ลาก่อน คุณสามี – ตอนที่ 14 ใครเป็นพ่อของเธอ

หลังจากหมอออกไปแล้ว เฉินเป่ยชวนจึงเปิดประตูเข้าไปในห้องผู้ป่วย

เจ้าตัวน้อยกุมมือข้างที่ไม่ได้เจาะสายน้ำเกลือของเฉียวชูเฉี่ยนไว้แน่นเพื่อคอยปกป้องเธออย่างเต็มที่ เมื่อเห็นเฉินเป่ยชวนเดินเข้ามาก็หันไปแยกเขี้ยวใส่ “ผมจะบอกให้หม่ามี๊คืนเงินค่ารักษาให้คุณตอนหม่ามี๊ตื่น อย่าคิดว่าผมจะขอบคุณคุณซะให้ยาก!”

ถ้าไม่ใช่เพราะเขาที่อยู่ๆ ก็ขับรถมา หม่ามี๊คงไม่เป็นลมไปอย่างนี้!

เฉินเป่ยชวน “…”

เจ้าหนูน้อยคนนี้วางตัวเป็นศัตรูกับเขาเต็มที่

เฉินเป่ยชวนเดินเข้าไปใกล้ๆ และเห็นว่าสีหน้าของเฉียวชูเฉี่ยนที่นอนอยู่บนเตียงดีขึ้นกว่าเดิมมาก ใบหน้าเรียวสีขาวอมชมพูที่มีขนาดพอๆ กับฝ่ามือของเขาและคิ้วที่ขมวดเล็กน้อยของเธอทำให้เขาหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

แน่นอนว่าเขาเกลียดผู้หญิงคนนี้ แต่เมื่อเกิดเรื่องขึ้นกับเธอเขากลับอดเป็นห่วงไม่ได้

“คุณลุงนิสัยไม่ดี อย่ามาแตะต้องหม่ามี๊ผมนะ!”

เมื่อเห็นเฉินเป่ยชวนโน้มตัวลงมา เฉียวจิ่งเหยียนจึงรีบวิ่งเข้าไปผลักชายหนุ่มเพราะคิดว่าเขาจะทำอะไรหม่ามี๊ของตน

“ผมโทรไปหาคุณอาลู่ฉีแล้ว ถ้าคุณกล้าทำอะไรหม่ามี๊ละก็ ผมจะให้คุณอาลู่ฉีจัดการคุณ!”

เฉินเป่ยชวนก้มหน้ามองเมื่อได้ยินเจ้าตัวน้อยพูดอย่างโกรธจัด

เฉียวจิ่งเหยียนมีผมดกสั้น ใบหน้าเล็กๆ นั้นจ้ำม่ำทว่าดูอ่อนโยนและน่ารักน่าหยิก คิ้วเล็กๆ ของเขาขมวดเข้าหากันด้วยความโกรธ

ยิ่งมอง เฉินเป่ยชวนก็ยิ่งคิดว่าเจ้าตัวน้อยหน้าตาคล้ายเขามาก คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันจนเห็นรอยย่นคั้นกลางระหว่างคิ้วสามเส้น ถามด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “พ่อของเธอเป็นใครหรือ?”

“ฮึ! ยังไงก็ไม่ใช่คุณแน่นอน!”

เจ้าหนูเฉียวเบ้ปากทำหน้ามุ่ย ความจริงเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพ่อของเขาเป็นใคร จึงพูดไปเรื่อยว่า “ผม… ผมมั่นใจว่าผมต้องเป็นลูกของหม่ามี๊กับคุณอาลู่ฉีแน่ๆ!”

เฉินเป่ยชวนหรี่ตามองและเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย “แล้วทำไมเธอถึงเรียกเขาว่าอาล่ะ?”

“ผม ผม…”

เจ้าตัวน้อยตอบไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม สุดท้ายจึงกระทืบเท้าด้วยความโกรธแล้วใช้มือเล็กๆ อูมๆ ออกแรงผลักที่ขาของเขา

“คุณน่ารำคาญจังเลย รีบออกไปเลยนะ หม่ามี๊ของผมไม่อยากเจอคุณ”

ไม่ว่าจะทำอย่างไร ขายาวๆ ทั้งสองข้างของเฉินเป่ยชวนก็ไม่สะทกสะท้าน ไม่ว่าเจ้าตัวน้อยจะพยายามผลักแค่ไหนมันก็ไม่ขยับเลยจนนิดเดียว เจ้าตัวน้อยเลยยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่

“ถ้าคุณไม่ออกไป ผมจะร้องเรียกหมอ แล้วบอกว่าคุณขับรถชนหม่ามี๊!”

ท้ายที่สุดเฉินเป่ยชวนก็ยอมให้เจ้าตัวน้อย เขาก้าวออกมาและอาศัยช่วงที่เจ้าตัวน้อยไม่ทันระวัง ดึงผมของเขาจนหลุดติดมือมาก่อนจะใส่ลงในกระเป๋ากางเกง แล้วก้าวเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

กว่าเฉียวจิ่งเหยียนจะร้อง ‘โอ๊ย’ ด้วยความเจ็บแล้วเงยหน้าขึ้นมา ชายหนุ่มก็เดินไปไกลแล้ว เจ้าตัวน้อยกระทืบเท้าด้วยความโกรธ

“ครั้งหน้าอย่าให้ผมเจอคุณอีกนะ ไม่งั้นผมจะต่อยคุณแน่!”

หลังออกจากโรงพยาบาล เฉินเป่ยชวนรีบขับรถกลับไปบริษัททันที

ลินดายังอยู่ที่บริษัทเพื่อจัดการเอกสารต่างๆ เมื่อเห็นเฉินเป่ยชวนกลับมาอีกครั้งจึงคิดว่าเขาคงมีเรื่องที่ต้องจัดการอย่างเร่งด่วน แต่กลับเป็นว่าเฉินเป่ยชวนเพียงแค่ยื่นถุงใสใบเล็กส่งให้เธอด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความถมึงทึง

“ส่งไปให้เย่อันทันที บอกเขาว่าฉันต้องการรู้ผลอย่างช้าที่สุดภายในสัปดาห์หน้า!”

น้ำเสียงของชายหนุ่มแข็งกร้าวจนเกือบทำให้ลินดาตกใจ

เธอรีบตอบรับ ยื่นมือไปรับถุงใสที่มีเส้นผมอยู่สองเส้นแล้วออกไปอย่างรีบร้อน

เฉินเป่ยชวนหันกลับไปมองแสงอาทิตย์ยามเย็นภายนอกหน้าต่าง ทันใดนั้นก็กำมือที่สอดอยู่ในกระเป๋ากางเกงแน่นขึ้น ความรู้สึกอึดอัดที่สะกดกลั้นเอาไว้เหมือนพร้อมจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ

เฉียวชูเฉี่ยน อย่าให้ฉันรู้เชียวนะว่าเธอทำอะไรลงไป!

……

เฉียวชูเฉี่ยนลืมตาตื่นขึ้นมาช้าๆ และพบว่าตัวเองอยู่ในโรงพยาบาลเมื่อน้ำเกลือขวดที่สองใกล้จะหมด

ท้องฟ้าข้างนอกมืดสนิท ไฟในห้องผู้ป่วยถูกเปิดไว้และกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื่อฉุนจนแตะจมูก

“ตื่นแล้วเหรอฮะหม่ามี๊?”

เฉียวจิ่งเหยียนที่กำลังเท้าคางอย่างง่วงหงาวหาวนอนรีบปีนขึ้นไปเตียงคนไข้เมื่อเห็นเฉียวชูเฉี่ยนตื่นขึ้นมา เขาใช้มืออังที่หน้าผากของเธอ ถามอย่างเป็นห่วงว่า “หม่ามี๊ยังรู้สึกไม่สบายอยู่มั้ย?”

เฉียวชูเฉี่ยนยิ้มพลางส่ายหน้า คว้ามือเล็กๆ ของเขามาจูบ “ไม่แล้ว หม่ามี๊ดีขึ้นแล้ว”

“เฉียวชูเฉี่ยน เธอโตขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงไม่รู้จักดูแลตัวเองให้ดี!”

เมื่อเฉียวชูเฉี่ยนมองไปที่ต้นเสียงก็เห็นเหยียนสือเซี่ยผลักประตูเข้ามาอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง เธออยู่ในชุดทำงานพร้อมหิ้วของกินไว้ในมือ

“แม่ทูนหัว!” เฉียวจิ่งเหยียนเรียกเธอเสียงหวานและรีบวิ่งไปรับอาหารในมือของเหยียนสือเซี่ยมาถือไว้

เจ้าตัวน้อยส่งเสียงร้องอย่างดีใจ “ยอดไปเลย แม่ทูนหัวมีเนื้อมาให้กินจริงๆ ด้วย!”

ลาก่อน คุณสามี

ลาก่อน คุณสามี

ความทรงจำของปลาอยู่ได้แค่ 7 วินาที แต่ฉันกลับรักคุณมาถึง 7 ปี ……………..เฉียวชูเฉี่ยน เฉียวชูเฉี่ยนไม่คิดเลยว่าวันแรกที่เธอมาถึงประเทศจีน เธอจะได้พบกับอดีตสามีของเธอ……….เฉินเป่ยชวน มีข่าวลือมาว่า เจ้าของกิจการสถานบันเทิงอย่างเฉินเป่ยชวน เป็นคนที่มีนิสัยแปลกๆ และไม่สนใจผู้หญิง แต่กลับไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยแต่งงานและเคยหย่ามาก่อน ซ้ำยังมีลูกแล้วอีกด้วย “ใคร” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็งในขั่วโลกเหนือ “เป็น…….เป็นลูกของฉันเอง” “อ่อ ถ้างั้นคุณเลขาเฉียวสาธิตผมหน่อยสิว่าทำยังไง” เขาหยุดคำพูดของเขา และก้าวเข้าไปหาเธอ ทำให้เธอไปไหนไม่ได้ดวงตาของชายหนุ่มมืดลงทันที คุณลุงลู่ฉีเหรอ? “………” เธอ ซวย แล้ว! เฉียวชูเฉี่ยน เด็กน้อยเฉียวจิ่งเหยียนไม่ทำตาม และเข้าไปกัดต้นขาของเขา “ปล่อยหม่ามี๊ของผมนะ ผมเป็นลูกของหม่ามี๊และคุณลุงลู่ฉี ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณ”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset