ตอนที่ 482 ทําลายยา
หลังได้รู้สถานการณ์ด้านนอกโกดังจากปู่หลิวและยายหูชีแล้ว ผมก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลและเสียใจ
ผู้นําและสาวกหลายสิบคนหนีไปได้ ผลที่ตามมาไม่ต้องคิดก็รู้อยู่แล้ว
สาวกสํานักสื่อเย่พวกนี้ต้องกินยากลายร่างเป็นช่วงๆ เพื่อควบคุมพลังปีศาจในร่าง
ด้วยเหตุนี้ พวกมันต้องโดนผู้นําเรียกมารวบตัวได้อย่างง่ายดายแน่ๆ
หรือจะพูดอีกอย่างคือการมาในครั้งนี้ของพวกเรา เป็นแค่การสร้างความเสียหายอย่างแรงให้อีกฝ่าย
แต่ไม่ได้กําจัดอีกฝ่ายให้สิ้นซากจริงๆ
รอให้อีกฝ่ายได้กลับมารวมตัวใหม่เมื่อไหร่ ภัยร้ายและอันตรายที่พวกเราต้องเผชิญก็คงเพิ่มขึ้นหลายเท่าอย่างแน่นอน
ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ รู้สึกเสียใจพอสมควร
แต่เรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว เสียใจไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาตอนนี้สิ่งที่พวกเราต้องแก้ไขและเผชิญคือจะทํายังไงต่อ
ควรจัดการทุกอย่างที่นี่ยังไงต้องรู้ว่าที่นี่ไม่ใช่ป่ารกร้างไร้ผู้คน
ฉากหน้าของที่นี่ ยังเป็นบริษัทขนส่งแห่งหนึ่งอยู่
ในสายตาของคนทั่วไปที่นี่เป็นสถานที่ธรรมดาแห่งหนึ่ง
แต่ตอนนี้ พวกเราฆ่าคนหลายสิบคนตายที่นี่และหลงเหลือเพียงเศษซากกระดูกที่เน่าเปื่อย
ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป ต้องส่งผลกระทบต่อสังคมและทําให้ผู้คนวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแน่นอน
เพิ่งคิดถึงตรงนี้ อาจารย์ท่านนักพรตต์ หยางเจ่ว นุ่ยเฉิงจิงและคนอื่นๆก็เริ่มทยอยกลับมา
ทุกคนถามผมว่าเป็นยังไงบ้าง ผมบอกว่าไม่เป็นอะไร ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว
เมื่อทุกคนได้ยินว่าผมไม่เป็นอะไรมากแล้ว ก็สบายใจขึ้นมาทันที
ต่อจากนั้น ทุกคนก็พักกันครู่หนึ่งพูดผลการต่อสู้ของพวกเขาที่ละคน และพากันวิเคราะห์จํานวนสาวกที่หนีรอดไปได้
หลังจากสํารวจและไล่ล่าแล้ว เราก็สรุปได้ว่าคนส่วนใหญ่หนีไปได้ ซึ่งมีจํานวนประมาณ 6090 คนได้
ตอนนี้ทั่วทั้งบริษัทหมิงโลจิสติกส์เหลือเพียงแค่พวกเราไม่กี่คนนี้
ส่วนสาวกที่หนีรอดไปได้หากคิดจะออกไปตามหาตอนนี้ มันก็แทบเป็นไปไม่ได้แล้ว
รูปลักษณ์ภายนอกของคนพวกนั้นไม่ต่างอะไรจากคนปกติเลยสักนิด เมื่อเข้าไปปะปนกับผู้คนแล้ว
ก็จะสามารถหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
สําหรับเรื่องนี้ ทุกคนเป็นเหมือนผมอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจ แต่เราก็ไม่ได้ออกไปไล่ตาม
ตอนนี้ได้ยินเพียงท่านนักพรตต์พูดว่า “พวกสาวกสํานักสื่อเย่ที่หนีไปได้ พวกเราจะไม่ไปตาม หาชั่วคราวตอนนี้ เราควรรีบพาท่านนักพรตทั้งสองไปโรงพยาบาล ในเวลาเดียวกันก็ต้องเก็บกวาดสิ่งต่างๆที่อยู่ที่นี่ !”
หลังฟังจบ อาจารย์ก็พยักหน้าเบาๆ จากนั้นพวกเราก็ได้ยินอาจารย์พูดขึ้นมาว่า “อ๋อ ! เหล่า พูดถูกแล้วเจ้ายาที่หลอมอยู่ในเตานี พวกสํานักสื่อเย่ดูจะให้ความสําคัญสุดๆ ไม่ว่ายังไงเราก็จะเหลือของนี่ทิ้งเอาไว้ให้พวกมันไม่ได้ ไม่เพียงแค่ทําลายมัน แต่เราต้องทําลายของปรุงยาทั้งหมดที่อยู่ในนี้ด้วยต้องทําให้เจ้าสํานักสื่อเย่ได้ลิ้มรสชาติขมขึ้นในการปรุงยาความเสียใจที่โดนทําลายของสําคัญ
อาจารย์พูดด้วยสีหน้าซีเรียส หลังทุกคนได้ยินอาจารย์พูดแบบนั้น ก็พากันพยักหน้ารับ บอกว่าเห็นด้วยทันที
ในเวลาเดียวกัน ผมก็พูดเพิ่ม “ถึงที่นี่จะเป็นฐานของสํานักชั่ว แต่ภาพลักษณ์ภายนอก ไม่ว่าจะพูดยังไงที่นี่ก็ยังเป็นบริษัทแห่งหนึ่ง และมีพนักงานกว่าหลายร้อยชีวิต”
“ถ้าพวกเราออกไปทั้งๆแบบนี้ หากคนนอกเข้ามาเห็นฉากนี้เข้าละก็ หรือมีข่าวแพร่ออกไป คงทําให้เกิดความตื่นกลัวและการคาดเดาไปต่างๆนานาแน่ !”
“ถึงจะพูดแบบนั้น แต่พวกเราควรจะทํายังไงละ ?” หยางเฉ่วถามด้วยความสงสัย
เนื่องจากที่นี่มีเศษซากกระดูกคราบเลือดสีดํา กระจายอยู่ทุกที่
แม้พวกเราคิดจะจัดการที่นี่ แต่ตอนนี้ก็ไม่รู้จะจัดการยังไงดี ! หรืออาจโดนคนอื่นมาเจอได้ง่ายด้วย
ระหว่างนั้นทุกคนดูค่อนข้างกังวล แต่ผมกลับคิดวิธีออกนานแล้ว
ผมจึงพูดกับหยางเนิ่วและทุกคนอีกครั้ง “ ง่ายมาก เราก็เผาโกดังและบริษัทนี้ให้ราบถึงสุดท้ายจะมีกระดูกเหลืออยู่ แต่มันก็เป็นเรื่องปกติ มีชีวิตไม่เห็นคน ตายไม่เห็นศพสุดท้ายก็เหลือแต่กองไฟกองหนึ่ง
ส่วนเรื่องอื่นพวกเราไม่ต้องสนใจอะไรมาก……”
หลังฟังผมพูดจบทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะหันมามองหน้ากัน
ถึงวิธีนี้จะดูบ้าบินไปหน่อย แต่มันก็ปกปิดร่องรอยได้จริงๆ
ยังไงที่นี่ก็เต็มไปด้วยกองกระดูกไม่ว่าใครมาเห็นก็ต้องรู้สึกไม่อยากเชื่อทั้งนั้น
หลังเพลิงลุกไหม้ มันอาจลุกลานไปไม่มากก็น้อย แม้ว่าคนอื่นจะเห็นบางอย่าง
แต่เพราะเคยโดนไฟเผามาก่อน ก็คงไม่ทําให้ผู้คนเก็บเอาไปวิพากษ์วิจารณ์หรือเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมากนัก……
หลังตัดสินใจได้แล้ว ทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย
ต่อจากนั้น พวกอาจารย์ก็ใช้บันไดเลื่อน เปิดเตาเผาอันนั้น ใช้ตะขอเหล็กขนาดใหญ่เอายาที่หลอมอยู่ในนั้นออกมา
มันเป็นยาขนาดเท่ากํามือสีแดงฉานเฉกเช่นเดียวกับสีเลือด และยังส่งกลิ่นหอมของยาออกมา
แต่สิ่งที่ผิดแปลกไปก็คือ แม้เจ้านี้จะดูเหมือนเม็ดยาแต่มันกลับเหมือนหัวใจสามารถเต้นได้เช่นเดียวกัน
แม้จะไม่มีเสียง แต่มันก็เหมือนหัวใจและลูกโป่งไม่มีผิด พองขึ้นและยุบลง แม้จะเป็นการเคลื่อนไหวที่เล็กมาก
แต่มันกลับดูแปลกประหลาดมากทําให้คนรู้สึกเหมือนเห็นภาพลวงตา ว่านี่คือหัวใจดวงหนึ่ง
เจ้านี่น่าจะเป็นโอสถโลหิตศพที่เจ้าหลิงเทียนนั้นพูดถึง แต่เจ้านี้มีกลิ่นหอม หรือแม้แต่ยัง “ขยับ” ได้
แต่ผมรู้ดี เจ้านี่ทํามาจากเลือดและศพของชีวิตคนเกิดปีหยินเดือนหยิน เป็นของที่ต่าช้ามาก
ทุกคนมองมันสักพักด้วยความตกใจ ต่อจากนั้นก็ได้ยินท่านนักพรตติพูดว่า “เหล่าติง เจ้านี่เป็นสิ่งชั่วช้า ทําลายมันเลยเถอะ !”
เด็กอย่างพวกเราก็พยักหน้าเบาๆ คิดว่าไม่ควรเก็บเจ้าสิ่งนี้เอาไว้
ขณะที่มือถือมันเอาไว้อาจารย์ก็ตอบรับว่า “ซื้อ” “ข้าจะทําลายมันเดี๋ยวนี้แหละ !”
หลังจากพูดจบ อาจารย์ก็โยนเจ้าสิ่งนี้ลงพื้น
เจ้าสิ่งนี้เพิ่งตกลงบนพื้นเสียง “เพล้ง” เหมือนเสียงแก้วแตกก็ดังขึ้น พร้อมกับตัวยาที่แตกออกเป็นเสี่ยงๆ
หลังจากนั้นของเหลวสีแดงสดก็ได้ออกมาจากข้างในจํานวนมาก หรือแม้แต่ยังมีหมอกสีเลือดปรากฏขึ้นด้วย
ในขณะที่หมอกสีเลือดนี้ปรากฏขึ้น มันก็แพร่กระจายไปทั่วพื้น
ทุกคนตกใจปู่หลิวและยายหูชีรีบพูดขึ้นมาทันที “รีบถอยเร็ว !”
ทุกคนไม่ใช่มือใหม่ แม้จะไม่รู้ว่าเจ้าหมอกเลือดนี้คืออะไรแต่เราก็ไม่ยืนโง่อยู่ที่เดิมแน่
ทุกคนถอยไปทันที เว้นระยะห่างจากหมอกเลือดนั่น
หมอกเลือดกระจายตัวเร็วมากเราอาจโดนไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้เห็นอะไรผิดปกติไป
แต่สิ่งสําคัญก็คือ วินาทีที่พวกเราถอยออกไป พวกเรากลับพบว่าในหมอกเลือก มีร่างของใครบางคนอยู่สภาพของเขาเหมือนกําลังพยายามลุกขึ้นจากกองเลือดพวกนั้น
“นั่น นั่นมันอะไร ?” ผมพูดด้วยความตกใจ และหลี่ตาลง
“เหมือน เหมือนจะเป็นคนนะ !” เหล่าเฟิงก็ตกใจ
“ทุกคนระวังตัวให้ดี มันมีกลิ่นศพและเลือดแรงมาก !” ท่านนักพรตต์ก็พูดขึ้นมาพร้อมสังเกตสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
แต่คนที่ลุกขึ้นมาจากกองเลือดนั่น เพิ่งลุกขึ้นยืนได้ กลับเป็นเหมือนไอติมที่ละลายอย่างรวดเร็ว ผ่านไปไม่ถึง 5 วินาที เขาก็กลายเป็นเลือดกองหนึ่ง
ในขณะที่คนสีเลือดคนนั้นจากไป หมอกเลือดพวกนั้น ก็ค่อยๆจางหายไปเช่นกัน
เลือดที่แดงจนผิดปกติกองนั้น ก็ค่อยๆกลายเป็นสีดํากลิ่นหอมนั่น ก็ค่อยๆหายไปกลายเป็นกลิ่นเหม็น
หลังเห็นร่างสีเลือกของใครคนนั้นหายไป ทุกคนถึงได้รู้สึกสบายใจขึ้นมา
อาจารย์ถอนหายใจยาวๆ “ เจ้ายานี่แปลกประหลาดจริงๆ ตอนนี้ทําลายเสร็จแล้วต่อไปพวก เราก็ทําลายเตานี่กันเถอะ ! เสี่ยวฝาน เด็กอย่างพวกแกไม่กี่คนพานักพรตหวังและนักพรตเฉินออกไปจากที่นี่ก่อน
ที่เหลือปล่อยให้พวกอาจารย์จัดการเอง !”
สําหรับอาจารย์ ผมยังเชื่อใจเขามาก
ผมพยักหน้าให้อาจารย์ จากนั้นก็เริ่มพาท่านนักพรตทั้งสอง และเหล่าฉันออกไปจากที่นี่พร้อมกับฉ่ยเฉิงจิง เหล่าเฟิง หยางเนิ่วและหูเหมย
ส่วนอาจารย์และพวกปู่หลิ่วก็เริ่มทําลายเตา
เสียง “ปังๆๆ” ดังขึ้นไม่หยุด ปู่หลิวเดินพลังปีศาจ ซัดฝ่ามือไปที่ด้านบนเตา ทําลายโครงสร้างทั้งหมดของเตา
ส่วนพวกเรา ก็ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ ค่อยๆเดินออกไปจากโกดังทันที
แต่สิ่งที่แปลกก็คือ พวกเราไม่กี่คนเพิ่งเดินออกมาจากโกดัง กลับมีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นอย่างพร้อมเพรียง
นั่นก็คือเสียงไอที่ผิดปกติ…