สำหรับโม่ถิงแล้วการร่วมงานใน ‘หวงเฟยยอดสตรี’ เป็นเรื่องง่ายเหมือนกับการไปซื้อผักในตลาด มันไม่ได้ซับซ้อนเหมือนอย่างที่ทุกคนคิดและไม่ต้องคิดอะไรมากนัก มันเป็นแค่สิ่งที่เขาสามารถทำได้เท่านั้นเอง
ในช่วงเวลาเช่นนี้ เป็นเรื่องปกติที่โม่ถิงจะทำตัวติดดิน แต่แม้แต่ถังหนิงเองก็ยังทำตัวติดดินไปด้วย
เนื่องจากละครเรื่องนี้ผลิตโดยเอเจนซี่ของเขาเอง นอกจากการโปรโมตที่จำเป็นแล้ว โม่ถิงไม่ได้จัดงานอีเวนต์อะไรอีก เพราะถึงอย่างไรยอดเรตติ้งผู้ชมก็อยู่ในระดับสูงอยู่แล้วและถังหนิงก็ได้เติมเต็มความรับผิดชอบของเธอในฐานะนักแสดงแล้ว ตอนนี้โม่ถิงมีเพียงเส้นทางเดียวให้ถังหนิงนั่นคือการถ่ายละครเมื่อมีเรื่องให้ถ่ายและทำตัวง่ายๆ เมื่อไม่มีอะไรให้ถ่าย
ดูเหมือนเขาจะต้องการบอกกับทุกคนว่ามีเพียงบทดีๆ เท่านั้นที่จะสามารถรักษาถังหนิงไว้ในวงการนี้ได้และเธออยู่เพื่อการแสดง นี่ยิ่งยืนยันสถานะของถังหนิงในฐานะนักแสดงระดับท๊อปซึ่งจะแสดงให้กับทีมงานที่ดีเท่านั้น
ในเวลาเช่นนี้ สิ่งเดียวที่ไป๋อวี๋กำลังคิดอยู่คือการจะกลับมาเฉิดฉายอีกครั้งได้อย่างไร
…
รายการวันเดย์วันไนต์เป็นรายการเรียลลิตี้ที่แขกรับเชิญห้าคนถูกพาไปอยู่บนเกาะร้างและต้องทำภารกิจต่างๆ เพื่อเอาชีวิตรอด พวกเขาจะได้รับรหัสเพื่อใช้ขอความช่วยเหลือ แต่มีเวลาเพียงยี่สิบสี่ชั่วโมงในการไขปริศนาให้ได้ หากแขกรับเชิญหาคำใบ้ทั้งหมดที่ซ่อนอยู่บนเกาะได้หมด พวกเขาจะได้รับกุญแจเพื่อใช้กับรถยนต์ในการหนีและภารกิจของพวกเขาจะถือว่าประสบความสำเร็จ แต่ถ้าพวกเขาไม่สามารถทำได้ ก็จะต้องพบกับภารกิจอย่างหนึ่ง
รายการนี้มักจะมียอดเรตติ้งผู้ชมในปักกิ่งสูงอยู่เสมอ
ส่วนเกาะที่พวกเขาไปก็เปลี่ยนไปทุกครั้ง ผู้ชมจะได้เห็นทัศนียภาพที่เป็นเอกลักษณ์อันหลากหลาย แต่ที่เหนือกว่านั้นคือพวกเขาจะได้เห็นสิ่งตื่นเต้นเร้าใจที่แตกต่างออกไป
ไม่นานก็ถึงเวลาถ่ายทำรายการดังกล่าว นอกจากไป๋อวี๋กับหวงฝู่ซั่วแล้ว ยังมีนักร้องอาวุโสและคู่รักหนุ่มสาวอีกสองคนที่เขาเล็งไว้
พวกเขาไม่ได้มาจากวงการบันเทิงทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่น คู่รักหนุ่มสาวทั้งสองคนเป็นนักเดินทางที่มีชื่อเสียงซึ่งออกเดินไปทางไปยังหลายประเทศและมีประสบการณ์ในการใช้ชีวิตรอดมาอย่างโชกโชน
ทั้งห้าคนถูกพาไปยังเกาะที่ไม่มีใครรู้จักพร้อมกับกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่เทอะทะของพวกเขา
คู่รักหนุ่มสาวคุ้นเคยกับเรื่องนี้และไม่รู้สึกลำบากอะไร แต่กระนั้นชายหนุ่มก็ยังอดไม่ได้ที่จะช่วยถือกระเป๋าให้ภรรยา ส่วนหวงฝู่ซั่วนั้นเลือกที่จะเสนอความช่วยเหลือให้กับนักร้องอาวุโส โดยปล่อยให้ไป๋อวี๋ต้องช่วยเหลือตัวเอง
แต่ในบรรดาคนทั้งหมดมีเพียงหวงฝู่ซั่วเท่านั้นที่รู้ว่าไป๋อวี๋เป็นพวกจอมปลอม
ดังนั้นเพื่อลดภาระของตัวเอง เขารู้ดีว่าไป๋อวี๋จะต้องแสดงละคร
เป็นไปตามคาด เพราะไม่นานหลังจากที่ทั้งหมดเดินทางมาถึงยังเกาะร้างและทุกคนกำลังพักผ่อนอยู่นั้น ไป๋อวี๋แสดงท่าทีออกมาว่าเธอไม่รู้สึกเหนื่อยและเสนอตัวที่จะออกไปสำรวจสถานที่ให้ทุกคน
ไม่มีใครขอให้เธอทำเรื่องเช่นนี้ แต่หลังจากนั้นไม่นาน เสียงกรีดร้องแหลมบาดหูดังออกมาจากในป่า ทุกคนมองไปยังต้นเสียงนั้นและพบไป๋อวี๋กำลังนั่งกุมข้อเท้าตัวเองอยู่กับพื้น…
“ขอโทษนะคะ ฉันไม่อยากเป็นตัวถ่วงของทุกคน พวกคุณทิ้งฉันไว้ที่นี่แล้วไปต่อโดยไม่มีฉันก็ได้”
นักร้องอาวุโสหันไปพูดกับหวงฝู่ซั่วทันที “อุ้มเธอสิ”
หวงฝู่ซั่วส่ายหน้า “ผมมีหน้าที่ดูแลคุณ ดูสิคุณเองก็สุขภาพไม่แข็งแรง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับคุณจะเป็นเรื่องใหญ่กว่านะ”
หลังจากชายอีกคนได้ยินสิ่งที่หวงฝู่ซั่วพูด เขาก็รีบพยักหน้าตามทันที “เขาพูดถูก ทำไมคุณไม่ได้ให้ผมอุ้มคุณแทนล่ะ…”
“เอาอย่างนี้ไหม ก่อนที่ฟ้าจะมืด เราควรทำความคุ้นเคยกับทุกอย่างบนเกาะนี้ งั้นทำไมเราไม่ปล่อยให้ไป๋อวี๋พักอยู่ที่นี่ไปก่อนแล้วเรามาสำรวจเกาะนี้กัน แล้วเรานัดเวลากันแล้วค่อยกลับมารับเธอ แบบนี้เราจะได้ไม่ต้องเสียทั้งแรงและเวลาด้วย” หวงฝู่ซั่วเสนอ
“ฉันก็คิดว่ามันเป็นความคิดที่ดีที่สุดนะ” หญิงสาวรีบพูดขึ้น
“ไป๋อวี๋ ถ้าเราให้คุณพักอยู่ที่นี่ คุณก็ไม่กลัวหรอกจริงไหม” หวงฝู่ซั่วถาม
เขารู้ดีว่าจากนิสัยของไป๋อวี๋แล้ว เธอจะไม่มีวันสร้างฉากต่อหน้าทุกคน ดังนั้นเธอจึงทำเพียงแค่แสดงละครว่าเธอเข้าใจทุกอย่างดีและพูดกับทุกคน “ตกลงค่ะ ฉันจะรอทุกคนอยู่ที่นี่ ใครบอกให้ฉันทำตัวเด๋อด๋ากันนะ”
“เยี่ยม งั้นรีบไปกันเถอะ…”
หลังพูดคุยกับเสร็จ กลุ่มของคนสี่คนก็มุ่งหน้าออกไปทำหน้าที่ของตัวเอง
ขณะเดียวกัน ไป๋อวี๋ที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังได้แต่หน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ แต่เธอไม่อาจทำอะไรได้
หลังเดินออกไปได้ไม่กี่ก้าว หญิงสาวที่แต่งงานแล้วรีบเดินไปหาหวงฝู่ซั่วและซักไซ้ “คุณไม่ชอบไป๋อวี๋งั้นเหรอ ฉันสัมผัสได้ว่าผู้หญิงคนนั้นแสดงละครเก่ง ฉันไม่เข้าใจว่า ‘นักแสดงหญิงยอดเยี่ยมระดับโลก’ อย่างเธอมาทำอะไรที่นี่ ฉันทนผู้หญิงคนนี้ไม่ได้แต่ก็ยังมาพยายาททำให้สามีของฉันไปอุ้มตัวเองอีก ฉันพนันได้เลยว่ายัยนั่นต้องไม่อยากเดินแน่ ถึงได้จงใจทำให้ตัวเองบาดเจ็บแบบนั้น”
สัญชาตญาณของผู้หญิงนี่แม่นยำเสียจริง
หวงฝู่ซั่วยิ้มเป็นเชิงยอมรับในสิ่งที่หญิงสาวคาดเดา
“งั้นก็จริงสินะ ชั่วจริงๆ ฉันละเกลียดคนจอมปลอมแบบนี้ที่สุด”
“ถ้างั้นคุณสนใจจะแฉผู้หญิงคนนั้นไหมล่ะ”
หญิงสาวไม่พูดอะไรแต่ทั้งคู่ต่างเข้าใจกันและกัน
สิ่งที่ดีสำหรับรายการนี้คือหลังเวลาผ่านไปสิบสองชั่วโมง แขกรับเชิญจะมีสิทธิ์ลบใครก็ได้ที่เป็นภาระออกไปจากรายการ
แน่นอนว่าจนถึงจุดนี้ ไม่เคยมีทีมไหนยอมสละเพื่อนร่วมทีมของตัวเองมาก่อน พวกเขาเลือกที่จะรับคำท้า แต่ในครั้งนี้ทุกอย่างจะแตกต่างออกไป
ก่อนจะมาร่วมรายการ ไป๋อวี๋ตั้งใจดูตอนเก่าๆ ของรายการหลายตอนและรู้ดีว่าไม่เคยมีทีมไหนทอดทิ้งเพื่อนร่วมทีมมาก่อน นั้นคือเหตุผลที่ทำให้เธอยอมมาร่วมรายการ
แต่ในครั้งนี้ เธอคิดผิด…
ตอนแรกไป๋อวี๋ไม่รู้สึกกลัวเพราะเธอกำลังโกรธ แต่เมื่อความมืดมาเยือนและการมองเห็นแย่ลง เธอจึงรู้สึกถึงเหงื่อที่ไหลซึมบนฝ่ามือของตัวเอง เธอไม่อยากเชื่อว่าเพื่อนร่วมทีมของเธอจะทิ้งเธอไว้ที่นี่หลายชั่วโมงโดยไม่มีใครกลับมาดูเธอเลย
แน่นอนว่าหวงฝู่ซั่วและคนอื่นๆ ไม่ได้เดินไปไกลนัก ดังนั้นก่อนที่ไป๋อวี๋จะเสียสติ พวกเขาก็กลับมาพาเธอไปยังแคมป์ที่พวกเขาสร้างขึ้น จากนั้นพวกเขาเริ่มศึกษาคำใบ้ที่พวกเขาพบระหว่างที่ไป๋อวี๋ไม่อยู่
แม้ไป๋อวี๋จะมีตัวตนแจ่เธอไม่เข้าใจสิ่งที่คนอื่นๆ กำลังพูดและรู้สึกราวกับตัวเองเป็นคนนอก
“นี่ฉันไม่มีประโยชน์เลยใช่ไหม ฉันมีแต่สร้างปัญหาสินะ”
“ไม่เป็นไรหรอก” หญิงสาวยิ้มและตอบ “คุณไม่เคยมีประสบการณ์แนวนี้ พวกเราเข้าใจได้”
“แต่เท้าฉัน…”
“พรุ่งนี้คุณจะพักต่อก็ได้ ปล่อยให้พวกเราหาคำใบ้เอง แบบนี้คุณจะได้ไม่ต้องกังวลว่าตัวเองเป็นภาระ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าไป๋อวี๋ดูโล่งใจขึ้น ในเมื่อวันนี้ช่วงเวลาในการออกอากาศของเธอน้อย เธอจะไม่ปล่อยโอกาสไปอีก
ดูจากภายนอกเหมือนไป๋อวี๋จะไม่โต้ตอบอะไร แต่เมื่อตกดึก เธอก็เริ่มแสดงละครเรียกร้องความสงสาร ขณะที่ทุกคนกำลังหลับ เธอแสร้งทำเป็นออกมาฝึกเดินอยู่ด้านนอกราวกับเธอต้องการทำมีประโยชน์และสามารถช่วยเหลือคนอื่นๆ ได้
ผู้หญิงคนนี้ช่างจอมปลอมเสียจริง…
“บ้าจริง ทำไมถึงได้เห็นแก่ตัวขนาดนี้นะ!” หญิงสาวทำได้เพียงพูดกับสามีของเธอ “ฉันยอมให้คะแนนเต็มเลยที่สามารถแสดงละครจนถึงขนาดนี้ได้”
“ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่อยากนอนก็ปล่อยไปเถอะ กล้าดียังไงมาทำให้คนอื่นไม่ได้นอนไปด้วย พวกโปรดิวเซอร์คิดยังไงถึงได้เชิญคนประหลาดแบบนี้นะ!”
แขกรับเชิญคนอื่นต่างพากันตำหนิเพราะไป๋อวี๋ส่งเสียงดังให้กำลังตัวเองอยู่นอกเต็นท์…
ใช่แล้ว เธอกำลังพูดให้กำลังใจตัวเอง!
เธอคิดว่าเธอเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุด…