เป่ยฟางหรงกระโดดโลดเต้นเติมตามบ่าวไป จึงทำให้สองพี่น้องเดินตามนางอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง กระทั่งไปถึงเรือนรับรองแห่งหนึ่ง เป่ยฟางหรงยิ่งดีดขาราวตั๊กแตนด้วยความตื่นเต้น
“พวกเจ้าดูขนมพื้นเมืองนี่น่ากินยิ่ง”
เป่ยฟางหรงแทบจะระงับอาการไม่อยู่ เมื่อเห็นของกินเล่นมากมายแปลกตาอยู่บนโต๊ะ นางเดินเข้าไปใกล้ ๆ แล้วเอ่ยถาม
“นี่เรียกว่าสิ่งใดหรือ สีเหลืองทองอร่ามดึงดูดตาน่ากินมาก ข้าไม่เคยเห็นขนมชนิดนี้มาก่อน”
“นี่เรียกว่าเผือกทองพันชั่ง”
เป็นท่านเจ้าเมืองที่เดินตามพวกเขาเข้ามาอธิบาย เป่ยฟางหรงและสองพี่น้องจึงทำความเคารพท่านเจ้าเมืองอย่างนอบน้อม
หลังจากนั้นท่านเจ้าเมืองก็เชื้อเชิญให้พวกเขานั่งลง เป่ยฟางหรงน้ำลายไหลยืด นางใกล้จะหมดความอดทนแล้วในขณะที่นั่งฟังท่านเจ้าเมืองเอ่ยถึงสภาพการค้าขายและความคึกคักของเมืองนี้ก่อนที่จะถูกพวกปีศาจเข้ามายึดครอง
นางดื่มชาไปหลายอึก และยังมองขนมด้วยสายตาเป็นกับแกล้มอีกด้วย
นางไม่ใคร่ชอบสนทนากับชายวัยกลางคนคนนี้เท่าไหร่ เขาชอบพูดอ้อมโลก ภูเขาแม่น้ำและเรื่อยเปื่อย ที่สำคัญสองพี่น้องเสี่ยวซิงกับเสี่ยวซูยังพูดคุยกับท่านเจ้าเมืองอย่างถูกคอ ใจคอจะไม่หยุดพูดแล้วเริ่มชิมขนมกันหรืออย่างไร
หากเชิญมารับประทานของว่าง ก็ควรให้พวกนางรับประทาน ไม่ได้เชิญมาสนทนากันเสียหน่อย
หลังจากผ่านไปราวครึ่งก้านธูป ที่เป่ยฟางหรงรู้สึกทรมานเหมือนหลายชั่วยามสิ้นสุดลง ในที่สุดเป่ยฟางหรงก็ได้กินเสียที
นางกินคำต่อคำตาแทบจะไม่กะพริบ ขนมแต่ละอย่างมีรสชาติอร่อยยิ่ง ปากเคี้ยวตุ้ย ๆ ปล่อยให้สองพี่น้องร่วมสำนักเป็นคนคุยกับท่านเจ้าเมืองโดยไม่สนใจร่วมวงสนทนา
“กินเยอะ ๆ นะท่านเซียน ข้าคงมีเพียงสิ่งนี้ที่จะตอบแทนท่านได้ รู้สึกละอายใจเป็นอย่างยิ่ง”
สตรีสองพี่น้องบัดนี้เมื่อได้ชิมรสชาติที่แสนอร่อยนั่นก็ดูเหมือนว่าจะไม่ต่างจากนาง เป็นเพราะบนหุบเขาซินเซวียนถึงมื้ออาหารแต่ละมื้อจะอร่อยด้วยยอดพ่อครัวผู้นั้น
แต่หากเป็นเรื่องขนมแล้วพวกนางแทบจะไม่ได้แตะ คงมีเพียงผลไม้และอาหารมื้อหลักเท่านั้น อีกทั้งเวลากินเวลานอนต่างถูกจัดตารางไว้อย่างเคร่งครัด
การกินอาหารมื้อดึกเช่นนี้จึงนับว่า แปลกและแตกต่างเป็นอย่างยิ่ง ถึงจะรู้สึกละอายอยู่บ้างที่พวกตนกำลังทำผิดกฎ แต่การลงจากเขามาที่เมืองนี้ อาจารย์ก็หาได้เคร่งครัดเรื่องอาหารการกินไม่ พวกนางจึงไม่รู้สึกผิดเท่าที่ควร
เป่ยฟางหรงไม่พูดมาก ว่านางรู้อยู่แล้วว่าการที่สำนักซินเซวียนมาปราบปีศาจที่นี่หากงานลุล่วงไปด้วยดี ทางวังหลวงย่อมส่งเงินทองเป็นค่าตอบแทนมาให้สำนักของนางไม่น้อย
ทุกคนต้องทำมาหากินถึงจะเป็นสำนักเซียนก็เถอะ เพียงแต่พวกเขาไม่เคยเรียกรับเงินแล้วแต่ทางการจะเห็นสมควรที่จะให้ ยิ่งเมืองนี้เป็นเมืองใหญ่เช่นนี้อีกทั้งยังเป็นเมืองท่าของการค้าอันสำคัญนอกจากเงินที่หวังหลวงจะส่งมอบให้แล้ว
ชาวเมืองยังต้องพร้อมใจบริจาคเข้าทำบุญร่วมกับสำนักซินเซวียนอีกมากโข เรียกว่าทำงานนี้เพียงงานเดียวสำนักซินเซวียนก็ร่ำรวยมหาศาลแล้ว
กินไปกินมาเป่ยฟางหรงพลันรู้สึกง่วง ขนมในจานยังไม่หมดนางจึงดึงผ้าเช็ดหน้าออกมา แล้วห่อเอาไว้อีกหลายชิ้นยังไม่ทันจะห่อเรียบร้อยเป่ยฟางหรงก็หมดสติไปเสียแล้ว
ขนมที่นางตั้งใจห่อจึงตกอยู่ข้างเก้าอี้ไม้ตัวนั้นที่นางนั่ง ท่านเจ้าเมืองที่กำลังสนทนากับพี่น้องเซียนทั้งสองยกมุมปากขึ้น เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าต่างคอพับอยู่บนเก้าอี้
เขาหันมามองเป่ยฟางหรงสั่งให้บ่าวผู้หนึ่งเก็บกวาดให้เรียบร้อย อย่าให้หลงเหลือสิ่งใด เขาเดินมาที่เป่ยฟางหรงใกล้ ๆ แล้วเอ่ยว่า
“ในที่สุดเราก็ได้พบกันแล้วท่านจอมมาร”