หลิงเสียนปลอมกายเป็นสาวชาวบ้านแสร้งเดินทางมาถึงเมืองแห่งนี้เป็นครั้งแรกโดยไม่รู้เรื่องราวของปีศาจ ในขณะที่ในมือของนางกำพลุสัญญาณไฟไว้แน่น
นางถ่วงเวลาจนกระทั่งถึงยามเย็นจึงเดินเข้ามาในเมือง แต่เดิมด้านหน้าประตูเมืองเป็นเขตอาคมปีศาจมีหมอกหนากระจาย แต่บัดนี้ถูกหลี่จิ้งทำลายทิ้งแล้วหลิงเสียนจึงผ่านจุดนี้มาได้
นางแสร้งร้องเรียกผู้คนในเมือง และยังเดินไปเคาะประตูของชาวบ้านหลายหลังแน่นอนย่อมไม่มีผู้ใดเปิดประตูต้อนรับนางด้วยความหวาดกลัว
จนกระทั่งหลิงเสียนเดินมาถึงโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งพลันปรากฏเงาของปีศาจขึ้น ปีศาจตนนั้นพลังมารยังมีไม่มาก พวกมันโผล่มาหลายตัวหวังจับตัวหลิงเสียนไป
หลิงเสียนแสร้งอ่อนแอวิ่งหนีจนกระทั่งสะดุดล้ม นางถูกปีศาจอุดปากแล้วลากร่างของนางไปพร้อมควัน หายไปอย่างไร้ร่องรอย
หลี่จิ้งและจิ้งหูก้าวออกมาจากที่หลบซ่อน พวกเขาใช้กระจกส่องมารตามหลิงเสียนมาห่าง ๆ กระทั่งนางหายไป
“อาจารย์อาจารย์อาจะปลอดภัยหรือไม่ขอรับ”
จิ้งหูเริ่มวิตกกังวลแล้ว
หลี่จิ้งส่ายหน้าเขาส่งกระจกส่องมารให้หลี่จิ้งถือ พร้อมกับหยิบเข็มทิศออกมาจากถุงเฉียนคุน
“ไม่ต้องห่วงอาจารย์อาของเจ้ายังปลอดภัยดี” เข็มทิศของหลี่จิ้งส่งเสียงดังคล้ายเสียงจักจั่นร้อง หลี่จิ้งจึงเอ่ยว่า
“จิ้งหูนำศิษย์ไปทางทิศตะวันตก เจ้าดูสถานที่ในกระจกคุ้นตาหรือไม่”
หลี่จิ้งร่ายอาคมพลันเกิดสถานที่หนึ่งในกระจก เป็นถ้ำที่อยู่ใต้ดินแห่งหนึ่งหน้าถ้ำยังคล้ายมีม่านน้ำกั้นอยู่
“อาจารย์ลักษณะคล้ายม่านน้ำตก บริเวณนี้คงมีแห่งเดียวที่อยู่ทางทิศตะวันตก ข้าเคยไปสำรวจคราหนึ่งแต่พบว่าพลังมารบางเบาจนแทบจะสัมผัสไม่ได้ ค้นสิ่งใดก็ไม่เจอจึงได้นำศิษย์น้องกลับมา”
หลี่จิ้งยกมุมปาก
“นำทางศิษย์ไปล้อมที่นั่นเอาไว้”
ภายในพริบตา คนของสำนักซินเซวียนก็พลันย้ายร่างมาที่ลานน้ำตกแห่งนี้ โดยมีหลี่จิ้งนำขบวน
เขาได้ยินเสียงกระบี่ปะทะกันโดยไม่รู้ทิศทางของเสียง หลี่จิ้งใช้เข็มทิศอีกครากระทั่งเข็มทิศชี้ไปที่ภูเขาด้านหน้า
“นายท่าน ด้านในขอรับท่านใช้อาคมเปิดทางได้เลย”
หลี่จิ้งได้ยินเสียงถงถงอย่างชัดเจน ถงถงแอบบอกความลับเรื่องเส้นทางจึงทำให้เขาถูกทัณฑ์สวรรค์ ฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา กลิ่นขนของถงถงที่ไหม้ยังลอยเข้าจมูกหลี่จิ้งอีกด้วย
หลี่จิ้งรู้ดีว่าถงถงเป็นกิเลนไฟ เมื่อถูกไฟจากสายฟ้าอย่างมากก็ตัวไหม้เกรียม ไม่นานก็สลัดขนคอแล้วฟื้นขึ้นมาใหม่ ความผิดของเขาก็น้อยนิดถึงจะโดนสายฟ้าฟาดก็ฟาดลงมาอย่างสถานเบา