลูกค้าในบาร์ไปยังลิฟท์ของโรงแรม ซึ่งลูกน้องของกมลก็รีบมาคอยตามดูแลเจ้านายตนเองไม่ห่าง คมกดลิฟท์พากมลและคิมขึ้นไปยังห้องพักสุดหรู ห้องประจำของกมล กมลก้มมองคนในอ้อมแขนของตนเองไม่วางตา พลางคิดไปว่าร่างบอบบางแบบนี้ จะรับกับบทรักของเขาได้มากน้อยแค่ไหน ยิ่งได้เห็นซอกคอที่ขาวผ่อง ทำให้กมลอยากจะฝากรอยฟันคมๆของตนเองลงไปเต็มที เมื่อมาลิฟท์มาถึงห้องพัก คมก็รีบไปเปิดประตูให้เจ้านายตนเองอย่างรวดเร็ว

“ถ้าอยากดื่มกันต่อก็ให้สั่งเครื่องดื่มขึ้นมา แล้วถ้าชั้นไม่เรียกห้ามใครเข้าไปรบกวนชั้นเด็ดขาด” กมลสั่งส่งท้าย ก่อนจะอุ้มคิมเข้าไปในส่วนของห้องนอนแล้วปิดประตูเอาไว้ทันทีโดยไม่ได้ล็อค เพราะรู้ดีว่ายังไงลูกน้องตนเองก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตแน่นอน

“ถึงรังรักของเราแล้วนะเด็กน้อย” กมลพูดบอกเสียงแผ่ว ก่อนจะวางคิมลงบนเตียงนุ่ม ร่างบางนอนแผ่หายใจรวยรินเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ใบหน้าขึ้นสีแดงก่ำ

“อือออ ร้อนจัง” คิมพูดบอกด้วยดวงตาที่ฉ่ำปรือ ฟันซี่สวยขบกัดริมฝีปากล่าง ดูยั่วยวนมากในสายตาของกมล กมลเดินมายืนที่ปลายเตียงพร้อมกับค่อยๆปลดๆ กระดุมเสื้อเชิ้ตราคาแพงของตนเองออกทีละเม็ด สายตาก็จ้องไปที่ร่างบางของคิม ที่นอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงกว้าง

“ร้อนก็ถอดสิ” กมลพูดบอก คิมมองกมลที่ยืนอยู่

“คุณจะกอดผมใช่มั้ย” น้ำเสียงแผ่วเบาถามขึ้นอย่างกระท่อนกระแท่น

“ถ้านายยังไม่คิดเปลี่ยนใจ ชั้นก็จะกอดนายอย่างที่นายต้องการ” กมลบอกอีก คิมนอนมองร่างแกร่งของกมลที่ถอดเสื้อออกจากร่างกายไปแล้วทำให้เห็นมัดกล้ามที่สวยได้รูป

“ผมไม่เปลี่ยนใจ” คิมพูดบอกออกมา กมลก้าวขึ้นไปบนเตียงแล้วคร่อมร่างบางเอาไว้โดยใช้มือทั้งสองข้างยันเตียงนอน ดวงตาคมที่จ้องมองลงมาให้คิมรู้สึกเหมือนตนเองกำลังโดนไฟแผดเผา ร้อนวูบวาบไปทั่วตัว

“ต่อให้ชั้นรุนแรงกับนายแค่ไหน นายก็ไม่คิดจะเปลี่ยนใจงั้นเหรอ” กมลถามอีก คิมยกมือขึ้นไปโอบรอบคอของกมลช้าๆ

“ผมจะตามใจคุณทุกอย่าง” คิมไม่ได้ตอบคำถามแต่แค่ประโยคนี้ออกมาจากปากก็ทำให้กมลยิ้มมุมปากออกมาอย่างพอใจ

“งั้นชั้นคงต้องขอใช้อุปกรณ์สักหน่อยล่ะนะ” กมลบอกอีก ก่อนจะขยับลงจากเตียง คิมนอนมองตามกมลไปด้วยสายตาเลื่อนลอย กมลเดินไปหยิบกุญแจมือและผ้าแพรผืนยาว 1 ผืน ที่วางเอาไว้ประจำที่ ซึ่งห้องพักในโรงแรมห้องนี้ เป็นห้องส่วนตัวของกมลเลยก็ว่าได้ จะมีของทุกอย่างที่กมลต้องการเอาไว้จนครบ กมลเดินกลับมาที่เตียงนอนด้วยอารมณ์ปรารถนาสูงสุด แต่วางของที่หยิบมาไว้ตรงปลายเตียง ก่อนที่จะขยับขึ้นไปคร่อมร่างบางแล้วประกบจูบอย่างรุนแรง

“อื๊ออออ” คิมผวาเฮือก พร้อมกับครางออกมาจากลำคอเมื่อริมฝีปากของกมลประกบจูบลงมาอย่างรุนแรง ฟันซี่คมขบกัดริมฝีปากของคิมอย่างหื่นกระหาย คิมร้องครางออกมาด้วยความเจ็บ แต่ก็รู้สึกเสียวซ่านอย่างบอกไม่ถูก หัวใจดวงน้อยเต้นถี่รัวขึ้นมาทันที ลิ้นร้อนดูดดึงลิ้นเล็กจนรู้สึกเจ็บ คิมรับรู้ถึงรสชาติฝาดเฝื่อนในปากของตนเองเนื่องจากถูกกมลขบกัดริมฝีปากจนแตกเลือดซิบออกมา มือแกร่งของกมลกระชากเสื้อเชิ๊ตของคิมออกจนกระดุมขาดหลุดออกมาและดึงออกไปให้พ้นจากร่างกายของคิมอย่างรุนแรง ทำให้เสื้อบาดแขนของคิมเล็กน้อย

“อ๊ะ..เจ็บ” คิมร้องออกมาเมื่อกมลละริมฝีปากลงมาที่ซอกคอขาวและขบกัดสร้างร่องรอยเอาไว้จนเกิดรอยฟันที่แดงช้ำ กมลเลียไปที่รอยกัดที่ตนเองกัดเอาไว้ ทำให้คิมรู้สึกแสบขึ้นมาทันที

“นายชื่ออะไรนะ” กมลถามชื่อคนที่ตนเองพามานอนด้วย

“คะ..คิม” คิมตอบกลับเสียงสั่น

“คิม ฟังชั้นนะ ถ้านายยอมให้ชั้นทำต่อ นายจะเจ็บมากกว่านี้ ตัดสินใจซะ” กมลให้โอกาสคิมอีกครั้ง คิมมองหน้ากมลด้วยสายตาสั่นๆ

“ผมยอม” คิมพูดบอกออกมาสั้นๆ ทำให้กมลเลิกคิ้วอย่างแปลกใจนิดๆ แต่เมื่ออีกฝ่ายออกปากว่ายินยอมแล้วแบบนี้ กมลก็ไม่คิดจะถามอะไรแล้ว ร่างแกร่งลุกขึ้นมาถอดกางเกงของตนเองและของคิมออกจากร่างกายอย่างรวดเร็ว กมลแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากตนเองอย่างกระหายเมื่อเห็นรูปร่างที่ยั่วยวนของคิม

“นายยอมให้ชั้นทำอะไรกับนายก็ได้ใช่มั้ย” กมลถามขึ้น คิมก็พยักหน้ารับช้าๆ ร่างกายร้อนวูบวาบหัวใจเต้นแรงและไหววูบอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน กมลยืนขยับแท่งร้อนของตนเองเพื่อเตรียมพร้อม โดยมีคิมนอนมองด้วยใบหน้าที่แดงจัด คิมห่างหายเรื่องแบบนี้มานานมากหลายปี จึงไม่คุ้นชินเวลามีใครมาทำอะไรแบบนี้ต่อหน้า กมลจับคิมพลิกให้นอนคว่ำอย่างแรง ไม่มีความทะนุถนอมเท่าไรนัก

กริ๊ก!

ความเย็นวาบที่ข้อมือของคิมพร้อมกับเสียงล็อคทำให้คิมรู้ว่าอีกฝ่ายใช้กุญแจมือล็อคข้อมือของคิมทางด้านหลังเอาไว้ทั้งสองข้าง แต่แทนที่คิมจะโวยวายด้วยความกลัวแต่กลับใจเต้นแรงและรู้สึกดีขึ้นมานิดๆ

เพียะ!

“อ๊ะ” คิมร้องและผวาเฮือก เมื่อถูกตีที่บั้นท้ายเนียนอย่างแรง จนบั้นท้ายขาวขึ้นรอยฝ่ามือ กมลบีบเค้นบั้นท้ายของคิมเต็มมือพร้อมกับตบลงไปอย่างแรงอีกครั้ง

“ร่างกายนายมันน่าทำให้เกิดรอยที่สุดเลยรู้มั้ย” กมลบอกออกมาเสียงพร่า

“งั้นก็ทำสิครับ” คิมไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ตนเองบอกออกไปแบบนั้น ทั้งๆที่รู้สึกเจ็บจากการถูกตีไม่น้อย กมลทาบทับร่างบางที่นอนคว่ำพร้อมกับซุกไซร้ซอกคอขาวอย่างรุนแรง เสียงครางต่ำในลำคอของกมลดังขึ้นเป็นระยะ

“ฮึ่มมมม…อืมมมม” กมลครางออกมาอย่างพอใจที่ได้รุนแรงกับร่างกายบอบบางนี้ คิมเจ็บที่ข้อมือและแขนของตนเองเพราะถูกล็อคเอาไว้ด้านหลังและถูกกมลนอนทับลงมา แท่งร้อนของกมลดุนดันบั้นท้ายของคิมจนรู้สึกได้ กมลไล่กัดไหล่เนียนลงมาเรื่อยๆ ทั้งดูดเม้มและกัดเป็นระยะ กมลเลื่อนตัวมาที่บั้นท้ายแดงก่ำจากการถูกตี กมลตีซ้ำลงไปอีกแบบรัวๆ

“โอ๊ยย…อื๊ออออ” คิมร้องออกมาพร้อมกับหายใจแรงๆด้วยความเจ็บ แต่ก็ไม่คิดห้ามให้อีกฝ่ายหยุด สร้างความแปลกใจในใจของกมลพอสมควร แต่กมลไม่คิดจะหาคำตอบของความสงสัยและแปลกใจในตอนนี้  คิมเอี้ยวหน้าหันมามองกมลที่กำลังขบกัดและตีบั้นท้ายของคิมอยู่ด้วยสายตาฉ่ำปรือ คิมกัดริมฝีปากล่างของตนเองในใจเต้นรัว

“แรงอีกสิครับ..อ๊าา…แรงอีก” คิมร้องขอออกมา อยากจะให้อีกฝ่ายทำให้ตนเองรู้สึกเจ็บมากขึ้นกว่านี้เรื่อยๆ  กมลเองก็ทำตามคำขอ ทั้งบีบเค้นทั้งตีต้นขาขาวอย่างแรง จนคิมสั่นสะท้านไปทั้งตัว กมลใช้มือแหวกรอยแยกของบั้นท้ายของคิมออกแล้วสอดนิ้วกลางนำเข้าไปก่อน คิมผวาเฮือก เพราะไม่เคยถูกรุกล้ำช่องทางด้านหลังมานานมาก

“อ๊ะ..อ๊าาา….อ๊ะ” คิมครางออกมาลั่น เมื่อกมลขยับนิ้วเข้าออกอย่างรุนแรง

สวบ สวบ สวบ

นิ้วยาวที่ขยับเข้าออกอย่างรุนแรงมีเสียงดังออกมาเป็นระยะ กมลรับรู้ถึงการตอดรัดที่นิ้วกลางของตนเองได้เป็นอย่างดี

“ชอบแบบนี้เหรอคิม” กมลถามเสียงพร่า

“ชะ..ชอบ..ครับ….แรงอีกสิ” คิมร้องบอกพร้อมกับหายใจฟืดฟาดด้วยความเสียวและเจ็บที่ช่องทางด้านหลัง กมลจึงกระแทกนิ้วตนเองเข้าออกอย่างแรง พร้อมกับมองเสี้ยวหน้าที่บิดเบี้ยวร้องครางของคิมอย่างพอใจ จนกมลถอนนิ้วออกมา แล้วหยิบถุงยางที่เตรียมเอาไว้ ออกมาใส่ กมลไม่รู้ว่าคนที่ตนเองนอนด้วยเป็นใครมาจากไหน เขาจึงป้องกันทุกครั้ง  กมลจับขาทั้งสองข้างของคิมให้ตั้งเข่า โดยให้สะโพกแดงก่ำลอยเด่น แต่ช่วงบนของคิมก็แนบไปกับเตียงนอนโดยที่คิมต้องใช้ไหล่ทั้งสองข้างของตนเองค้ำยันเตียงเอาไว้ เนื่องจากมือถูกล็อคทางด้านหลัง กมลจับแท่งร้อนของตนเองไปตีที่บั้นท้ายของคิมอยู่สักพัก ขยับถูไถอยู่แถวๆช่องทางด้านหลังของคิมไปมา โดยที่ยังไม่ได้สอดใส่แต่อย่างไร ทำให้คิมรู้สึกขัดใจไม่น้อย เพราะรู้สึกถึงความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นอย่างไม่รู้ตัวว่าเพราะอะไร

“ใส่สิครับ… ใส่เข้ามาสักที” คิมร้องขอ กมลยิ้มมุมปากอย่างพอใจ ก่อนจะกดปลายแท่งร้อนเข้าไปในช่องทางรักของคิมโดยไม่บอกกล่าว

“อ๊าาาาา” คิมร้องลั่นเมื่อรู้สึกคับแน่นและเจ็บที่ช่องทางด้านหลัง  กมลขยับสะโพกเข้าออกอย่างแรงไม่ได้ขยับเบาๆแต่อย่างไร คิมก้มลงไปกัดผ้าปูด้วยความเจ็บและเสียวที่ท้องน้อย จนกมลกระแทกตัวสอดใส่แท่งร้อนเข้าไปจนสุด กมลรู้ดีว่าคิมเคยมีประสบการณ์บนเตียงมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ถือสาในเรื่องนี้ เพราะกมลเองก็ไม่ชอบเด็กหนุ่มบริสุทธิ์ เพราะไม่สามารถรุนแรงอย่างใจต้องการได้

“ซี๊ดดดด แน่นดีนะ” กมลพูดบอกออกมา ก่อนจะคว้าผ้าแพรเนื้อดีขึ้นมาแล้วคล้องไปที่ปากของคิม คิมใจเต้นแรงเมื่อถูกเอาผ้ามามัดปาก แต่แทนที่กมลจะมัดปากเอาไว้เฉยๆ แต่ก็กมลกลับดึงจากทางด้านหลังเอาไว้แน่นและกระชากขึ้นมาจนหน้าของคิมหงายขึ้น

“อึ่ก…อื๊ออออออ” คิมร้องครางจากลำคอ กมลยิ้มออกมาอย่างพอใจ น้ำตาใสของคิมไหลลงมาด้วยความเจ็บที่ปากและช่องทางด้านหลัง ที่ตอนนี้กมลกำลังขยับโยกอย่างรุนแรง คิมรู้สึกปวดไปทั่วทั้งคอและปาก เพราะกมลดึงแน่นเอาไว้ตลอดเวลา ช่วงบนของคิมลอยขึ้นมาจากเตียงนิดๆ เพราะแรงดึงผ้าของกมล กล้ามเนื้อที่แขนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เพราะกมลใช้แรงไม่น้อย  น้ำตาใสของคิมที่ไหลลงมาคิมรู้ตัวว่าไม่ใช่เพราะความเจ็บอย่างเดียว แต่มันปะปนไปด้วยความสุขสมและความพอใจกับสิ่งที่ได้รับอย่างเต็มอก

ปึ่ก ปึ่ก ปึ่ก

เสียงกระแทกตัวจากกมลดังขึ้น กมลใช้มือข้างหนึ่งดึงผ้าที่มัดปากของคิมเอาไว้ พร้อมกับใช้อีกมือตบบั้นท้ายที่ตนเองกำลังขยับโยกอย่างแรงอีกด้วย

“อื๊อออออออ…อือออ” เสียงครางในลำคอของคิมดังขึ้นตลอดเวลา กมลไม่ได้สนใจว่าคิมจะครางออกมาเพราะเจ็บหรือความพอใจ ในเมื่ออีกฝ่ายเลือกที่จะให้เขากอดแล้ว

“ซี๊ดดดด…อ่าาาาา….ฮึ่มมมมมมมมมม” กมลครางออกมาเสียงลั่นแข่งกับเสียงครางของคิมเช่นกัน  ร่างกายของคิมโยกคลอนอย่างรุนแรง กมลใช้มือที่ตบสะโพกขาวมาจับที่กุญแจมือแล้วดังมาทางด้านหลังพร้อมๆกับผ้าที่มัดปากทำให้กุญแจมือบาดข้อมือขาวของคิมจนเป็นรอยถลอกแดง  แผ่นหลังบางแอ่นขึ้นจนน่ากลัวว่าเอวจะหัก แต่กมลก็ใส่สะโพกไม่ยั้ง เสียงครางของทั้งสองระงมลั่นห้อง คิมรู้สึกเสียววูบวาบที่แก่นกายของตนเอง ทั้งๆที่ไม่ได้แตะต้อง เจ็บไปทั่วข้อมือ ปากและช่องทางด้านหลัง แต่ก็รู้สึกสุขสมไม่น้อย

“อื๊อออ…อื๊ออออ” คิมครางออกมาจากลำคอเสียงสั่น เมื่อรับรู้ว่าตนเองใกล้จะปลดปล่อย กมลเองก็รับรู้เช่นกัน เนื่องจากช่องทางด้านหลังตอดรัดถี่รัว กมลกระแทกสะโพกไม่หยุดและเพิ่มความแรงมากขึ้น

“ซี๊ดดดดดดดดด” กมลครางออกมาอย่างสุขสมเมื่อปลดปล่อยน้ำรักออก พร้อมๆกับคิมที่ปลดปล่อยน้ำรักออกมาจนเปรอะที่นอนเช่นเดียวกัน ร่างบางที่แดงก่ำสั่นระริก กมลผ่อนจังหวะลงช้าๆเมื่อปลดปล่อยไปแล้วรอบหนึ่ง กมลดึงผ้าที่มัดปากของคิมออก ทำให้คิมหอบหายใจทางปากช่วยไปด้วย

“แฮ่ก…อือออ” คิมหายใจหอบเหนื่อยใบหน้าฟุบไปกับเตียงแต่สะโพกยังคงลอยเด่น กมลก้มลงไปกัดไหล่เนียนอีกครั้ง

“เป็นไงบ้าง อยากให้ชั้นกอดนายต่ออีกรึเปล่า” กมลถามขึ้น คิมหันมามองกมลอย่างอ่อนแรง

“เอาอีกครับ…ขออีก…ทำรุนแรงกับผมอีก” คิมร้องขอออกมา เมื่อรับรู้ว่านี่คือสิ่งที่ตนเองต้องการ กมลขมวดคิ้วเข้าหากัน เพราะไม่เคยเจอคนอย่างคิมมาก่อน ส่วนใหญ่เด็กๆที่มานอนกับกมล เจอไปรอบเดียวก็ร้องขอให้พอแล้ว กมลยกยิ้มออกมา พร้อมกับลูบไปทั่วแผ่นหลังของคิม

“นายกำลังทำให้ชั้นอึ้ง และทำให้ชั้นติดใจ รู้มั้ยคิม” กมลพูดบอกก่อนจะถอดแท่งร้อนออกมา เปลี่ยนถุงยางและจับให้คิมนอนหงายอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ กมลเอาเชือกมามัดข้อเท้าทั้งสองข้างของคิมให้แยกออกจากกันจนกว้างโดยนำไปผูกกับขาเตียงเอาไว้ คิมเจ็บข้อเท้า แต่ก็รู้สึกพอใจไม่น้อย ก่อนจะถูกกมลบรรเลงเพลงรักอย่างรุนแรงอีกรอบ จนครั้งนี้ช่องทางรักของคิมฉีกขาดเล็กน้อย ทำให้มีเลือดไหลซึมออกมาเปื้อนเตียงนอน

คิมร้องขอความรุนแรงจากกมลทั้งคืน กมลก็สนองให้อย่างที่คิมต้องการเช่นกัน จนฟ้าเริ่มสางกมลถึงได้หยุด

“นายจะล้างตัวมั้ย” กมลถามขึ้น เมื่อเห็นคิมนอนตาปรือ

“คุณล้างให้ผมหน่อยได้มั้ย” คิมถามออกมาเสียงแผ่วเบา รู้สึกเหมือนตนเองได้รับความต้องการจนเต็มอิ่ม กมลช้อนตัวของคิมขึ้นมาแล้วพาเข้าไปล้างตัวในห้องน้ำ ซึ่งเป็นครั้งแรกของกมลที่ทำอะไรแบบนี้ ขณะล้างตัว คิมก็ผล็อยหลับไปด้วยความเพลีย ทำให้กมลต้องคอยประคองเอาไว้ พร้อมกับพินิจพิจารณาใบหน้าของคิมไปด้วย เมื่อล้างตัวเสร็จ กมลก็อุ้มคิมมาไว้บนเตียงนอน พร้อมกับเช็ดตัวและห่มผ้าให้ กมลเดินเข้าไปล้างตัวบ้าง ก่อนจะใส่กางเกงนอนกลับมาที่เตียง ร่างแกร่งนั่งมองคนที่หลับสนิทอยู่บนเตียงด้วยสายตานิ่งๆ แล้วเอื้อมมือไปลูบแก้มใสเบาๆ

“ชั้นว่า ชั้นเจอคนที่คู่ควรกับชั้นแล้วล่ะ” กมลพูดบอกออกมา เพราะเขารู้สึกเต็มอิ่มกับเรื่องบนเตียงในคืนนี้เป็นอย่างมาก ไม่เคยรู้สึกสุขสมแบบนี้มาก่อน ยิ่งได้ยินอีกฝ่ายร้องขอให้กมลทำรุนแรงมากขึ้น ยิ่งทำให้กมลรู้สึกดีไม่น้อย กมลหยิบกระเป๋าเงินของคิมขึ้นมาแล้วเปิดดูบัตรประชาชน ก่อนจะยกยิ้มมุมปากขึ้นมาน้อยๆ

“คืนนี้จะไม่ใช่คืนสุดท้ายสำหรับเราสองคนแน่นอน คิม” กมลพูดคนเดียว ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง

“ยังไม่หลับอีกเหรอคม” กมลถามลูกน้องคนสนิทของตนเอง ที่นั่งดูทีวีอยู่

“หลับไปบ้างแล้วครับ แต่กลัวว่านายจะเรียกแล้วไม่ได้ยิน เลยมานั่งดูหนัง” คมตอบกลับ

“แล้วนี่นายจะให้ผมพาคนที่นายหิ้วขึ้นมาด้วย ไปส่งที่ไหนล่ะครับ” คมถามตามหน้าที่

“ยังไม่ต้อง ปล่อยให้เค้านอนพักไปก่อน” กมลบอกกลับ ทำให้คมเลิกคิ้วขึ้นอย่างงุนงง เพราะปกติ กมลไม่ค่อยให้ใครนอนค้างที่ห้องพักของกมลนานๆ

“นายจะไปนอนพักที่ห้องเล็กรึเปล่าครับ ผมจะได้ไปเรียกให้ไอ้พวกนั้นออกมานอนข้างนอก” คมบอกกลับ เพราะกมลจะให้ลูกน้องนอนห้องเล็กอีกห้อง

“ไม่ต้อง เดี๋ยวชั้นนอนกับคิมได้ ชั้นแค่เดินออกมาดูพวกแกเท่านั้น” กมลบอกกลับ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องนอนที่คิมนอนอยู่ สร้างความแปลกใจให้คมเป็นอย่างมาก กมลกลับเข้ามาในห้องแล้วขึ้นไปนอนข้างๆคิม เสียงลมหายใจเข้าออกแผ่วๆสม่ำเสมอบ่งบอกได้ดีว่าอีกฝ่ายหลับลึกแค่ไหน กมลยิ้มนิดๆ ก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักบ้างเช่นกัน

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อาการเมื่อยตัวเกิดขึ้น เมื่อร่างบางค่อยๆ รู้สึกตัวและลืมตาตื่นขึ้นมา คิมรู้สึกปวดหัวไม่น้อย แต่ที่ปวดมากก็คือเนื้อตัวและช่องทางรัก คิมลืมตาและปรับสายตามองขึ้นไปบนเพดาน

(อยู่ที่ไหนเนี่ย) คิมคิดในใจด้วยความมึนเบลอ เพราะเพดานห้องที่เห็นไม่คุ้นตาเอาซะเลย คิมยกมือขึ้นมาจะลูบหน้าแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นรอยแดงและรอยถลอกที่ข้อมือของตนเอง คิมยกข้อมือทั้งสองข้างขึ้นมาดู

“นะ..นี่มัน” คิมพูดเบาๆ ก่อนที่ภาพเมื่อคืนจะฉายวนกลับมาให้เห็นและจำได้ คิมหัวใจเต้นตึกตักอีกครั้ง พร้อมกับหันไปมองข้างๆ แต่ก็ไม่มีใคร คิมค่อยๆยันกายขึ้นมา ความเจ็บแล่นปลาบไปทั่วสันหลังและบั้นท้าย คิมอ้าปากจะหาวแต่ก็ต้องสะดุ้ง รีบเอามือไปจับริมฝีปากของตนเอง เพราะความเจ็บ ซึ่งตอนนี้คิมจำได้หมดแล้วว่าเจ็บเพราอะไร คิมยกมือมากุมขมับ

“นี่เราทำอะไรลงไป เรายอมให้ใครก็ไม่รู้มาทำเรื่องแบบนั้นกับเราได้ยังไงวะเนี่ย” คิมพูดบ่นด่าตัวเอง ก่อนจะตั้งสติได้ว่าตนเองควรออกไปจากที่นี่ ร่างบางหันไปมองรอบๆ พบกางเกงชั้นในและกางเกงทำงานตกอยู่ข้างเตียง  ตอนนี้คิมเนื้อตัวเปลือยเปล่า คิมขยับขาที่สั่นระริกลงจากเตียงหยิบชั้นในและกางเกงขึ้นมาสวมใส่ แต่พอมองไปที่เสื้อก็ต้องถอนหายใจ เพราะเสื้อขาด คิมเห็นตู้เสื้อผ้า จึงค่อยๆขยับลุก

พรึ่บ

“โอ๊ยย ซี๊ดดด” คิมร้องออกมาเพราะขาสั่นไม่มีแรงจนล้มลงไปนั่งที่พื้นห้อง แรงกระแทกตอนล้มทำให้รู้สึกเจ็บบั้นท้ายไม่น้อย แต่คิมก็ฝืนตัวเองลุกขึ้นอีกครั้ง แล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วเปิดออก ข้างในมีเสื้อเชิ้ตเนื้อดีหลายตัว แต่ก็ไซส์ใหญ่กว่าที่คิมใส่ คิมตัดสินใจหยิบออกมาตัวหนึ่งเพื่อสวมใส่ไว้ก่อน ดูจากยี่ห้อทำให้คิมรู้ว่าคนที่ตนเองนอนด้วยคงมีฐานะดีไม่น้อย เมื่อใส่เสื้อเรียบร้อย คิมก็เดินมาหากระเป๋าเงินและโทรศัพท์ของตนเองที่ถูกวางเอาไว้ที่โต๊ะหัวเตียง ก่อนจะเดินออกไปที่ประตูห้อง ในห้องโถงกลางไม่มีใครอยู่ แต่คิมก็ได้ยินเสียงคนอยู่ในห้องน้ำที่อยู่อีกด้านของห้อง สมองของคิมสั่งให้ตัวเองรีบออกจากห้องนั้นทันที เพราะคิมคิดว่าคนที่อยู่ในห้องน้ำอาจจะเป็นคนที่นอนกับตนเองเมื่อคืน คิมยอมรับว่าจำใบหน้าของคนที่กอดตนเองไม่ได้ จำได้แค่น้ำเสียงและกล้ามหน้าท้องที่สวยได้รูปเท่านั้น คิมไม่อยากเจอหน้าคนที่กอดตนเอง จึงค่อยๆเปิดประตูห้องพักอย่างเบาๆ แล้วรีบออกไปอย่างรวดเร็ว คิมลงลิฟท์มาจึงรู้ว่าตนเองอยู่ที่โรงแรมที่มานั่งดื่มเมื่อคืน คิมเดินไปที่รถของตนเองที่จอดทิ้งค้างคืนเอาไว้ แล้วรีบขับกลับคอนโดของตนเองอย่างรวดเร็ว

..

..

..

..

“เฝ้ายังไงห้ะ! ถึงไม่รู้ว่าหนีกลับออกไปตอนไหนน่ะ” คมว่าลูกน้องตนเองเสียงลั่น หลังจากที่พากมลกลับจากพูดคุยกับลูกค้าโดยให้ลูกน้องตนเองคนหนึ่งเฝ้าคิมเอาไว้ก่อน เนื่องจากกมลสั่งเอาไว้ว่าให้ดูคิม และถ้าคิมตื่น ให้หาอาหารให้กิน และบอกให้คิมรอกมลอยู่ที่ห้อง แต่พอกลับมาถึงห้อง ปรากฏว่าคิมไม่อยู่แล้ว

“ขอโทษครับพี่คม ขอโทษครับนาย ผมไปเข้าห้องน้ำแป๊บเดียว กลับออกมาผมก็ไม่รู้ว่าคุณคิมหนีออกไปตอนไหน” ลูกน้องของกมลพูดบอกเสียงสั่น  กมลยืนมองหน้านิ่งๆ

“อืม ไม่เป็นไร ชั้นเข้าใจ แต่คราวหน้าแกต้องหัดหูไวและมีประสาทสัมผัสที่ไวกว่านี้ ไม่งั้นถ้าเกิดมีคนเข้ามาลอบฆ่า คนที่จะตายก่อนก็คือแกเข้าใจมั้ย” กมลพูดสั่งสอนลูกน้องตนเอง

“เข้าใจครับ” ลูกน้องของกมลตอบรับด้วยน้ำเสียงละล่ำละลัก

“นายจะทำอะไรต่อครับ” คมถามขึ้น กมลหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าตนเอง

“แกเอาบัตรประชาชนของคิมไปสืบดูว่าอยู่ที่ไหน ทำงานอะไรแล้วเอาข้อมูลมาให้ชั้น” กมลพูดบอกพร้อมกับส่งบัตรประชาชนของคิมที่กมลหยิบออกมา ให้กับคมไป คมรับมาพร้อมกับมองหน้าเจ้านายตนเองนิดๆ

“ทำไมนายดูสนใจคนนี้จังล่ะครับ” คมถามขึ้นด้วยความสงสัย และดูเหมือนว่าจะมีเพียงคมที่กล้าถามเรื่องส่วนตัวกับกมล

“หึ แกถามแบบนี้ก็ดีแล้ว ชั้นจะได้บอกให้รับรู้กัน ว่าคิม คนที่ชั้นพามาเมื่อคืน คือคนที่ชั้นเลือกแล้ว่าจะเอามาเป็นเจ้านายของพวกแกอีกคน” กมลพูดบอกออกมาเสียงจริงจัง

“ทำไมล่ะครับนาย” คมถามอีก กมลยกยิ้มมุมปากนิดๆ

“แกอาจจะคิดว่ามันง่ายเกินไป แต่สำหรับชั้นแล้ว คิม คือคนที่เข้ากับชั้นได้ดีเลยล่ะ ชั้นไม่เคยรู้สึกเต็มอิ่มและพอใจใครเท่ากับคิมมาก่อน บอกแค่นี้พวกแกคงเข้าใจนะ” กมลบอกออกมาตรงๆ ก่อนที่ลูกน้องทุกคนจะเงียบพร้อมกับน้อมรับ คมเองก็ไม่ถามอะไรออกมาต่อ แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะยังไม่รู้ว่าคิมเป็นใครมาจากไหน

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

หลังจากที่ขับรถกลับมาถึงคอนโด คิมก็เข้าอาบน้ำในห้องน้ำ พร้อมกับมองร่างกายของตนเองอย่างอึ้งๆ ไม่คิดว่าจะมีร่องรอยเยอะขนาดนี้ แล้วไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหน กว่าร่องรอยพวกนี้จะหายไป

“สงสัยต้องทำงานอยู่กับห้องแล้วเรา ขืนไปทำงานด้วยสภาพแบบนี้ พวกนั้นถามแน่ๆ” คิมพูดกับตัวเอง เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้ว คิมก็มานอนพักอีกรอบเพราะยังรู้สึกเพลียอยู่

..

..

..

..

Tru…Tru..Tru

เสียงโทรศัพท์ของคิมดังขึ้น ทำให้คิมที่นอนหลับไปนานพอสมควรค่อยๆควานหามากดรับ

“ฮาโหล” คิมรับด้วยน้ำเสียงที่งัวเงีย

(“คิม มึงอยู่คอนโดรึเปล่าวะ”) เสียงถามของเพื่อนดังขึ้น ทำให้คิมลืมตามาดูชื่อคนโทรอีกครั้ง

“มึงถามทำไมวะทอย” คิมถามกลับไป

(“กูว่าจะซื้อเหล้าไปแดกคอนโดมึงว่ะ”) ทอยบอกกลับ คิมกำลังจะตอบรับ แต่ก็นึกบางอย่างได้

“เอ่อ..กูไม่อยู่คอนโด กูกลับมานอนบ้านใหญ่น่ะ” คิมรีบบอกกลับ ว่าตนเองกลับไปยังบ้านพ่อแม่ เพราะขืนให้เพื่อนมาเจอสภาพตนเองแบบนี้ มีหวังต้องถูกซักละเอียดยิบแน่ๆ

(“อ่าว งั้นเหรอ เออๆไม่เป็นไร เอาไว้โอกาสหน้าล่ะกัน”)  ทอยบอกกลับก่อนจะวางสายไป คิมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่ไม่เผลอตอบรับให้เพื่อนมาหา คิมมองนาฬิกาถึงได้รู้ว่า 2 ทุ่มกว่าแล้ว คิมจึงลุกไปทำอะไรง่ายมากินรองท้อง คิมนั่งกินข้าวที่ตนเองทำคนเดียว แล้วก็นึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมาไปด้วย คิมไม่เข้าใจตัวเอง ว่าทำไมถึงได้รู้สึกดี เวลาที่ถูกอีกฝ่ายทำรุนแรงใส่แบบนั้น และพอคิดถึงตอนที่ถูกอีกฝ่ายรุนแรงใส่ คิมก็รู้สึกร้อนวูบวาบที่อก หัวใจเต้นแรงขึ้นมาเสียดื้อๆ

“เป็นอะไรวะเรา” คิมพูดกับตัวเองแล้วกินข้าวไปด้วย คิมรู้สึกได้ว่าตนเองเต็มอิ่มมากแค่ไหนกับเรื่องบนเตียงเมื่อคืนนี้ คิมคิดไปก็นั่งเขี่ยข้าวไปเรื่อยๆ คิมมองไปที่ข้อมือของตนเอง ใบหน้าก็ขึ้นสีแดงก่ำ

“การถูกมัดมันก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรนี่นา” คิมพูดพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะส่ายหน้าไปมาเพื่อเรียกสติแล้วนั่งกินข้าวต่อ คิมคิดว่าเรื่องเมื่อคืนจะเป็นครั้งสุดท้ายของตนเองที่จะทำอะไรแบบนั้น

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ผ่านไป 2 วัน จนถึงวันที่ต้องไปทำงาน คิมได้โทรไปบอกกับเมย์ว่าจะทำงานอยู่กับห้องที่คอนโด เพราะรู้สึกไม่สบาย ให้เมย์ส่งงานมาทางเมลล์ ซึ่งจริงๆแล้ว ร่องรอยต่างๆบนตัวของคิมยังไม่จางลง คิมจึงยังไม่อยากไปที่ทำงานของตนเองให้ทุกคนสงสัย

เสียงเปิดประตูสำนักงานบัญชีดังขึ้น พร้อมกับกลุ่มของชายชุดดำเดินเข้ามากลุ่มหนึ่ง ทำให้พนักงานรับเรื่องด้านหน้าตกใจไม่น้อย

“สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ช่วยรึเปล่าคะ” จิน เลขาของคิมเดินเข้ามาถามอย่างเกร็งๆ

“เจ้านายผมมาขอพบคุณคุณานนท์ ครับ” คมพูดบอกออกไป

“เอ่อ วันนี้คุณคุณานนท์ไม่เข้าสำนักงานน่ะค่ะ” จินตอบกลับไป

“ไม่เข้ามาวันนี้ทั้งวันเลยรึเปล่า” กมลถามขึ้นบ้าง

“มีอะไรกันเหรอจิน” เมย์เดินออกมาจากห้องทำงานแล้วพูดถาม จินรีบเดินไปยืนข้างๆเมย์ทันที

//คนพวกนี้เค้ามาถามหาพี่คิมน่ะค่ะ// ตินกระซิบบอกเบาๆ

“สวัสดีค่ะ ดิชั้นชื่อเมธาวี เป็นหุ้นส่วนกับคุณคุณานนท์ ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรด่วนกับเค้ารึเปล่าคะ” เมย์ถามออกมาเป็นการเป็นงาน

“ผมแวะมาหาคิมน่ะครับ ไม่ทราบว่าเค้าจะเข้ามาทำงานรึเปล่า” กมลถามขึ้นมาเอง เมย์นิ่งไปนิดเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเรียกชื่อเล่นของคิมขึ้นมา แปลว่าต้องรู้จักกันแล้วในระดับหนึ่ง

“อ่อ วันนี้พี่คิมคงไม่เข้าน่ะค่ะ โทรมาบอกว่าไม่ค่อยสบาย” เมย์ตอบกลับ คมหันมามองหน้าเจ้านายตนเอง

“งั้นไม่เป็นไรครับ ขอบคุณนะครับ” กมลบอกกลับ ก่อนจะมองหน้าลูกน้องตนเอง เป็นสัญญานบอกให้ออกจากที่นี่ กลุ่มของกมลจึงเดินออกไป โดยที่ไม่ได้พูดอะไรอีก

“พี่เมย์ๆ พวกนั้นเค้าเป็นใครอ่า มาถามหาพี่คิมทำไม” จินรีบถามขึ้นทันที

“แล้วชั้นจะรู้มั้ยล่ะ ชั้นเองก็ใจสั่นอยู่เนี่ย ดูเหมือนพวกมาเฟียเลยอ่ะ มีลูกน้องติดตามเต็มเลย แต่คนที่ดูเป็นเจ้านายหล่อดีนะ แต่น่ากลัวไปหน่อย ไม่รู้ว่ารู้จักกับพี่คิมได้ไง” เมย์พูดบอกออกมา

“งั้นโทรบอกพี่คิมสิคะ” จินบอกอีก เมย์จึงรีบหยิบโทรศัพท์ตนเองออกมากดโทรออกทันที

..

..

..

“ชั้นก็ลืมไปว่า คิมคงไม่กล้ามาทำงานหรอกนะ ในเมื่อสภาพเป็นแบบนั้น” กมลพูดบอกเมื่อกลับขึ้นมาขึ้นรถแล้ว

“แล้วนายจะเอาไงต่อครับ” คมถามขึ้น เพราะหลังจากที่ได้ข้อมูลจากนักสืบแล้วกมลก็ต้องการมาหาคิมที่สำนักงานทันที

“ไปคอนโดของคิมเลย รู้อยู่แล้วนี่ ว่าคิมอยู่ที่ไหน” กมลบอกออกมาอย่างอารมณ์ดี เขาไม่คิดว่าตนเองจะมีอาการกระวนกระวาย  ในช่วงที่ยังไม่ได้ข้อมูลจากนักสืบ กมลรู้ตัวดีว่าตนเองไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน จนมาเจอกับคิม

“ครับ” คมตอบรับ ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องที่ขับรถ ตรงไปยังคอนโดที่คิมอยู่

..

..

..

..

..

“มีอะไรเหรอเมย์” คิมรับสายจากรุ่นน้องตนเอง

(“พี่คิม เมื่อกี้มีคนเข้ามาหาพี่คิมด้วยค่ะ”) เมย์พูดบอกออกมา

“ใครล่ะ” คิมถามกลับ

(“เมย์ลืมถามชื่ออ่ะพี่คิม แต่พวกเค้าเหมือนมาเฟียมากเลยค่ะ มีลูกน้องเดินตามเยอะแยะเลย ตอนแรกเค้าก็เรียกชื่อจริงของพี่คิม แต่พอตอนหลังเค้าก็เรียกชื่อเล่นพี่คิมด้วย เมย์เลยบอกไปว่าพี่คิมไม่สบายไม่ได้เข้าสำนักงาน”) หญิงสาวพูดเล่าออกมา คิมขมวดคิ้วเข้ากันอย่างงงๆ

“หน้าตายังไง” คิมถามอีก

(“คนที่ต้องการเจอพี่คิม หล่อแบบผู้ใหญ่ๆ เข้มๆ เมย์จำเค้าได้แค่นี้ล่ะค่ะ แล้วก็จำหน้าลูกน้องเค้าไม่ได้เลย”) หญิงสาวบอกอีก

(“พี่คิมไปติดหนี้อะไรพวกมาเฟียรึเปล่าคะ”) หญิงสาวถามออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจ

“บ้าแล้วเมย์ พี่จะไปติดเงินใครได้ไง เราก็รู้ว่าพี่ไม่ชอบเป็นหนี้” คิมพูดบอก

(“แหะแหะ เมย์ลืมไป คงมีคนแนะนำมาให้มาคุยเรื่องบัญชีกับพี่คิมมั้งคะ พอไม่เจอพี่คิมเค้าเลยกลับ”) หญิงสาวเดาไปเรื่อยๆ

“อืม น่าจะเป็นแบบนั้น ไม่แน่เพื่อนๆพี่มันอาจจะแนะนำมาก็ได้ เอาไว้เดี๋ยวมันคงโทรมาบอกกันเองแหละ ขอบใจเมย์มากนะ ยังไงช่วงนี้พี่คงยังไม่ได้เข้าสำนักงาน เมย์ช่วยดูความเรียบร้อยให้พี่ด้วยนะ” คิมพูดฝากฝัง

(“ได้ค่ะ พี่คิมไม่ต้องห่วงนะคะ ยังไงก็ดูแลตัวเองด้วย หายไวๆนะคะพี่คิม”) หญิงสาวบอกมาอีก ตอนแรกพวกเมย์และจินจะมาเยี่ยมแต่คิมสั่งห้ามเอาไว้ บอกว่ากลัวจะติดไข้ ทุกคนเลยไม่ได้เข้ามาเยี่ยมคิม เมื่อพูดคุยกับหญิงสาวได้สักพัก คิมก็วางสาย แล้วมานั่งครุ่นคิด

“ใครมาถามหาเราวะ” คิมพูดกับตัวเอง ก่อนจะนั่งทำงานต่อไปเรื่อยๆ

..

..

..

..

ออดดดดดดดดด

เสียงออดหน้าห้องพักดังขึ้น ทำให้คิมสะดุ้งนิดๆ เพราะกำลังนั่งทำงานเพลินๆ

“ใครมานะ” คิมพึมพำก่อนจะลุกออกไปที่ประตูห้อง พร้อมกับส่องช่องตาแมวมองออกไป แล้วเห็นว่าเป็นพนักงานที่ดูแลคอนโด คิมจึงเปิดประตูแง้มออกไปไม่มากนัก

“มีอะไรเหรอครับคุณสมชาย” คิมถามขึ้น พนักงานยิ้มเจื่อนๆ

“มีคนมาหาคุณคิมครับ ผมเลยพาขึ้นมา” สมชายพูดบอก คิมขมวดคิ้วนิดๆ เพราะทุกครั้งพนักงานดูแลจะต้องโทรขึ้นมาบอกแต่ไม่ใช่พาขึ้นมาหาเลยแบบนี้

“ใครครับ” คิมถามกลับไปก่อนที่สมชายจะเบี่ยงตัวนิดๆ คิมมองชายหนุ่มร่างสูงที่มีหนวดเคราบนใบหน้าแต่แต่งตัวดีอย่างงุนงง ก่อนจะมองเลยไปที่ชายหนุ่มอีกคน แค่เพียงเห็นหน้าคิมก็ใจเต้นตึกตัก แต่ไม่รู้สาเหตุว่าเพราะอะไร และคิมรู้สึกคุ้นๆหน้าชายที่ยืนข้างหลังร่างสูงไม่น้อย

“สวัสดีครับคุณคิม” คมพูดทักขึ้น คิมเปิดประตูออกกว้างอีกเล็กน้อย แต่ก็ไม่เดินออกไปให้อีกฝ่ายเห็นเต็มตัวเพราะไม่อยากให้ใครเห็นร่องรอยที่แขนขาตนเอง

“ครับ ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรเหรอครับ” คิมถามกลับ

..

..

..

“ชั้นควรเสียใจมั้ย ที่นายจำชั้นไม่ได้” เสียงทุ้มที่พูดขึ้น ทำให้คิมใจเต้นแรงขึ้นมาทันที

2  Be  Con

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มาแล้วคร่า ขอโทษที่ช้า หายไปกับตรุษจีน

และหายไปทัวร์บุญมา คึคึ

เอนซีอาจจะไม่ SM นัก ต้องขอโทษด้วยนะคร่า

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love]

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love]

มาแล้วคร่า สำหรับคู่ใหม่ในนิยาย Yaoi ของ ยอนิม ถ้าใครเคยอ่าน รักโคตรๆ โหดอย่างมึง มาก่อนแล้ว คงรู้ดีว่า “กมล” กับ “คิม” คือใคร ยังไงยอนิมก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้อีกเรื่องนะคะ อาจจะไม่สนุกนัก อาจจะซ้ำซาก ก็ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะคะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset