วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ – ตอนที่ 1089 เขาสมควรที่จะถูกทำให้โกรธจนตาย

ซูอวี๋อดรนทนไม่ไหวในท้ายที่สุดในขณะที่มองสองพี่น้องมีปากเสียงกัน “พอได้แล้ว เธอจะเล่นละครตบตาฉันไปถึงเมื่อไหร่ ฉันรู้ว่าเจตนาที่แท้จริงของเธอก็คือช่วยพ่อตัวเอง และทำให้สื่อลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อยี่สิบปีก่อนไป  

 

 

“ถ้าเป็นอย่างนั้น มีประโยชน์อะไรที่จะมาแสร้งทำเป็นทะเลาะกันล่ะ  

 

 

“มันยิ่งทำให้ฉันดูถูกเธอมากกว่าเดิมซะอีก!  

 

 

“หันซิวเช่อ ฉันไม่รู้ว่าเธอพาฉันมาที่นี่ทำไม เรียกฉันมาดูว่าครอบครัวของเธอรักใคร่กลมเกลียวกันแค่ไหนเหรอ  

 

 

“หรือแค่อยากจะท้าทายฉันกันแน่  

 

 

“ถ้างั้นฉันก็มาอยู่ตรงนี้แล้ว แล้วเธอก็ทำสำเร็จแล้วด้วย การแสดงนี้ควรจะจบลงได้แล้วไม่ใช่หรือไง”  

 

 

หันซิวเช่อมองผู้หญิงด้านล่างเวทีก่อนพลันเงียบไป เพราะว่าซูอวี๋มองไม่ออก… ไม่สิ ว่ากันตามจริง เธอไม่เชื่อว่าเขาจะช่วยเธอต่างหาก  

 

 

หลังจากถูกทำร้ายมายี่สิบปี เทียบกับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเพียงสองวันแล้ว เธอมีเหตุผลอะไรที่ต้องเชื่อเขาด้วยล่ะ  

 

 

คิดได้ดังนั้น หันซิวเช่อก็เหลือบมองหันเจี๋ย พ่อที่หน้าซีดเผือดแล้วก็เลขา ก่อนพยักหน้า เดินลงจากเวทีและส่งสัญญาณให้พนักงานโรงแรมเปิดเครื่องเสียง ไม่นานวิดีโอที่เขาบันทึกบทสนทนาระหว่างเขากับลูกพี่ลูกน้องของเลขาก็เริ่มเล่นบนหน้าจอ  

 

 

“เรื่องนี้มันเริ่มจากลูกพี่ลูกน้องของฉัน ตอนนั้นเธอบอกฉันว่าตั้งท้องแต่คุณหันไม่ยอมหย่า เลยขอให้ฉันช่วยเธอข่มขู่ซูอวี๋ ฉันไม่คิดว่าเรื่องวุ่นวายนี้จะถูกเปิดโปง ตอนนั้นฉันต้องหลงผิดไปแน่ๆ ฉันสาบานว่าไม่เคยคิดฉวยโอกาสกับแม่ของคุณเลย เป็นเพื่อนสมัยเรียนของลูกพี่ลูกน้องฉันต่างหาก”  

 

 

เมื่อประโยคแรกหลุดออกจากปากชายคนนั้น พร้อมกับวิดีโอที่เริ่มเล่นไปบนหน้าจอ ทุกคนต่างตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน  

 

 

ความจริงแล้วหันซิวเช่อได้ข่มขู่ให้ชายคนนั้นเล่าซ้ำในคืนที่พวกเขาเจอกัน  

 

 

เขาจึงบันทึกวิดีโอนี้ไว้ในตอนนั้น!  

 

 

หลังวิดีโอเล่นมาถึงจุดนี้ คุณพ่อหันมองหันเจี๋ยอย่างสงสัย หันซิวเช่อได้วิดีโอนี้มาได้อย่างไร  

 

 

หันเจี๋ยส่ายหน้าด้วยท่าทีงุนงง  

 

 

คุณพ่อหันยืนขึ้น คว้าเก้าอี้ตัวเองขว้างเข้าใส่หน้าจอเสียงดังลั่น ทุกคนสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจกับสิ่งที่คุณพ่อหันทำ!  

 

 

“งานแถลงข่าววันนี้จบลงแต่เพียงเท่านี้ครับ นักข่าวทุกคนออกไปได้แล้ว ที่เหลือผมจะให้ทนายความของผมจัดการ”  

 

 

คุณพ่อหันมองหันซิวเช่อตาขวางขณะที่เน้นย้ำทุกคำพูดด้วยเสียงหนักแน่น!  

 

 

ทว่าหันซิวเช่อไม่ยอมถอย  

 

 

“ถ้าพ่อไม่จบเรื่องนี้ในวันนี้ ผมจะปล่อยวิดีโอนี้ลงอินเทอร์เน็ตให้ทุกคนได้เห็น!”  

 

 

เมื่อคุณพ่อหันได้ยินเช่นนี้ ก็กำหมัดแน่น เดิมทีเขาอยากจะตอบโต้ แต่เลขากลับรีบพุ่งเข้ามาขวางเขาไว้ “ซิวเช่อ อย่าโกรธพ่อไม่ได้เหรอ ผ่านมาตั้งหลายปี เธอไม่โตขึ้นบ้างเลยเหรอ”  

 

 

“คุณนั่นแหละคือคนสุดท้ายที่จะมีสิทธิ์พูด!” หันซิวเช่อตวาดพลางชี้หน้าหลี่ฉิงไอ้ “เป็นเมียน้อยมีสิทธิ์อะไรมาออกความเห็นกับเรื่องของฉัน”  

 

 

“เธอจะทำให้พ่อตัวเองโกรธจนอกแตกตายเลยเหรอ”  

 

 

“เขาสมควรถูกทำให้โกรธจนตายแล้ว!” หันซิวเช่อสวนกลับอย่างเย็นชา  

 

 

“ถังหนิงให้ผลประโยชน์อะไรกับนาย แล้ว ผู้หญิงคนนั้น ให้ผลประโยชน์กับนาย ทำไมนายถึงหันหลังให้คนที่ให้กำเนิดและเลี้ยงดูนายมาได้ลงคอ” หันเจี๋ยคว้าโอกาสนี้ขึ้นเสียงใส่น้องชายตัวเอง “ตอบฉันมาสิ!”  

 

 

“เธอไม่เคยให้ผลประโยชน์อะไรกับผมเลย แต่เป็นพี่ที่ทำให้ผมเจ็บปวดเจียนตาย! พี่คนเดียวเลย!  

 

 

“ทำไมพี่ไม่ปล่อยให้ผมเล่นวิดีโอต่อล่ะ หรือว่าพี่รู้สึกผิดกับบางสิ่งอยู่กันแน่  

 

 

“หรือว่ากลัวคนจะรู้ว่าพี่ร่วมหัวกันใส่ร้ายภรรยาและแม่ตัวเอง  

 

 

“ทำไมพี่ต้องกลัวด้วยล่ะ กล้าทำก็ต้องกล้ารับสิครับ!  

 

 

“ส่วนหลี่ฉิงไอ้ คุณเป็นคนที่น่ารังเกียจที่สุดแล้ว! พวกคุณอาจจะยอมจบงานแถลงข่าวนี้ไปดื้อๆ ได้ แต่ยังไงก็ไม่มีทางเลือกนอกจากก้มหน้ายอมรับผิดเพราะวิดีโอนี้หรอก! คิดให้ดีๆ จะเป็นการดีที่สุดนะครับ!” พูดจบหันซิวเช่อก็เดินไปหาซูอวี๋ก่อนเอ่ยกับเธอ “ผมรู้ว่าคุณคงไม่ให้อภัยผม ไม่ว่าผมจะพูดหรือทำอะไรก็ตาม แต่วันนี้ผมก็ยังได้รู้เรื่อง”  

 

 

ซูอวี๋มองหน้าหันซิวเช่อก่อนสูดหายใจลึก แม้ว่าเธอจะไม่ได้เชื่อใจเขาเสียทีเดียวแต่ก็ไม่ได้ต่อต้านเขาเช่นกัน  

 

 

ตอนนี้พวกเขาอยู่ฝ่ายเดียวกันแล้ว ส่วนที่เหลือนั้นเป็นการตัดสินใจของตระกูลหัน  

 

 

“แล้วยังไงล่ะ”  

 

 

“พ่อครับ!” หันเจี๋ยหันมามองคุณพ่อหัน  

 

 

คุณพ่อหันไม่ได้ตอบกลับในทันที หลังเงียบไปครู่หนึ่ง เขาพุ่งลงมาจากเวทีและต่อยหน้าหันซิวเช่อ “นับตั้งแต่วันนี้ ฉันจะถือว่าแกไม่เคยเป็นลูกชายของฉัน!”  

 

 

ผู้สื่อข่าวอ้าปากค้างอย่างตกใจ และคิดว่าพ่อลูกกำลังจะสู้กันเอง แต่หันซิวเช่อลูบคางตัวเอง ลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับพ่อของตัวเองอย่างไม่เกรงกลัว  

 

 

แน่นอนว่าการกระทำของเขาในวันนี้ไม่อาจชดเชยเรื่องเลวร้ายที่เขาเคยทำเมื่อก่อนได้ แต่อย่างน้อยเขาก็ได้แสดงมนุษยธรรมให้เห็นบ้าง  

 

 

ด้วยวิดีโอที่หันซิวเช่อถ่ายมา คุณพ่อหันดิ้นไปไหนไม่หลุด เขาจะทำอะไรได้อีก หรือเขาจะอ้างว่าวิดีโอนั้นถูกปลอมขึ้นมาเหมือนกัน  

 

 

หากเขาทำเช่นนั้นจริง เช่นนั้นเขาก็คงกำลังหลอกตัวเองและหาเรื่องให้ตัวเองขายหน้า  

 

 

“ไหนๆ เรื่องก็มาถึงจุดนี้แล้ว ฉันไม่มีอะไรจะพูดทั้งนั้น…” คุณพ่อหันเอ่ยก่อนหันกลับออกไปจากโรงแรม นั่นหมายความว่าหันซิวเช่อจะเปิดโปงอะไรก็ตามใจ เขาจะไม่นั่งโดนถูกหยามหน้าอยู่เฉยๆ  

 

 

หันเจี๋ยมองคุณพ่อหันที่เดินจากไป เมื่อสบตากับหลี่ฉิงไอ้ เขาก็หันหลังจากไปเช่นกัน  

 

 

จากนั้นนักข่าวเข้ามารุมล้อมหันซิวเช่อเพื่อขอวิดีโอที่เขามี  

 

 

เพื่อเลี่ยงเรื่องวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หันซิวเช่อส่งวิดีโอให้นักข่าว ในเมื่อวันนี้คุณพ่อหันไม่ยอมรับผิด เขาก็ยังมีเวลาให้ยอมรับมันอีกมาก  

 

 

ซูอวี๋มองหน้าหันซิวเช่อ บางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่มีความหมายที่สุดที่เขาได้ทำจนถึงตอนนี้ เธอจึงไม่ได้ปริปากพูดอะไรขณะที่หันหลังเดินจากไป แต่เมื่อเธอกลับมาถึงบ้านก็ได้สายจากถังหนิง  

 

 

“คุณน้าซูคะ ฉันเห็นข่าวแล้วค่ะ แต่คุณยังประมาทไม่ได้นะคะ ฉันว่าวิดีโอนี้มันยังไม่เพียงพอและหันซิวเช่อก็จะถูกสงสัยว่าปลอมมันขึ้นได้ค่ะ!  

 

 

“ถ้าคุณดูผู้ชายในวิดีโอ ก็จะเห็นได้ชัดว่าเขาถูกบังคับให้พูด”  

 

 

ถังหนิงได้ข่าวว่าตระกูลหันทะเลาะกันใหญ่โตที่งานแถลงข่าว เป็นเรื่องวุ่นวายที่เห็นได้ทั่วไปของตระกูลคนใหญ่คนโต  

 

 

“แต่พูดอีกอย่างเขาก็แค่พยายามทำเรื่องดีๆ ไม่ใช่เหรอ” ซูอวี๋ถาม “คอยดูกระแสตอบรับจากคนภายนอกแล้วกันค่ะ”  

 

 

วิดีโอฉบับเต็มถูกปล่อยออกมาในครึ่งชั่วโมงให้หลังนับจากงานแถลงข่าวและแพร่สะพัดไปอย่างบ้าคลั่ง!  

 

 

แม้ว่าวิดีโอนี้จะสุ่มเสี่ยงกับการถูกหาว่าเป็นของปลอม แต่มันก็ได้สาธยายเหตุการณ์ต่ำช้าที่เกิดขึ้นที่บ้านตระกูลหันเมื่อยี่สิยปีก่อนได้เป็นอย่างดี  

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์
Status: Ongoing
ถังหนิง ผู้กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นนางแบบแนวหน้า แต่เพราะรักจึงสละสิ้นทุกอย่าง ทว่าคืนก่อนวันวิวาห์ที่เธอกำลังจะได้ครองรักดั่งหวังนั่นเอง คู่หมั้นของเธอกลับหนีออกไปกับหญิงอื่น ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เธอจึงเดินจ้ำไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสำนักงานเขต “ประธานโม่คะ ในเมื่อเจ้าสาวของคุณยังไม่มาและเจ้าบ่าวของฉันก็หนีไปแล้วอย่างนี้… ฉันว่า… เรามาแต่งงานกันเสียเลยดีไหมคะ” … ก่อนแต่งงานเธอเอ่ยว่า “แม้เราจะนอนร่วมเตียงกัน แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา” หลังแต่งงานเขาเอ่ยว่า “ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้หรือ”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset