บรรยากาศภายในศาลาขาวขุ่น เหลียนฮวา คล้ายกับใบไม้ที่ร่วงหล่นจะร่วงหล่นลงมาช้าที่สุด ในชั่วหนึ่งวูบหายใจ หยาเหยานางสามารถคิดได้หลายสิ่ง เพียงชั่วลมหายใจที่วูบไหว…..
“ตัวข้าเคยบอกท่านแล้ว นับแต่วันที่ข้าก้าวเดินจากจวนสกุลหยาง ไม่เจ็บไม่แค้นไม่ถือโทษ แล้วท่านจะเอ่ยคำขอโทษกับข้าเรื่องใดกัน” หยาเหยานางเอ่ยพร้อมกับเผยรอยยิ้มเจือนจางออกมา ก่อนที่นางจะก้าวเดินออกไป
ในเวลานั้นหลู่เมิ่งจะว่าเสียใจก็เสียใจก็ซึ้งใจก็ซึ้งใจ นางเลือกปฏิเสธไมตรีจากเขาก็จริงอยู่หากแต่ว่านางก็เอ่ยปากว่าให้อภัยเขาแล้วในแบบที่ไม่โกรธ มิใช่เพียงเอ่ยออกมาเพราะอารมณ์ที่ประชดประชัน
ในตอนที่หยาเหยานางก้าวเท้าลงไปที่ขั้นบันไดของศาลาเหลียนฮวาในขั้นแรก ในตอนนั้นหลู่เมิ่งก็หันมาเอ่ยประโยคหนึ่งกับนางก่อนที่นางจะจากไปไกลกว่านี้
“หาว่าไม่ถือโทษกันแล้ว เช่นนั้นหากวันนี้อยากจะขอไมตรีเป็นเพียงสหายจะได้หรือไม่?” หลู่เมิ่งเอ่ยออกมา
หยาเหยานางได้ฟังคำนั้นนางก็หยุดคิดไปชั่วครู่
“แม้นตัวท่านวันหนึ่งเคยไม่ดีต่อข้าแต่ก็ไม่ใช่ความผิดท่านฝ่ายเดียว นับแต่วันนี้เรื่องราวของท่านกับข้าอดีตถือว่าไม่เคยเกิดขึ้น” หยาเหยานางเอ่ยก่อนที่จะเดินจากไป
ในตอนนั้นหลู่เมิ่งที่อยู่บนศาลาเหลียนฮวา ใบหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้น “อดีตถือว่าไม่เคยเกิดขึ้น” ประโยคนี้หมายความว่าเช่นไร? หากความเจ็บแค้นเกิดขึ้นในอดีต หากนับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น ไม่เคยโกรธ ไม่เคยแค้น ไม่เคยเจ็บ ไมตรีที่ขอไว้ก็ให้ได้และรับไว
ระหว่างทางที่หยาเหยานางต้องเดินกลับจวน
นางต้องเดินผ่านตลาดที่มีผู้คนพลุกพล่านอยู่แล้ว อย่างไรเสีย เดินดูชีวิตผูคนเสียหน่อย อย่าปล่อยให้ใจตัวจมอยู่กับบางสิ่งนานนักเลย ตัวนางใช่ว่าโชคร้ายที่สุดในโลกเสียเมื่อไหร่
นับแต่เกิดมาก็เกิดมาในตระกูลที่สูงศักดิ์เพียบพร้อมด้วยยศฐานาๆ ประการ มีบิดาที่รักนางยิ่ง มีมารดาที่ประเสริฐ ด้วยสิ่งที่พึ่งมีทั้งปวง แม้นนางจะด่วนจากไปก็ตาม แต่ช่วงเวลาที่มารดานางอบรมเลี้ยงดูนางมาก็มากเกินจะพอแล้ว
เมื่อหวนนึกถึงมารดาเรื่องราวของเผิงอวิ๋นก็ผุดขึ้นมาในภาพความทรงจำของนาง
ในปีนั้นนางกับเผิงอวิ๋น
ในตอนที่นางยังเป็นเหยาเหยาน้อยวัยเจ็ดขวบ นางกับเผิงอวิ๋นก็ได้มาเดินเล่นที่ยังตลาดแห่งนี้ มือน้อยๆ ของนางเกาะกุมมือของเผิงอวิ๋นไว้ไม่มีปล่อย
เผิงอวิ่นดีกับนางมาแต่ไหนแต่ไรไม่ว่าสิ่งใดที่นางต้องการหากเขาทำให้ได้เขาก็จะทำให้นางโดยไม่แม้นจะปริปากบ่น
หยาเหยานางเมื่อก้าวย่างผ่านไปในท่ามกลางผู้คนนัร้อยที่อยู่รอบกายนาง ภาพที่ปรากฏตรงหน้ากับในความทรงจำของนางก็ปรากฏขึ้นมาอีกหน
เด็กน้อยสองคนเดินจูงมือเที่ยวชมสิ่งของในตลาดแห่งนี้ ไร้ทุกข์ปราศจากกังวล ใบหน้าที่มีเพียงรอยยิ้มนั้นเสียงหัวเราะนั้น อบอุ่นใจ ความรู้สึกเช่นนี้?
ที่นางรู้สึกวันนี้ปัจจุบันนี้คือหึงหวง หรือหวง? หรือเพราะเผิงอวิ๋นแต่ไหนไม่เคยให้ความสำคัญต่อผู้ใดเกินกว่านาง ไม่มีผู้ใดเรียกเขาว่าเผิงอวิ๋นเกอเกอ นอกจากนาง ก็ใช่สิเผิงอวิ๋นไร้ญาติที่ผ่านมาเขามีแต่เพียงนาง
เมื่อหวนนึกถึง ดวงตาของนางก็เหม่อลอย นางเดินไปท่ามกลางผู้คนมากมาย ตัวนางอยู่ แต่ใจนางกลับหลุดลอย ที่มองเห็นกลับมีเพียงอดีต สตรีที่ต้องการต้องได้มาชั่วชีวิต เหตุใดช่วงปีมานี้กลับเจอแต่เรื่องที่ทรมารหัวใจของนางยิ่ง
เป็นบททดสอบจากสวรรค์หรืออย่างไร หากเป็นเช่นนั้นแล้วผู้ใด ใครกันคือผู้กำหนด หากนางเกิดเป็นสตรีชาวบ้าน นางจะได้พบรักแท้ของนางหรือไม่ ในแบบที่ไม่ต้องเจ็บช้ำเช่นนี้ ใช่เพราะนางเกิดมาสุขเกินผู้อื่น เรื่องคู่เป็นกรรมของนางใช่หรือไม่? จะว่าไปใครกันจะสุขสมหวังไปเสียทุกสิ่ง ที่เป็นเช่นนี้ถือว่ายุติธรรมดีแล้วใช่หรือไม่?
โปรดติดตามตอนต่อไป