ตอนที่ 279 กลับมาพร้อมความล้มเหลว
เดิมที่คิดว่าจางจึเทาจะโดนพวกเราบีบให้จมมุมได้แล้ว ในขณะเดียวกันเราห้าคนก็โจมตีจากทุกทิศทุกทาง ความ พ่ายแพ้จึงขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น
แต่สิ่งที่ทําให้พวกเราคาดไม่ถึงคือ เจ้าหมอนี่ยังมีวิชาควบ คุมผีอยู่ และเจ้าหมอนั้นยังปีนกําแพงได้
หลังจากพูดคําพวกนี้จบแล้ว เจ้าหมอนี่ก็หมุนตัววิ่งตาม หลังคาโรงงานอย่างไม่ลังเล
ผมแอบพูดว่าสมควรตายเบาๆ อยากจะวิ่งไล่ตามไปจริงๆ
แต่พวกเราจะมีเวลาว่างแบบนั้นได้ยังไง ? ผีเร่ร่อนพวกนี้ยังเข้ามาโจมตีพวกเราอย่างบ้าคลั่ง ทั้งข่วนทั้งกัด ไม่เหลือสติเลยสักนิด สู้กับพวกเราอย่างไม่ตายไม่เลิก
ผมกังวลในใจ ครั้งนี้จางจึเทาจะต้องหนีไปได้อีกแน่นอน
ผมทําอะไรไม่ได้ ยังไงตอนนี้ก็ต้องจัดการผีร้ายตรงหน้าก่อน
ผีเร่ร่อนมีจํานวนมากกว่าพวกเรา แต่พลังรบมีไม่เท่ากับตอนที่พวกเราห้าคนร่วมมือกัน
แม้จะลําบากอยู่บ้าง แต่ก็หลังจากจัดการไปทีละตัวๆ จํานวนผีก็ค่อยๆลดลง
จนกระทั่งสิบกว่านาที่ผ่านไป ในที่สุดผีเร่ร่อนตัวสุดท้ายก็ถูกพวกเราจัดการ
ผีเร่ร่อนตัวสั่นกระตุกไปทั่งร่าง พวกเรารู้ดี เขาอยู่ต่อไปไม่ไหวแล้ว วิญญาณกําลังจะแตกสลายแล้ว
แต่ก่อนที่วิญญาณจะแตกสลาย ตาสีแดงบนหน้าผากของเขา กลับค่อยๆเลือนหายไป
และเมื่อดวงตาดวงนั้นเลือนหายไปอย่างสมบูรณ์ “ปัง” ร่างกายของเขาก็ระเบิดทันที วิญญาณแตกสลาย และหายไปต่อหน้าต่อตาพวกเรา
ขณะมองภาพนี้ ทุกคนก็อดสูดหายใจเข้าลึกๆไม่ได้ ค่อนข้างเศร้าใจไม่น้อย
ตอนนั้นพวกเราคิดว่า ผีพวกนี้ล้วนเป็นผีเร่ร่อนผู้บริสุทธิ์ มาโจมตีพวกเราอย่างช่วยไม่ได้
เพราะโดนเจ้าจางจึเทานั่นใช้วิชาลากมา แล้วเปลี่ยนให้กลายเป็นผีชั่ว ถึงได้ลงมือกับพวกเราแบบนี้
แต่ เมื่อความเป็นตายอยู่ตรงหน้า ผีพวกนี้ก็สู้กับพวกเราอย่างไม่คิดชีวิต
จึงไม่มีทางเลือก พวกเราจําใจต้องลงมือกับพวกเขา
แม้จะไม่ใช่แม่พระ แต่ในใจก็ค่อนข้างเศร้าพอสมควร ผมแอบพูดในใจว่าไอ้จางจึเทาชั่วช้า นี่มันผีเร่ร่อนบริสุทธิ์ถึง 20 ตนเลยนะ
ตอนนี้ผีเร่ร่อนทุกตนโดนจัดการไปหมดแล้ว ไม่มีอุปสรรคใดๆอีก ทุกคนจึงฝังความแค้นไว้ที่จางจึเทา
ต้องจับมันให้ได้ แล้วก็ฆ่ามันซะ
ในขณะเดียวกัน ก็ได้ยินเสียงท่านนักพรตตู๋พูดว่า “ เจ้านักพรตชั่วนั่นบาดเจ็บแล้ว จะต้องหนีไปได้ไม่ไกลแน่ เราไปดูรอบๆกัน เผื่อจะเจอเบาะแสอะไร ที่ทําให้ไล่ตามเจ้าหมอนั้นไปได้ ! ถ้าปล่อยให้เจ้าหมอนั้นหนีไปได้จริงๆ วันข้างหน้าคงต้องมีผีหรือไม่ก็คนโดนเจ้าหมอนั้นทําร้ายอีกเยอะแน่
ทุกคนมาเพื่อกําจัดเจ้านักพรตชั่วจางจึเทา จึงเป็นธรรมดาที่จะไม่ปล่อยให้เขาหนีไปได้ง่ายๆ
เมื่อได้ยินคําพูดนี้ ทุกคนก็พยักหน้า แล้วเริ่มเดินดูรอบๆโรงงานทันที
ในช่วงเวลานี้ จู่ๆหยางเฉว่ก็ถามผมว่า ผมรู้จักกับเจ้านักพรตชั่วนั่นใช่ไหม
ผมพยักหน้า จากนั้นก็นําสิ่งที่ผมรู้ทั้งหมด รวมไปถึงเรื่องที่เคยเป็นเพื่อนกับจางจึเทามาก่อน และเรื่องที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงรุ่นที่โรงแรมไดนาสตี้ ให้หยางเฉ่วฟังตั้งแต่ต้นจนจบ
เมื่อทุกคนฟังจบ ก็เผยสีหน้าสงสัยออกมา
เห็นได้ชัดว่า เจ้าจางจึเทาเพิ่งเข้าองค์กรตาผีไม่นาน อย่างมากก็แค่สองสามปีเท่านั้น
แต่ในช่วงระยะเวลาสั้นขนาดนี้ เจ้าหมอนี่ถึงกับมีพลังและฝีมือถึงขั้นนี้แล้ว ช่างน่ากลัวจริงๆ
ทุกคนไม่อยากคิดเลย ว่าช่วงหลายปีมานี้ เจ้าจางจึเทาพัฒนาตัวเองยังไงบ้าง
นอกจากนี้ องค์กรตาผีที่อยู่เบื้องหลังจางจึเทา และอาจารย์อะไรนั่น มีฝีมือยังไงกันแน่ หรือจะมีพลังที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้
ทุกอย่างกําลังบอกว่า องค์กรตาผีที่เรากําลังเผชิญหน้าอยู่ ตอนนี้เป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่เราไม่อาจจินตนาการได้
ทุกคนทําหน้าหนักใจ เหมือนกําลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
สุดท้าย พวกเราก็มาหาเบาะแสที่หลังโรงงาน
ร่องรอยพวกนี้ขยายไปสู่กําแพงที่พังทลายอยู่ไม่ไกล และยังมีรอยเลือดสดๆอยู่
มันชัดเจนมาก นี่จะต้องเป็นสิ่งที่จางจึเทาเหลือทิ้งเอาไว้แน่นอน
พวกเราไม่ได้สงสัยใดๆทั้งสิ้น รีบตามรอยเลือดนั้นไปทันที
แต่เรื่องแปลกๆก็เกิดขึ้น เมื่อตามมาถึงกําแพงพังๆนั่นแล้ว กลับไม่มีร่องรอยใดๆเหลืออีก ราวกับทุกอย่างลอยหายไปกับอากาศ
อย่าว่าแต่รอยเลือด แม้แต่รอยเท้า หรือรอยแหวกหญ้าเลย อะไรก็ไม่มีทั้งนั้น สภาพเหมือนไม่มีคนเคยผ่านไป
ทําอะไรไม่ได้ พวกเราได้แต่แยกกันตามหา ดูว่าจะเจออะไรบ้างไหม
แต่ทุกคนหามาชั่วโมงกว่าแล้ว ก็ยังหาร่องรอยจางจึเทาไม่เจอเลย
ทําอะไรไม่ได้ พวกเราได้แต่ถอยกลับไปที่ตัวโรงงานปุ๋ย
จางจึเทาหนีไปแล้ว ทุกคนจึงดูหดหูพอสมควร แต่อาจารย์ก็พูดขึ้นมาว่า “ ทุกคน ถึงเจ้านักพรตชั่วจะหนีไปแล้ว แต่เราควรตรวจดูรอบโรงงานปุยนี่หน่อย เผื่อจะเจอเบาะแสอะไรที่มีประโยชน์บ้าง!”
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เราก็ทําได้เท่านี้แหละ
ทุกคนเริ่มหาในโรงงานปุ๋ยอย่างระมัดระวัง สุดท้ายก็หาโหลแตกๆกองหนึ่งเจอในโกดังร้างหลังเล็กแห่งหนึ่ง
พอผม เหล่าเฟิง และหยางเฉ่วเห็นโหลพวกนี้ ก็จําได้ในทันทีว่ามันเหมือนกับโหลของเฉิงต้าจือเป๊ะ
เมื่อลองหยิบเศษกระเบื้องด้านบนออก ยังพบว่า ในกองเศษโหลเหล่านั้น ยังมีตุ๊กตาและเส้นผมผสมอยู่ในนั้นอีกมากมาย
มันเหมือนโหลที่ใช้เก็บวิญญาณเจิงต้าคือไม่มีผิด ไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย
สุดท้ายหลังอาจารย์และท่านนักพรตตู๋มาวิเคราะห์และยืนยันแล้ว โหลพวกนี้เป็นอย่างที่พวกเราพูด
มันใช้เก็บรวบรวมวิญญาณและเลี้ยงผี
เจ้าจางจึเทา แอบเลี้ยงผีเอาไว้ที่นี่อย่างลับๆ
ดูจากจํานวนโหลในที่นี่แล้ว น่าจะมีประมาณยี่สิบอันได้
เมื่อหยางเนิ่วได้ยินแบบนั้น กลับทําหน้าสงสัยขึ้นมา “ แล้วทําไมโหลพวกนี้ถึงแตกแล้วละ ? แถมตัวโหลยังไม่มีฝุ่นเกาะ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งแตกไม่นาน ! หรือว่าก่อนหน้าที่เจ้าจางจึเทาจะหนีไป มันจงใจทําลายโหลพวกนี้อย่างงั้นเหรอ?
ท่านนักพรตตู๋กลับส่ายหัว “ ไม่ โหลพวกนี้น่าจะแตกเอง
แตกเองงั้นเหรอ ? ทันใดนั้นเองผมก็อึ้งไปพักหนึ่ง แล้วถึงพูดออกมาด้วยความตกใจ “ หรือว่าผีที่พวกเราสู้ด้วยก่อนหน้านี้ จะไม่ใช่ผีเร่ร่อนบริสุทธิ์ที่วนเวียนอยู่รอบๆแถวนี้ แต่เป็นผีที่เจ้าจางจึเทาเลี้ยงเอาไว้ที่นี่”
“ ใช่ น่าจะเป็นแบบนั้น จํานวนผีที่เราสู้ด้วย กับผีที่อยู่ในโหลนี้ตรงกันพอดี แถมก่อนที่พวกเราจะมา ก็ไม่ได้มีร่องรอยอะไรมากนัก ข้าคิดว่า ผีที่พวกเราฆ่าไปเมื่อกี้ ไม่ใช่ผีเร่ร่อนที่บริสุทธิ์ แต่เป็นพวกทาสผีที่หลงผิดเข้าไปในองค์กรตาผี !” ท่านนักพรตตู๋พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
เมื่อได้ยินคําพูดพวกนี้ ทุกคนก็เริ่มคิดกันทันที สุดท้ายก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ
ความรู้สึกหดหูที่ฆ่าผียี่สิบตนที่ฆ่าไปก่อนหน้านี้ ตอนนี้ได้จางหายไปกับอากาศแล้ว
สําหรับคนปราบสิ่งชั่วร้ายอย่างพวกเรา การฆ่าผีชั่วไม่ใช่แค่ไม่รู้สึกผิด กลับกันยังรู้สึกเป็นเกียรติ
เพราะพวกเราเกิดมาเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้าย
แต่คิดไม่ถึงจริงๆว่า นอกจากจางจึเทาจะกลายร่างเป็นสัตว์ และควบคุมผีได้แล้ว เขายังเลี้ยงผีเอาไว้ที่นี่เยอะขนาดนี้
มีจํานวนถึงยี่สิบตัวเต็มๆ แถมยังไม่รู้ว่าเจ้าจางจึเทาขาย ผีพวกนี้ออกไปแล้วกี่ตัว
ปัจจุบัน เราได้แต่หยุดมือแค่นี้ อยู่ที่นี่ต่อไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา
ต่อจากนั้น หลังพวกเราออกจากโรงงานปุ๋ยร้างแล้ว ก็เดินทางไปในเมืองทันที
การเดินทางครั้งนี้ ทุกคนก็ยังไม่หยุดพัก ยังคุยเรื่องกลยุทธ์ในการรับมือ แผนสํารวจหลังจากนี้
และเตรียมแผนต่างๆเอาไว้ล่วงหน้า
เนื่องจากจางจึเทาเป็นเพื่อนร่วมห้องของผม เจ้าหมอนี่รู้จักผม และยังรู้ที่อยู่ของผมอย่างชัดเจน
เขาหาผมเจอ ก็สามารถหาท่านนักพรตตู๋ เหล่าเฟิง และคนอื่นๆเจอได้
เมื่อกี้ตอนเขาจากไป ก็พูดเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าจะมาคิดบัญชีกับผม
ถ้าไม่เตรียมการรับมือให้ทันเวลา หรือกําจัดเจ้าจางจึเทาให้สิ้นซาก
หากรอให้จางจึเทาพาคนมาบุกถึงบ้านจริงๆ งั้นพวกเราก็ต้องเจอกับเรื่องอันตรายอย่างแน่นอน…