ตอนที่ 177 ลำธารเล็กๆบนหุบเขา
ภายใต้การนำของท่านนักพรตตู๋ ผมและเฟิงเฉ่วหานเดินตามหลังเขา ไล่ล่าผู้ใหญ่บ้านที่หนีไปอย่างไม่ลดละ
ตามที่ท่านนักพรตตู๋พูด ก่อนหน้านี้ผู้ใหญ่บ้าน ถูกเขาเสกคาถาใส่อย่างลับๆ
และยังมีคาถาที่ใช้ขับไล่แมลงผู้พิทักษ์อีกหนึ่งบท ถ้าผู้ใหญ่บ้านหาคนช่วยไม่ทันเวลา หรือนำแมลงผู้พิทักษ์ตัวใหม่เข้าไปไม่ได้ ผู้ใหญ่บ้านก็จะมีจุดจบเพียงอย่างเดียวคือตาย
และเขายังจะต้องเจ็บปวดมากๆ ชนิดที่ว่าตายอย่างทรมาน
คืนนี้พวกเราต้องตามเขาไปอย่างลับๆเท่านั้น เพราะเจ้าหมอนี้จะต้องไปหาคนที่สมรู้ร่วมคิดกับเขา
แล้วเมื่อถึงเวลานั้น พวกเราก็จะเก็บทีเดียว
ถึงจะทำแบบนั้นไม่ได้ พวกเราก็ได้รู้ที่มาของ “ สำนักเชิ่ง ” มากกว่าเดิม
ผ่านไปไม่นาน พวกเราสามคนก็ไล่ตามเข้าไปในภูเขา
ภูเขาลูกนี้มีป่าไม้เขียวชอุ่ม ปกติไม่มีคนภายนอกเข้ามา นอกจากชาวบ้านที่อยู่รอบๆจะเข้ามาหาของป่า ล่าสัตว์ นอกนั้นก็แทบไม่มีคนอื่นเข้ามาอีก
ตอนนี้เป็นตอนกลางดึก ทางในป่าจึงมืดมิดจนพวกเรามองเห็นสิ่งต่างๆได้ไม่ชัดเจน
แต่จะใช้ไฟฉายไม่ได้ พวกเราจึงทำได้เพียงเปิดตา เพื่อเร่งความเร็วในการเดินทาง และปรับมุมมองเท่านั้น
เพราะผู้ใหญ่บ้านบาดเจ็บ ดังนั้นการเคลื่อนไหวของเขาจึงไม่เร็วมาก
เมื่อพวกเราเห็นแบบนั้น ขณะที่ไล่ตามผู้ใหญ่บ้าน พวกเราจึงลดฝีเท้าลง เพื่อทิ้งระยะห่างในเขาได้หนีทัน
ในเวลาเดียวกันก็ไม่ทำให้เขาเห็นตัวพวกเรา
เรื่องก็เป็นแบบนี้ เมื่ออีกฝ่ายกำลังวิ่ง พวกเราก็ตามหลังเขาไปเรื่อยๆ
หลังจากนั้นประมาณสองชั่วโมงครึ่ง ผู้ใหญ่บ้านก็มาถึงลำธารเล็กๆแห่งหนึ่ง
บริเวณลำธารเล็กๆแห่งนี้ดูมืดมิดเป็นพิเศษ ไร้ซึ่งแสงจันทร์ ไม่มีร่องรอยของคนอยู่เลย
แต่ผู้ใหญ่บ้านกลับทำท่าทางลับๆล่อเข้ามาที่นี่ เห็นได้ชัดว่าเขามีจุดประสงค์บางอย่าง
“ เหมือนจะมาถึงแล้ว ระวังตัวกันด้วยละ ! ” ท่านนักพรตตู๋พูด ขณะเดียวกันก็คอยจับตามองผู้ใหญ่บ้านที่น่ารังเกียจและเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ
ผมและเฟิงเฉ่วหานจึงตอบรับเบาๆ “ ครับ ” และก็ไม่พูดอะไรอีกเลย
พวกเรารักษาระยะห่าง เดินตามเขาต่อไป
ในที่สุดหัวหน้าหมู่บ้านก็มาถึงฝายเก็บน้ำแห่งหนึ่ง แต่เหนือฝายนั้น กลับมีถ้ำที่มืดมิดตั้งอยู่
ผู้ใหญ่บ้านเพิ่งมาถึงที่นี่ “ บึก ” เขาก็คุกเข่าลงที่หน้าปากถ้ำ
เมื่อเห็นผู้ใหญ่บ้านคุกเข่าลง พวกเราก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ในเวลาเดียวกัน พวกเราก็ได้ยินเสียงผู้ใหญ่บ้านพูดกับถ้ำจากที่ห่างไกล เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูทรมานมากๆ “ อา อาจารย์ ช่วย ช่วยผมด้วย ผมจะตายแล้ว…… ”
หลังจากพูดจบ ผู้ใหญ่บ้านก็ก้มหัวคำนับให้ถ้ำหนึ่งครั้ง
จากนั้นก็เขาพูดแบบนั้นซ้ำอีกรอบ และคำนับให้ถ้ำเหมือนเดิม
แต่พวกเรากลับทำสีหน้าเคร่งเครียด เห็นได้ชัดว่าคนบงการ อยู่ในถ้ำเหนือฝายนี้
เขาอยู่ในที่ห่างไกลผู้คน และยังเป็นสถานที่มืดมิดผิดปกติ เขาจะต้องไม่ใช่คนดีอะไรแน่
พวกเราต่างถอนหายใจ กำดาบไม้แน่น เตรียมพร้อมลงมือตลอดเวลา
ท่านนักพรตตู๋กลับส่งสัญญาณให้พวกเราอย่าเพิ่งทำอะไรหุนหันพลันแล่น ให้ดูท่าทีของอีกฝ่ายไปก่อน
ผ่านไปประมาณสองสามนาที ในที่สุดในถ้ำก็มีการเคลื่อนไหว
พวกเราได้ยินแค่เสียงชายชราที่เยือกเย็น “ ไอ้คนไม่ได้เรื่อง ใครมันทำให้แกกลายเป็นแบบนี้ฮะ ”
ขณะที่เสียงนี้ดังขึ้น ทันใดนั้นเงาของใครบางคน ก็เดินออกมาจากถ้ำ
พวกเราอยู่ค่อนข้างห่างไกล จากตำแหน่งนี้ ทำให้พวกเรามองไม่เห็นหน้าของอีกฝ่าย
แต่ ภายใต้ดวงตาสวรรค์ ผมกลับเห็นชุดที่อีกฝ่ายใส่อย่างชัดเจน
นั้นคือชุดคนตายสีดำ ในเวลานี้เขากำลังยืนอยู่หน้าปากถ้ำ ก้มมองผู้ใหญ่บ้านที่คุกเข่าขอร้องอยู่กับพื้น
พระเจ้า คนอะไร ถึงใส่ชุดคนตาย
เมื่อผู้ใหญ่บ้านเห็นชายคนนั้นปรากฎตัว เขาก็ดีใจอย่างมาก รีบก้มหัวคำนับเขาทันที
จากนั้นก็พูดด้วยความตื่นเต้น “ อา อาจารย์ ในที่สุดคุณก็ออกมา ศิษย์ ศิษย์ถูกคนปราบสิ่งช่วยร้ายเล่นงาน พวกมัน พวกมันร้ายกาจมาก ศิษย์ ศิษย์ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกมัน และ และแมลงผู้พิทักษ์ก็ตายแล้ว อา อาจารย์ได้โปรดให้แมลงผู้พิทักษ์กับผมใหม่ด้วย ”
หลังจากพูดจบ ผู้ใหญ่บ้านก็คำนับอีกครั้ง
แต่ชายแก่ที่ใส่ชุดคนตายกลับเงียบไปพักหนึ่ง ผ่านไปไม่นาน เขาก็พูดกับผู้ใหญ่บ้านอีกครั้ง “ แกเข้ามานี้ ! ”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ท่านนักพรตตู๋ก็พูดออกมาทันที “ เตรียมตัวลงมือ ถ้าเจ้าหมอผีนั้นได้แมลงตัวใหม่ ตอนที่พวกมันกำลังรวมเป็นหนึ่ง พวกเราจะลงมือทันที ! ”
ขณะที่พูด ท่านนักพรตตู๋ยังส่งสัญญาณให้พวกเราเข้าไปใกล้ๆอย่างระมัดระวัง
ผมและเฟิงเฉ่วหานเองก็ไม่ได้ทำเรื่องนี้เป็นครั้งแรก พวกเราจึงระวังเป็นพิเศษ เพราะกลัวว่าเท้าจะเหยียบอะไรแล้วทำให้เกิดเสียง
เมื่อผู้ใหญ่บ้านได้ยินชายแก่พูดแบบนั้น ก็ทำหน้าดีใจ รีบคำนับให้อีกฝ่ายทันที “ ขอบ ขอบคุณมากครับอาจารย์ ! ”
จากนั้นเขาก็รีบเดินไปที่ปากถ้ำ แต่ชายแก่ในชุดคนตาย กลับไม่ขยับตัว
เพียงเสี้ยววินาที ผู้ใหญ่บ้านก็มาถึงตรงหน้าของชายแก่
เขาคำนับให้ จากนั้นก็พูดด้วยความเคารพมากๆ “ อาจารย์ เชิญ เชิญมอบแมลงมาเลยครับ ! ”
“ ได้ ! อาจารย์จะให้แกเดี๋ยวนี้ ! ” ชายแก่ชุดคนตายพูดด้วยเสียงที่แหบนิดหน่อย
ในใจของผู้ใหญ่บ้านกำลังเบิกบาน เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย
แต่ใครจะรู้ผู้ใหญ่บ้านเพิ่งเงยหน้าขึ้น ชายแก่ก็ขยับมืออย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นท่อนเหล็กสั้นสีดำก็ปรากฎขึ้นในมือของเขา
หลังจากหยิบท่อนเหล็กดำออกมา เขาก็แทงไปที่ท้อง ของผู้ใหญ่บ้านทันที
ยังไม่จบเท่านี้ หลังจากแทงเสร็จ ชายแก่ชุดคนตายก็เดินไปข้างหน้า “ งับ ” และกัดลงไปที่คอของผู้ใหญ่บ้านทันที
เขาใช้มืออีกข้าง กอดรัดร่างของผู้ใหญ่บ้านเอาไว้ ทันใดนั้นในปากของเขาก็ส่งเสียง “ ซูดซูดซูด ” ออกมาอย่างต่อเนื่อง
เขากำลัง กำลังดูดเลือดงั้นเหรอ
ผู้ใหญ่บ้านดิ้นทุรนทุราย ร้อง “ อ๊าก ! ” ออกมาทันที
เสียงกรีดร้องของเขา ดังก้องไปทั่วสายธาร ทำให้ฝูงนกแตกตื่นตกใจ
ถึงพวกเราจะเห็นฉากนี้จากที่ห่างไกล แต่ก็ตกใจเช่นกัน
นี่ นี่มันเรื่องอะไรกัน ไม่ใช่ว่าจะเอาแมลงผู้พิทักษ์ตัวใหม่ให้ผู้ใหญ่บ้านหรอกเหรอ
ทำไมตอนนี้ ถึงฆ่าเขาละ แถมยังกัดคอผู้ใหญ่บ้านอีก
เมื่อเห็นฉากนี้ พวกเราสามคนก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆ
เมื่อกี้ยังสงบดุจสายน้ำ ผลลัพธ์เพียงผ่านำแแค่ชั่วอึดใจผู้ใหญ่บ้านก็ถูกกัดคอ และโดนแทงทะลุท้องแล้ว
หลังจากเสียงกรีดร้องดังขึ้น ภายใต้ดวงตาสวรรค์ หัวของผู้ใหญ่บ้านก็ติดไฟ มันเริ่มลุกลามอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าเขาใกล้ตายแล้ว
ภายใต้ลมหายใจเฮือกสุดท้าย ผู้ใหญ่บ้านพยายามพูดออกมาว่า “ อา อาจารย์ ทำ ทำอะไร…… ”
ผลลัพธ์เสียงเพิ่งเงียบลง อาจารย์คนนั้นก็ถอนหายใจ เขาดึงท่อนเหล็กออก “ ของที่ไม่ได้เรื่อง แม้แต่แมลงผู้พิทักษ์ยังรักษาเอาไว้ไม่ได้ แล้วฉันจะยังเก็บแกเอาไว้ทำไมละ ”
หลังจากพูดจบ เขาก็ถีบผู้ใหญ่บ้านหนึ่งครั้ง
“ ปัก ” ร่างของผู้ใหญ่บ้านล้มลงกับพื้น ดวงตาเบิกกว้าง เขานอนตายตาไม่หลับ
พวกเราที่อยู่ห่างออกไป 10 เมตรถึงกับตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าผู้สมรู้ร่วมคิดของผู้ใหญ่บ้านจะโหดขนาดนี้ เขาฆ่าผู้ใหญ่บ้านหน้าตาเฉย
แต่ไม่รอให้พวกเราได้สติกลับคืน ทันใดนั้นชายแก่ชุดคนตายกลับมองมาทางซากหินที่พวกเราซ่อนอยู่
เขาพูดออกมาอย่างเย็นชา “ สหายนักพรตทั้งสามท่าน ในเมื่อมาแล้ว ทำไมไม่ออกมาเจอกันหน่อยละ ”
เสียงพูดไม่ดังมาก แต่พวกเรากลับได้ยินอย่างชัดเจน
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของพวกเราก็ตกตะลึงอีกครั้ง
บัดซบ มันรู้ตัวแล้ว
“ อาจารย์ ทำยังไงดี ” เฟิงเฉ่วหานถาม
ท่านนักพรตตู๋มองหน้าพวกเราสองคนแวบหนึ่ง จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างหนักแน่น “ ในเมื่อเป็นแบบนี้ พวกเราถูกจับได้แล้ว งั้นก็ออกไปกันเถอะ ! ”
หลังจากพูดจบ ท่านนักพรตตู๋ก็เดินออกไปจาซากหิน
ผมเองก็ไม่คิดมาก รีบตามออกไปติดๆ
จนกระทั่งตอนนี้ ผมถึงมองเห็นใบหน้าที่ชัดเจนของอีกฝ่าย
ใบหน้าของเขามีริ้วรอยเหี่ยวย่น ริมฝีปากมีคราบเลือดสีแดงติดอยู่
แต่ใบหน้าแบบนี้ ดวงตาคู่นั้น ทำไมผมยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกคุ้นตา
ขณะที่ผมกำลังสงสัย ชายชุดคนตายก็เงียบไปพักหนึ่ง แต่ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะฮ่าๆให้กับพวกเรา “ ไม่ใช่ศัตรูที่ไม่ได้เจอกันนานหรอกเหรอ ที่แท้ก็เป็นพวกเจ้าสามคน หลังจากกันที่ป่าช้าเก่า จนถึงวันนี้ก็ครึ่งปีได้แล้วซินะ…… ”