วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 27 โหดร้ายเกินไป

บทที่ 27 โหดร้ายเกินไป

เธอตกลงอย่างว่าง่าย ลู่จิ่งเซินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย จากนั้นก็ได้ยิ้มที่มุมปาก

“แต่ว่าฉันมีข้อแม้”

“ว่ามา!”

“ข้อแรก ก่อนที่ฉันนั้นจะเห็นด้วย ห้ามเปิดเผยสถานะของพวกเราเด็ดขาด ข้อสอง ถ้าเกิดฉันไม่อนุญาต ห้ามแตะต้องฉัน!”

รอยยิ้มในดวงตาของลู่จิ่งเซินได้อ่อนลงไปเล็กน้อย “ยังมีข้อสามไหม?”

จิ่งหนิงคิดไปสักพัก ตอนนี้เธอนั้นคิดอะไรอย่างอื่นไม่ออก ส่ายหน้า “ไม่มีแล้ว”

นิ่งไปสักพัก ก็พูดเสริมว่า “ต่อไปถ้าคิดได้แล้วจะพูดอีกที”

ลู่จิ่งเซินพูดเสียงเข้ม “เพราะงั้นเธออยากให้ฉันเป็นพระ?”

จิ่งหนิงอึ้ง

“คุณนายลู่ ผมเป็นผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่งนะครับ ถ้าเกิดว่าคุณไม่อนุญาตไปตลอด ชาตินี้ผมต้องจำเจทั้งชาติ?”

เขาพูดจบ ร่างกายก็ได้ขยับเข้าใกล้เธอ จิ่งหนิงพยายามที่จะขยับเข้าไป

“ฉัน ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น……”

เหตุผลที่ได้พูดข้อแม้ออกไป ก็เป็นเพราะว่าในส่วนลึกในใจของเธอนั้น การแต่งงานของทั้งสองนั้นคงไม่ยาวนาน

ส่วนต่อไปจะเป็นยังไงนั้น เธอนั้นไม่ได้ไปคิดถึงมันเลยสักครั้ง

ลู่จิ่งเซินยิ้มออกมา เหมือนว่าจะมองความคิดของเธอออก

“จิ่งหนิง เธอจำไว้นะ ฉันลู่จิ่งเซินแต่งงานแล้วจะไม่มีทางหย่า เพราะงั้นถ้าเธอตกลงแล้ว งั้นก็ไม่มีโอกาสให้เสียใจทีหลังแล้ว เธอนั้นก็ทำหน้าที่ของคุณนายลู่ดีๆ ฉันจะให้สิ่งที่เธออยากจะได้ทั้งหมด เข้าใจไหม?”

จิ่งหนิงมองเขา ไม่พูดอะไร

มือที่ได้จับคางของเธอนั้นก็ได้ออกแรง เธอเจ็บจนร้องออกมา ก็ได้ตอบไปอย่างน่าสงสารว่า “เข้าใจแล้ว”

ลู่จิ่งเซินถึงได้ปล่อยมือออกอย่างพอใจ

ตอนที่ปล่อยมือนั้นก็ได้เจอว่า ผิวที่ขาวละเอียดของเธอนั้นได้โดนบีมจนเกิดรอยเล็กๆ สองรอย

สายตานั้นก็ได้เครียดขึ้นเล็กน้อย

สุดท้ายก็รู้สึกว่าเมื่อกี้ตัวเองนั้นได้ดุเกินไป กลัวว่าจะทำให้เธอนั้นตกใจ

ก็เลยได้พูดเสริมออกไปว่า “ก็ได้ ช่วงแรกๆ นั้นฉันจะไม่แตะต้องเธอ แต่หวังว่าเธอนั้นจะชินกับฐานะของเธอเร็วๆ อย่าให้ฉันต้องรอนาน หื้ม?”

พอเข้าใจความหมายของเขา ใบหน้าของจิ่งหนิงก็ได้แดง แล้วพยักหน้า

ลู่จิ่งเซินหันหลังแล้วได้เดินออกไปข้างนอก ไม่นาน ก็ได้เอาเสื้อผ้าผู้หญิงตัวใหม่ชุดหนึ่งแล้วเดินเข้ามา

เอาเสื้อส่งให้จิ่งหนิง “เปลี่ยนเสร็จแล้วออกมา!”

จิ่งหนิง “อ่อ” ตอบออกไป

ประตูห้องน้ำได้ปิดลง จิ่งหนิงก็ได้ถอดเสื้อที่เปียกออก เปลี่ยนเสื้อใหม่ที่ลู่จิ่งเซินเอาให้

เสื้อผ้านั้นต้องเป็นซูมู่ที่อาศัยจังหวะตอนที่พวกเขาอยู่ในห้องน้ำแล้วเตรียมให้

สีที่อ่อน ชุดธรรมดาที่เรียบง่ายสบายๆ ใส่อยู่บนตัวของเธอนั้น ให้ทำให้ความหยิ่งยโสของเธอนั้นลดลงไม่น้อย จากนั้นก็กลายเป็นความสดใสบริสุทธิ์ของนักเรียน

จิ่งหนิงมองตัวเองในกระจก อึ้งไปสักพัก

ตอนนี้อายุของเธอนั้นก็ไม่มากอะไร ก็แค่ยี่สิบสี่ปี ถ้าเทียบกับคนธรรมดา ก็เป็นนักศึกษาที่จบมาสองปี

แต่อาจเป็นเพราะห้าปีที่ผ่านมานั้นผ่านอะไรมามากมาย ใจของเธอนั้นได้ผ่านความยากลำบาก บวกกับปกตินั้นได้อยู่ร่วมกับคนอายุสามสี่สิบปีที่ทำงานด้วยกันอยู่ตลอด ก็เลยทำให้เธอนั้นได้เรียนรู้ถึงความเป็นผู้ใหญ่

เพราะแบบนี้ เธอที่ได้ลืมไปว่าที่จริงแล้วเธอนั้นยังเด็ก

อยู่ในช่วงอายุที่ดีที่สุดของผู้หญิง

ช่วงอายุแบบนี้ความสาว หน้าตา เพียงพอที่จะอวดใครๆ และก็มีมากพอที่จะให้คนอื่นพอใจในความสวย

เธอนึกถึงคำพูดที่ลู่จิ่งเซินพูดเมื่อกี้ ตาก็ได้ตก

อยู่นาน ก็ได้ยิ้มออกมา

เปลี่ยนเสื้อเสร็จออกไป ก็พบว่าห้องนอนนั้นไม่มีคน

ห้องรับแขกนั้นมีคนพูดคุยกันอยู่ เธอเดินออกไป นอกจากลู่จิ่งเซินกับซูมู่แล้ว ยังเห็นคนบ้านตระกูลจิ่งทั้งครอบครัวแล้วก็มู่ยั่นเจ๋อก็อยู่ด้วย

หวังเสว่เหมยนั่งอยู่บนโซฟาเดี่ยว ข้างหลังนั้นมีจิ่งเซี่ยวเต๋อกับหยูซิ่วเหลียนยืนอยู่

และมู่ยั่นเจ๋อได้ประคองจิ่งเสี่ยวหย่ายืนอยู่อีกข้าง

เห็นว่าเธอเดินออกมา ใบหน้าของจิ่งเสี่ยวหย่าก็ดูว่าเป็นห่วง พูดออกมาอย่างอ่อนโยนว่า “พี่สาว ฉันได้ยินว่าเกิดเรื่องกับพี่ก็ได้รีบออกจากโรงพยาบาลกลับมาหา พี่ไม่เป็นอะไรนะ?”

จิ่งหนิงมองเธออย่างเย็นชา ไม่พูดอะไร เดินไปนั่งข้างๆ ลู่จิ่งเซิน

ในห้องนั้นไม่มีใครสนใจเธอเลยสักนิด จิ่งเสี่ยวหย่าหน้าได้เสียไปเล็กน้อย บรรยากาศน่าอึดอัดมาก

และคนอื่นในตระกูลจิ่งจะไปมีเวลาที่ไหนมาสนใจเธอ?

ตอนที่ลู่จิ่งเซินประกาศว่าจิ่งหนิงเป็นภรรยาของเขานั้น ก็ได้ทำให้คนนั้นได้สับสนมึนงงไปหมดแล้ว!

พองงเสร็จ ก็ได้เต็มไปด้วยความกลัวกับความกังวล

การกระทำของพวกเขาในคืนนี้นั้นมันเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย ขนาดพวกเขาเองก็คิดแบบนั้น!

เพราะงั้น ไม่ว่าลู่จิ่งเซินจะจัดการกับพวกเขายังไง พวกเขาก็ไม่รู้จะพูดอะไรทั้งนั้น!

ถึงแม้เหตุผลจะเป็นแบบนั้น แต่ในใจนั้นก็ยังไงโทษจิ่งหนิงอยู่ดังเดิม

ไหนๆ ก็ได้คว้าของสูงอย่างคุณชายลู่มาแล้ว ทำไมไม่รีบพูดออกมาก่อนหน้านี้?

ยังได้เดินไปตามแผนของพวกเขา ดูตอนนี้สิ ทำให้คนทั้งบ้านได้ขายหน้าต่อหน้าคนมากมายก็ช่างแล้ว ยังทำให้คุณชายลู่ไม่พอใจอีก เธอต้องจงใจแน่ๆ!

โหดร้ายเกินไปแล้ว!

ใบหน้าของหวังเสว่เหมยเต็มไปด้วยความโกรธจิ่งหนิงเหมือนจะรู้สึกได้ ก็ได้หันไปมองเธอ ก็เลยได้เปลี่ยนเป็นยิ้มออกมาแห้งๆ

ไม่พอใจเหรอ?

ทนไปเถอะ!

ซูมู่ได้สั่งให้คนนั้นพาเฉินหย่งต๋าขึ้นมา ถ้าเทียบกับบริการที่คนตระกูลจิ่งได้รับนั้น เฉินหย่งต๋าไม่ได้มีบริการที่ดีขนาดนั้น

เห็นว่าเขานั้นได้ถูกจับลากเข้ามาให้ห้อง ใบหน้าร่างกายนั้นได้มีรอยช้ำจากการถูกต่อย ใต้ตานั้นยังมีรอยช้ำสีเขียวม่วงเป็นดวง

มองออกเลยว่าถูกคนสั่งสองมาเรียบร้อย!

ถึงเวลานี้แล้ว เฉินหย่งต๋าทำไมจะไม่เข้าใจว่าสถานการณ์นี้คืออะไร?

พอเห็นลู่จิ่งเซิน ก็ได้รีบ “ตุ้ม” คุกเข่าลงไป

“ประธานลู่! เข้าใจผิดแล้วครับ นี่มันเป็นการเข้าใจผิด!”

ลู่จิ่งเซินนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวหนังแท้ ขาที่ยาวนั้นได้ไขว่ห้าง ใบหน้านั้นได้มีรอยยิ้มที่เย็นชาประดับอยู่

“เข้าใจผิด? หนึ่งชั่วโมงที่แล้วนายไม่ได้พูดแบบนี้นะ”

เฉินหย่งต๋าแทบจะร้องไห้ออกมา

ใครรู้บ้างว่าช่วงหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมานั้น เขาได้ผ่านความทรมานอะไรมาบ้าง

คนกลุ่มนี้มันโรคจิตทั้งหมด! ไม่ได้คิดว่าชีวิตคนนั้นเป็นชีวิต แม้ว่าเขาจะหน้ามืดไปหน่อย หื่นไปหน่อย แต่ก็ไม่อยากตายนะ!

“ว่ามา! นี่มันเรื่องอะไร? ถ้าพูดมาตรงๆ นายนั้นคงจะยังมีชีวิตรอดกลับไปอยู่ แต่ถ้าพูดโกหกแม้แต่คำเดียว……”

เขาได้หยุดไป สายตานั้นเต็มไปด้วยความอาฆาต “นายรู้ว่าจุดจบเป็นอะไรใช่ไหม!”

เฉินหย่งต๋าหน้าซีด ตกใจจนรีบพยักหน้า “ครับ ผมพูด ผมพูดออกไปทั้งหมด! ประธานลู่ ผมสาบานได้เลยว่า เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับผม เป็นเพราะอีแก่คนนี้คนเดียว เธอเป็นคนสั่งให้ผมทำ! เธอบอกว่าถ้าผมยอมแสดงละครกับพวกเขาฉากหนึ่ง ใส่ร้ายว่าจิ่งหนิงกับผมเกี่ยวข้องกัน เงินล้านกว่าบาทที่ผมติดหนี้พนันกับจิ่งเซี่ยวเต๋อก็ไม่ต้องคืนแล้ว! ตอนนั้นผมนั้นเห็นแก่เงิน ก็ได้ตกลงกับพวกเขาไป! ขอโทษครับประธานลู่ ผมผิดไปแล้ว ผมนั้นมีตาหามีแววไม่ ไม่รู้ว่าจิ่งหนิงเป็นภรรยาของคุณ ขอร้องคุณอย่าถือสาผู้น้อยอย่างผมเลยครับ ปล่อยผมไปเถอะ!”

เขาร้องไห้ไป แล้วก็คานเขาไปหมายจะกอดเท้าของลู่จิ่งเซิน

ซูมู่ที่อยู่ข้างๆ เห็นเข้า ก็ได้ตรงเข้าไป ถีบออกไปอย่างแรง

ถึงแม้ซูมู่เป็นเลขาของลู่จิ่งเซิน แต่ปกตินั้นก็ได้ฝึกฝนมา แรงที่แตะออกไปนั้นเยอะมาก เฉินหย่งต๋าได้กลิ้งออกไปหลายเมตร แล้วก็ล้มลงกับพื้น

คนที่เห็นเหตุการณ์นั้นอึ้งไปเลย

จิ่งหนิงก็ตกใจเล็กน้อย

มีแค่ลู่จิ่งเซิน ที่สีหน้าไม่เปลี่ยน

หวังเสว่เหมยตกใจเสร็จ ก็ได้รู้สึกตัว

เธอโกรธแล้วพูดว่า “เฉินหย่งต๋า! นายพูดบ้าอะไรออกมา? จิ่งหนิงเป็นหลานแท้ของฉัน ฉันจะทำร้ายเธอได้ยังไง? นายเป็นคนแบบไหนทุกคนรู้และเข้าใจดี ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพวกเธอเกี่ยวข้องกันตั้งแต่แรกแล้ว ฉันจะยอมให้พวกเธออยู่ด้วยกัน?”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset