วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 733 แผนถูกเปิดโปง

เป็นไปไม่ได้!

ดังนั้นเธอจึงได้ปฏิเสธโดยไม่ต้องครุ่นคิดใดๆ

“ไม่!!!”

เมื่อเธอพูดจบก็หันศีรษะไปทางอื่น

ชายคนนั้นดวงตาเยือกเย็นลงทันที เขาเหยียดหลังตรงและมองมาที่เธอ

ก่อนจะหัวเราะเยาะเย้ย

เสียงหัวเราะนั้นเหมือนกับเสียงของสัตว์ร้าย ทำให้จิ่งหนิงรู้สึกหนาวสันหลังอย่างอธิบายไม่ถูก

ความรู้สึกคลุมเครือเหล่านี้เธอเหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนสักแห่ง?

จากนั้นก็ได้ยินเขาพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ตอนนี้คุณเป็นคนของผมแล้ว ในที่ทุรกันดารอย่างนี้ ต่อให้ผมจัดการกับคุณซะก็ไม่มีใครเข้ามาห้ามได้หรอก คุณแน่ใจนะว่าจะฝืนคำสั่งผมต่อไป?”

จิ่งหนิงกัดริมฝีปากของตนแล้วเงยหน้ามองดูเขา

ดวงตาคู่นั้นมันดูไม่คุ้นเคย แต่เธอก็เหมือนกับว่าเธอคุ้นเคยมันมาก

ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ไปได้?

เขามีดวงตาแบบนี้ได้อย่างไรกัน?

แววตานั้น เธอไม่ได้เห็นมาเป็นเวลานานแล้ว และเธอก็คุ้นเคยมันที่สุด

แต่ว่าคนคนนั้น…… ไม่สิ ไม่น่าเป็นไปได้ เขาจะมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

หัวใจของจิ่งหนิงเต้นดังโครมคราม และพบว่าชายตรงหน้าโน้มตัวเข้ามาอีกครั้งก่อนจะพูดว่า “ผมจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง จะจูบหรือไม่จูบ?”

จิ่งหนิงเม้มริมฝีปากของเธอและกลืนน้ำลายลงไป

ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่า ที่พูดกันว่าต้องก้มหัวเวลาอยู่ใต้ชายคาเป็นอย่างไร

และเธอก็มั่นใจอย่างมากว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านี่น่ากลัวมากๆ

ไม่ใช่คนที่เธอจะรักมือได้อย่างง่ายๆ

ดังนั้นเธอจึงลังเลอยู่สักพัก และนึกถึงว่าโม่หนานยังคงนอนอยู่บนรถด้วยอาการบาดเจ็บ จึงทำได้เพียงก้มหน้ายอมรับชะตากรรม

“ก็ได้ ฉันจะทำ!”

เมื่อพูดจบเธอก็หอมเข้าที่แก้มของเขาอย่างรวดเร็ว

และในใจของเธอก็แอบด่า

ถุยถุยถุย! เธอไม่ตั้งใจทำหรอก คนที่ถูกเธอจูบเมื่อสักครู่ขอให้มันปวดท้องตาย ไม่ตายดีแน่!

เมื่อสร้างเหตุผลขึ้นมาหักล้างให้กับตัวเองแล้วเธอก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย

ชายหนุ่มคนนั้นเมื่อถูกเธอจูบเข้าที่แก้มก็ไม่ทำให้เธอลำบากใจอีก

เขายิ้มขึ้นแล้ว ลุกขึ้นยืนพูดว่า “ผมจะรอคุณอยู่ข้างๆนะ”

เมื่อพูดจบเขาก็หยุดชะงักลงชั่วครู่แล้วพูดต่อไปว่า “อย่าคิดจะหนีล่ะ คุณก็รู้นี่ว่าเพื่อนของคุณยังอยู่ในมือของเรา”

จิ่งหนิงยิ้มแล้วพยักหน้า แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอมันช่างจอมปลอมเสียจนทำให้เบื่อหน่าย

แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้สนใจมัน เมื่อกำชับกับเธอเรียบร้อยแล้ว เขาก็ก้าวขาเดินจากไป

เขาไม่ได้เดินไปไหนไกลแค่ยืนห่างออกไปสี่ห้าก้าว

จิ่งหนิงจึงแอบถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะเดินไปหลังต้นไม้ใหญ่แล้วนั่งยองๆลง

แน่นอนว่าเธอไม่ได้อยากเข้าห้องน้ำจริงๆ และเธอก็ไม่ได้ถอดกางเกงออก

เธอเพียงแค่นั่งยองๆและสังเกตปฏิกิริยาของชายคนนั้นอยู่เงียบๆ

เธอพบว่าเขายืนอยู่ตรงนั้นโดยหันหลังให้เธอ และไม่ได้ตั้งใจจะหันหลังมาเพื่อแอบดูเธอแม้แต่น้อยจึงทำให้เธอโล่งใจขึ้นมาก

เธอหันมองซ้ายมองขวาและในที่สุดก็เห็นก้อนหินก้อนใหญ่ที่ว่างอยู่ไม่ไกล

มันต้องใช้มือทั้งสองข้างหยิบขึ้น บริเวณขอบค่อนข้างแหลมคม เธอมั่นใจได้ว่าหากหินนี้ทุบลงไปที่ศีรษะของเขา ไม่ตายก็คงจะสลบ

เธอจึงค่อยๆย่องออกไปอย่างเบาๆ และหยิบหินก้อนนั้นขึ้นมา

จากนั้นก็ค่อยๆย่องเข้าไปหลังเหมือนแมวขโมย ตรงเข้าไปหาชายคนนั้นทีละก้าวๆ

ชายหนุ่มยืนหันหลัง และอยู่ที่เดิม

เขาเอามือไขว้หลังเอาไว้ แสงสีเหลืองอบอุ่นในยามเช้าทำให้เกิดเป็นความงาม อย่างอธิบายไม่ถูก

จิ่งหนิงถือหินไว้ในมือแล้ว แล้วถอนหายใจอยู่ในอก

คนเลวๆแบบนี้ ทำไมถึงให้ความรู้สึกดีๆได้นะ!

หน้าเนื้อใจเสือ นี่มันขยะชัดๆ!

เธอคิดเรื่องนี้อยู่ในใจ ตอนนี้เธอเข้าใกล้ชายหนุ่มมากขึ้นทุกที

เมื่อเห็นได้ว่าเธอเดินไปถึงด้านหลังของเขาแล้วเธอก็ยกแขนขึ้นกำลังจะนำหินก้อนนั้นทุบลงไปอย่างเต็มแรงที่ศีรษะของเขา

แต่ทันใดนั้น ในขณะนี้เอง

ชายหนุ่มก็หันหลังกลับมา

ด้วยความเร็วดุจสายฟ้าแลบ มือข้างหนึ่งของเขาคว้าแขนของเธอไว้ และอีกข้างหนึ่งยกขึ้นกำบัง

ร่างกายของจิ่งหนิงแข็งทื่อ เธอยืนตกตะลึงอยู่ตรงนั้น

ชายหนุ่มหันหลังมามองเธอ

เมื่อเห็นว่าแขนทั้งสองข้างของจิ่งหนิงชะงักอยู่ท่ามกลางอากาศ และในมือของเธอมีหินก้อนใหญ่อันแหลมคมอยู่ จากท่าทางและทิศทางแล้ว เห็นได้ชัดว่าต้องการจะฆ่าเขา

แต่ตอนนี้มือของเธอทั้งสองข้างถูกเขาจับเอาไว้อยู่

จิ่งหนิงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขารู้ตัวได้อย่างไร

เมื่อได้ยินเขาหัวเราะขึ้น “หึๆๆ! คุณจะทำอะไรเหรอ? จะฆ่าสามีตัวเองหรือไง?”

ชายหนุ่มพูดและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ทำให้จิ่งหนิงได้สติกลับคืนมาและโกรธเคืองมาก

“สามีอะไรของแก!”

ในเมื่อถูกอีกฝ่ายจับได้แล้ว จิ่งหนิงก็เหมือนปล่อยหม้อแตกออกจากมือ เธอสนใจอย่างอื่นไม่ได้แล้วในเวลานี้

ในเมื่อเรื่องราวถูกเปิดเผย ไม่ใครคนใดคนหนึ่งก็ต้องตาย ดังนั้นเธอจึงไม่สนใจอะไรอีกและพยายามที่จะจัดการกับอีกฝ่ายหนึ่งให้ได้ เธอขว้างหินที่อยู่ในมือออกไป

ชายหนุ่มเอี้ยวตัวหลบได้อย่างง่ายดาย

เขาหัวเราะคิกคักแล้วพูดว่า “โถๆ ทำไมถึงดุจัง เงินที่เสียไปไม่คุ้มเลยนะเนี่ย”

ตอนนี้จิ่งหนิงโกรธเสียจนทำอะไรไม่ถูก

และในขณะเดียวกันเธอก็ตกใจกลัวมาก

ชายคนด้านหน้านี้แตกต่างจากที่เธอคิดเอาไว้มาก ในเมื่อเหตุการณ์ดำเนินมาถึงเกินกว่าเธอจะควบคุมได้ อีกอย่างโม่หนานยังคงนอนอยู่ในรถ หากว่าเขากลับไปและบอกเรื่องนี้กับพรรคพวก พวกเธอสองคนก็คงไม่อาจหนีไปไหนได้ และพวกเธอสองคนอาจต้องเผชิญกับชะตากรรมเหมือนขุมนรกที่ไม่มีวันย้อนกลับมา

เมื่อคิดได้ดังนั้น จิ่งหนิงก็รู้สึกเย็นวาบเข้าที่หลัง

เธอไม่สามารถคิดอะไรอย่างอื่นได้ เมื่อพบว่าแผนการนำก้อนหินทุบศีรษะเขาไม่ประสบผลสำเร็จ เธอจึงได้กระโดดพุ่งเข้าไปหาเขา

“ไอ้ชาติหมา ไปตายซะ!”

เมื่อเธอพูดจบก็ทุ่มตัวลงไปบนชายหนุ่ม และบีบคอเขา

อีกฝ่ายเหมือนรู้ดีว่าเธอจะทำการต่อต้านแต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะจู่โจมแบบนี้ จึงไม่ทันได้ตั้งตัวและถูกเธอผลักจนล้มลง

เนื่องจากสถานการณ์ทั่วไปแล้วเมื่อผู้หญิงเจอเรื่องแบบนี้เขาปฏิกิริยาแรกของพวกเธอก็คือการหันและวิ่งหนีไป

เนื่องจาก เรื่องของเรี่ยวแรงระหว่างผู้หญิงและผู้ชายไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้

เพียงแค่อีกฝ่ายหนึ่งวิ่งหนีไป ก็เท่ากับว่า ได้บอกจุดอ่อนของตนกับชายหนุ่มเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

เพียงแค่อีกฝ่ายหนึ่งตามทันเธอก็จะตกอยู่ในมือของคู่ต่อสู้อย่างแน่นอน

แต่ว่าจิ่งหนิงกลับไม่ได้ทำดังนั้น

เธอไม่เพียงแต่จะไม่ได้วิ่งหนีไป อีกทั้งเธอยังพุ่งตัวเข้ามาต่อสู้

ปฏิกิริยาอันดูโหดร้าย ดูเหมือนว่าเธอจะตั้งหน้าตั้งตาต่อสู้กับเขาอย่างดุเดือดจริงจัง

จิ่งหนิงลงมือคว้าคอของเขาไว้ทันทีและผลักเขากดลงที่พื้น

“ไอ้คนชั่ว ชาติหมา ไอ้เลว ให้สวะ ตายไปซะ!”

เธอตะโกนด่าทอของเขาและบีบคออย่างรุนแรง

จะว่าไปเมื่อตอนที่เธอออกแรงขึ้นมาจริงๆ ก็มีพละกำลังมากพอควร

ชายคนนั้นต่อให้เป็นสุภาพบุรุษเพียงใดแต่ในเวลานี้ก็อดไม่ได้ที่จะกลอกตามองดูเธอที่บีบคอของตนเอาไว้แน่น

เขาพยายามจับข้อมือของเธอเอาไว้และไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกว่าที่จะแก้ออกได้

ต่อจากนั้นก็รู้สึกว่าด้านล่างของเขา เจ็บปวดขึ้นมากะทันหัน

เขาอดไม่ได้ที่จะตะโกนร้องออกมา เมื่อถูกจิ่งหนิงกดเข่าข้างหนึ่งไปที่จุดอ่อนที่สุดของร่างกายและกระแทกกำปั้น เข้าให้ดีศีรษะ

ในขณะเดียวกันเธอก็ต่อยและตะโกนด่าว่า

“ไอ้ขยะ ไอ้สารเลว วันนี้ฉันเอาแกตายแน่!”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset