ตอนที่ 160 วิธีสุดท้าย
สถานการณ์ในตอนนี้ มีเพียงการให้มู่หลงเหยียนออกโรงเท่านั้น
แม้มู่หลงเหยียนจะบอกว่า ต้องเก็บเรื่องของเธอเป็นความลับ
แม้แต่อาจารย์ของผม ก็ยังห้ามบอกชื่อ จะเห็นได้ว่าเธอให้ความสำคัญกับความลับของตัวเองมากขนาดไหน
หรือพูดอีกอย่างคือ ศัตรูที่เธอต้องเผชิญหน้าด้วยนั้นอันตรายขนาดไหน ยิ่งคนนอกรู้เรื่องเธอมากเท่าไหร่ พวกเขาก็จะเจอกับอันตรายมากเท่านั้น ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็อาจนำไปสู่เรื่องที่ไม่อาจแก้ไขได้ตลอดกาล
แต่ถึงอย่างนั้น ผมสองคนก็มีพันธสัญญามืดอยู่
ถ้าผมตาย มันก็จะเกี่ยวข้องกับมู่หลงเหยียนด้วย
ตอนนี้พวกเราทุกคนใช้ทุกวิธีแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถจัดการยายแก่ได้ การเรียกมู่หลงเหยียนออกมา จึงเป็นทางเลือกสุดท้ายของผม
แต่เพื่อความปลอดภัย ผมจึงให้หยางเฉ่ว พี่เฟิง และคนอื่นๆหลับตาเอาไว้ เพราะตอนนี้ยังไม่ได้รับอนุญาตจากมู่หลงเหยียน ผมจึงไม่กล้าเปิดเผยตัวตนของเธอ
ไม่อย่างนั้นตอนผมเรียกมู่หลงเหยียนออกมา ผมอาจโดนเธอฆ่าตายก็ได้
ในขณะที่คำว่ามู่หลงเหยียนหยุดออกจากปากของผม หยางเฉ่วและพี่เฟิงต่างเงียบไปพักหนึ่ง
พวกเขายังคิดว่าผมกำลังท่องคาถาอะไรสักอย่าง ไม่ได้คิดว่าผมกำลังตะโกนเรียกชื่อของใครบางคนอยู่
ส่วนทางด้านเสี่ยวม่านและวูน่าที่เป็นคนธรรมดาไม่มีพลังอะไร ในเวลานี้พวกเธอกลับมั่นใจมากว่าผมกำลังเรียกชื่อผู้หญิงคนหนึ่งอยู่
เสี่ยวม่านเลิกคิ้วขึ้น เธออดไม่ได้ที่จะเงี่ยหูฟัง
และขณะที่ “ มู่หลงเหยียน ” สามคำนี้ดังขึ้น เหตุการณ์แปลกประหลาดก็เกิดขึ้น
ไฝดำที่ข้อมือซ้าย มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รอบๆไฝเริ่มร้อน แต่เสี้ยววินาทีต่อมามันก็เย็นลงในทันที
จากนั้น ไฝดำก็เริ่มกระจายตัว เปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นปลาหยินหยาง
ครั้งก่อนตอนใช้เจ้าสิ่งนี้ หลังจากกลับไปถึงบ้านผมก็ลองคิดทบทวนดู
พบว่าการที่มู่หลงเหยียนให้ไฝดำสองเม็ดนี้ ก็เพื่อทิ้งวิธีแปลกประหลาดในการเรียกเธอออกมา
ผมสองคนสามารถใช้ความสัมพันธ์ของสามีภรรยา ติดต่ออีกฝ่ายจากไฝดำแปลกประหลาดนี้ เพื่อเรียกมู่หลงเหยียนออกมาได้
ขณะที่รูปหยินหยางกำลังรวมตัวกันอย่างรวดเร็ว รอบๆตัวของพวกเราก็มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้น
ตอนแรกเริ่มเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนกับที่ผมคิดเอาไว้ รอบๆเกิดลมกระโชกแรงที่หนาวเหน็บ
ขณะที่สายลมอันหนาวเหน็บปรากฎขึ้น หยางเฉ่วและพี่เฟิงที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าประหลาดใจ
เพราะพวกเขารับรู้ได้อย่างชัดเจน ว่าสายลมที่หนาวเย็นนี้ ไม่ใช่สิ่งที่คนจะสามารถทำมันขึ้นมาได้
สายลมที่หนาวเย็นแบบนี้ จะต้องเกิดจากผีที่ร้ายกาจมากๆ
ไม่ใช่แค่นั้น ในเวลานี้แม้แต่ยายแก่ที่อยู่ด้านหน้า ก็ยังหยุดหัวเราะ ร่างกายของเธอค่อยๆยืนสงบนิ่ง
เห็นได้ชัดว่า เธอเองก็รู้สึกถึงความผิดปกติ
สายลมแบบนี้ มันแตกต่างกันอย่างชัดเจน
“ เจ้าเด็กน้อย แกทำอะไร ” ยายแก่ไม่เข้าใจ เธอพูดออกมาด้วยเสียงที่แหบแห้ง
แต่ผมกลับจ้องเธอตาไม่กระพริบ ไม่ตอบกลับเธอสักคำ ปากของผมยังคงตะโกนว่า “ มู่หลงเหยียน…… ” ต่อไป
เมื่อคำพูดนี้ดังขึ้น “ ปัง ” ดูเหมือนอากาศที่อยู่รอบตัวผมจะระเบิดออก ทันใดนั้นพลังหยินที่รุนแรงก็ปรากฎขึ้น
เมื่อพลังหยินปรากฎขึ้น รอบๆก็มีลมหมุนพัดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
“ ฮูฮูฮู ” พวกมันกรีดร้องออกมาไม่หยุด ต้นหญ้าและก่อไม้ต่างพัดไหวไปมา
หยางเฉ่ว และพี่เฟิงต่างขมวดคิ้ว ทุกคนไม่รู้ว่าผมกำลังทำอะไร
เสี่ยวม่าน และวูน่ายืนตัวสั่น ความหนาวเย็นนั้น ทำให้เธอสองคนแทบทนไม่ไหว
แต่ในเวลานี้ยายแก่ที่อยู่ตรงหน้า กลับค่อยๆก้มหัวลง
จากนั้นก็พูดด้วยเสียงที่แหบและทุ้มต่ำ “ ไม่ว่าแกจะทำอะไร อีกเดี๋ยว แกก็จะต้องตาย ”
หลังจากพูดจบ ยายแก่คนนั้นก็ประสานมืออีกครั้ง ปากของเธอท่องอะไรสักอย่างสองสามประโยค จากนั้นผมก็ได้ยินเธอตะโกนว่า “ ดูดวิญญาณ เพี๊ยง ! ”
หลังจากพูดจบ มือที่เหี่ยวย่นของยายแก่ ก็ชี้มาทางผม
ทันใดนั้น “ ตึก ” ผมกลับได้ยินแค่เสียงนี้ในใจของตัวเอง
ราวกับในวินาทีนี้ วิญญาณของตัวเองกำลังสั่นไหว
และความรู้สึกที่อึดอัดมากก็ปรากฎขึ้น ผมเริ่มเวียนหัว ฟ้าดินกลับหัว และรู้สึกเหมือนวิญญาณของผมกำลังจะออกจากร่าง
ผมรู้ดี นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ นี่จะต้องเป็นคาถาที่ยายแก่เสกใส่ผมแน่ๆ
เพื่อให้ตัวเองยังมีสติอยู่ และไม่ให้ตัวเองตกอยู่ในความสับสน
ผมจึงกัดลิ้นแรงๆ ขณะที่ความเจ็บปวดเกิดขึ้น ร่างกายของผมก็เริ่มตื่นตัวขึ้นอีกนิด
แต่ยายแก่คนนั้นกลับพูดด้วยเสียงที่เย็นชา “ ถึงแกจะทำแบบนั้น หรือกัดลิ้นจนขาด มันก็ไม่มีประโยชน์ ! ”
หลังจากพูดจบ ทันใดนั้นในแขนเสื้อของยายแก่ ก็มีโซ่ดำเส้นหนึ่งพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว
นี่คือโซ่ที่มองไม่เห็น สามารถใช้กับวิญญาณเท่านั้น คนธรรมดาไม่สามารถมองเห็นได้
โซ่เส้นนี้ดำมาก มองแล้วดูเยือกเย็นผิดปกติ
ในเวลานี้จู่ๆมันก็ออกมาจากแขนเสื้อของยายแก่ “ ซ่าซ่าซ่า ”
เมื่อผมเห็นโซ่ดำออกมา ม่านตาก็ขยายใหญ่อย่างช่วยไม่ได้ ผมพูดในใจว่าไม่ดีแล้ว
แต่ในเวลานี้เองผมก็ไม่กล้าปล่อยมือ ไม่อย่างนั้นมู่หลงเหยียนอาจมาไม่ได้
ผมรีบถอยหลังไปสองก้าว จากนั้นก็ตะโกนต่อทันที “ มู่หลงเหยียน…… ”
ขณะที่ “ มู่หลงเหยียน ” สามคำนี้ปรากฎขึ้น พลังหยินที่รุนแรง ก็ได้ระเบิดออกมาจากตัวผมอีกครั้ง
เป็นตำแหน่งที่แน่ชัด พลังหยินพวกนั้นระเบิดออกมาจากไฝดำที่ข้อมือของผม
ขณะที่พลังหยินปรากฎขึ้นอีกครั้ง จู่ๆที่เครื่องหมายก็มีหมอกสีขาวระเบิดออกมา
หมอกสีขาวนั้นไหลออกมาจากเครื่องหมาย และลอยไปที่ด้านหน้าของผมทันที
เมื่อเห็นหมอกสีขาว ในใจของผมก็ดีใจทันที ครั้งที่แล้วหลังจากที่หมอกสีขาวปรากฎขึ้น มู่หลงเหยียนก็จะปรากฎตัว
ตอนนี้หมอกสีขาวออกมาแล้ว นี่ก็แสดงว่ามู่หลงเหยียนรู้แล้วว่าผมเรียก เธอจึงรีบออกมาทันที
แต่โซดำเส้นนั้นเร็วมาก ไม่รอให้หมอกสีขาวได้กลายเป็นร่างของมู่หลงเหยียนจนสมบูรณ์ “ ฉึก ” มันก็พุ่งเข้ามาที่หน้าอกของผมทันที
วินาทีนั้น ผมรู้สึกเจ็บที่หน้าอก มึนหัว เหมือนกับร่างกายหมดเรี่ยวแรงจนต้องล้มลง
ไม่ใช่แค่นั้น สิ่งที่รุนแรงกว่านั้นก็คือ ในช่วงเวลานั้น ผมกลับพบว่าสติของตัวเอง กำลังจะหายไปอย่างรวดเร็ว
ผมพยายามอดทนตั้งสติเอาไว้จนถึงที่สุด ในเวลาเดียวกันก็กัดลิ้นอีกครั้ง ทันใดนั้นเลือดสดๆก็ไหลออกมาจากปากของผม แต่ครั้งนี้ความเจ็บปวดไม่ได้ทำให้ผมตื่นขึ้น
ดูเหมือนจะเป็นอย่างที่ยายแก่พูด พลังของพวกเราแตกต่างกันเกินไป
ถึงผมจะกัดลิ้นจนขาด ก็คงไม่สามารถเอาชนะวิชาแปลกประหลาดนี้ได้
สติของผมค่อยๆหลุดลอย ภาพที่อยู่ตรงหน้าก็เริ่มเลือนลาง
ภายใต้วิกฤตนี้ ผมพบว่าตัวเองกำลังถูกดึงออกจากร่าง ถ้าวิญญาณออกมาละก็ ผมจะต้องตายอย่างแน่นอน
ผมไม่อยากตาย ผมไม่อยากตาย
ในใจของผมกำลังพึมพำไม่หยุด แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความแข็งแกร่งที่แท้จริง ผมกลับทำอะไรไม่ได้เลย ในช่วงเวลานั้น เห็นได้ชัดว่าผมหมดทางสู้แล้ว……
แต่ ขณะที่สติของผมกำลังจะหายไป วิญญาณที่กำลังจะออกจากร่าง
ในที่สุด หมอกสีขาว ที่อยู่ตรงหน้าของผม ก็รวมตัวกลายเป็นรูปร่างของคน
ผมสูญเสียการมองเห็นในระยะใกล้ไปแล้ว แต่เมื่อผมเห็นสิ่งนี้ ที่มุมปากของผมก็อดยกยิ้มขึ้นมาไม่ได้
ผมรู้ว่า เธอมาแล้ว
ความรู้สึกที่หงุดหงิดของผม เมื่อเทียบกับผีเมียมู่หลงเหยียนแล้วเธอดุร้ายกว่าผมมาก
ขณะที่เงาสีขาวรวมตัว เสียง “ ฮึ ” ที่เย็นชาก็ดังขึ้น
ร่างสีขาวนั้นเอื้อมมือมาจับอย่างรวดเร็ว เธอจับโซดำเส้นนั้นเอาไว้แน่น จนส่งเสียงดัง “ ปึก ”
ในเวลาเดียวกัน ช่วงเวลาวิกฤตนั้นผมกลับได้ยินมู่หลงเหยียนพูดด้วยความโมโห “ กล้ามากนะ ที่มาแตะต้องคนของฉัน รนหาที่ตาย…… ”