วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 298 เทพผู้ยิ่งใหญ่พาบิน

บทที่ 298 เทพผู้ยิ่งใหญ่พาบิน

แม้ว่าเธอกับกวนเยว่หวั่นไม่คุ้นเคยกัน ก็ไม่มีความผิดอะไรต่อกัน เธอต่อกับกวนเยว่หวั่นเองก็ไม่ได้เกิดอารมณ์ที่มีความรู้สึกไม่พอใจอะไรเลย

แต่เขาดีเลวก็เป็นน้องสาวในสายเลือดห่างๆฝั่งพ่อของกวนเสว่เฟย กวนเสว่เฟยทั้งวันปรารถนาให้ลู่จิ่งเซินอยู่ ตอนนี้เธอกลับเรียนเชิญน้องสาวในสายเลือดห่างๆฝั่งพ่อของคนอื่นเขามากินข้าวด้วยกัน นี่ไม่ใช่หาความไม่สบายใจให้กับตนเองหรือ?

โชคดีที่กวนเยว่หวั่นดูแล้วก็เป็นคนที่เข้าใจความรักความห่วงใยเอาใจใส่ดูแลด้วยดีคนหนึ่ง น่าจะไม่รับปากมั้ง? นึกไม่ถึง กวนเยว่หวั่นตาสว่างขึ้น ไม่ทันคิดก็เห็นด้วยแล้ว

“ได้สิ งั้นก็รบกวนแล้ว”

จิ่งหนิง “……..”

แฝงไว้ด้วยความอึดอัดเต็มใบหน้า นำกวนเยว่หวั่นเข้าไปในห้องพิเศษ

ทุกคนมองเห็นเธอ ล้วนอึ้งชะงักด้วย มีความประหลาดใจเล็กน้อย

แต่โชคดีว่าเฟิงยี่กับเซ่เซียวและคนอื่นๆล้วนเป็นคนที่ฉลาดเฉียบแหลม บวกกับตัวพวกเขาเองไม่มีความเห็นอะไรกับกวนเสว่เฟยด้วย

แม้ว่ากวนเยว่หวั่นนามสกุลก็เป็นกวนเช่นกัน ถ้าพูดถึงความสัมพันธ์ทางสายเลือด กับกวนเสว่เฟยก็เป็นญาติฝั่งพ่อห่างกันหลายรุ่นแล้วจริงๆด้วย

แต่ตามความจริง บิดาของกวนเยว่หวั่นเป็นญาติห่างๆที่ไม่สามารถห่างอีกได้แล้ว แม้ว่าอยู่ในเมืองหลวงเช่นกัน แต่ในมือเพียงแค่ทำการค้าขายเล็กน้อยเท่านั้น กับตระกูลกวนที่เป็นความสัมพันธ์สายตรงไม่สามารถเทียบได้แม้แต่น้อย

ในสถานการณ์เช่นนี้ ตามความจริงกวนเยว่หวั่นไม่ได้เป็นดั่งกวนเสว่เฟยแบบนั้น ปนเปเข้าไปในการต่อสู้ทางด้านผลประโยชน์ของตระกูลเลย

ทุกคนไม่มีความเห็นต่อเธอ บวกกับนิสัยของเธอสุภาพอ่อนโยนอีกทั้งหน้าตาก็สวยด้วย อยู่ด้วยกันแล้ว ถึงมีความน่ารักเล็กน้อยเช่นกัน จากนั้นก็เข้าร่วมกับคนทั้งหลายเป็นกลุ่มเดียวกันเร็วมาก

จี้หยุนซูคือคนสุดท้ายที่มาถึง เพราะว่าอยู่ดีๆในโรงพยาบาลเกิดเรื่องแล้วจึงยุ่งมาก อาชีพของเขาพิเศษ ดังนั้นทุกคนก็ไม่ค่อยถือสาด้วย

เห็นเขาเข้ามา จิ่งหนิงรีบให้คนรับใช้ไปเอาถ้วยชามมาเพิ่ม บนกายจี้หยุนซูสวมเสื้อกันหนาวสีน้ำตาลอ่อนตัวหนึ่ง พันผ้าพันคอไว้ ดูแล้วสุภาพมีความรู้ลุ่มลึกเป็นพิเศษ ลักษณะการแต่งตัวเหมือนดั่งปัญญาชน

เดิมทีกวนเยว่หวั่นกำลังลวกเนื้อกิน หม้อไฟที่นี่ถูกปากเธอมาก ดังนั้นกินแล้วก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะหม่ำเข้าปากอย่างตะกละตะกลามเล็กน้อย

ดังนั้นเพิ่งยัดเนื้อชิ้นหนึ่งเข้าไปในปาก ก็มองเห็นเขาเดินเข้ามาแล้ว ฉับพลันนั้นเบิกตาอย่างกว้าง หน้าแดงระเรื่อขึ้น เนื้อคำหนึ่งติดอยู่ในคอ กลืนก็ไม่ได้คายก็ไม่ออก อดไม่ได้ไอเสียงดังขึ้นมา

จี้หยุนซูเห็นได้ชัดก็มองเห็นกวนเยว่หวั่นด้วย อึ้งชะงักเล็กน้อย ออกเสียงโดยจิตใต้สำนึกว่า “เยว่หวั่น คุณอยู่นี้ด้วยได้ยังไงหรือ?”

กวนเยว่หวั่นดื่มน้ำคำหนึ่ง ในที่สุดก็กลืนเนื้อชิ้นนั้นลงไปแล้ว ในใจยังคิดอยู่ว่าภาพลักษณ์ของตนเองเมื่อกี้น่าเกลียดขนาดไหน ถึงขนาดถูกเขามองเห็นแล้ว

จากนั้น จึงรีบลุกขึ้นมา ยิ้มอย่างอึดอัดทักทายไป

“ศิษย์พี่สวัสดี”

ทุกคนอึ้งชะงัก มีความมึนงงเล็กน้อย

“ศิษย์พี่อะไรหรือ? พวกคุณรู้จักกันหรือ?”

จี้หยุนซูยิ้มอธิบายว่า “โอ๊ะ ไม่มีอะไร ผมไม่ใช่จัดตั้งสำนักงานวิจัยทางการแพทย์ด้วยตนเองหรือ? ช่วงเวลาก่อนหน้านั้นเธอเข้ามาสมัครงาน ตอนนี้เป็นผู้ช่วยของผม”

ทุกคนนี่จึงรู้แจ้งกระจ่างในฉับพลัน

กวนเยว่หวั่นเป็นนักศึกษาแพทย์ ทุกคนล้วนรู้ กลับนึกไม่ถึงจะมีบุญวาสนาเช่นนี้

มีความสัมพันธ์ชั้นนี้กับจี้หยุนซูอยู่ ทุกคนค่อยดูกวนเยว่หวั่นอีกทันทีนั้นก็รู้สึกยิ่งใกล้ชิดแล้ว

มีผู้บริการเข้ามาช่วยดึงเก้าอี้ออกให้จี้หยุนซู บรรยากาศก็กลับไปสู่ปกติอีก ทุกคนทั้งกินข้าวทั้งพูดคุยหัวเราะไป มีเพียงกวนเยว่หวั่น ใบหน้าทั้งใบตั้งแต่เริ่มจนสุดท้ายล้วนแดงระเรื่ออยู่ ก้มหัวรู้จักเพียงแต่กิน แม้แต่หัวก็ไม่กล้าเงยขึ้นมา

หลังจากกินข้าวเสร็จ เฟิงยี่พูดเสียงดังว่าอยากจะเล่นเกม

เขาเป็นผู้หลงใหลกับเกมคนหนึ่ง ยังไงทุกคนก็ไม่มีเรื่องอะไร ก็เห็นด้วยแล้ว

คนทั้งกลุ่มล้วนล้อมนั่งอยู่บนโซฟา หยิบมือถือเปิดเกม

จี้หลินยวนเป็นคนที่ไม่เล่นเกมนี้ ดังนั้นเขาไม่มา แต่ว่าหัวเหยาเล่น

ดังนั้นหัวเหยา จิ่งหนิง ถังลั่วเหยา เฟิงยี่ จี้หยุนซู ก็เลยรวมตัวเป็นทีมเดียวกัน

ลู่จิ่งเซินนั่งอยู่ข้างกายจิ่งหนิงเป็นที่ปรึกษาให้เธอ จิ่งหนิงกังวลว่าเวลาที่ทุกคนเล่นดึกเกินไป จะหน่วงถ่วงการพักผ่อนของเด็ก ดังนั้นก็ให้ซูมู่ส่งอานอานกลับไปก่อน

อาชีพที่จิ่งหนิงเลือกคือนักรบด้านบน สิ่งที่ถังลั่วเหยาเล่นคือมือฆ่า

เริ่มเปิดเกม ถังลั่วเหยาก็พูดว่า “เฟิงยี่ อีกสักครู่คุณนั่งยองๆอยู่ในพงหญ้า พวกเรารอโจมตีพวกเขา พวกเขาจะต้องมาแย่งพ่อลานอย่างแน่นอน อย่าทำให้พ่อลานของฉันถูกพวกเขาแย่งไป”

เฟิงยี่ย่อมรับปากเต็มคำอยู่แล้ว

จากนั้น เขาเพิ่งเดินถึงพงหญ้าที่นั่น เห็นไม่มีคน ก็เดินเตร่ สักหน่อย ไม่รู้ว่ามือฆ่ากระโดดออกมาคนหนึ่งจากไหน จับเขากับตาพอดี

เฟิงยี่หลบหนีไม่ทัน ไม่กี่ครั้งก็ถูกคนยิงตายเลย ข้างในส่งเสียร้องอย่างอนาถของพระอาจารย์ออกมา

เขาอึ้งชะงักอึ้งแล้วอึ้งอีก มีปฏิกิริยาขึ้นมา ร้องพูดว่า “อีเหี้ยยยยย! หลานคนนี้ถึงขนาดรอโจมตีผม! ผมนี่คือทำดีมาตลอดกลับต้องพลาดแล้วหรือ?”

ถังลั่วเหยาจ้องมองเขาหนึ่งที พลิกตาขาวหนึ่งที

พูดเหลวไหล! คุณก็กำลังคิดจะรอโจมตีคนอื่นเขาไม่ใช่หรือ? อีกทั้งแม้แต่เธอล้วนมองเห็นแล้วว่าที่นั่นมีคนคนหนึ่ง เขาถึงขนาดมองไม่เห็น ยังเดินเข้าไป นี่ไม่ใช่ส่งหัวคนไปอย่างชัดเจนเลยหรือ?

เธอจนใจจนส่ายหัว ส่ายแล้วส่ายอีก พูดว่า “คุณสับเปลี่ยนการเจริญเติบโตเถอะ อย่าเดินเตร่”

เฟิงยี่มีความไม่พอใจเล็กน้อย หลังจากฟื้นคืนชีพแล้ว ทั้งเดินไปยังข้างนอกทั้งอธิบายว่า “ผมบอกกับพวกคุณ พวกคุณอย่าดูถูกความสามารถของผมอย่างเด็ดขาด ผมเล่นเกมเก่งมากนะ!”

จากนั้นคำพูดเพิ่งพูดจบ ก็ได้ยินเสียงที่ร้องอย่างอนาถ วีระบุรุษรบตายจากข้างใน

พระอาจารย์ที่เฟิงยี่เล่นถูกฆ่าอีกครั้ง

ในทันทีนั้นเขาเบิกตากว้าง จ้องมองหน้าจอมือถืออย่างไม่กล้าเชื่อ จากนั้นวินาทีถัดไป…….

“duoblekill!”

จิ่งหนิงที่เล่นถูกหลอกไม่รู้ว่าเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ใช้ลักษณะพลังที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน พุ่งขึ้นไปฆ่าทั้งคู่เลย

เฟิงยี่อึ้งทันที ต่อจากนั้นตบขาหนึ่งที “อีเหี้ยยยยย! พี่สะใภ้รองเก่งๆๆ เก่งขนาดนี้!”

จิ่งหนิงยกริมฝีปากยกแล้วยกอีก ยิ้มราบเรียบหนึ่งที “ชิวๆล่ะ”

หัวเหยาอดไม่ได้แล้วจริงๆ ยิ้มพูดว่า “คุณเปิดบัญชีเสริม ไม่พาเล่นล้วนถือว่าคุณแพ้”

ในเวลานี้ มือยิงที่เธอเล่นกัน ช่วยเหลือจี้หยุนซูเล่นล้วนผลักทางข้างล่างออกหมดแล้ว วิ่งมาหนุนช่วยที่ทางตรงกลาง

ทั้งจัดการทหารทั้งอธิบายกับเฟิงยี่ว่า “ฉันบอกกับคุณ เธอนะเป็นกษัตริย์ยี่สิบดาวเพียงคนเดียวในกลุ่มเพื่อนที่ดีของพวกเรา เป็นซุปเปอร์เทพผู้ยิ่งใหญ่ล่ะ”

คำพูดเพิ่งพูดจบ ก็ได้ยินเสียงของจี้หยุนซู “ระวัง”

เพียงเห็นในพงหญ้าอยู่ดีๆมีเงาคนหนึ่งวิ่งเพ่นพ่านออกมา จี้หยุนซูเพื่อที่จะปกป้องหัวเหยาตัดสินใจสละชีวิตเพื่อสัจธรรมอย่างเด็ดขาด ตอนเวลาที่ทุกคนมีปฏิกิริยากลับมา จี้หยุนซูก็ตายไปแล้ว

หัวเหยาอึ้งชะงักเล็กน้อย มีความอึดอัดเล็กน้อย

“เรื่องนั้น คุณหมอจี้ ขอโทษนะ ฉันมองไม่เห็น มัวแต่คุยกันเกินไปแล้ว”

จี้หยุนซูพูดอย่างราบเรียบว่า “ไม่เป็นไร”

รอบนี้จบอย่างรวดเร็วเลย จิ่งหนิงตนเป็นบัญชีเสริมกษัตริย์ ย่อมพาเล่นอย่างง่ายดายอยู่แล้ว

หลังจากเล่นจบ เธอหันไปถามลู่จิ่งเซิน “คุณจะมาเล่นสักรอบไหม? สนุกมากนะ”

ลู่จิ่งเซินส่ายหัว “ผมจ้องมองคุณเล่นก็พอ”

เฟิงยี่กลับไม่เล่นแล้ว “ไอ้หยะ พวกคุณนั่งอยู่ที่นั่นน่าเบื่อมากนะ มาเถอะ มาเล่นด้วยกัน ถ้าไม่งั้นพวกเรามาเปิดห้อง สามต่อสี่หรือสามต่อสามยังไงดีล่ะ?”

ทันทีที่จิ่งหนิงได้ยิน มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที “ได้สิ ใครจะกลัวใคร มาก็มา”

เฟิงยี่ยิ้มพูดว่า “งั้นผมไปถามสักหน่อยตาจี้มาหรือไม่มา!”

พูดอยู่ ก็วิ่งไปยังข้างนอก

ในเวลานี้ จี้หลินยวนกำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่ระเบียง

ตอนที่เขาเข้าไป จี้หลินยวนวางสายพอดี มองเห็นเขาออกมา ยังมีความประหลาดใจเล็กน้อย

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset