วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ – ตอนที่ 1057 ใครมันจะทำให้หนังของตัวเองเสื่อมเสียอย่างนั้น

“ดังนั้นเราจะประชาสัมพันธ์หนังตามแผนที่วางไว้ต่อไป ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งนั้น”       หลังได้ยินคำสั่งของถังหนิง หลงเจี่ยรู้สึกราวกับพวกเธอได้ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่ถังหนิงผันตัวมาเป็นนักแสดงครั้งแรก “คุณยังจำที่โดนเหยียดหยามตอนที่แสดงหนังเรื่อง  โง่  ได้ไหมคะ มีคนเยอะแยะที่รอให้คุณกลายเป็นจุดตกต่ำของวงการหนัง       “แต่หลังจาก โง่ ไปจนกระทั่ง ผู้รอดชีพ ทุกๆ ผลงานที่คุณถ่ายทำก็สร้างปาฏิหาริย์ให้กับวงการหนังตลอด”       “อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันแล้วไปเถอะ มาตั้งใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าจะดีกว่านะ” ถังหนิงเอ่ยย้ำ “อย่าไปจมปลักกับเรื่องในอดีตเลย ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่มีทางเห็นตัวเองได้ชัดเจนหรอก อีกอย่างใครจะบอกได้ว่า มดราชินี จะไม่ล้มเหลวกันล่ะ”       “หวังว่ามันจะเป็นไปด้วยดีนะคะ!” หลงเจี่ยลั่นขึ้น “ใครมันจะทำให้หนังของตัวเองเสื่อมเสียอย่างนั้นกันล่ะ”       ถังหนิงมองปฏิกิริยาของหลงเจี่ยก่อนหัวเราะออกมา จากนั้นจึงดาวน์โหลดวิดีโอที่หันซิวเช่อปลอมขึ้นมาลงในโทรศัพท์ แม้ว่าเธอจะถูกถากถางเธอก็ยังรู้สึกว่าตัวเองสามารถหาเบาะแสของคนร้ายได้จากวิดีโอพวกนี้       แน่นอนว่าโม่ถิงได้สนับสนุนการตัดสินใจของถังหนิง…       …       บ่ายวันนั้นห้องนั่งเล่นของถังหนิงและโม่ถิงตกอยู่ในความว่างเปล่า หากแต่ข่าวบันเทิงกำลังถูกเปิดเอาไว้       “ถังหนิง เจ้าของรางวัลเฟยเทียนนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมสองสมัยซ้อน กำลังจะปล่อยผลงานชิ้นต่อไปของเธอออกมาสู่วงการภาพยนตร์ ทว่าไม่นานมานี้มีวิดีโอที่หลุดออกมาในโลกออนไลน์ ดูจากคุณภาพของวิดีโอที่หลุดออกมาแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้คงไม่น่าคาดหวังสักเท่าไหร่นัก วันนี้เราจึงพาทุกคนมาถึงไห่รุ่ยเพื่อสัมภาษณ์ประธานโม่ เผื่อว่าเราจะได้ข้อมูลที่เป็นที่แน่ชัดจากเขามากกว่านี้ค่ะ”       ก่อนกล้องจะหันไปทางโม่ถิงที่กำลังเดินออกมาจากไห่รุ่ย       “ประธานโม่คะ คุณช่วยยืนยันได้ไหมคะว่าวิดีโอที่กำลังแพร่สะพัดไปทั่วโลกออนไลน์เป็นของจริงหรือเปล่า”       “เดี๋ยวพวกคุณก็จะรู้ตอนที่ตัวอย่างหนังอย่างเป็นทางการออกมาเองครับ” โม่ถิงตอบ       หลังจากเดินตามมากว่าหนึ่งดนาที นี่เป็นเพียงคำตอบเดียวจากเขา อย่างไรก็ตามมันเป็นคำตอบที่แทบจะไม่ใช่คำตอบแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าเขาจะได้บอกใบ้อย่างอ้อมๆ ว่าวิดีโอนั้นไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในภาพยนตร์ของถังหนิง อย่างไรเสียหากเป็นวิดีโอจากภาพยนตร์ของถังหนิงจริงพวกเขาคงไม่อาจทำตามแผนการตลาดเดิมได้       ดูเหมือนว่าจะยังมีข้อกังขาอีกมากกับความเป็นจริงเบื้องหลังวิดีโอที่หลุดออกมา       ทว่าจากมุมมองของคนส่วนใหญ่ ถังหนิงเป็นคนที่มุ่งมั่นตั้งใจ เพื่อการผลิตผลงานไซไฟที่ดี เธอยอมเดือดร้อนเพราะชีวิตของเฉียวเซิน อย่างไรก็ตามความตั้งใจกับความเป็นมืออาชีพไม่เหมือนกัน ถึงถังหนิงจะเป็นคนประณีตแต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่ภาพยนตร์ของเธอจะล่มได้       เพราะมันไม่ได้เป็นภาพยนตร์ธรรมดาแต่เป็นภาพยนตร์ไซไฟ!       ภาพยนตร์ไซไฟซึ่งยากที่สุด       ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทำหรือการตัดต่อ ผู้ชมสามารถเห็นผลที่ออกมาได้อย่างชัดเจน มันไม่สามารถหลอกสายตากันได้       ดังนั้นคนในวงการจึงไม่ได้ตั้งความหวังกับภาพยนตร์ไว้สูง       ไม่ใช่เพราะถังหนิงไม่มีทักษะการแสดงหรือทุ่มเทไม่พอ หากแต่เป็นเพราะเธอเลือกเส้นทางที่ยากลำบากที่สุดต่างหาก       ถังหนิงรู้ความจริงข้อนี้ดีมากกว่าใครๆ แต่มันจะมีความหมายอะไรกันล่ะ       เธอมองรายชื่อภาพยนตร์ที่กำลังจะเข้าฉาย มีเรื่องหนึ่งน่าจับตามองกับอีกเรื่องที่ดูธรรมดา รวมถึงหนังทุ่มทุนสร้างจากอเมริกาอีกหนึ่งเรื่อง ในขณะที่ความคาดหวังในภาพยนตร์ของเธอได้ลดลง เมื่อเห็นดังนี้ถังหนิงรู้สึกคุ้นเคยขึ้นมา เธอจึงหัวเราะอย่างปลงตก ทำไมทุกครั้งที่เธอลองทำสิ่งใหม่ๆ ถึงต้องเจอกับสถานการณ์อย่างนี้ทุกทีไป       ในขณะที่โม่ถิงกลับไม่ทุกข์ร้อนกับทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้น หลังจากไห่รุ่ยทำการตรวจสอบตัวอย่างภาพยนตร์ครั้งสุดท้าย พวกเขาตัดสินใจที่จะปล่อยในอีกสามวันหลังจากนั้นในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ       ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ทั้งหมด เป็นอีกครั้งที่ถังหนิงได้ดูถูกการท้าทายของหันซิวเช่อ       มันทำให้หันซิวเช่อกรุ่นโกรธ!       ส่วนเรื่องกลุ่มแฟนคลับถังหนิง หลงเจี่ยไม่ได้เปิดเผยอะไรให้พวกเขารู้อีก และไม่ได้ออกมาชี้แจงกับเรื่องที่เกิดขึ้น       หากแต่แม้ว่าวิธีการของหันซิวเช่อจะหลอกคนภายนอกได้ แต่มันไม่อาจเล็ดลอดสายตาพี่ชายของเขาไปได้       “ครั้งที่แล้วนายก็เกือบทำให้ฉันต้องคุกเข่าขอโทษแทนไปแล้ว คราวนี้คิดอะไรอยู่อีกล่ะ นายเป็นคนที่ปลอมวิดีโอนั้นขึ้นมาใช่ไหม”       “พี่ครับ ผมติดหนี้บุญคุณพี่อยู่ไง” หันซิวเช่อจะแสดงความอ่อนแอให้เห็นเพียงเล็กน้อยเมื่ออยู่ต่อหน้าพี่ชายของตัวเองเท่านั้น       “ชาติที่แล้วฉันต้องไปทำกรรมอะไรกับนายแน่ๆ เลิกซ่อนตัวแล้วกลับบ้านซะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นายก็มีฉันอยู่ตรงนี้” พี่ชายของเขาว่าขึ้นอย่างอ่อนโยน “จากทุกคนบนโลกใบนี้ ฉันมั่นใจว่านายรู้ว่าฉันดีกับนายที่สุดแล้ว”       ด้วยหันซิวเช่อขาดแม่ไปตั้งแต่ยังเล็ก พี่ชายของเขาจึงเป็นคนที่ทำหน้าที่ทั้งสอง       เขารู้ว่าพี่ชายของตัวเองต้องยากลำบากกับแสดงอารมณ์ความรู้สึกของเขาจึงใจดีกับเขาเป็นพิเศษ ต่อให้หันซิวเช่อจะก่อเรื่องใหญ่โตขนาดไหนก็ยังพยายามที่จะเข้าใจและให้อภัยเขา       เมื่อเป็นเรื่องหยุมหยิมหันซิวเช่อจึงไม่ยอมฟังใคร แต่พอเป็นเรื่องใหญ่เขายังต้องยอมฟังพี่ชายของเขา       “ที่แท้นายก็จะคอยอาฆาตถังหนิงไปตลอดชีวิตเลยสินะ…”       อันที่จริงทันทีที่พี่ชายของเขารู้ว่าหันซิวเช่อทำวิดีโอปลอมขึ้นมา เขาก็ตัดสินใจว่าจะย้ายน้องชายไปอยู่ที่อื่น เพราะเขารู้ว่าอีกไม่นานถังหนิงก็จะหาเขาเจอเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงต้องรับประกันความปลอดภัยให้กับน้องชายของตัวเอง       “แต่ต่อให้ไห่รุ่ยจะมาตามหานาย ฉันก็จะทำทุกทางเพื่อปกป้องและเลี่ยงไม่ให้นายเป็นอันตรายอยู่ดี!”       หากมีใครสักคนถามว่าการตามใจจนเสียคนเป็นอย่างไร พี่ชายของหันซิวเช่อคงเป็นตัวอย่างชั้นเยี่ยม       “ฉันละไม่อยากจะเชื่อว่านายจะทำอย่างนี้ ต้องทำถึงขนาดนี้เพื่อใส่ร้ายถังหนิงเลยหรือไง!”       ดูจากท่าทีแล้วพี่ชายของเขาคงคิดว่าการกระทำของน้องชายงี่เง่าสิ้นดี หากแต่เขาเองก็รู้สึกว่ามันเป็นวิธีที่ง่ายและตรงไปตรงมา ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะจัดการกับถังหนิง!       ไม่กี่วันถัดมาผ่านไปโดยที่ทั้งไห่รุ่ยและถังหนิงไม่ได้ออกมาชี้แจงหรือตอบโต้วิดีโอปลอมนั้นแต่อย่างใด เพราะสำหรับถังหนิงแล้ววิดีโอพวกนี้แทบไม่ได้อยู่ในสายตาแม้แต่น้อย       ในขณะเดียวกันโม่ถิงได้เตรียมการสำหรับการประชาสัมพันธ์ตัวอย่างหนังรอบแรกที่จะถูกปล่อยในอีก 3 วันซึ่งตรงกับบ่ายวันอาทิตย์       ด้วยเป็นวันหยุดผู้คนจึงมักมารวมตัวกันที่โรงภาพยนตร์ หลังจากโรงภาพยนตร์หลายแห่งตอบรับกับไห่รุ่ย พวกเขาจึงตกลงที่จะฉายตัวอย่างภาพยนตร์ทันที…       ในบ่ายวันนั้น คอภาพยนตร์ทั้งหลายเข้ามาในโรงอย่างไม่ได้คาดหวัง เมื่อตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องแรกเริ่มฉาย พวกเขาต่างอึ้งไปในทันทีกับการปรากฏตัวของมดขนาดยักษ์บนหน้าจอ ในขณะที่รู้สึกตื่นตาตื่นใจด้วยภาพที่น่าติดตามเกินทน       หลังจากนั้นจึงตามมาด้วยฉากน่าระทึกใจอื่นๆ ที่โลดแล่นบนหน้าจอ แต่ทุกคนกลับมุ่งความสนใจไปที่ใครบางคน…       …นักแสดงนำชาย…       ชายที่ทำให้คนต้องยำเกรง โม่ถิงนั่นเอง!       ตามมาด้วยชื่อของผู้กำกับที่โผล่ขึ้นมา เฉียวเซินและอันจื่อเฮ่า!       และชื่อของผู้สร้าง ถังหนิง!       หลังจากตัวอย่างภาพยนตร์เป็นเวลายี่สิบวินาทีจบลง ชื่อภาพยนตร์ได้ฉายขึ้นกลางหน้าจอในท้ายที่สุด มดราชินี !  

“ดังนั้นเราจะประชาสัมพันธ์หนังตามแผนที่วางไว้ต่อไป ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งนั้น”  

 

 

หลังได้ยินคำสั่งของถังหนิง หลงเจี่ยรู้สึกราวกับพวกเธอได้ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่ถังหนิงผันตัวมาเป็นนักแสดงครั้งแรก “คุณยังจำที่โดนเหยียดหยามตอนที่แสดงหนังเรื่อง  โง่  ได้ไหมคะ มีคนเยอะแยะที่รอให้คุณกลายเป็นจุดตกต่ำของวงการหนัง  

 

 

“แต่หลังจาก โง่ ไปจนกระทั่ง ผู้รอดชีพ ทุกๆ ผลงานที่คุณถ่ายทำก็สร้างปาฏิหาริย์ให้กับวงการหนังตลอด”  

 

 

“อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันแล้วไปเถอะ มาตั้งใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าจะดีกว่านะ” ถังหนิงเอ่ยย้ำ “อย่าไปจมปลักกับเรื่องในอดีตเลย ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่มีทางเห็นตัวเองได้ชัดเจนหรอก อีกอย่างใครจะบอกได้ว่า มดราชินี จะไม่ล้มเหลวกันล่ะ”  

 

 

“หวังว่ามันจะเป็นไปด้วยดีนะคะ!” หลงเจี่ยลั่นขึ้น “ใครมันจะทำให้หนังของตัวเองเสื่อมเสียอย่างนั้นกันล่ะ”  

 

 

ถังหนิงมองปฏิกิริยาของหลงเจี่ยก่อนหัวเราะออกมา จากนั้นจึงดาวน์โหลดวิดีโอที่หันซิวเช่อปลอมขึ้นมาลงในโทรศัพท์ แม้ว่าเธอจะถูกถากถางเธอก็ยังรู้สึกว่าตัวเองสามารถหาเบาะแสของคนร้ายได้จากวิดีโอพวกนี้  

 

 

แน่นอนว่าโม่ถิงได้สนับสนุนการตัดสินใจของถังหนิง…  

 

 

…  

 

 

บ่ายวันนั้นห้องนั่งเล่นของถังหนิงและโม่ถิงตกอยู่ในความว่างเปล่า หากแต่ข่าวบันเทิงกำลังถูกเปิดเอาไว้  

 

 

“ถังหนิง เจ้าของรางวัลเฟยเทียนนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมสองสมัยซ้อน กำลังจะปล่อยผลงานชิ้นต่อไปของเธอออกมาสู่วงการภาพยนตร์ ทว่าไม่นานมานี้มีวิดีโอที่หลุดออกมาในโลกออนไลน์ ดูจากคุณภาพของวิดีโอที่หลุดออกมาแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้คงไม่น่าคาดหวังสักเท่าไหร่นัก วันนี้เราจึงพาทุกคนมาถึงไห่รุ่ยเพื่อสัมภาษณ์ประธานโม่ เผื่อว่าเราจะได้ข้อมูลที่เป็นที่แน่ชัดจากเขามากกว่านี้ค่ะ”  

 

 

ก่อนกล้องจะหันไปทางโม่ถิงที่กำลังเดินออกมาจากไห่รุ่ย  

 

 

“ประธานโม่คะ คุณช่วยยืนยันได้ไหมคะว่าวิดีโอที่กำลังแพร่สะพัดไปทั่วโลกออนไลน์เป็นของจริงหรือเปล่า”  

 

 

“เดี๋ยวพวกคุณก็จะรู้ตอนที่ตัวอย่างหนังอย่างเป็นทางการออกมาเองครับ” โม่ถิงตอบ  

 

 

หลังจากเดินตามมากว่าหนึ่งดนาที นี่เป็นเพียงคำตอบเดียวจากเขา อย่างไรก็ตามมันเป็นคำตอบที่แทบจะไม่ใช่คำตอบแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าเขาจะได้บอกใบ้อย่างอ้อมๆ ว่าวิดีโอนั้นไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในภาพยนตร์ของถังหนิง อย่างไรเสียหากเป็นวิดีโอจากภาพยนตร์ของถังหนิงจริงพวกเขาคงไม่อาจทำตามแผนการตลาดเดิมได้  

 

 

ดูเหมือนว่าจะยังมีข้อกังขาอีกมากกับความเป็นจริงเบื้องหลังวิดีโอที่หลุดออกมา  

 

 

ทว่าจากมุมมองของคนส่วนใหญ่ ถังหนิงเป็นคนที่มุ่งมั่นตั้งใจ เพื่อการผลิตผลงานไซไฟที่ดี เธอยอมเดือดร้อนเพราะชีวิตของเฉียวเซิน อย่างไรก็ตามความตั้งใจกับความเป็นมืออาชีพไม่เหมือนกัน ถึงถังหนิงจะเป็นคนประณีตแต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่ภาพยนตร์ของเธอจะล่มได้  

 

 

เพราะมันไม่ได้เป็นภาพยนตร์ธรรมดาแต่เป็นภาพยนตร์ไซไฟ!  

 

 

ภาพยนตร์ไซไฟซึ่งยากที่สุด  

 

 

ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทำหรือการตัดต่อ ผู้ชมสามารถเห็นผลที่ออกมาได้อย่างชัดเจน มันไม่สามารถหลอกสายตากันได้  

 

 

ดังนั้นคนในวงการจึงไม่ได้ตั้งความหวังกับภาพยนตร์ไว้สูง  

 

 

ไม่ใช่เพราะถังหนิงไม่มีทักษะการแสดงหรือทุ่มเทไม่พอ หากแต่เป็นเพราะเธอเลือกเส้นทางที่ยากลำบากที่สุดต่างหาก  

 

 

ถังหนิงรู้ความจริงข้อนี้ดีมากกว่าใครๆ แต่มันจะมีความหมายอะไรกันล่ะ  

 

 

เธอมองรายชื่อภาพยนตร์ที่กำลังจะเข้าฉาย มีเรื่องหนึ่งน่าจับตามองกับอีกเรื่องที่ดูธรรมดา รวมถึงหนังทุ่มทุนสร้างจากอเมริกาอีกหนึ่งเรื่อง ในขณะที่ความคาดหวังในภาพยนตร์ของเธอได้ลดลง เมื่อเห็นดังนี้ถังหนิงรู้สึกคุ้นเคยขึ้นมา เธอจึงหัวเราะอย่างปลงตก ทำไมทุกครั้งที่เธอลองทำสิ่งใหม่ๆ ถึงต้องเจอกับสถานการณ์อย่างนี้ทุกทีไป  

 

 

ในขณะที่โม่ถิงกลับไม่ทุกข์ร้อนกับทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้น หลังจากไห่รุ่ยทำการตรวจสอบตัวอย่างภาพยนตร์ครั้งสุดท้าย พวกเขาตัดสินใจที่จะปล่อยในอีกสามวันหลังจากนั้นในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ  

 

 

ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ทั้งหมด เป็นอีกครั้งที่ถังหนิงได้ดูถูกการท้าทายของหันซิวเช่อ  

 

 

มันทำให้หันซิวเช่อกรุ่นโกรธ!  

 

 

ส่วนเรื่องกลุ่มแฟนคลับถังหนิง หลงเจี่ยไม่ได้เปิดเผยอะไรให้พวกเขารู้อีก และไม่ได้ออกมาชี้แจงกับเรื่องที่เกิดขึ้น  

 

 

หากแต่แม้ว่าวิธีการของหันซิวเช่อจะหลอกคนภายนอกได้ แต่มันไม่อาจเล็ดลอดสายตาพี่ชายของเขาไปได้  

 

 

“ครั้งที่แล้วนายก็เกือบทำให้ฉันต้องคุกเข่าขอโทษแทนไปแล้ว คราวนี้คิดอะไรอยู่อีกล่ะ นายเป็นคนที่ปลอมวิดีโอนั้นขึ้นมาใช่ไหม”  

 

 

“พี่ครับ ผมติดหนี้บุญคุณพี่อยู่ไง” หันซิวเช่อจะแสดงความอ่อนแอให้เห็นเพียงเล็กน้อยเมื่ออยู่ต่อหน้าพี่ชายของตัวเองเท่านั้น  

 

 

“ชาติที่แล้วฉันต้องไปทำกรรมอะไรกับนายแน่ๆ เลิกซ่อนตัวแล้วกลับบ้านซะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นายก็มีฉันอยู่ตรงนี้” พี่ชายของเขาว่าขึ้นอย่างอ่อนโยน “จากทุกคนบนโลกใบนี้ ฉันมั่นใจว่านายรู้ว่าฉันดีกับนายที่สุดแล้ว”  

 

 

ด้วยหันซิวเช่อขาดแม่ไปตั้งแต่ยังเล็ก พี่ชายของเขาจึงเป็นคนที่ทำหน้าที่ทั้งสอง  

 

 

เขารู้ว่าพี่ชายของตัวเองต้องยากลำบากกับแสดงอารมณ์ความรู้สึกของเขาจึงใจดีกับเขาเป็นพิเศษ ต่อให้หันซิวเช่อจะก่อเรื่องใหญ่โตขนาดไหนก็ยังพยายามที่จะเข้าใจและให้อภัยเขา  

 

 

เมื่อเป็นเรื่องหยุมหยิมหันซิวเช่อจึงไม่ยอมฟังใคร แต่พอเป็นเรื่องใหญ่เขายังต้องยอมฟังพี่ชายของเขา  

 

 

“ที่แท้นายก็จะคอยอาฆาตถังหนิงไปตลอดชีวิตเลยสินะ…”  

 

 

อันที่จริงทันทีที่พี่ชายของเขารู้ว่าหันซิวเช่อทำวิดีโอปลอมขึ้นมา เขาก็ตัดสินใจว่าจะย้ายน้องชายไปอยู่ที่อื่น เพราะเขารู้ว่าอีกไม่นานถังหนิงก็จะหาเขาเจอเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงต้องรับประกันความปลอดภัยให้กับน้องชายของตัวเอง  

 

 

“แต่ต่อให้ไห่รุ่ยจะมาตามหานาย ฉันก็จะทำทุกทางเพื่อปกป้องและเลี่ยงไม่ให้นายเป็นอันตรายอยู่ดี!”  

 

 

หากมีใครสักคนถามว่าการตามใจจนเสียคนเป็นอย่างไร พี่ชายของหันซิวเช่อคงเป็นตัวอย่างชั้นเยี่ยม  

 

 

“ฉันละไม่อยากจะเชื่อว่านายจะทำอย่างนี้ ต้องทำถึงขนาดนี้เพื่อใส่ร้ายถังหนิงเลยหรือไง!”  

 

 

ดูจากท่าทีแล้วพี่ชายของเขาคงคิดว่าการกระทำของน้องชายงี่เง่าสิ้นดี หากแต่เขาเองก็รู้สึกว่ามันเป็นวิธีที่ง่ายและตรงไปตรงมา ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะจัดการกับถังหนิง!  

 

 

ไม่กี่วันถัดมาผ่านไปโดยที่ทั้งไห่รุ่ยและถังหนิงไม่ได้ออกมาชี้แจงหรือตอบโต้วิดีโอปลอมนั้นแต่อย่างใด เพราะสำหรับถังหนิงแล้ววิดีโอพวกนี้แทบไม่ได้อยู่ในสายตาแม้แต่น้อย  

 

 

ในขณะเดียวกันโม่ถิงได้เตรียมการสำหรับการประชาสัมพันธ์ตัวอย่างหนังรอบแรกที่จะถูกปล่อยในอีก 3 วันซึ่งตรงกับบ่ายวันอาทิตย์  

 

 

ด้วยเป็นวันหยุดผู้คนจึงมักมารวมตัวกันที่โรงภาพยนตร์ หลังจากโรงภาพยนตร์หลายแห่งตอบรับกับไห่รุ่ย พวกเขาจึงตกลงที่จะฉายตัวอย่างภาพยนตร์ทันที…  

 

 

ในบ่ายวันนั้น คอภาพยนตร์ทั้งหลายเข้ามาในโรงอย่างไม่ได้คาดหวัง เมื่อตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องแรกเริ่มฉาย พวกเขาต่างอึ้งไปในทันทีกับการปรากฏตัวของมดขนาดยักษ์บนหน้าจอ ในขณะที่รู้สึกตื่นตาตื่นใจด้วยภาพที่น่าติดตามเกินทน  

 

 

หลังจากนั้นจึงตามมาด้วยฉากน่าระทึกใจอื่นๆ ที่โลดแล่นบนหน้าจอ แต่ทุกคนกลับมุ่งความสนใจไปที่ใครบางคน…  

 

 

…นักแสดงนำชาย…  

 

 

ชายที่ทำให้คนต้องยำเกรง โม่ถิงนั่นเอง!  

 

 

ตามมาด้วยชื่อของผู้กำกับที่โผล่ขึ้นมา เฉียวเซินและอันจื่อเฮ่า!  

 

 

และชื่อของผู้สร้าง ถังหนิง!  

 

 

หลังจากตัวอย่างภาพยนตร์เป็นเวลายี่สิบวินาทีจบลง ชื่อภาพยนตร์ได้ฉายขึ้นกลางหน้าจอในท้ายที่สุด มดราชินี !  

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์
Status: Ongoing
ถังหนิง ผู้กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นนางแบบแนวหน้า แต่เพราะรักจึงสละสิ้นทุกอย่าง ทว่าคืนก่อนวันวิวาห์ที่เธอกำลังจะได้ครองรักดั่งหวังนั่นเอง คู่หมั้นของเธอกลับหนีออกไปกับหญิงอื่น ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เธอจึงเดินจ้ำไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสำนักงานเขต “ประธานโม่คะ ในเมื่อเจ้าสาวของคุณยังไม่มาและเจ้าบ่าวของฉันก็หนีไปแล้วอย่างนี้… ฉันว่า… เรามาแต่งงานกันเสียเลยดีไหมคะ” … ก่อนแต่งงานเธอเอ่ยว่า “แม้เราจะนอนร่วมเตียงกัน แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา” หลังแต่งงานเขาเอ่ยว่า “ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้หรือ”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset