ชิงหลงมองเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ” คิดไม่ถึงเลยนะว่าคุณจะยอดเยี่ยมขนาดนี้ ”
เย่จิงเหยียนใช้ผ้าขนหนูเปียกเช็ดนิ้วเรียวยาวของเขาแล้วพูดว่า ” แค่นี้ฉันเทียบไม่ได้หรอก ฉันคิดว่าพวกนายต่างหากที่ยอดเยี่ยม ปกป้องบ้านเมือง เอาชีวิตเข้าเสี่ยง นี่ต่างหากที่เป็นสิ่งที่ผู้ชายคนหนึ่งควรทำ ”
ชิงหลงโดนเขาชื่นชมจนรู้สึกเกรงใจ เขาเอามือจับศีรษะและไม่ได้พูดอะไร
คนที่แพ้คนปากหวานก็มักจะเป็นแบบนี้แหละ ถึงจะอยากจับผิดเขาก็ใจอ่อนจนได้
เย่จิงเหยียนมาเยือนที่นี่ครั้งแรกเลยไม่อยากอยู่ที่นี่นาน พอเขาเก็บกระเป๋าเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็หยิบยาออกมาสองขวด แล้วพูดอย่างจริงจังว่า ” อีเหยา นี่เป็นยาที่ฉันพูดถึงครั้งที่แล้ว มีสรรพคุณในการลบรอยแผลเป็นได้ดีมาก ถึงแม้ว่าคราวที่แล้วเธอจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่ฉันคิดว่า การรักสวยรักงามติดตัวผู้หญิงทุกคนมาตั้งแต่เกิดอยู่แล้ว ถ้ามีโอกาสทำให้ตัวเองดูดีขึ้น ทำไมไม่ลองดูละ? อีเหยา ทั้งหมดนี้มันไม่ได้ขัดแย้งกับการที่จะเป็นทหารที่ดีหรือการรับใช้ชาติบ้านเมืองเลย มันไม่มีอะไรเสียหาย ใช่ไหมละ? ”
ต้วนอีเหยามองหน้าเขาด้วยสายตาที่อึ้ง ว่าไม่ได้ ประโยคหลังของเย่จิงเหยียนทำให้เธอรู้สึกประทับใจ
ใช่ ถึงเธอจะเป็นทหาร แต่เธอก็เป็นผู้หญิงเช่นกัน เธอเองก็รักสวยรักงาม เธอคิดมาตลอกว่ารอยแผลเป็นบนร่างกายนี้เป็นตราของเกียติยศและความภาคภูมิใจ แต่ว่าถ้าไม่มีรอยแผลเป็นพวกนี้แล้วเธอจะไม่ใช่ทหารที่ยอดเยียมหรอ?
แน่นอนว่ามันไม่ใช่
หลังจากเงียบไปนาน ต้วนอีเหยายื่นมือออกไปรับยาสองขวดนั้นจากมือเขามา มองไปที่ยาแล้วถามว่า ” ใช้ยังไง? ”
เย่จิงเหยียนดีใจ สีหน้าแววตาของเขาก็แสดงออกมาอย่างชัดเจน ” เป็นยาทาภายนอก ไม่คืนนี้ก็พรุ่งนี้เช้าให้พยาบาลช่วยเธอทาก็ได้ ทุกเช้าเย็น ภายในหนึ่งสัปดาห์ รอยแผลเป็นจะสลายหายไป ”
” อือ ฉันรู้แล้ว เดี๋ยวฉันจะเข้าไปหาพยาบาล ”
เย่จิงเหยียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก ฝ่ามือของเขาเหงื่อออกชุ่มไปหมด เขากลัวว่าเธอจะโกรธเหมือนครั้งที่แล้ว
” ถ้าอย่างนั้นเธอก็พักผ่อนเช้าๆนะ ฉันไปก่อนแล้ว พรุ่งนี้จะมาหาใหม่ ”
ฝีเท้าของเย่จิงเหยียนก้าวเดินช้ามากอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่อยากออกไปเร็วขนาดนี้ แต่เขาก็ไม่สามารถอยู่ที่นี่ต่อไปได้ เขารู้สึกอาลัยอาวรณ์
ต้วนอีเหยาส่งเขาถึงหน้าประตู เห็นว่าเขาหยุดเดินและเหมือนว่ากำลังรอเธอพูดอะไรบางอย่าง หลังจากที่กลั้นไว้นาน ต้วนอีเหยาก็พูดว่า ” ขอบคุณนะสำหรับซุปไก้แล้วก็ยาทา เดินทางปลอดภัยนะ ”
” อือ ลาก่อนนะ “ดวงตาของเย่จิงเหยียนอ่อนโยนราวกับน้ำ พอต้วนอีเหยาเห็นเข้าก็รู้สึกตื่นตระหนกเลยรีบปิดประตู
หลังจากที่เย่จิงเหยียนออกไปไกลแล้ว ใจดวงน้อยๆที่ตื่นตระหนกของต้วนอีเหยาก็ค่อยๆกลับคืนสู้สภาวะปกติ
เขาใช้สายตาแบบนั้นมองเธอนี่มันจะฆ่าเธอชัดๆ วินาทีนั้นเธอแทบจะอยากพุ่งตัวไปจูบเขา บ้าไปแล้วบ้าไปแล้วจริงๆ……สายตาสะดุดลงตรงที่ขวดยาในมือ ต้วนอีเหยาเลยพูดกับชิงหลงว่า ” ไปเรียกพยาบาลมา ”
” ครับ หัวหน้า ”
เย่จิงเหยียนดีใจสุดๆ เขาขับรถและฮัมเพลงเบาๆ ดีใจจนตัวแทบจะลอยแล้ว
เช้าวันต่อมา ห้องครัวของตระกูลเย่ก็มีเสียงกริ๊งกั๊งดังเต็มไปทั่วห้อง แม่ครัวยืนมองดูข้างๆด้วยความลำบากใจ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเธอต้องเสียงานดีๆแบบนี้ของเธอในตระกูลเย่ไปแน่ๆ
” คุณชาย ให้ฉันทำเถอะ ท่านช่วยยืนมองอยู่ข้างๆได้ไหม? ” แม่ครัวพยายามเอางานที่เป็นของตัวเองกลับคืนมาเป็นครั้งที่สาม
เย่จิงเหยียนใช้มีดในมือหั่นผักต่อไปอย่างใจจดใจจ่อโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามองเลย ” ไม่ต้อง ฉันจะทำเอง เธอไปทำงานอื่นก่อนเถอะ ถ้าฉันทำเสร็จแล้วเธอค่อยมาที่นี่ก็ได้ ”
แม่ครัวลำบากใจมาก หน้าที่ของเธอคือทำอาหาร จะให้เธอไปทำอย่างอื่นคือทำอะไร? เพราะไม่มีทางเลือก แม่ครัวทำได้เพียงยืนมองอยู่ข้างๆ
ตอนที่เย่จิงเหยียนเรียนอยู่ต่างประเทศเขาเข้าครัวทำอาหารบ่อยมาก ต้มโจ๊ก ผัดผักต่างๆ ไม่ยากสำหรับเขาหรอก เกือบหนึ่งชั่วโมงต่อไป อินทผลัม ข้าวเหนียว และโจ๊กก็เคี่ยวจนสุก และผักทั้งสี่เมนูก็ถูกจัดใส่กล่องเรียบร้อย
เย่จิงเหยียนไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า ตอนที่ถือกล่องอาหารขับรถออกไปยังไม่เจ็ดโมงเช้าเลย
แม่ครัวมองแสงไฟที่อยู่ไกลๆ ก็ค่อยๆพูดออกมาประโยคหนึ่งว่า พลังความรักนี่ยิ่งใหญ่จริงๆ
ขับมาสุดทางหยุดจอดที่โรงพยาบาล จอดรถกำลังจะขึ้นตึกไป แต่กลับเห็นคนสองคนที่ค่อยๆวิ่งมา คนหนึ่งเตี้ยคนหนึ่งสูง เอวยืดตรงและก้าวเดินอย่างสม่ำเสมอ
ผู้คนในโรงพยาบาลดีมาก และคนที่ออกมาออกกำลังกายก็มีมากขึ้นด้วย แต่ว่ารูปร่างของทั้งสองคนนี้ชัดเจนมาก เพียงแวบเดียวเย่จิงเหยียนก็รู้แล้วว่าพวกเขาเป็นใคร เขาจึงหยุดรอ
ในไม่ช้า ทั้งสองคนก็เดินเข้ามาใกล้ขึ้น ใบหน้าของหญิงสาวแดงเล็กน้อย หน้าผากของเธอมีเหงื่อนิดหน่อย คิ้วของเธอช่างงดงาม ดวงตาของเธอมีออร่าเหมือนดวงดาว และค่อยๆก้าวเข้าไปในหัวใจของเขาทีละก้าว
ต้วนอีเหยาก็ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ริมถนน เขาใส่เสื้อยืดสีน้ำเงินเข้ม กางเกงสแล็คสีดำสบายๆ หน้าตาดูสดใส ในมือถือกล่องอาหารอยู่สองกล่อง ไม่สมารถบดบังความสง่าของเขาได้ แต่เขากลับมีความอบอุ่นแฝงอยู่ด้วย เธอรู้สึกตกใจเล็กน้อย ใช้ผ้าขนหนูที่อยู่ที่คอเช็ดเหงื่อสักหน่อย วิ่งไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขา ถามเขาอย่างเหนื่อยหอมว่า ” ทำไมคุณถึงได้มาเช้าขนาดนี้? ”
” ฉันมาส่งอาหารเช้าให้เธอ ”
” ฉันยังต้องวิ่งอีกหนึ่งรอบ ”
เย่จิงเหยียนยิ้ม ” เธอค่อยๆวิ่งนะ ฉันจะรออยู่ตรงนี้ ”
” ได้ ถ้าอย่างนั้นรอสักครู่นะ ” พอต้วนอีเหยาพูดจบก็วิ่งต่อไป
แสงอ่อนๆในยามเช้า ลมเย็นสบายในฤดูใบไม้ร่วง หลังจากที่หญิงสาวออกไปแล้ว แต่ในบรรยากาศยังมีกลิ่นไอของเธออยู่ และมีกลิ่นยาทานั้นแฝงอยู่ด้วย
อาหารที่เย่จิงเหยียนเตรียมมาเป็นเมนูง่ายๆ มี มันฝรั่งทอด แตงกวาผัด บรอกโคลีผัดเนื้อ และยังมีอีกหนึ่งอย่างก็คือเกี๊ยวทอดกรอบสีทองอร่าม จัดวางอยู่บนโต๊ะช่างมีกลิ่นหอมน่ากินจริงๆ
ชิงหลงที่พึ่งล้างหน้าเสร็จออกมา ถึงกับกลืนน้ำลาย ” แค่มองก็รู้แล้วว่าอร่อย พอพูดๆอยู่ก็คีบเกี๊ยวแล้วโยนเข้าปาก เคี้ยวแล้วพูดออกมาว่า ” อร่อยๆ ”
เย่จิงเหยียนตักโจ๊กให้ทั้งคู่ ต้วนอีเหยาเดินเข้าไปล้างหน้า พอผ่านไปสักพักก็พูดว่า ” ชิงหลง เข้ามาเช็ดเหงื่อที่หัวไหล่ให้ฉันหน่อย ”
” มาแล้วๆ ” ชิงหลงพึ่งจะโยนเกี๊ยวอันที่สองเข้าปาก ตอนที่ลุกขึ้นกลับโดนมือคู่หนึ่งกดที่ไหล่ พอเงยหน้าขึ้นมอง สายตาของเย่จิงเหยียนจ้องไปที่เขาอย่างน่ากลัว
ชิงหลงก็ไม่ใช่คนโง่เช่นกัน เขากรอกตาแล้วยิ้มจากนั้นก็นั่งลงทานอาหารเช้าของตัวเองต่อ เขาไม่กังวลเลยสักนิดที่หัวหน้าจะพลาดเสียท่าให้นายหน้าขาวคนนี้ ความสามารถในการต่อสู้ของหัวหน้าไม่มีคนในกองทัพที่สามารถสู้เธอได้เลยแม้แต่คนเดียว
เย่จิงเหยียนแตะไปที่ไหล่ของเขาสองทีเพื่อแสดงความขอบคุณ จากนั้นก็เข้าไปในห้องน้ำ
ต้วนอีเหยาหันหลังให้ประตู ตอนนี้บนตัวเธอยังใสเสื้อสีดำตัวเดิมที่ใส่ตอนวิ่ง พอได้ยินเสียงฝีเท้าเธอก็ยื่นผ้าเช็ดหน้าในมือให้เขา
เย่จิงเหยียนรับมาโดยไม่ได้พูดอะไร ผ้าเช็ดหน้าเย็นๆนิดหน่อย เขาก็เลยเปิดน้ำร้อนโดยมุมก๊อกน้ำไปในทิศทางของน้ำอุ่น ใช้ผ้าชุบน้ำแล้วบีบให้แห้ง
” เจ้านี่มั่นใจขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ” ต้วนอีเหยาพูดแฉเขา
เย่จิงเหยียนก้าวเข้าไปใกล้เธอสองก้าว เปิดชายเสื้อของเธอขึ้นแล้วค่อยๆยื่นมือเข้าไป ด้วยความที่คอเสื้อของเธอค่อนข้างกว้าง เย่จิงเหยียนจึงเห็นถึงรอยแผลเป็นที่อยู่บริเวณล่างลำคอของเธอ ตอนนี้แผลเริ่มแห้งเป็นสีดำแล้ว
แค่เห็นเพียงนิดเดียว ใจของเย่ฉ่าวเฉินก็รู้สึกหวั่นไหว การกระทำของเขาก็อ่อนโยนและนุ่มนวลมากขึ้นมากๆ
รู้สึกที่
ต้วนอีเหยารู้สึกว่าบรรยากาศมันแปลกๆ พอเธอหันหน้าไปดูและเห็นใบหน้าของเย่จิงเหยียนปรากฏตรงหน้า เธอรีบหันกลับมา แล้วใช้ผ้าขนหนูในมือบังไปที่หน้าอกของตัวเอง……
” คุณเข้ามาทำไม? ”
เย่จิงเหยียนรู้สึกได้เธอความรู้สึกอ่อนไหวของเธอ ในใจของเขาก็ร้อนรุ่ม น้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นน้ำเสียงที่เคร่งขรึม ” หันไป อย่าดิ้น ”
ต้วนอีเหยาเองก็มีความรู้สึกแปลกๆ เธอก้มหน้า มือของเธอบังอยู่ตรงบริเวณหน้าอก เธอหันหลังไปด้วยความสงสัย
เย่จิงเหยียนค่อยๆเช็ดเหงื่อให้เธอ ตั้งแต่ไหล่ลงมาถึงเอวทุกครั้งที่เช็ดเธอก็จะรู้สึกเหมือนมีลมเย็นๆพัดมา
” แผลพวกนี้ของเธอ……ยังเจ็บอยู่ไหม? ” ในแววตาของเย่จิงเหยียนแสดงออกถึงความเป็นห่วงอย่างชัดเจน
” ตกสะเก็ดแล้วก็เลยไม่เจ็บ แต่ช่วงนี้รู้สึกคันๆนิดหน่อย ”
” คันแสดงว่าใกล้จะหายดีแล้ว เธออย่าไปเกานะ ” น้ำเสียงของเย่จิงเหยียนแผ่นเบาราวกับว่าเป็นลมเย็นๆพัดผ่านเข้ามาในหัวใจเธอ
” ฉันรู้แล้ว ” ต้วนอีเหยารู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนผ่าว และหูของเธอก็แดง เพียงแต่ว่าเธอมองไม่เห็นก็เท่านั้นเอง มันน่าแปลก พวกชิงหลงเองพวกเขาก็เป็นผู้ชาย แต่ทำไมเธอถึงไม่มีความรู้สึกอะไรเลย แต่ทำไมพอเป็นเขา เธอถึงรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว แม้กระทั่งหัวใจยังเต้นเร็วมาก
เย่จิงเหยียนดูออกว่าแผลพวกนี้เป็นแผลใหม่ น่าจะเป็นแผลจากครั้งนั้นที่จู่ๆเธอก็หายตัวไป ที่แท้เธอก็มีเรื่องด่วนจริงๆ เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะไปโดยไม่ลาเขาก่อน
” เสร็จแล้ว ออกไปกินอาหารเช้าเถอะ “เย่จิงเหยียนระงับความเจ็บปวดในใจไว้ เขาล้างผ้าขนหนูอยู่ข้างอ่าง ต้วนอีเหยารีบก้าวเท้าออกจากห้องน้ำไป
ครั้งที่แล้วที่เย่จิงเหยียนเห็นแผลของเธอตรงแขน ตอนนั้นเขาก็รู้สึกเป็นห่วงเธอมากๆ แต่ว่าวันนี้มันเหนือความคาดหมายของเขามาก บาดแผลในที่ที่เขาไม่สามารถมองเห็นในตัวของเธอไม่รู้ว่ามันมีรอยแผลเป็นมากเท่าไหร่ที่ซ่อนอยู่
มือทั้งสองข้างของเขาจับไปที่ขอบอ่างแน่น เย่จิงเหยียนรู้สึกโศกเศร้ามากๆ เขาอยากจะปกป้องเธอ ให้เธอใช้ชีวิตแบบสงบสุขและปลอดภัยไปตลอดชีวิต แต่ว่าตัวเขาเองกลับช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย ยี่สิบปีที่ผ่านมา นี่เป็นครั้งที่สองที่เขารู้สึกท้อแท้ ครั้งแรกเป็นตอนอนุบาลที่วันจบการศึกษาแล้วเธอก็จากไป
เย่จิงเหยียนถึงขั้นคิดว่าถ้าเขาไม่มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบตระกูลเย่ เขาก็คงจะตัดสินใจเข้าร่วมกองทัพอย่างไม่ลังเล และคอยปกป้องเธอทุกวินาทีอยู่ข้างกาย แต่ว่าทั้งหมดนี้ก็ทำได้เพียงคิดเท่านั้น
พอจัดการกับอารมณ์ตัวเองเสร็จ ก็สูดหายใจเข้าลึกๆ เย่จิงเหยียนมองตัวเองยิ้มในกระจก เขาก็เช็ดมือแล้วเดินออกมา
เกี๊ยวในจานโดนเก็บกวาดจนสะอาดเกลี้ยง มันฝรั่งผัดเหลือไว้เพียงครึ่งจาน
” พวกคุณชอบเกี๊ยวทอดมากเลยหรอ? พรุ่งนี้ฉันจะทำมาให้มากกว่านี้ ” เย่จิงเหยียนนั่งลงข้างๆต้วนอีเหยา ความรู้สึกของเขาเมื่อกี้ไม่มีปรากฏบนใบหน้าของเขาเลย
ต้วนอีเหยากินโจ๊กแล้วพูดว่า ” คุณกินข้าวรึยัง? ”
” ยัง ” เย่จิงเหยียนพูดไปตามความจริง
ตะเกียบของต้วนอีเหยาและชิงหลงหยุดนิ่ง ท่าทางอึดอัดนิดหน่อย เพราะว่าโจ๊กถ้วยสุดท้ายในกล่องถูกเทไปที่ถ้วยของชิงหลงเรียนร้อยแล้ว
” คุณไม่ได้กินข้าวทำไมไม่บอกกันสักคำ? พวกเราจะได้เก็บไว้ให้ ” ต้วนอีเหยาวางตะเกียบลงอย่างเงียบๆ
เย่จิงเหยียนหัวเราะ ” ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้เตรียมส่วนของฉันมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว พวกคุณกินเสร็จ เดี๋ยวฉันกลับบ้านไปกิน ”
” แบบนี้……
” จริงๆ ตอนนี้พึ่งจะเจ็ดโมงเอง อีกสักพักตอนที่ฉันกลับไปก็แปดโมงกว่า ก็เป็นเวลาอาหารเช้าของที่บ้านพอดี ” เย่จิงเหยียนไม่อยากให้พวกเขารู้สึกผิด เขาเห็นว่าเตียงยุ่งๆไม่เรียบร้อยเขาเลยลุกขึ้นแล้วพูดว่า ” พวกเธอรีบกินเถอะ ”
ต้วนอีเหยาและชิงหลงมองดูเขาเดินไปที่เตียง จากนั้นก็ทำความสะอาดเตียง
ชิงหลงที่นั่งอยู่ที่โต๊ะใช้ขาสะกิดไปที่เท้าของหัวหน้า แล้วกระซิบว่า ” นายหน้าขาวคนนี้ไม่เลวเลยนะ หัวหน้าลองพิจารณาดูหน่อยนะ ”
ต้วนอีเหยาเตะขาเขา ” กินข้าวของนายต่อไปเลย ”
ตอนที่เย่จิงเหยียนเช็ดโต๊ะอยู่เขาก็สังเกตเห็นยาทาที่เขาให้เธอเมื่อวาน มีขวดหนึ่งเปิดใช้งานแล้ว เขาก็ยิ้มออกมาอย่างอัตโนมัติ ดูเหมือนว่าเธอจะใช้มันแล้ว
บริษัทเย่ฮว่าง
พอเลขาหวังได้ทราบข่าวที่เย่จิงเหยียนจะพักร้อนประจำปีเขาก็ตะลึง และรีบถามว่า ” ประธานเย่ คุณเตรียมจะพักกี่วัน? ”
” สิบถึงยี่สิบวัน ”
” แล้วถ้าบริษัทมีเรื่องสำคัญจะทำอย่างไร? ”
” ฉันก็อยู่ในเมือง A นี่แหละ มีเรื่องอะไรก็โทรหาฉัน ๐
เลขาหวังรู้สึกโล่งใจ ” โอเค ได้ๆ ”
ต้วนอีเหยาคิดว่าการที่เย่จิงเหยียนมาส่งอาหารเป็นเพียงแค่ความชอบชั่วคราวของเขาเท่านั้น แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมาส่งอาหารตรงเวลาทั้งสามมื้อแบบนี้ อีกทั้งอาหารยังไม่ซ้ำกันอีก ซุปก็หลากหลายมาก วันนี้เป็นซุปไก่ พรุ่งนี้เป็นซุปปลา พอวันมะรืนก็เป็นซุปกระดูกซี่โครง แม้กระทั่งพยาบาลที่คอยมาดูอาการของต้วนอีเหยายังพูดเลยว่าสีหน้าของเธอดีขึ้นมากๆ
” หัวหน้า ยาทานี้ของคุณดีมากเลย ใช้ไปแค่สี่วัน แต่รอยแผลเป็นที่หลังนี้จางลงไปเยอะมาก ช่าวมหัศจรรย์จริงๆ ” พยาบาลทายาให้เธอและพูดออกมาอย่างประหลาดใจ
” จริงหรอ? เธอช่วยถ่ายรูปให้ฉันดูหน่อยสิ ” ต้วนอีเหยาเองก็ประหลาดใจเช่นกัน
พยาบาลใช้โทรศัพท์ของตัวเองถ่ายรูปไว้แล้วยื่นให้เธอ ” หัวหน้า คุณดูสิ ”
บนแผ่นหลังที่เปลือยเปล่า รอยแผลเป็นที่น่ากลัวเมื่อหลายวันก่อน ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีชมพูเรียบร้อย ถึงแม้ว่ายังจะดูออกเล็กน้อยว่ามันคือแผล แต่ว่ามันก็ดีขึ้นเยอะมากๆ คิดไม่ถึงเลยว่ายาของเย่จิงเหยียนจะดีขนาดนี้
” หัวหน้า คุณได้ยานี้มาจากไหน? ฉันก็อยากจะซื้อสักหลอด ”
ต้วนอีเหยายิ้ม ” ฉันไม่ได้ซื้อ เพื่อนฉันให้มา ”
” เพื่อน? “จู่ๆพยาบาลคนนั้นก็นึกขึ้นได้ “ อ้อ ฉันรู้แล้ว คนหล่อคนนั้นที่มาส่งอาหารให้คุณทุกวันใช่ไหม? ”
” อือ เขานั่นแหละ ” ต้วนอีเหยายอมรับอย่างตรงไปตรงมา
ทุกคนก็ล้วนแต่มีความรู้สึกอยากรู้ พยาบาลน้อยก็ก็ไม่ยกเว้น และเธอก็รีบถามออกมาว่า ” หัวหน้า เขาเป็นแฟนของหัวหน้าหรอ? ”
” ไม่ใช่ๆ เป็นแค่เพื่อนเท่านั้น ” ต้วนอีเหยารีบชี้แจง
พยาบาลน้อยไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัด ” เฮ้ ฉันไม่เชื่อหรอก เพื่อนที่ไหนจะมาส่งข้าวทั้งสามมือแบบนี้ให้ถึงโรงพยาบาล และยังหน้าตาหล่อเหลาขนาดนั้น มีออร่ามากด้วย โดยเฉพาะตอนที่เขายิ้มช่างน่าหลงใหลจริงๆเลย
ต้วนอีเหยายิ้มและส่ายหัวขณะที่ฟังพยาบาลพูด ” สาวๆอย่างพวกเธอก็เอาแต่ชอบผู้ชายที่หน้าตาหล่อเหลา ”
” หัวหน้า คุณอายุแค่ 28 เอง มากกว่าฉันแค่สองปี อย่ามาทำตัวเป็นคนแก่สิ ” พยาบาลน้อยพูดขำๆกับเธอ ” ในเมื่อหัวหน้าบอกว่าเขาไม่ใช่แฟน แสดงว่าเขากำลังตามจีบคุณแน่ๆ โอ้โห ถ้ามีผู้ชายที่หน้าตาดีแบบนี้มาตามจีบฉันนะ ขนาดฉันฝันอยู่ยังมีความสุขจนตื่นได้เลย ”
” ต้องเวอร์มากขนาดนั้นเลยหรอ? ”
” แน่นอนสิ คุณคงไม่รู้ว่าคนที่หน้าตาดี ฐานะดี และเอาใจใส่แฟน ผู้ชายแบบนี้ที่โสดอยู่หายากขนาดไหน คุฯแค่มองไม่เห็น ทุกครั้งที่เพื่อนคุณมา พวกพยาบาลทุกคนในโรงพยาบาลต่างก็เกาะติดอยู่ตรงหน้าต่างเพื่อมองเขา ดังนั้น หัวหน้าคุณต้องห้ามพลาดเชียวนะ ถ้าคุณพลาดก็จะโดนผู้หญิงคนอื่นแย่งไปทันที ”
ท่าทีของต้วนอีเหยาประหลาดใจมาก เย่จิงเหยียนเป็นที่นิยมมากขนาดนั้นเลยหรอ?
พอพยาบาลทายาให้เธอเสร็จแล้ว ก็สวมเสื้อให้เธออย่างระมัดระวัง ” หัวหน้า ถ้าพ่อรูปหล่อคนนั้นมา คุณช่วยถามให้หน่อยนะว่ายานี้ซื้อจากที่ไหน ”
” อือ ได้สิ ” ต้วนอีเหยารับยากลับคืนมา แล้วเอามือจับรอยแผล
วันต่อไปตอนที่ต้วนอีเหยาถาม เย่จิงเหยียนนิ่งไปสักพัก ” ที่ฉันเอามาใช้หมดแล้วหรอ? ”
ช่วงนี้ เขามาร่วมกินข้าวกับต้วนอีเหยาและชิงหลง
” เปล่า พยาบาลอยากซื้อสักหลอด ” ต้วนอีเหยาตักเสี่ยวหลงเปาเพิ่ม แล้วเธอก็เปิดออกแล้วดูดตรงกลางที่มีเนื้อติดอยู่ ว้าว อร่อยมาก
เย่จิงเหยียนเห็นว่าเธอชอบ ก็เลยคีบให้เธออีกอันไปวางไว้ในถ้วยเธอ เขายิ้มแล้วพูดว่า ” ถ้าเธอจะใช้ ฉันหาให้ได้ แต่ไม่ขายให้คนนอก นี่เป็นสูตรลับเฉพาะของหมอประจำตระกูลฉัน มูลค่ามหาศาลมาก ”
” แบบนี้นี่เอง ช่างเถอะ ”
เย่จิงเหยียนคิดถึงคำแนะนำของคุณย่าเซียวและคุณปู่เซียว เขาลังเลอยู่ครึ่งค่อนวันไม่รู้จะพูดยังไงดี จนกระทั่งกินข้าวจนเสร็จ เช็ดโต๊ะเสร็จเรียบร้อย เขาก็ยังไม่ได้พูดออกไป
ต้วนอีเหยาเห็นท่าทีเขาเหมือนว่ามีอะไรตั้งแต่เช้าแล้ว เลยอดไม่ได้ที่จะถาม ” คุณมีเรื่องอะไรรึเปล่า? ”
เย่จิงเหยียนยิ้มอย่างขมขื่นแล้วมองหน้าเธอ และพูดแบบเกรงใจ ” มีอยู่หนึ่งเรื่อง……”
” มีอะไรก็พูด ฉันไม่ชอบท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของคุณ ”
เย่จิงเหยียนสบตาเธอ แล้วให้กำลังใจตัวเองอย่างเงียบๆแล้วพูดว่า ” เธอก็รู้ว่าคุณปู่ของฉันก็พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนี้ ฉันมาที่โรงพยาบาลทุกวันพวกท่านรู้เข้า เลยอยากจะเจอเธอหน่อย ” พอพูดจบเขากลัวว่าต้วนอีเหยาจะปฏิเสธเลยรีบพูดขึ้นว่า ฎ ถ้าเธอไม่เต็มใจก็ไม่ต้องฝืนนะ เดี๋ยวฉันไปบอกกับพวกท่าน……”
” ถ้าอย่างนั้นก็ไปสิ ” ต้วนอีเหยาพูดแทรกขึ้นมา
พอเย่จิงเหยียนได้ยินก็ตะลึง ” เธอตกลงแล้วหรอ? ”
ต้วนอีเหยาพยักหน้า ” ใช่ เราเป็นเพื่อนกัน ญาติสนิทของคุณเข้าโรงพยาบาล แล้วพักอยู่โรงพยาบาลเดียวกันอีก ตามมารยามแล้วคนรุ่นลูกรุ่นหลานอย่างฉันก็ต้องไปเยี่ยมพวกท่านสักหน่อยสิ ”
เย่จิงเหยียนที่ตอนแรกรู้สึกไม่สบายใจกลับรู้สึกดีใจขึ้นมาโดยทันที เขาตื่นเต้นถึงขั้นเอื้อมมือไปคว้าตัวต้สนอีเหยามากอด
ทันใดนั้น บรรยากาศเงียบสงบ แม้แต่ชิงหลงที่อยู่ตรงมุมห้องก็ตะลึง
เชี้ย ถึงขั้นกอดหัวหน้า แล้วหัวหน้าไม่ผลักออกอีก
ช่วงเวลาสั้นๆเพียงห้าวินาที เย่จิงเหยียนก็คลายกอดต้วนอีเหยา ในแววตาเต็มไปด้วยความสุข เขาปากไม่ตรงกับใจ” โทษทีนะ ฉันดีใจไปหน่อย ”
ต้วนอีเหยาที่โดนเขากอดหัวใจก็เต้นแรงมาก แต่เพื่อไม่ให้เสียหน้า เลยต้องทำสีหน้าจริงจังแล้วพูดว่า ” ห้ามมีครั้งต่อไป ”
” ได้ ” เย่จิงเหยียนตอบรับเต็มปากเต็มคำ ถึงมีครั้งต่อไป พูดก็พูดเถอะ เขากอดก็กอดไปแล้ว เธอคงจะไม่ตัดแขนเขาทิ้งหรอก
ต้วนอีเหยามองหน้าตาที่งี่เง่าของเขา หัวใจก็เต้นเร็วขึ้น เธอหลบสายตาเขาแล้วเดินตรงไปที่ประตู
” รอฉันก่อน ” เย่จิงเหยียนรีบเดินตามไป
ในระหว่างทาง ต้วนอีเหยาก็ไม่ได้คุยอะไรกับเย่จิงเหยียนอีก แต่เย่จิงเหยียนกลับเอาแต่เล่าเรื่องคุณปู่เซียวและตระกูลเย่ชองเขา
มาถึงของพักผู้ป่วยชั้นสาม ใบหน้าของต้วนอีเหยาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เจอญาติผู้ใหญ่ทำหน้าบึ้งมันดูไม่สุภาพ
” คุณปู่……”เย่จิงเหยียนที่พึ่งเปิดประตู พอเห็นบรรยากาศในห้องก็ตกใจ เดิมทีคิดว่าจะมีแค่คุณย่าเซียวและคุณปู่เซียว มากสุดก็มีคุณป้าด้วย คิดไม่ถึงเลยว่าในห้องผู้ป่วยจะมีคนเยอะแยะมากมายขนาดนี้ รวมถึงคุณพ่อคุณแม่ของเขาก็อยู่ด้วย
เย่จิงเหยียนรีบเดินเข้าไปข้างหน้า ” ทำไมพวกคุณถึงมาที่นี่กันหมดเลยละ? เกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่หรอ? ”
มองผ่านผู้คนไป คุณปู่ใส่หน้ากากออกซิเจนอยู่
” เกิดอะไรขึ้น? ” เย่จิงเหยียนถามน้องสาวที่ยืนอยู่ข้างๆด้วยความเป็นห่วงมากๆ
” เมื่อกี้คุณปู่หมดสติไป พึ่งจะช่วยให้ฟื้นขึ้นมาได้ ” เย่ชูวเสวียอธิบาย และนี่คือคำตอบว่าทำไมทุกคนถึงได้มาอยู่ที่นี่กันหมด
” ทำไมไม่บอกฉัน? ”
” โทรหาแล้ว พี่ไม่รับ ”
เย่จิงเหยียนหยิบโทรศัพท์ออกมา อยู่ในโหมดปิดเสียง มีสายที่ไม่ได้รับสองสาย
เย่ชูวเสวียเห็นต้วนอีเหยาที่ยืนอยู่ตรงประตู เธอก็รีบสะกิดพี่ชายเพื่อนเตือนเขาว่ามีอีกคนที่รออยู่ตรงนั้น
เย่จิงเหยียนพึ่งคิดได้ว่ามีต้วนอีเหยาอยู่อีกคน เลยรีบไปพาเธอเข้ามา พูดกับพ่อแม่ว่า ” พ่อครับแม่ครับ นี่คือต้วนอีเหยา เธอก็คือเพื่อนในวัยเด็กคนนั้นของผม ”
” คุณลุงคุณน้าสวัสดีค่ะ ” ต้วนอีเหยาพูดทักทายอย่างมีมารยาท
มู่เวยเวยมองต้วนอีเหยา ” ฉันรู้สึกคุ้นหน้าเธอมากเลย เราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนรึเปล่า? ”
ต้วนอีเหยาก็มองไปที่มู่เวยเวย เธอรีบนึกย้อนกลับไปถึงความทรงจำทั้งหมดจองเธอ เธอยิ้มแล้วพูดว่า ” เราเคยเจอกันที่สนามบิน ”
” ใช่ๆๆ ” มู่เวยเวยก็คิดออกแล้วเช่นกัน ” ตอนนั้นมีหัวขโมยคนหนึ่งขโมยกระเป๋าของฉันไป เธอเป็นคนจับตัวมันไว้ได้ โอ้โห เรานี่มีวาสนาต่อกันจริงๆเลย คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นต้วนอีเหยา ”
ต้วนอีเหยาเองก็คิดว่าโลกใบนี้ช่างเล็กมาก หมุนไปหมุนมากลับกลายเป็นคนที่รู้จักกันอยู่แล้ว
เย่จิงเหยียนประหลาดใจมาก ” แสดงว่า ทั้งสองคนเคยเจอกันมาตั้งนานแล้วหรอ? ”
” เป็นตอนนั้นที่ฉันกลับมาที่เมือง A เป็นครั้งแรก ” ต้วนอีเหยาอธิบายไปแบบง่ายๆสั้นๆ ตอนนั้นเธอกลับมาหาเย่จิงเหยียน แต่ว่าหาเจ้าตัวไม่เจอ แต่กลับเจอพ่อแม่ของเจ้าตัวโดยบังเอิญ
เย่ฉ่าวเฉินมองต้วนอีเหยา ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ใส่เครื่องแบบทหาร แต่ว่ากลิ่นไอของความเป็นทหารของเธอเผยให้เห็นชัดเจนมาก จริงๆแล้วเขาอยากให้ลูกชายเขาได้แต่งงานผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่งมากกว่า จะจนก็ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรตระกูลเย่ก็รวยอยู่แล้ว ขอแค่ผู้หญิงคนนั้นรักลูกชายของเขาด้วยใจจริงและพร้อมจะดูแลเขาก็พอแล้ว
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าต้วนอีเหยาต้องเป็นทหารที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่งแน่ๆ แต่ว่าเธอจะเป็นภรรยาที่ดีหรือเปล่าเรื่องนี้พูดยากมาก ถ้าเธอกับลูกชายเขาคบกันขึ้นมาจริงๆ สิ่วที่สำคัญที่หนึ่งในใจเธอต้องเป็นหน้าที่อยู่แล้ว ส่วนลำดับที่สองจะใช่ลูกชายของเขาหรือเปล่าก็พูดยากมากเช่นกัน
แต่ว่า ลูกชายชอบเธอ ท่าทีของเขาแสดงออกชัดเจนว่าถ้าไม่ใช่เธอก็จะไม่ยอมแต่งงานกับใคร ทำให้คนเป็นพ่ออย่างเขาพูดอะไรมากไม่ได้
” หนูต้วน ขอบคุณมากนะที่ช่วยเราครั้งที่แล้ว ครั้งที่แล้วยังไม่ทันได้ขอบคุณเลย เอาอย่างนี้ไหมวันนี้เราเลี้ยงข้าวเธอ ” เย่ฉ่าวเฉินพูดอย่างเกรงใจ
” ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องครั้งที่แล้วมันเป็นเรื่องที่ฉันควรทำอยู่แล้วค่ะ ” สีหน้าของต้วนอีเหยานิ่งขึ้นเยอะมาก เพราะเธอสังเกตเห็นว่าเย่ฉ่าวเฉินกำลังวิเคราะห์ตัวเธออยู่ เธอต่อต้านและไม่ชอบการกระทำแบบนี้มากที่สุด
เย่จิงเหยียนมัวแต่ดีใจเลยไม่ได้สังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ แนะนำต้วนอีเหยาให้รู้จักกับญาติๆของเขา ” นี่คือชูวเสวีย เธอเคยเจอแล้ว ที่เป็นคุณลุง คุณป้า นี่เป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน นี่คือคุณปู่คุณย่า ”
ต้วนอีเหยาก้มหน้าลงเพื่อแสดงความเคารพแล้วยิ้ม ” สวัสดีค่ะ คุณปู่คุณย่า ”
” สวัสดีจ้า ” คุณย่าเซียวจับมือต้วนอีเหยาไว้ และค่อยๆดูรูปร่างหน้าตาเธออย่างละเอียดแล้วพูดชมว่า ” ผู้หญิงคนนี้หน้าตาสวยมาก เต็มไปด้วยความกล้าหาญ ดูเหมือนกับเป็นนายพลทหารสมัยโบราณเลย ”
ต้วนอีเหยาพูดล้อเล่นว่า ” คุณย่า คุณดูดวงเป็นด้วยหรอ? ”
” สมัยสาวๆเคยฝึกอยู่นิดหน่อย ” ถึงคุณย่าเซียวจะอายุมากแล้ว แต่ตาของเธอมองเห็นชัดเจนมาก
” ถ้าอย่างนั้นก็ขอให้เป็นเหมือนที่คุณย่าพูดนะ ไม่แน่ในอนาคตหนูอาจจะได้เป็นพลทหารจริงๆก็ได้ ”
” ดีๆ พลทหารผู้หญิงช่างน่าเกรงขาม ” คุณย่าเซียวหัวเราะราวกับเป็นเด็ก จากนั้นก็ถอดสร้อยข้อมือหยกของเธออกจากมือแล้วใส่ไปที่มือของต้วนอีเหยา ” นี่เป็นของขวัญที่ย่าให้หนูในการเจอหน้ากันครั้งแรก หวังว่าหนูจะไม่รังเกียจ ”
” คุณย่า ฉันรับไว้ไม่ได้จริงๆ ” ถึงแม้ว่าต้วนอีเหยาจะไม่มีความรู้เรื่องหยก แต่เธอดูออกว่าหยกในข้อมือเธอในตอนนี้เป็นหยกชั้นดีและเก่าแก่มากๆ
คุณย่าเซียวจับมือเธอไว้ ” เธออย่าเข้าใจผิดนะ ที่ฉันให้เธอไม่ได้เป็นเพราะผิงอัน เป็นเพราะย่ารู้สึกถูกชะตากับหนู รู้สึกว่าหนูเป็นเด็กที่ดีมากเลยให้หนู รับไว้เถอะ เก็บไว้เป็นความทรงจำ ”
พูดถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าต้วนอีเหยายังปฏิเสธอยู่มันจะดูน่าเกลียด ก็ทำได้เพียงรับไว้ก่อน ” ขอบคุณค่ะคุณย่า ”
” พวกนี้ก็เป็นแค่ของนอกกาย อยู่กับย่าต่อไปก็น่าเสียดาย วันนี้เจอคนที่ถูกชะตา และเป็นความโชคดีของหยกด้วย ”
” แม่ อย่าพูดแบบนี้สิ ” เสี่ยวซีหร่านตาแดงเพราะเธอพึ่งร้องไห้