แต่ละคนในวงการต่างมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการกลับมาของผู้อาวุโสหนานกง อย่างไรเสียมันก็ไม่มีทางคู่ควรกับการเป็นคู่แข่งของไห่รุ่ย ชุนชิวจึงมีเป้าหมายเพื่อก้าวขึ้นไปทัดเทียมกับอีกฝ่าย
อย่างไรก็ตามผู้อาวุโสหนานกงได้ประกาศลงทุนในชุนชิวและคืนวงการบันเทิง ทันทีหลังจากเหตุระเบิดที่ไห่รุ่ยซึ่งเพิ่งเกิดขึ้น จึงยากที่ผู้คนจะไม่มีความคิดบางอย่างขึ้นมาบ้าง
ตระกูลโม่กับตระกูลหนานกงเป็นคู่ปรับต่างขั้วกัน แล้วตอนนี้พวกเขาได้กลายมาเป็นคู่แข่งกันในวงการบันเทิง ดูเหมือนว่าการแข่งขันนี้จะยิ่มน่าระทึกใจเสียมากกว่าการระเบิดที่เพิ่งเกิดขึ้น…
ในอีกทางหนึ่งสาธารณชนทำเพียงนั่งรอชมการแสดงอย่างเพลิดเพลิน!
จริงอยู่ที่ผู้อาวุโสหนานกงได้เห็นบทของ มดราชินี 2 แต่ว่ามันเป็นเพียงบทของนักแสดงชายบางคนเท่านั้น หากคนอื่นอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเขา พวกเขาคงไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรกับข้อมูลที่ไม่ปะติดปะต่อกันอย่างนี้ ทว่าผู้อาวุโสหนานกงนั้นต่างออกไป
แม้เขาจะตกลงไม่โจมตีตระกูลโม่นอกเหนือจากวงการธุรกิจ เขาก็ยังเชี่ยวชาญในการทำให้ฝ่ายตรงข้ามทุกข์ทรมาน
มดราชินีสองเป็นผลงานชิ้นสำคัญที่สุดของไห่รุ่ยในปีที่จะถึง อย่างไรมดราชินีของถังหนิงดังเปรี้ยงปร้างในตลาดนานาชาติด้วยชื่อเสียงเลื่องลือ ดังนั้นนอกจากจะทำให้ปรสิตดังเป็นพลุแตกแล้ว เป้าหมายอีกอย่างหนึ่งของผู้อาวุโสหนานกงคือการทำให้มดราชินีสองพังไม่เป็นท่าอีกด้วย
แน่นอนว่าเขาไม่อาจเลียนแบบพวกเขาได้ และมันก็ไม่จำเป็นเช่นกัน เขาเพียงต้องทุ่มเงินติดต่อทีมงานระดับนานาชาติ บอกพวกเขาว่าตัวเองรู้เนื้อเรื่องของมดราชินีสองและใช้ทีมงานตัดต่อจากฮอลลีวูดเพื่อรังสรรค์ภาพยนตร์เรื่องใหม่ หากภาพยนตร์ของถังหนิงปะทะกับภาพยนตร์ฮอลลีวูดในปีหน้า คงเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ
ผู้คนจะคิดกันว่าถังหนิงเลียนแบบฮอลลีวูดหรือเปล่า
แค่ชาวอเมริกันยืนกรานปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ถังหนิงจะถูกตราหน้าว่าเป็นหัวขโมยตลอดไป ถึงอย่างไรคนจะเชื่อว่าผู้สร้างจากปักกิ่งจะสร้างผลงานที่แม้แต่คนในวงการฮอลลีวูดจะลอกเลียนแบบหรือ ไม่มีใครเชื่อลงหรอก!
แน่นอนว่าผู้อาวุโสหนานกงแอบวางแผนทั้งหมดนี้ อย่างไรเสียนี่ก็เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องอาศัยการโน้มน้าวไม่น้อยเพื่อทำให้สำเร็จ
หากแต่ชาวอเมริกันนั้นทำงานเพื่อเงิน แค่เขาเสนอเงินที่มากพอเขามั่นใจว่าตัวเองสามารถเจรจาได้ทุกอย่าง
หนานกงเฉวียนไม่ล่วงรู้ถึงแผนของผู้อาวุโสหนานกงแต่อย่างใด ด้วยเจ้าตัวนั้นทำตัวว่าง่ายหลังจากเข้าร่วมบริหารชุนชิว เขาไม่ได้ทำสิ่งใดบุ่มบ่ามหรือเจ้าเล่ห์ และดูเหมือนพยายามเข้าสังคมอย่างจริงจัง ใครจะคิดว่าเขาจะขุดหลุมพรางให้ตระกูลโม่ตกลงไป
ไม่นานงานแต่งงานของหนานกงเฉวียนกับซูโยวหรานก็มาถึง ด้วยพวกเขาไม่ได้มีแขกมากนัก ทั้งคู่จึงจัดพิธีเป็นการส่วนตัวที่โบสถ์เล็กๆ
ผู้อาวุโสหนานกงทำหน้าที่เป็นสักขีพยานและคำแรกที่เขาพูดกับซูโยวหรานคือ “รีบช่วยให้ตระกูลหนานกงมีลูกหลานอีกคนเข้าสิ!”
ซูโยวหรานระบายยิ้ม แม้ว่าเธอจะทักทาย ปู่ ชายสูงวัยอย่างยินดี เธอก็ยังคงไม่มั่นใจในตัวเขา
คุณนายซูนั่งอยู่บนรถเข็นและมองผู้อาวุโสหนานกงอยู่ห่างๆ ก่อนที่เขาจะโผล่มาทุกอย่างนั้นลงตัว แต่ในตอนนี้เมื่อผู้อาวุโสหนานกงก้าวเข้ามาในชีวิตพวกเขา เธอก็รู้สึกว่าชีวิตรักคู่หนุ่มสาวกำลังจะวุ่นวาย
เธอจึงกลัวว่าลูกสาวตัวเองจะถูกดึงเข้ามาเกี่ยวพันกับเรื่องวุ่นวายในวงสังคมชั้นสูง
ในขณะเดียวกันเสี่ยวต้านเขอนั้นสุขล้น ในที่สุดเธอก็จะมีแม่กับเขาสักที! ในฐานะคนที่ถือดอกไม้ เธอวนเวียนอยู่รอบตัวซูโยวหรานอย่างตื่นเต้น!
หลังจากคู่รักทำพิธีสาบานตน พิธีการได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ ก่อนพวกเขาจะยืนยันความสัมพันธ์ด้วยการถ่ายรูป สื่อค้นพบรูปนั้นเข้าหลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้นและจบลง
ในคืนวันงานแต่งงานของพวกเขา…
คุณนายซูพาเสี่ยวต้านเขอเข้านอน ปล่อยให้คู่รักมีเวลาตามลำพัง
ขณะที่เขามองซูโยวหรานในชุดกระโปรงยาวสีขาว หนานกงเฉวียนยกแขนโอบกอดเธออย่างรู้สึกผิด “ผมรู้สึกแย่ที่แต่งงานกับคุณแบบเรียบง่ายขนาดนี้ครับ”
“ฉันเข้าใจค่ะ” เธอกอดเขากลับ “ฉันรู้ว่าท่าทีของคุณปู่ทำให้คุณกังวลและไม่สบายใจไปบ้างนะคะ”
“ผมรับปากว่าสักวันหนึ่งจะจัดงานแต่งงานอย่างยิ่งใหญ่ชดเชยให้คุณนะครับ…”
“มันไม่ใช่เรื่องสำคัญขนาดนั้นหรอกค่ะ งานแต่งมันก็แค่พิธี ดูอย่างโม่ถิงกับถังหนิงสิคะ พวกเขาไม่ได้จัดงานแต่งด้วยซ้ำ แต่พวกเขาก็มีความสุขไม่ใช่เหรอคะ” ซูโยวหรานส่ายหน้าคล้ายบอกว่าเธอไม่ได้ถือสาอะไร “เฉวียนคะ คุณรู้หรือเปล่าว่าทำไมฉันถึงยอมแต่งงานกับคุณเร็วขนาดนี้”
หนานกงเฉวียนสบตากับเธอ แววตาที่ระยิบระยับราวกับหมู่ดาว
“เพราะว่าฉันไม่อยากให้คุณเผชิญหน้ากับทุกอย่างเพียงลำพังค่ะ ต่อให้ฉันช่วยคุณไม่ได้ ฉันก็หวังว่าจะได้อยู่ข้างคุณ อย่างน้อยก็ได้แบ่งเบาความเครียดของคุณและเป็นภรรยาที่ดี ฉันจะดูแลตัวเองและเสี่ยวต้านเขอให้ดีค่ะ…”
“นั่นก็พอแล้วครับ… จากที่ผมเห็นคุณก็ทำเต็มที่แล้วล่ะครับ” หนานกงเฉวียนรู้สึกอบอุ่นในหัวใจขึ้นมา
เขารู้ว่าตัวเองแต่งงานไม่ผิดคน และมั่นใจว่าเสี่ยวต้านเขอไม่ได้เลือกคนผิดเช่นกัน ผู้หญิงตรงหน้าเขานั้นกล้าหาญพอที่จะเข้าถ้ำเสือได้ด้วยซ้ำ…
…เพียงเพราะความเด็ดเดี่ยวและความรัก…
หนานกงเฉวียนไม่อาจควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้อีกต่อไป เขาเอื้อมมือออกไปปลดซิปชุดของเธอ “ผม…ทำได้หรือเปล่า”
ซูโยวหรานแก้มขึ้นสีแดงก่ำพลางพยักหน้าให้
ชุดกระโปรงสีขาวของเธอร่วงลงกับพื้น ก่อนหนานกงเฉวียนจะอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขน และวางเธอลงบนเตียงนุ่ม นี่เป็นคืนเข้าหออย่างเป็นทางการของพวกเขา…
…
คืนนั้นถังหนิงทิ้งตัวนอนซบในอ้อมกอดของโม่ถิงที่กำลังจิบไวน์แดงอยู่ ทั้งคู่ไม่เคยผ่อนคลายอย่างนี้มาก่อน ทำเพียงเอนซบกันและกันขณะดื่มไวน์และคุยกันไปพลาง
“ถิงคะ…วันนี้หนานกงเฉวียนกับซูโยวหรานแต่งงานกัน นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะคืบหน้ากันเร็วขนาดนี้เลยนะคะ”
“แค่คนสองคนต้องการกันและกัน พวกเขาก็ฝืนการอยากอยู่ข้างกันไม่ได้หรอกครับ”
โม่ถิงยื่นมือมาลูบคางถังหนิง ก่อนค่อยๆ หลับตาลง “ผมได้ยินจากฟังอวี้ว่าผู้อาวุโสหนานกงพยายามติดต่อคนในฮอลลีวูดอยู่ครับ”
หลังได้ยินเช่นนั้น ถังหนิงหันขวับ “เขาวางแผนจะทำอะไรกันคะ”
“เรายังไม่แน่ใจครับ รู้แค่ว่าเขาต้องมีลูกไม้บางอย่างแน่
“แต่ไม่ว่าเขาจะต้องการทำอะไร ผมจะเตือนให้เขารู้ว่านี่ไม่ใช่วงการบันเทิงเมื่อยี่สิบปีก่อน เขาไม่มีอำนาจอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นผมต่างหาก!”
ถังหนิงหันกลับมา ยกแขนโม่ถิงขึ้นกอดคอเธอก่อนจับเอาไว้ “ในเมื่อเขาอยากจะเล่นนัก อย่างนั้นก็เล่นกับเขาหน่อยสิคะ ยากที่จะต้องอดทนอย่างนี้นะคะ”
“คุณเหนื่อยเหรอครับ” โม่ถิงถามหลังเห็นว่าเธอนิ่งไปสักพัก เมื่อเธอไม่ได้ตอบกลับ เขาก็คว้าผ้าห่มมาคลุมตัวให้เธอ ก่อนปล่อยให้ภรรยานอนซบเขาต่อไป แม้ว่าจะชาหนึบไปทั้งตัว เขาก็ไม่เป็นไร อย่างไรเสียเขาก็ทนไม่ได้ที่ต้องปลุกเธอ