ตอนที่ 104 การเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาด
ต้นขาของหยางเฉ่วถูกกัดจนเป็นแผลเหวอะ ตอนนี้เธอจึงโกรธมาก
หลังจากพูดจบ ก็ยังเตะเจ้านี้อีกครั้ง
แต่ตอนนี้สภาพของโจวเจี่ยนก็ไม่ต่างอะไรกับหมาที่กำลังจะตายเลยสักนิด นอกจะหายใจรวยรินแล้ว ก็แทบไม่ขยับตัวเลยสักนิด
แต่นอกเหนือจากนี้ ผมกลับรู้สึกสงสัย
“ แกนพลังหยิน ” ที่หยางเฉ่วพูดว่าไม่มีแล้ว มันหมายความว่ายังไงกันแน่นะ
ผมจึงถามตรงๆ “ หยางเฉ่ว แกนพลังหยินที่เธอพูดถึง มันคืออะไรเหรอ ”
เมื่อหยางเฉ่วได้ยินผมถาม ก็หันมามองผมทันที
แสดงสีหน้าดูถูก “ ติงฝาน นายรู้อะไรบ้างเนี่ย แม้แต่แกนพลังหยินยังไม่รู้จักอีกเหรอ ”
ผมรู้สึกลำบากใจมาก พูดตามจริงแล้ว ผมก็ไม่รู้จักจริงๆนั้นแหละ
แต่นี่มันก็ไม่ใช่เรื่องอายนิ เพราะตัวเองพึ่งเข้าสู่โลกของคนปราบสิ่งชั่วร้ายเมื่อเร็วๆนี้ การไม่รู้จึงเป็นเรื่องปกติ
ดังนั้นผมจึงหัวเราะ “ ฉันไม่รู้จริงๆนะ ! ”
เมื่อหยางเฉ่วเห็นผมถามด้วยความจริงจัง เธอก็เผยรอยยิ้มที่มุมปาก “ พลังแบ่งเป็นหยินหยาง เวลามนุษย์เราฝึกฝนพลัง แต่พลังนี้คือพลังหยาง ซะส่วนใหญ่ แต่เขา เป็นมนุษย์แท้ๆ กลับมีพลังหยินเป็นหลัก ! ”
เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ ผมก็แสดงท่าทางตกใจออกมาอย่างชัดเจน จนอดไม่ได้ที่จะหันไปมองโจวเจี่ยนหลายต่อหลายครั้ง
เจ้าตัวแสบ ก่อนหน้านี้ยังคิดว่าเจ้านี้เป็นคนธรรมดาทั่วไป
แต่คิดไม่ถึงว่า เจ้านี้จะฝึกพลังในทางชั่วร้าย
แต่นี่มันก็ไม่แปลกอะไร ไม่อย่างนั้นเมื่อกี้พลังของมันก็คงไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้มหาศาลเพียงเวลาแค่ชั่วพริบตาแน่
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพวกเราร่วมมือกัน ตอนนี้ก็คงไม่สามารถปราบเจ้านี้ได้จริงๆ
แต่ในเวลานี้ จู่ๆโจวเจี่ยนที่กำลังหายใจโรยริน ก็พูดว่า “ ความลับของฉันถูกเปิดเผยแล้ว องค์กรไม่ไว้ชีวิตฉันแน่ พวกแก พวกแกฆ่าฉันซะ ! ”
ทันใดนั้นก็ได้ยินโจวเจี่ยนพูดแบบนี้ พวกเราจึงอึ้งไปในทันที
ผมรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง ! เมื่อกี้ตอนที่พึ่งเข้ามาในห้อง ชายคนนี้ยังกลัวตายอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับขอร้องให้พวกเราฆ่าเขา
ทำไมถึงขอให้ฆ่า นี่มันเรื่องอะไรกัน
หานเฉวเฟิงไม่ได้คิดอะไรเยอะขนาดนั้น เขาพูดออกมาตรงๆ “ องค์กรของแกชื่ออะไร ทำไมต้องฆ่าแก ”
โจวเจี่ยนนอนอยู่บบนพื้น ส่ายหัวช้าๆ “ ไม่รู้ นักพรตหยวนบอกว่า องค์กรสามารถทำให้ฉันเป็นอมตะ ไม่เจ็บไม่ป่วยได้ เมื่อองค์กรให้พลังกับฉันแล้ว ฉันก็จะต้องตอบแทนองค์กร โดยการเก็บเป็นความลับ ”
เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนี้ ผมก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
ความตายกำลังจะมาถึงอยู่แล้ว แต่เจ้านี้ยังทำปากแข็ง อย่างกับตัวร้ายในละครทีวี คิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่รึไงฮะ
“ แกไม่กลัวตายแล้วเหรอ ” ผมพูดอย่างเย็นชา
แต่จู่ๆโจวเจี่ยนก็หันไปมองเจ้าเชี่ยนเชี่ยนที่อยู่ข้างๆ จากนั้นก็หัวเราะอย่างขมขื่น “ กลัว ! แต่ตอนนี้สำหรับฉันแล้ว มันยากที่จะหนีจากความตายได้ และตอนนี้ฉันก็กลัวว่าคนในครอบครัวทั้งหมดจะต้องตายมากกว่า ”
“ ทำไมถึงพูดแบบนั้น ” หยางเฉ่วถามขึ้นมาอีกครั้ง
โจวเจี่ยนสูดหายใจเข้า “ เธอทำลายแกนพลังวิญญาณของฉันแล้ว สำหรับองค์กรแล้ว ความลับของฉันก็ถือว่าถูกเปิดเผยแล้ว ไม่ต่างอะไรกับคนที่ต้องตาย ! ถ้าฉันไม่ตาย หนีไปได้ หรือเปิดเผยความลับขององค์กร คนในครอบครัวทั้งห้าคนของฉัน ก็จะต้องตาย ! แม้แต่ แม้แต่วิญญาณก็ต้องแตกสลาย ”
ผมเลิกคิ้ว “ ขอแค่แกยอมบอกความลับของเจ้าองค์กรนี้กับฉัน พวกเราสามารถปกป้องคนในครอบครัวของแกได้ ! ”
เมื่อโจวเจี่ยนได้ยินผมพูดแบบนั้น เขากลับหัวเราะ “ ฮ่าฮ่าฮ่า ” และพูดว่า “ ขนาดสู้กับฉันยังลำบากขนาดนั้น ยังคิดจะต่อต้านองค์กรอีก น่าขำ ! จะฆ่า ก็ฆ่าเถอะ ! ”
“ ฮึ อย่าคิดว่าแกไม่ยอมพูดแล้วฉันจะไม่มีวิธีอื่น ตอนที่ฆ่าแกแล้ว ค่อยจับวิญญาณแกเอาไว้ ฉันจะคอยดูว่าแกจะยังปากแข็งได้อีกไหม ! ” ขณะที่พูด หยางเฉ่วทำท่าทางจะลงมือทันที
แต่ทันใดนั้นเจ้าเชี่ยนเชี่ยนกลับก้าวมาข้างหน้า “ ท่านนักพรตไม่ต้องถึงมือคุณหรอก ถ้าจะทำก็ให้ฉันทำแทนเถอะ ให้เขาได้ชดใช้ให้ฉัน ! ”
หลังจากพูดจบ เจ้าเชี่ยนเชี่ยนก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
ยกกรงเล็บในมือทั้งสองข้างขึ้น พร้อมที่จะล้างแค้น
พวกเราเห็นทุกอย่าง แต่กลับไม่มีทีท่าว่าจะห้าม
โจวเจี่ยนคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นคนชั่วที่ฝึกพลังชั่วร้าย แถมยังเป็นสมาชิกในองค์กรชั่วลึกลับ
แม้ว่าเขาจะมีพลังชั่วร้ายไม่มากนัก แต่คนประเภทนี้จะปล่อยให้อยู่รกโลกไม่ได้
และคนชั่วที่ฝึกพลังชั่วร้ายนี้ แม้ว่าพวกเราจะเป็นคนปราบสิ่งชั่วร้ายแต่ถ้าฆ่าเขาจริงๆ พอตายไป ก็ต้องได้รับผลกรรมเช่นกัน
ดังนั้นพวกเราจึงไม่สนใจว่าคนประเภทนี้จะเป็นหรือตาย คิดแค่ว่าหลังจากเจ้าเชี่ยนเชี่ยนแก้แค้นเสร็จ ก็จะจับวิญญาณของเขาเอาไว้ แล้วค่อยถามต่อ
แต่ใครจะคิดในตอนนั้นเอง ปัญหาก็เกิดขึ้น
ขณะที่เจ้าเชี่ยนเชี่ยนกำลังพุ่งเข้าไปหาโจวเจี่ยน ร่างของโจวเจี่ยนกลับสั่นอย่างแรง
สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างฉับพรัน ในปากร้อง “ อ้า ” ออกมาหนึ่งครั้ง จากนั้นก็กระอักเลือดออกมาทันที
ไม่เพียงแค่นั้น ตอนนี้ที่ผิวของโจวเจี่ยน กลับมีการเปลี่ยนแปลงแปลกๆเกิดขึ้น
ตำแหน่งของสัญลักษณ์ผีสามตาในตอนแรก จู่ๆก็สลายตัว เข้ามารวมตัวกันที่ตรงกลางของสัญลักษณ์ จากนั้นก็ถักทอกลายเป็นเส้นใยสีดำขนาดใหญ่ ราวกับเส้นเลือดฝอย
ตอนนี้ด้วยความเร็วของตาเปล่า ทำให้เห็นว่ามันกำลังแพร่กระจายไปทั่วร่างของโจวเจี่ยนอย่างรวดเร็ว
เริ่มจากต้นขาของเขา ผ่านไปแค่ไม่กี่วินาที ขาทั้งสองท่อนของเขาก็เต็มไปด้วยเส้นใยสีดำ
และโจวเจี่ยน ก็ดูทรมานผิดปกติ
เขานอนดิ้นอยู่กับพื้นไปมา กรีดร้อง “ โอ๊ยโอ๊ย ” ด้วยความเจ็บปวด
เขาเหลือบมองพวกเราด้วยสายตาน่าสงสาร ใบหน้าทุกข์ทรมาน “ ฆ่า ฆ่าฉัน ทร ทรมานมาก ขอ ขอร้องพวกนาย ช่วย ช่วยฆ่าฉันที อ้า ! อ้า ! ”
ขณะที่พูด อีกฝ่ายก็กลิ้งไปมา
แต่ตอนนี้เส้นสีดำนั้น ได้แพร่ไปยังใบหน้าของโจวเจี่ยนอย่างรวดเร็ว มันขึ้นไปข้างบนอย่างต่อเนื่อง
การเปลี่ยนแปลงแปลกๆนี้ทำให้พวกเราทำอะไรไม่ถูก ทำได้เพียงถอยหลังไปสองสามก้าว
“ แกเป็นอะไรไปฮะ ” ผมถามตรงๆ
แต่โจวเจี่ยนกลับตอบด้วยความทรมาน “ อง องค์กร เป็น เป็นองค์กร…… ”
แต่เสียงพึ่งจางหาย เส้นสีดำนั้นก็แพร่ไปถึงหน้าผากของเขา ตรงที่เนื้อของเขาแยกออกเมื่อก่อนหน้านี้ สถานที่ที่มีลูกตาสีขาวปรากฎขึ้น
ทันใดนั้น ก็ได้ยินเสียงดัง “ ปัง ” จู่ๆเสียงระเบิดก็ดังออกมาจากบริเวณนั้น
ต่อจากนั้น ของเหลวสีดำเข้มก็ไหลออกมาจากหน้าผากของเขา
ส่วนโจวเจี่ยนนั้น ก็ได้ตัวแข็งทื่อไปในวินาทีนั้น หัวของเขากระแทกลงกับพื้นอย่างแรง นอนแน่นิ่ง และไม่ขยับตัวอีกเลย
ดวงตาทั้งสองข้างไม่ปิดลง ยังคงจ้องไปที่เพดาน ม่านตาขยายอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่หายใจแล้ว
เมื่อเห็นสิ่งนี้ พวกเราก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
เจ้าโจวเจี่ยนเป็นอะไรไป ทำไมจู่ๆร่างกายของเขาก็เป็นแบบนี้
เมื่อมองดูภาพตรงหน้า สุดท้ายก็คิดได้ว่าคงเป็นสัญลักษณ์ผีสามตาที่ฆ่าชีวิตของเขา
ก่อนหน้าที่เขาจะตายได้พูดว่า “ เป็นองค์กร ” ถ้าพูดอีกนัยหนึ่ง สุดท้ายคนที่กระตุ้นสัญลักษณ์ผี ก็อาจเป็นไปได้ว่าจะเป็นองค์กรผีนั่นแหละ
แต่ที่นี่มีเพียงแค่พวกเราสามคน แล้วคนในองค์กรนั้นจะรู้ได้ยังไงว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ และรู้ว่าพวกเรากำลังถามโจวเจี่ยน
พวกเขาสามาถฆ่าคนได้โดยที่คนมองไม่เห็น และสามารถทำได้อย่างอิสระจริงๆงั้นเหรอ
ช่วงเวลานี้ ในใจของผมเต็มไปด้วยคำถาม แต่กลับไม่มีใครสามารถตอบได้
เดิมทีคิดว่าเรื่องจะจบลงเพียงเท่านี้ แต่เพียงเสี้ยววินาทีเรื่องแปลกๆที่ทำให้คนไม่เข้าใจก็เกิดขึ้นอีก
ร่างกายของโจวเจี่ยนที่ตายไปแล้ว แต่ทันใดนั้นการเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดเหนือความเข้าใจของมนุษย์ก็เกิดขึ้น
จู่ๆทั่วร่างของเขา ก็เริ่มเหี่ยวแห้ง กล้ามเนื้อที่เคยนูนอยู่ ก็ดูเหมือนจะถูกดูดออกไปเพียงชั่วพริบตา จากผิวของชายหนุ่มอายุไม่กี่ปี กลับมีรอยเหี่ยวย่นอย่างกับคนแก่ แถมซูบผอม และเหี่ยวแห้งเร็วมาก……
“ ร่าง ร่างกายของเขากำลังหดตัว ” หานเฉ่วเฟิงพูดด้วยความตกใจ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น
หยางเฉ่วเองก็สูดหายใจเข้าลึกๆ รู้สึกงงมาก
เธอไม่เคยเห็น และไม่เคยได้ยินเรื่องแปลกประหลาดแบบนี้มาก่อนในชีวิต
คนที่ปกติดีคนหนึ่ง กลับกลายเป็นคนแก่ แถมเหี่ยวแห้งในชั่วพริบตา ถ้าพูดออกไปคนอื่นจะต้องไม่เชื่อแน่
และขณะที่เสียงของหานเฉ่วเฟิงพึ่งเงียบได้ไม่นาน สภาพศพที่ยังดูดีอยู่เมื่อกี้ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็น ศพแห้งก้านที่เหมือนกับศพอายุหลายร้อยปี
ผมเบิกตากว้าง มองศพที่แห้งก้าน ตอนนี้ผมแทบจะไม่รู้ว่าควรอธิบายความรู้สึกออกมายังไง
แต่ไม่รอให้พวกเราได้ สติกลับคืนมา
ทันใดนั้นเจ้าเชี่ยนเชี่ยนที่อยู่ข้างๆพวกเรา ก็กรีดร้องออกมา “ อร๊าย ! ”
จากนั้น เจ้าเชี่ยนเชี่ยนก็ล้มลงไปกับพื้น จับที่คอของตัวเอง และดิ้นไปมากับพื้นอย่างทรมาน “ เจ็บ เจ็บมาก เจ็บเหลือเกิน…… ”
เมื่อเห็นเจ้าเชี่ยนเชี่ยนเป็นแบบนั้น ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆ
และตอนนี้เองสัญลักษณ์ที่อยู่บนคอของเธอ ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น มันเริ่มเปล่งแสงออกมา
จากนั้นก็กลายเป็นเส้นใยสีดำ เริ่มเคลื่อนจากลำคอของเธอ ราวกับใยแมงมุม แพร่ไปทั่วร่างกายของเจ้าเชี่ยนเชี่ยนอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเห็นสิ่งนี้ พวกเราทุกคนก็อึ้งไปในทันที
เมื่อกี้พึ่งเห็นโจวเจี่ยนตายแบบแปลกประหลาด แต่ตอนนี้เจ้าเชี่ยนเชี่ยนเองก็กำลังมีการเปลี่ยนแปลงแบบนี้
หรือว่าวิญญาณแบบเจ้าเชี่ยนเชี่ยน ก็ยังสามารถกระตุ้นได้งั้นเหรอ