ตอนที่ 106 สามชั่วโมง
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผมและหยางเฉ่วก็แสดงท่าทางดีใจ
ในเวลานี้ เฟิงเฉ่วหานก็พูดกับพวกเราว่า “ ทำไมต้องช่วยยัยผีนี่ด้วย พวกเราอยู่ที่ไหน ”
เมื่อเห็นเฟิงเฉ่วหานไม่เข้าใจเรื่องทั้งหมด ผมจึงชี้สัญลักษณ์ผีสามตาที่อยู่บนคอของเจ้าเชี่ยนเชี่ยนแล้วพูดว่า “ นายดูสิ่งนี้ ! ”
“ สัญลักษณ์ผี ! ” เฟิงเฉ่วหานตกใจ
ผมจึงพยักหน้าให้ “ ใช่แล้ว เบื้องหลังของยัยผีนี่ มีองค์กรชั่วคอยชักใยอยู่ และศพที่แห้งอยู่นั่น ก็คือหนึ่งในสมาชิกขององค์กร แต่ตอนนี้เขาตายไปแล้ว…… ”
จากนั้น ผมก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้เฟิงเฉ่วหานฟังอย่างสั้นๆและรวดเร็ว
เมื่อเฟิงเฉ่วหานฟังจบ ก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆ
เขาเองก็คิดไม่ถึง ว่าบนโลกนี้จะผีผู้หญิงที่น่าสงสารขนาดนี้
และคิดไม่ถึงว่าอาจารย์ชั่วนี้ จะเป็นสมาชิกในองค์กรลับ
ยิ่งไปกว่านั้นเครื่องหมายนี้ก็แปลกมาก สามารถฆ่าคนเองได้ แถมยังทำให้ศพแห้งอย่างกับมัมมี่
แน่นอนว่า เฟิงเฉ่วหานและพวกเราต่าง ก็สงสัย
นั้นก็คือทำไมจู่ๆสัญลักษณ์นั้นถึงเริ่มกระจายออกได้ และทำไมถึงไม่กระจายตั้งแต่แรก หรือช้ากว่านั้น แต่ดันกระจายตอนที่พวกเรากำลังถามพอดี
เรื่องนี้ทำให้พวกเราคิดไม่ตก แต่ตอนนี้ก็ทำได้เพียงรอดูเท่านั้น
แต่โชคยังดีที่สามารถรักษาชีวิตของผีเจ้าเชี่ยนเชี่ยนเอาไว้ได้ หลังจากเธอผ่านเรื่องเมื่อครู่มา ร่างกายของเธอก็อ่อนแออย่างเห็นได้ชัด
เธอมองมาที่พวกเรา และพูดว่า “ ขอบ ขอบคุณมาก ! ”
หยางเฉ่วพยักหน้าเล็กน้อย “ ไม่ต้องขอบคุณ ! นี่เป็นเรื่องที่พวกเราสมควรทำ แต่ยังไม่มีวิธีกำจัดเจ้าสัญลักษณ์ผีนั้นออกไปได้ ฉันทำได้แค่ใช้ยันต์แยกมันออกจากเธอเท่านั้น คลายสัญลักษณ์ผีออก จากนั้นก็ใช้อักขระผนึกมันอีกชั้น ”
“ แต่อักขระนี้อยู่ได้ไม่ถึง 3 ชั่วโมง ดังนั้นภายในสามชั่วโมงนี้ เธอต้องไปลงนรก ไม่อย่างนั้นหลังจากสามชั่วโมงไปแล้ว สัญลักษณ์ผีนั้นก็จะแพร่ออกมาอีก ถึงตอนนั้นพวกเราเองก็ช่วยเธอไม่ไหวแล้วนะ ! ”
หยางเฉ่วพูดอย่างต่อเนื่อง หลังจากยัยผีได้ยิน เธอก็ตอบรับ “ อืม ” จากนั้นก็พยักหน้ารัวๆด้วยความรู้สึกขอบคุณที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้
แต่หลังจากนั้น เธอก็พูดเพิ่ม “ แต่ฉันยังอยากกลับบ้านไปหาปู่กับย่า พวกเขาเป็นญาติที่รักฉันมากที่สุด ถ้าได้เจอพวกเขา ถึงฉันต้องทุกข์ทรมานอยู่ในนรกร้อยปี ฉันก็ยินดี ! ”
เมื่อเห็นเจ้าเชี่ยนเชี่ยนดื้อมาก และก่อนหน้านี้พวกเราก็ยังเคยรับปากเธอไว้ จึงถามเธอว่า “ พวกเขาอยู่ที่ไหน ”
“ อยู่ห่างจากมหาลัยไม่ไกล อยู่ในย่านการค้าเก่า ! ” เจ้าเชี่ยนเชี่ยนรีบตอบ
เมื่อได้ยินว่าอยู่ในย่านการค้าเก่า ซึ่งใช้เวลาเดินทางน้อยมาก ดังนั้นสามชั่วโมงที่เหลือถือว่าพอ
ผมจึงหันไปมองหยางเฉ่ว เธอพยักหน้าให้ผมเล็กน้อย เธอก็คิดว่าได้เหมือนกัน
ดังนั้น ผมจึงพูดกับเจ้าเชี่ยนเชี่ยนตรงๆ “ ได้ ! เดี๋ยวพวกเราจะพาเธอไป ! ”
เสียงพึ่งเงียบลง ผมก็พูดกับหยางเฉ่วและเฟิงเฉ่วหานอีกครั้ง “ จะทิ้งศพไว้ที่นี่ หรือจะเอาออกไปหาที่ฝัง ”
ขณะที่พูด ผมก็หันไปมองศพมัมมี่ที่อยู่บนพื้น
ถ้าทิ้งเจ้านี้เอาไว้ที่นี่ ไม่ช้าก็เร็วจะต้องมีคนมาเจอ
และถ้าถึงเวลานั้น ไม่แน่ว่าตำรวจอาจบุกมาสร้างเรื่องยุ่งให้กับพวกเราก็ได้
และถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ พวกเราจะต้องลำบากจนเกินจะบรรยายแน่
หรือจะบอกความจริงกับตำรวจ ว่าเจ้านั้นมันเป็นปีศาจ ถูกคนลงอักขระเอาไว้ ตัวมันเลยกลายเป็นมัมมี่
แต่หยางเฉ่วกลับพูดกับผมทันที “ ที่นี่อยู่ในเขตมหาวิทยาลัย ทุกๆที่มีกล้องวงจรปิดอยู่ ถ้าเอาออกไปต้องเกิดเรื่องยุ่งขึ้นแน่ ! ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ผมก็ขมวดคิ้ว แสดงสีหน้ากังวลออกมา
ใช่ ! ที่นี่เป็นเขตมหาลัยนี่หว่า ถ้าผมแบกศพออกไปโต้งๆ ตำรวจก็คงตามหาพวกเราเจอ และก็เห็นได้ชัดโครตๆ
พอถึงตอนนั้น ก็คงยิ่งลำบากกว่าเดิม
เฟิงเฉ่วหานกลับแสดงท่าทางไม่แยแส “ ฉันว่า พวกเราไม่ต้องสนใจเรื่องอื่นหรอก สภาพศพเป็นมัมมี่แบบนั้น จะดูยังไงก็ตายมาหลายสิบปีแล้ว ถ้าตำรวจหาที่นี่เจอ ก็แค่สงสัยว่าโจวเจี่ยนฆ่าตัวตาย นอกจากนี้นี่ก็เป็นคดีที่เกี่ยวกับจิตใจ ถึงจะหาตัวพวกเราเจอ พวกเราก็แค่ปฏิเสธไปก็จบ แถมยังไม่มีผลอะไรตามมาด้วย ”
เมื่อได้ยินเฟิงเฉ่วหานพูดแบบนั้น ผมก็สูดหายใจเข้าลึกๆ
ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ ก็ทำได้แค่วิธีนี้วิธีเดียวแล้ว
เรื่องนี้ยิ่งสืบก็ยิ่งมืดขึ้นเรื่อยๆ แต่จะทิ้งเอาไว้ที่นี่โดยไม่สนใจเลยก็ไม่ได้
หลังจากพูดเรื่องนี้จบผมขอสารภาพว่า ถ้าเจ้าหน้านี้ตำรวจมาหาถึงบ้านจริงๆ ผมก็คงพูดว่าไม่รู้ คิดแล้วก็คงผ่านไปได้แบบมึนๆ
ผมคิดในใจ แต่เพราะเวลาของเจ้าเชี่ยนเชี่ยนเหลือแค่สามชั่วโมง ผมจึงไม่มีอารมณ์มาคิดมาก
มันจะเป็นเรื่องดีหรือเป็นเคราะห์ร้าย แต่ก็คงหนีไม่พ้น
เพราะความคิดแบบนี้ พวกเราจึงทิ้งศพเจ้าปีศาจโจวเจี่ยนไว้ที่นี่ จากนั้นก็ออกจากห้อง เดินลงบันไดไปทันที
แน่นอนว่า ก่อนจะออกจากห้อง พวกเรายังไม่ลืมที่จะเรียนแบบหนังตำรวจ ใช้เสื้อเช็ด ลูกบิดประตูและที่เขี่ยบุหรี่ที่หานเฉ่วเฟิงใช้ก่อนหน้านี้ให้ดี
เมื่อลงมาถึงชั้นล่าง เจ้าเชี่ยนเชี่ยนก็พาพวกเราออกมาทางประตูหลังของมหาลัย
เดินผ่านถนนเส้นหนึ่ง มาถึงย่านเมืองเก่า
ตอนนี้ย่านเมืองเก่าแทบจะไม่มีคนอยู่แล้ว เหลือเพียงร้านค้าในย่ามค่ำคืนที่เปิดอยู่ และมีผู้ชายเมาสองสามคนกำลังดื่มเหล้าและพูดคุยกันเท่านั้น
หลังจากนั้นประมาณ 20 นาที พวกเราก็มาถึงตึกที่ปู่และย่าของเจ้าเชี่ยนเชี่ยนพักอยู่
พึ่งมาถึงที่นี่ เจ้าเชี่ยนเชี่ยนก็ดูตื่นเต้นมาก
พลังชั่วร้ายในร่างของเจ้าเชี่ยนเชี่ยนได้ถูกขับออกมาหมดแล้ว ตอนนี้เพียงกลับมาเยี่ยมญาติเท่านั้น
ดังนั้นเมื่อมาถึงชั้นล่างของตึก ก็ได้ยินเสียงผมพูดกับเธอว่า “ เชี่ยนเชี่ยน เธอขึ้นไปข้างบนเองเถอะ ! พวกเราไม่ไปรบกวนคุณปู่คุณย่าของเธอดีกว่า จำไว้ละเหลือเวลาแค่ 2 ชั่วโมง รีบไปรีบกลับ ! ”
หลังจากเจ้าเชี่ยนเชี่ยนฟังผมพูดจบ เธอก็ตอบผมว่า “ อือ ” มองพวกเราอีกแป๊บนึง จากนั้นเธอก็ลอยขึ้นไปทางบันไดทันที
พวกเราก็ไม่มีอะไรจะทำ จึงนั่งรอเธอที่เก้าอี้ใต้ตึก
เมื่อได้นั่งพัก ผมถึงได้รู้สึกเจ็บหลัง
แต่โชคยังดีที่เป็นเพียงแผลภายนอก และเลือดก็หยุดไหลแล้ว
เพราะไม่เป็นอะไรมาก ผมจึงรู้สึกค่อนข้างสนใจยันต์ที่หยางเฉ่วใช้ก่อนหน้านี้
อาจารย์ของยัยนี้ยังคงเป็นความลับ แต่เธอสามารถใช้คาถาได้เยอะมาก และทุกชนิดยังร้ายกาจมากอีกด้วย
เธอต้องไม่ยอมพูดถึงที่มาแน่ ผมเลยไม่รู้จะถามยังไง จากนั้นก็พูดว่า “ หยางเฉ่ว ยันต์ที่เธอใช้เมื่อกี้คือยันต์อะไร มันดูร้ายกาจมากๆเลย ! ”
แต่หยางเฉ่วกลับยิ้ม “ ร้ายกาจแน่นอน มันชื่อยันต์ผนึกวิญญาณ ถึงจะแตกต่างจากยันต์สะกดวิญญาณแค่คำเดียว แต่ผลแรงกว่า 3 เท่า แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นฉันก็ยังแปลกใจ คาถาที่ร้ายกาจขนาดนี้ ฉันเคยใช้แค่สองครั้ง และพอรวมกับยันต์สะกดวิญญาณ ก็ยังไม่สามารถสะกดสัญลักษณ์ผีได้ ! ”
“ เจ้าสัญลักษณ์ผีนี่ไม่ธรรมดา มันไม่ได้เป็นแค่สัญลักษณ์ แต่จะต้องซ่อนคาถาที่ร้ายกาจเอาไว้แน่ๆ ! ”
ตอนนี้ พวกเราจึงเริ่มคุยเรื่องสัญลักษณ์ผี
เจ้าสัญลักษณ์นี้แปลกประหลาด และน่าสงสัยมาก
ในใจของผมมีข้อสงสัยผุดขึ้นมามากมาย
แต่พวกเรามีข้อมูลน้อยมาก น้อยโครตๆ ถึงจะคุยกันนานขนาดไหน แต่ก็ไม่ได้ข้อมูลที่มีประโยชน์มากขึ้นเท่าไหร่
แต่มีสิ่งหนึ่งที่หลังจากพวกเราคุยกันแล้วเห็นตรงกัน ก็คือการกระตุ้นสัญลักษณ์ผีได้จะต้องมีคนทำแน่
และคนๆนั้น สามารถใช้สัญลักษณ์นี้ และรับรู้ถึงสถานการณ์จริงของคนที่ถูกตีตราเอาไว้
เช่นโจวเจี่ยนถูกทำลายแกนพลังหยิน เจ้าเชี่ยนเชี่ยนถูกทำลายพลังชั่วร้าย
นี่ก็คือหลังจากที่โจวเจี่ยนถูกทำลายแกนพลังหยินแล้ว จากนั้นก็พูดว่าความลับของเขาถูกเปิดโปงแล้ว เขาต้องตาย ไม่ช้าก็เร็วองค์กรจะต้องมาฆ่าเขาอยู่ดี
จะต้องเป็นเพราะคนที่อยู่เบื้องหลังสัญลักษณ์ มีความสามารถตรวจสอบสถานการณ์ในปัจจุบันของทั้งสองได้ จากนั้นก็ใช้สัญลักษณ์ กระตุ้นคาถาจากระยะไกล ฆ่าโจวเจี่ยนก่อน
แต่ขณะที่กำลังลงมือฆ่าเจ้าเชี่ยนเชี่ยน กลับถูกพวกเราคิดวิธีขัดขวางเอาไว้ได้
แม้ว่าพวกเราจะไม่มั่นใจว่าวิธีนี้ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นไหม แต่มันก็มีข้อดีอยู่
นั้นก็คือสัญลักษณ์ผี จะต้องไม่ได้เป็นแค่สัญลักษณ์ธรรมดาที่องค์กรใช้เท่านั้น……
เมื่อคุยมาถึงตรงนี้ เจ้าเชี่ยนเชี่ยนที่ไปนานกว่าหนึ่งชั่วโมงก็ลอยกลับมา
ตอนนี้เธอกำลังร้องไห้ อย่างเอาเป็นเอาตาย หันกลับไปมองข้างหลังตลอดเวลา
เมื่อพวกเราเห็นเจ้าเชี่ยนเชี่ยนกลับมา ต่างคนก็ต่างลุกขึ้น
จากนั้นก็จะได้ยินเสียงผมพูดกับเธอว่า “ เชี่ยนเชี่ยน พวกเราไปกันเถอะ ! ”
ขณะที่พูด ผมก็พาเจ้าเชี่ยนเชี่ยนออกจากที่นี่ จากนั้นก็จะไปส่งวิญญาณเธอข้างนอก ช่วยให้เธอหลุดพ้นจากปัญหา
แต่เสียงพึ่งเงียบลง ทันใดนั้นด้านหลังของพวกเราก็มีเสียงแหบๆของยายแก่คนหนึ่งดังขึ้น “ ใช่ ควรส่งเธอไปได้แล้ว ! ”