บทที่ 1470 ทำให้จิ้งจอกน้อยต้องการทุบตีคนเป็นอย่างมาก
ครั้งนี้นางติดตามเยี่ยนเฉินกลับมา รับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าบิดามารดาเยี่ยนเฉินปฏิบัติต่อนางไม่เหมือนเดิม
บิดาเยี่ยนยังเห็นได้ไม่ค่อยชัดเจนนัก เพียงแต่เมื่อเขาเห็นนางก็มักจะขมวดคิ้ว ราวกับไม่พอใจอะไรนาง
ส่วนมารดาเยี่ยนกลับเหมือนเห็นนางแล้วขัดหูขัดตาขึ้นมาอย่างงั้น คอยจับผิดนางอยู่เสมอ อย่างเช่นต่อว่ากิริยาท่าทางนางไม่งาม ต่อว่านางเดินก้าวเท้ายาวไปไม่สมเป็นกุลสตรี…
มารดาเยี่ยนผู้นี้ลอบวางแผนการไว้ในใจ นางแสร้งเอ็นดูจิ้งจอกน้อยต่อหน้าลูกชาย จัดห้องพักที่ดีที่สุดให้จิ้งจอกน้อย เครื่องนอนนุ่มๆ ห้องนอนอุ่นๆ อีกทั้งยังส่งสาวใช้สี่คนมาคอยดูแลข้างกายนาง จัดหาเสื้อผ้าที่ดีที่สุด ส่งเครื่องประดับอัญมณีที่ดีที่สุดมาให้ เมื่ออยู่ต่อหน้าเยี่ยนเฉินไม่เคยต่อว่าจิ้งจอกน้อยอันใด ในสายตาของเยี่ยนเฉิน มารดาเยี่ยนปฏิบัติต่อจิ้งจอกน้อยดังเช่นลูกสาว ทำให้เยี่ยนเฉินพึงพอใจยิ่งนัก
ทว่าเมื่อใดที่จิ้งจอกน้อยอยู่เพียงลำพัง ก็จะถูกมารดาเยี่ยนจับผิดต่างต่างนานา ว่ากล่าวติเตียนจนแทบโงหัวไม่ขึ้น จิ้งจอกน้อยกลัวการพบเจอนาง จึงหลบหนีโดยสัญชาตญาณ แต่ว่าจิ้งจอกน้อยจะหลบหนีไปได้ถึงเมื่อใดกัน?
เนื่องจากเยี่ยนเฉินต้องฝึกฝน ต้องแช่บ่อน้ำร้อน เวลาทั้งวันที่อยู่เป็นเพื่อนจิ้งจอกน้อยได้มีจำกัด แต่ละวันเจียดเวลามาอยู่เป็นเพื่อนนางได้หนึ่งชั่วยามก็นับว่าดีแล้ว
จิ้งจอกน้อยหวาดกลัวมารดาเยี่ยนยิ่งนัก ตอนเยี่ยนเฉินไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนนาง นางจะเริ่มออกไปข้างนอก พยายามไม่อยู่ที่คฤหาสน์เยี่ยน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกว่ากล่าว
ทว่านี่กลับกลายเป็นข้ออ้างที่มารดาเยี่ยนว่ากล่าวนาง ว่าในเมื่อนางเป็นผู้หญิงที่เยี่ยนเฉินชอบ ก็ไม่ควรออกไปเตร็ดเตร่เยี่ยงนี้ จะทำให้ถูกผู้อื่นติฉินนินทา และทำให้เยี่ยนเฉินเสื่อมเสียชื่อเสียง…
ยามจิ้งจอกน้อยอยู่ข้างนอกก็ได้ยินเรื่องซุบซิบนินทาของตัวเองบ้างจริงๆ บ้างก็ว่าเด็กกำพร้าไม่มีพ่อแม่อย่างนางได้รับความชอบจากเยี่ยนเฉิน นับเป็นวาสนาที่ในสิบชาติก็ไม่มีวันหาได้ บ้างก็ว่านกกระจอกอย่างนางริอาจจะโบยบินเป็นหงสา บ้างก็ประชดประชันว่าเด็กบ้านป่าอย่างนางทำบุญมาดีถึงได้อะไรดีๆ เช่นนี้ บ้างก็ว่านางไม่คู่ควรกับเยี่ยนเฉิน ต่อให้เป็นอนุก็มิอาจเอื้อมแล้ว…
วัฒนธรรมเมืองเยี่ยนจื่อค่อนข้างหัวโบราณ โดยพื้นฐานแล้วหญิงสาวล้วนไม่ออกนอกประตูใหญ่ ไม่ล่วงข้ามประตูสอง เมื่อจิ้งจอกน้อยเดินเล่นเตร็ดเตร่ข้างนอกถูกคนพบเห็นเข้าก็ทำให้เกิดเรื่องซุบซิบนินทากันมากมาย ซึ่งไม่รื่นหูเท่าใดนัก ทำให้จิ้งจอกน้อยต้องการทุบตีคนเป็นอย่างมาก
ข่าวเล่าข่าวลือเหล่านั้นย่อมแพร่กระจายไปถึงมารดาเยี่ยน มารดาเยี่ยนจึงสั่งห้ามไม่ให้จิ้งจอกน้อยออกไปไหนด้วยเห็นแก่ชื่อเสียงของลูกชาย…
แน่นอนว่าการห้ามจิ้งจอกน้อยไม่ใช่การใช้กำลัง ทว่านางใช้คำพูด “ไว่หู่ เฉินเอ๋อร์เป็นความภาคภูมิใจของพวกเราทั้งตระกูล ไม่อาจแปดเปื้อนได้แม้แต่น้อย ลูกคนนี้มีวินัยเสมอมา ไม่เคยทำให้พวกเราเป็นกังวลตั้งแต่เด็ก เขาชอบเจ้า พวกเราก็ไม่อยากขัดขวางพวกเจ้า แต่เจ้าก็ต้องคิดเพื่อเขาเสียบ้าง ที่สำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์เจ้าทำให้เขาถูกธาตุไฟเข้าแทรกเกือบจะสูญสิ้นชีพ มิหนำซ้ำยังต้องมาเป็นโรคเรื้อรังเช่นนี้อีก พวกเราก็มิได้กล่าวโทษเจ้าแต่อย่างใด หรือว่าเจ้ายังอยากทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียง ทำให้คนข้างนอกว่าเขาว่าอยากรับผู้หญิงที่ไม่อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน สติฟั่นเฟือนมาเป็นภรรยาหรืออย่างไร? ตอนนั้นมารดาเจ้าถูกคนติฉินนินทาก็เพราะละเมิดจารีตสตรีเยี่ยงนี้ เดิมทีคนภายนอกก็มีอคติกับเจ้าอยู่แล้ว ขืนเจ้ายังออกไปเตร็ดเตร่ด้านนอกเช่นนี้อีก คนเหล่านั้นจะมองเจ้าอย่างไรเล่า? อีกอย่างคฤหาสน์ตระกูลเยี่ยนใหญ่โตถึงเพียงนี้ หรือว่าไม่มีที่พอสำหรับเจ้างั้นหรือ?
คำพูดจาเย้ยหยันถากถาง ดังมีดอ่อนนุ่มทิ่มแทงจิตใจคนโดยไม่ต้องหลั่งโลหิต ทำให้จิ้งจอกน้อยผู้ไร้เดียงสาพูดจาอันใดไม่ออกแล้ว
ดังนั้นจิ้งจอกน้อยจึงไม่กล้าออกไปข้างนอกอีกแล้ว ทำได้เพียงอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลเยี่ยน และเมื่อใดที่นางอยู่ภายในคฤหาสน์ตระกูลเยี่ยน มารดาเยี่ยนก็จะส่งคนมาเรียกนางไปอยู่ข้างกาย คอยจับผิดต่างต่างนานา…
วันคืนที่จิ้งจอกน้อยอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลเยี่ยน หนึ่งวันยาวนานราวกับหนึ่งปี
————————————————————————–
บทที่ 1471 นกกระจอกที่เข้าไปในรังพญาหงส์…
มารดาเยี่ยนเป็นกุลสตรีมีชาติตระกูล ด่าคนไม่ต้องใช้คำหยาบคาย แต่กลับทิ่มแทงจิตใจคน อีกทั้งการจับผิดของนางมักจะหาเหตุผลที่ดูดีมาแอบอ้างได้เสมอ ความภาคภูมิใจในตัวเองของจิ้งจอกน้อยได้รับผลกระทบอย่างสาหัส แต่กลับไม่มีทางฟ้องเยี่ยนเฉินได้เลย…
ประการแรก เนื่องจากท่าทีของมารดาเยี่ยนที่มีต่อจิ้งจอกน้อยแสนดีเสมอมาเมื่ออยู่ต่อหน้าเยี่ยนเฉิน ดูแลทะนุถนอมเป็นอย่างดี
ประการที่สอง เนื่องจากเยี่ยนเฉินต้องทำจิตใจให้สงบในการรักษาอาการข้างเคียงนั้น ไม่ควรมีเรื่องอื่นใดมารบกวน จิ้งจอกน้อยทำให้เขาธาตุไฟเข้าแทรกไปแล้วหนึ่งครา เดิมทีก็มีปมในใจ จึงไม่กล้าให้เรื่องราวเหล่านี้ทำให้เขาเสียสมาธิ
ประการที่สาม ต่อให้นางอยากฟ้องแต่ก็บอกเล่าเรื่องราวโดยละเอียดไม่ออก อย่างไรเสีย มารดาเยี่ยนทำร้ายจิตใจนาง เพียงใช้สายตาดูถูกเหยียดหยามมองนาง ใช้น้ำเสียงว่ากล่าวตักเตือนแก้ไข ‘นิสัยเสีย’ ของนาง ทำให้นางเป็นไปตามมาตรฐานลูกสะใภ้ตระกูลเยี่ยน…
ระยะเวลาหนึ่งเดือน ร่างกายจิ้งจอกน้อยซูบผอมลงไปไม่น้อย ความภาคภูมิใจในตัวเองของนางก็ถูกทำลายจนย่อยยับ หัวใจแหลกสลายเป็นเสี่ยงๆ จนแทบจะต่อไม่ติด นางเริ่มเงียบขรึม พยายามอย่างเต็มที่เพื่อแก้ไข ‘นิสัยเสีย’ ของตัวเองให้เป็นไปตามมาตรฐานของมารดาเยี่ยน จนกลายเป็นกุลสตรีมากขึ้น นางรู้จักสำรวมกิริยาวาจาแล้ว ทว่าก็ยังคงถูกมารดาเยี่ยนจับผิดอีกมากมายอยู่ทุกวัน…
นางอึดอัดใจเป็นอย่างมากเมื่ออยู่ในคฤหาสน์ตระกูลเยี่ยน นอกจากเยี่ยนเฉินแล้ว นางก็ไม่มีเพื่อนเลยสักคน สาวใช้เหล่านั้นแสดงความเคารพมีมารยาทต่อนาง แต่กลับไม่ใกล้ชิดสนิทสนม จนบางทีสายตาที่มองนางราวกับมองนกกระจอกที่เข้าไปในรังพญาหงส์ตัวหนึ่ง…
จิ้งจอกน้อยเริ่มคิดถึงวันคืนที่สำนึกศึกษาชุมนุมสวรรค์ เริ่มคิดถึงเพื่อนที่สำนักชุมนุมศึกษาสวรรค์
เพื่อนที่สำนักชุมนุมศึกษาสวรรค์ของนางมีมากมาย ทว่าคนที่มียันต์ถ่ายทอดเสียงมีไม่มาก มีเพียงแค่พวกจางฉูฉู่ เชียนหลิงอวี่เท่านั้นที่มี
แต่พวกเขาต่างยุ่งมาก ทุกวันฝึกฝนทำภารกิจ ยุ่งจนเท้าไม่ได้แตะพื้น จิ้งจอกน้อยไม่อยากรบกวนเวลาพวกเขามากนัก จึงติดต่อเขาไปทุกๆ สามวันหรือห้าวัน
ทุกครั้งจางฉูฉู่ล้วนพูดจาส่งเสียงดังดุจยิงปืนกล พูดคุยกับจิ้งจอกน้อยถึงความยากลำบากและเหน็ดเหนื่อยในสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์หลายวันมานี้ดังถั่วระเบิด ต่อว่าอาจารย์ถึงความวิปริตในการฝึกสอนพวกเขา ทุกครั้งล้วนเต็มเปี่ยมด้วยพลัง
เดิมทีจิ้งจอกน้อยก็เคยต่อว่าอาจารย์ด้วยกันกับจางฉูฉู่ เคยรู้สึกถึงความลำบากยากเข็ญเช่นกัน ทว่าตอนนี้นางยอมกลับไปรับการฝึกสอนของอาจารย์ร้อยรอบเสียยังดีกว่า…
ประสาทสัมผัสของจางฉูฉู่หยาบกระด้างยิ่งกว่าสายไฟ ย่อมไม่รู้สึกว่าจิ้งจอกน้อยมีอะไรผิดปกติ แถมยังบอกว่าอิจฉาจิ้งจอกน้อยที่ได้อยู่กับคนรักทั้งวันทั้งคืน อีกทั้งยังมีเวลาว่างทุกวัน ไม่จำเป็นต้องนอนยามกะสามตื่นยามกะห้าเพื่อฝึกฝน…
เชียนหลิงอวี่อย่างไรก็เป็นผู้ชาย อีกทั้งยังเป็นคุณชายเอาแต่ใจ ไม่ค่อยเข้าใจจิตใจที่ละเอียดอ่อนของผู้หญิง อีกอย่างจิ้งจอกน้อยก็เป็นคนบอกเล่าแต่เรื่องดีๆ เขาจึงไม่พบความผิดปกติอันใด เพียงแต่บอกนางอย่างโอหังว่าหากนางไม่ได้รับความยุติธรรมต้องบอกเขา เขาเป็นเพื่อนนาง จะต้องช่วยให้นางหลุดพ้นจากสภาพเลวร้าย
ถ้อยคำเหล่านี้ทำให้ดวงตาจิ้งจอกน้อยแดงก่ำ รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ แต่มันก็เท่านั้นเอง
เดิมทีการพูดคุยกับทั้งสองคนทำให้จิ้งจอกน้อยลืมความทุกข์ไปได้บ้าง ได้รับความอบอุ่นบ้าง ทว่ามีครั้งหนึ่งมารดาเยี่ยนเข้ามาได้ยินนางพูดคุยกับเชียนหลิงอวี่ภายในห้อง มารดาเยี่ยนสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นทันที กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไว่หู เจ้าเป็นหญิงสาว อนาคตจะแต่งงานกับลูกข้า เหตุใดยังคุยเล่นกับชายอื่นอย่างสนิทสนมเยี่ยงนี้? ใครรู้เข้าจะเป็นอย่างไร? เจ้าต้องคิดถึงเฉินเอ๋อร์ให้มาก และก็ควรหลีกเลี่ยงการกระทำนี้เสีย!”
ดังนั้นมารดาเยี่ยนจึงริบยันต์ถ่ายทอดเสียงของจิ้งจอกน้อยไป บอกว่าจะเก็บรักษาไว้ให้นาง…
หลังจากนั้น จิ้งจอกน้อยก็ตกอยู่ในสถานการณ์โดดเดี่ยวหัวเดียวกระเทียมลีบ แม้แต่ความสุขเพียงหนึ่งเดียวก็ถูกลิดรอนอย่างไร้หัวใจไปแล้ว
นางซูบผอมลงทุกวัน จนในที่สุดเยี่ยนเฉินก็รู้ถึงความผิดปกติของนาง จึงเอ่ยถามสาเหตุ
————————————————————————–