ค่ำคืนนี้ในจวนเหลือเพียงคนของสำนักซินเซวียนที่อยู่เฝ้ายามไม่กี่คน เป่ยฟางหรงไม่ได้รับอนุญาตให้ร่วมออกล่าปีศาจ จึงได้แต่นอนดิ้นไปดิ้นมาในเรือนนอนของตนเอง
เสื้อคลุมที่อาจารย์ถอดไว้ให้บัดนี้เป่ยฟางหรงใช้มันคลุมจนมิดร่างของตนเอง ถึงอาจารย์จะให้นางนั่งสวดคาถาชำระใจเพื่อไม่ให้นางฟุ้งซ่านแต่เป่ยฟางหรงท่องได้ไม่กี่ครั้งนางก็เบื่อเสียแล้ว
หยีจวนก็หายไปที่ใดไม่รู้ เป่ยฟางหรงจึงลุกขึ้นเดินไปเดินมาในเรือน ใจหนึ่งคิดจะตามศิษย์พี่จิ้งหูออกไปเงียบ ๆ ไม่ให้อาจารย์รู้ แต่เมื่อคิดว่าศิษย์พี่ของนางย่อมไม่ยินยอมแน่จึงละทิ้งความคิดนั้นเสีย
เมื่อได้ยินเสียงเดินไปเดินมาภายในเรือน ศิษย์พี่น้องเสี่ยวซิงกับเสี่ยวซูจึงเคาะประตูเบา ๆ พวกเขาก็ไม่ได้ร่วมออกล่าปีศาจเหมือนกัน อาจารย์ให้พวกนางคุ้มกันจวนแห่งนี้เผื่อมีเรื่องอันใดผิดพลาด
แต่การคุ้มกันจวนกลายเป็นว่าพวกนางต้องมาเฝ้าประตูห้องของเป่ยฟางหรงแทน สองพี่น้องนี้ก็หาได้ถามเหตุผลมากมายอันใด อาจารย์สั่งสิ่งใดพวกนางก็ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
“เจ้าเป็นอะไรหรือ นอนไม่หลับหรือพักหน่อยเถิดเมื่อคืนเพราะเจ้าช่วยข้าสองพี่น้องต่อสู้กับปีศาจพวกนั้นคงสูญพลังไปเยอะ อาจารย์ถึงได้สั่งเช่นนี้”
เสียงใสของสองพี่น้องยังพูดกับนางอีกหลายประโยค ก่อนจะเงียบเสียงไป เป่ยฟางหรงไม่ตอบแล้วนางเพียงแต่นั่งอยู่บนโต๊ะหญิงงามในห้องแล้วทอดถอนใจออกมา
เหตุใดในสมองจึงเห็นใบหน้าของอาจารย์กับใบหน้าของอาจารย์อาวนเวียนอยู่เช่นนี้ นางเห็นนะที่อาจารย์อาแอบจับชายเสื้อของอาจารย์ ช่างบังอาจยิ่ง
นั่นมันของแท้เชียวนะเป็นอาภรณ์ที่นางให้หยีจวนสืบมาแล้วว่าสาวทอผ้าได้ถักทอมาให้อาจารย์ด้วยตัวของนางเองจริง ๆ
เห๊อะ อาจารย์อาคิดว่าตนเองเป็นผู้ใดจึงได้กล้าล่วงเกินอาภรณ์ของเทพธิดาผู้นั้น
เป่ยฟางหรงรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง
กระทั่งนางได้ยินเสียงที่นางไม่คุ้นเคยดังอยู่ด้านนอก ด้วยความสงสัยเป่ยฟางหรงจึงเปิดประตูออกมาดู พบว่าเป็นสาวใช้ผู้หนึ่งท่าทางเรียบร้อย เมื่อเห็นนางสาวใช้ผู้นั้นก็คำนับอย่างนอบน้อม
“นายท่านของเราเห็นว่าพวกท่านไม่ได้ร่วมออกล่าปีศาจคิดว่าอาจจะรู้สึกเบื่อบ้าง หากพวกท่านยังไม่พักผ่อนนายท่านจะขอเชิญพวกท่านไปชิมขนมต้นตำรับแท้ของเมืองเราเจ้าค่ะ”
สตรีพี่น้องกลัวว่าจะเป็นการรบกวนเจ้าของบ้านเกินไป คิดจะอ้าปากปฏิเสธอย่างสุภาพ เป่ยฟางหรงกับสอดปากอย่างว่องไว
“เช่นนั้นดียิ่ง ขอบคุณท่านเจ้าเมืองข้าพร้อมแล้วไปกันเถิด”
“จะดีหรือ” ผู้เป็นน้องเสี่ยวซูเอ่ยขึ้น
“มีอันใดไม่ดี พวกเจ้าคิดดูคนเขาอุตส่าห์มีน้ำใจเตรียมขนมให้เจ้ายังปฏิเสธถือว่าสมควรหรือ หากเจ้าคิดเช่นนั้นแล้วทำขายหน้าข้าก็ไม่สนแล้วนะ”
เอ่ยจบนางก็หันมาถามบ่าวผู้นั้น
“ไปทางใด นำทางเถิด”
“เชิญท่านเซียนทางนี้เจ้าค่ะ”