วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ – ตอนที่ 769 หัวหน้าสมาคมคนหลงเมีย

แน่นอนว่าหลังจากที่ได้ทุกสองตอนแรกแล้ว ทุกคนต่างสงสัยในคำถามเดียวกันคือโม่ถิงรู้วิธีแสดงละครได้อย่างไรในเมื่อเขาไม่เคยเยื้องย่างเข้ามาในส่วนนี้ของวงการมาก่อน

 

 

เขาเหมือนผู้เชี่ยวชาญลับที่สามารถทำทุกอย่างที่คนธรรมดาไม่กล้าทำได้

 

 

บางคนถึงกับสับสน ในขณะที่บางคนกลับหาคำตอบได้อย่างง่ายดาย นั่นเป็นเพราะไม่มีเหตุผลอื่นใดนอกจากโม่ถิงเป็นอัจฉริยะ

 

 

‘หวงเฟยยอดสตรี’ กลายเป็นประเด็นหัวข้อสนทนาของคนทั่วทั้งปักกิ่งไปในฉับพลันและเป็นสิ่งที่ทุกคนพากันค้นหาข้อมูลรวมถึงเริ่มซื้อสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับละครเรื่องนี้

 

 

ในขณะที่ ‘ชายาหนิง’ ฉายจบโดยแทบไม่มีใครให้ความสนใจ นี่คือผลลัพธ์ของคนที่ถูกเรียกว่า ‘นักแสดงหญิงยอดเยี่ยมระดับโลก’ …

 

 

เป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นละครสักเรื่องหนึ่งถูกขยี้จนไม่เหลือชิ้นดีเช่นนี้ เดิมทีไป๋อวี๋อาจไม่ต้องประสบชะตากรรมเช่นนี้ แต่โชคร้ายที่เธอไปต่อกรกับโม่ถิงและพยายามหาเรื่องใส่ร้ายถังหนิง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่โม่ถิงจะสร้างความลำบากนานัปการให้เธอ

 

 

 

 

แน่นอนว่าถึงแม้ละครของไป๋อวี๋จะล้มเหลวแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะถึงจุดจบ ถึงอย่างไรภาพลักษณ์แม่พระของเธอก็ยังอยู่ ตราบใดที่เธอยังคงรักษาภาพลักษณ์นี้เอาไว้ได้ เธอจะยังคงมีโอกาสให้กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง

 

 

“พี่อวี๋คะ งานดีๆ ทั้งหมดในช่วงนี้ถูกคนดังคนอื่นคว้าไปหมดแล้วค่ะ ดูเหมือนว่าถ้าต้องเลือกคนดังในระดับค่าตัวเดียวกัน พวกคนจัดงานจะไม่เอาเราไว้พิจารณาอีกแล้ว… เราควร…”

 

 

“เธอคิดจะให้ฉันลดค่าตัวลงหรือไง ถ้าฉันทำแบบนั้นฉันยังคงเป็นไป๋อวี๋ นักแสดงหญิงยอดเยี่ยมระดับโลกอยู่งั้นเหรอ” ไป๋อวี๋ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว

 

 

“ถ้างั้น… ลองดูงานนี้นะคะ” ผู้ช่วยคนนั้นยืนข้อมูลให้ไป๋อวี๋ด้วยความหวาดวิตก พวกเธอมาถึงจุดนี้แล้วแท้ๆ แต่ไป๋อวี๋ก็ยังคงวางมาด ละครของเธอล้มเหลวอย่างเกินความคาดหมายและกลายเป็นเพียงเรื่องน่าขบขัน เธอยังทำตัวมั่นใจแบบนี้อยู่ได้ยังไงกัน

 

 

ไป๋อวี๋รับข้อมูลจากมือของผู้ช่วยเธอและจ้องมองอีกฝ่ายขณะที่เธอขว้างมันลงกับพื้น “เธอคิดจะให้ฉันไปออกรายการเรียลลิตี้เหมือนพวกเด็กใหม่งั้นเหรอ”

 

 

“ขอโทษค่ะพี่อวี๋ ฉันจะรีบเอาออกไปเดี๋ยวนี้ละค่ะ”

 

 

ขณะที่เธอมองดูผู้ช่วยก้มลงเก็บเอกสารจากพื้น เธอรีบห้ามอีกฝ่าย “เดี๋ยวก่อน มันอาจจะน่าลองดูก็ได้”

 

 

การขายอีคิวของตัวเองเป็นความสามารถพิเศษของเธอ!

 

 

ผู้ช่วยยื่นเอกสารพวกนั้นให้เธออีกครั้ง หลังจากไป๋อวี๋อ่านข้อมูลทั้งหมด เธอยินยอมที่จะร่วมรายการเรียลลิตี้ที่มีชื่อว่า ‘วันเดย์วันไนต์’ ทุกวันนี้รายการเรียลลิตี้เกือบทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นการซื้อลิขสิทธิ์มาจากประเทศเกาหลีใต้ทั้งสิ้น มีไม่กี่รายการเท่านั้นที่ถูกคิดขึ้นใหม่ แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามันเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วในการสร้างความนิยม

 

 

เพราะถึงอย่างไร คนที่มีอีคิวสูงมักจะได้รับความนิยมเสมอ

 

 

แต่ไป๋อวี๋ต้องประหลาดใจ… เมื่อรู้ว่าหวงฝู่ซั่วก็มาร่วมรายการนี้ด้วยเช่นกัน ที่จริงเธอจะปรากฏตัวในตอนเดียวกับเธอด้วย

 

 

หวงฝู่ซั่วไม่เคยออกรายการวาไรตี้มาก่อนไม่ใช่เหรอ

 

 

“พี่อวี๋ ทำไมเราไม่หาข้ออ้างที่จะไม่ร่วมรายการล่ะคะ”

 

 

ไป๋อวี๋จ้องหน้าผู้ช่วยของเธอหลังได้ยินคำเสนอแนะ ตอนนี้อาชีพของเธอกำลังตกอับ หากเธอปฏิเสธงานนี้แบบส่งๆ แล้วจะมีรายการวาไรตี้ไหนมาเชิญเธอไปร่วมงานด้วยอีก

 

 

“ฉันจะไป”

 

 

แต่เธอต้องการรู้ว่าทำไมหวงฝู่ซั่วถึงตัดสินใจทำแบบนี้

 

 

ดังนั้นก่อนที่รายการจะเริ่มถ่ายทำ ไป๋อวี๋ไปหาหวงฝู่ซั่วเป็นการส่วนตัว “คุณไปออกรายการนี้เพราะฉันใช่ไหม”

 

 

หวงฝู่ซั่วยืนอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าโดยไม่เชิญไป๋อวี๋เข้าไปด้านในพลางตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบเป็นเชิงสั่งสอน “คุณไป๋ครับ คุณไม่คิดว่าคุณมองตัวเองสูงไปหน่อยงั้นเหรอ ผมเป็นแค่นักแสดงเกรดบีคนหนึ่ง การไปร่วมรายการแบบนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผม แล้วคุณล่ะ นักแสดงหญิงยอดเยี่ยมระดับโลกกลับมาลดค่าตัวเองแบบนี้ คุณไม่คิดว่าความแตกต่างระหว่างคุณกับถังหนิงมันเริ่มมากขึ้นทุกทีแล้วเหรอ”

 

 

ไป๋อวี๋ได้แต่ยืนเงียบ…

 

 

เพราะทุกถ้อยคำของหวงฝู่ซั่วทิ่มเทงจุดอ่อนของเธออย่างเจ็บปวด

 

 

“โธ่อาซั่ว อย่าเข้าข้างถังหนิงได้ไหม”

 

 

“ผมไม่ได้อยู่ข้างใครทั้งนั้น” หวงฝู่ซั่วกอดอก “ผมจะรอดูการโต้กลับของคุณ อย่าทำให้ผมผิดหวังล่ะคุณไป๋”

 

 

“คุณคงมีความสุขสินะที่ได้เห็นฉันดิ่งลงเหวแบบนี้”

 

 

“แล้วทำไมผมจะไม่มีความสุขล่ะ” หวงฝู่ซั่วตอบ “โทษทีนะคุณไป๋ ผมคิดว่าเราน่าจะไปเจอกันในรายการดีกว่า ผมกลัวว่าถ้านักข่าวเกิดถ่ายรูปเราสองคนได้ ผมจะไม่สามารถแก้ต่างให้ตัวเองได้ เพราะถึงยังไงความนิยมของผมกำลังพุ่งขึ้นเพราะ ‘หวงเฟยยอดสตรี’ ด้วยสิ”

 

 

ไป๋อวี๋กลั้นน้ำตาขณะหันหลังกลับออกมา แต่ถึงเป็นเช่นนั้นหวงฝู่ซั่วก็ไม่รู้สึกเมตตาสงสารอีกฝ่ายเลยแม้แต่นิดเดียว เขารู้จักอีกฝ่ายดีเกินไป เธอไม่เคยมีความจริงใจให้ใครทั้งนนั้น เพราะความสามารถพิเศษของผู้หญิงคนนี้คือการหลอกตัวเอง

 

 

ดังนั้น… ทั้งสองจะไปร่วมรายการด้วยกัน…

 

 

หวงฝู่ซั่วยิ้มเยาะ เป็นความจริงเรื่องที่เขาจะไปร่วมรายการนี้เพราะไป๋อวี๋ เขาเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าเขาจะฉีกหน้ากากของไป๋อวี๋ออกก่อนที่ ‘หวงเฟยยอดสตรี’ จะลงมือทำอะไร และเวลานั้นได้มาถึงแล้ว

 

 

ถึงเวลาดูอะไรดีๆ แล้ว!

 

 

 

 

“ฉันได้ยินมาว่าไป๋อวี๋จะไปออกรายการวาไรตี้” ถังหนิงพูดกับโม่ถิงขณะที่เธอกำลังให้นมกั่วกั่วหลังมื้อค่ำ “ทำไมถึงทำอะไรที่ลดค่าตัวเองแบบนั้นด้วย”

 

 

“เหตุผลเดียวที่ทำให้เธออยู่รอดในวงการมาได้จนถึงทุกวันนี้คือเล่ห์เหลี่ยมเห็นแก่ตัวต่างๆ คุณไปคาดหวังว่าผู้หญิงคนนั้นจะมีความฉลาดในการตัดสินใจอะไรด้วยงั้นเหรอครับ” โม่ถิงถาม “ไม่ว่าทางไหนก็ต้องมีการเผชิญหน้ากันอยู่แล้ว…”

 

 

โม่ถิงไม่พูดต่อ แต่ถังหนิงเข้าใจถึงความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดของอีกฝ่าย

 

 

ไม่ว่ามันจะเป็นการแก้แค้นของหวงฝู่ซั่วหรือเรื่องที่ไป๋หลินหลินกับสามีของไป๋อวี๋คบชู้กัน ทั้งสองเรื่องล้วนกำลังจะฉีกไป๋อวี๋เป็นชิ้นๆ

 

 

ทั้งสองไม่ได้พูดคุยอะไรต่ออีก พวกเขาเพียงแค่ทุ่มเทพลังทั้งหมดให้ลูกทั้งสอง ขณะที่เธอมองดูลุดชายที่น่ารักทั้งสองคนของเธอ ถังหนิงหยิกแก้มของถังถังเบาๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว ส่วนกั่วกั่วนั้นมักจะขี้แย เธอจึงไม่อาจแกล้งหยอกเขาได้

 

 

แต่สิ่งที่น่าขันที่สุดคือขณะที่ถังถังกำลังอยู่ในอ้อมแขนของผู้เป็นพ่อ เขากลับฉี่รดจนเปียกไปทั่วกางเกงของปะป๊าถิง

 

 

“อา อา บา…” ตอนนี้เด็กน้อยทั้งสองมีอายุได้เจ็ดเดือนแล้ว พวกเขาเริ่มเปล่งเสียงเป็นคำพูดและถังถังจะพูดเก่งเป็นพิเศษถ้าเขาอารมณ์ดี หลังจากวาดแผนที่ลงบนร่างกายของพ่อด้วยฉี่ของตัวเองแล้ว ถังถังมีความสุขมากจนตะโกนออกมาเสียงดัง

 

 

ถังหนิงได้แต่หัวเราะเมื่อเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว

 

 

“รีบไปอาบน้ำเถอะค่ะ…”

 

 

โม่ถิงบรรจงจูบลงบนหัวของลูกชายก่อนจะวางเขาลงในคอกกั้นสำหรับเด็ก ที่จริงโม่ถิงรู้สึกสนุกเมื่อเด็กแสบทั้งสองทำอะไรซุกซนเมื่ออยู่ในอ้อมแขนของเขา ในฐานะพ่อคน ไม่มีอะไรที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นใจมากไปกว่านี้อีกแล้ว

 

 

วันต่อมา โม่ถิงเดินทางไปทำงานตามปกติ แต่ทันทีที่เขาก้าวเท้าออกจากรถ เขาพลันถูกห้อมล้อมด้วยบรรดานักข่าวมากมาย ดูเหมือนว่าจะถึงเวลาเปลี่ยนทีมรักษาความปลอดภับที่ดูแลลานจอดรถชั้นใต้ดินเสียแล้ว

 

 

“ประธานโม่คะ คุณวางแผนจะทำอาชีพนักแสดงต่อไปไหมคะ”

 

 

“ประธานโม่ครับ คุณจะเปลี่ยนเป้าหมายในการทำงานไหมครับ”

 

 

“ประธานโม่คะ ต่อจาก ‘หวงเฟยยอดสตรี’ คุณจะมีโปรเจกต์อื่นอีกไหมคะ”

 

 

“ประธานโม่คะ ทุกคนต่างสงสัยในการแสดงของคุณ ช่วยบอกเราเกี่ยวกับการฝึกซ่อมของคุณหน่อยได้ไหมคะ”

 

 

“ผมไม่คิดว่ามันมีความจำเป็นอะไรที่ผมต้องบอกรายละเอียดในเนื้องานของผม ถึงอย่างนั้นผมคงต้องพูดว่าสิ่งที่ผมชอบมากที่สุดคือการได้อยู่บ้านและเป็นพ่อคน…” โม่ถิงจัดการปิดปากนักข่าวทุกคนโดยไม่ต้องใช้แรงอะไรเลย

 

 

ส่งผลให้เกิดข่าวลือใหม่ขึ้นในกระแสว่าโม่ถิงร่วมแสดงใน ‘หวงเฟยยอดสตรี’ เพราะถังหนิง…

 

 

เพราะถึงอย่างไรเขาก็ได้ชื่อว่าเป็น ‘หัวหน้าสมาคมคนหลงเมีย’

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ถังหนิง ผู้กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นนางแบบแนวหน้า แต่เพราะรักจึงสละสิ้นทุกอย่าง ทว่าคืนก่อนวันวิวาห์ที่เธอกำลังจะได้ครองรักดั่งหวังนั่นเอง คู่หมั้นของเธอกลับหนีออกไปกับหญิงอื่น ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เธอจึงเดินจ้ำไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสำนักงานเขต “ประธานโม่คะ ในเมื่อเจ้าสาวของคุณยังไม่มาและเจ้าบ่าวของฉันก็หนีไปแล้วอย่างนี้… ฉันว่า… เรามาแต่งงานกันเสียเลยดีไหมคะ” … ก่อนแต่งงานเธอเอ่ยว่า “แม้เราจะนอนร่วมเตียงกัน แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา” หลังแต่งงานเขาเอ่ยว่า “ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้หรือ”

Options

not work with dark mode
Reset