ตอนที่ 494 สู้เดี่ยว
ทุกคนเห็นผมหยิบมีดเน่าๆออกมาเล่มหนึ่ง แถมยังคิดจะเข้าไปสู้กับปีศาจงูที่แข็งแกร่งถึงขนาดนั้น
แต่ละคนจึงอดไม่ได้ที่จะตกใจ
ฉู่ยเฉิงจิง เหล่าเฟิงและคนอื่นๆ ถึงกับหน้ากระตุก
หยางเฉ่วมองผมด้วยสายตาแปลกๆ “ติงฝาน นายบ้าไปแล้วหรือไง ! ศิษย์พี่ซึ่งยังสู้ไม่ได้ แล้วนายจะสู้เดี่ยวๆกับมันเนี่ยนะ ? ถ้ามันคิดจะสู้กับพวกเราที่มีคนเยอะขนาดนี้ ก็ให้มันเข้ามาเถอะ ไม่ต้องโชว์พาว !”
หยางเฉ่วแนะนํา กลัวผมจะหัวร้อน ทําอะไรวู่วามไม่คิดหน้าคิดหลัง
หากตายหรือบาดเจ็บขึ้นมา แบบนั้นจะได้ไม่คุ้มเสียแทน
เหล่าเฟิงเองก็พูดขึ้นมาเช่นกัน “ ใช่เหล่าติง ถ้ามันกล้าเข้ามาคนเดียว งั้นพวกเราก็ลุยไปพร้อมกันก็จบ
นายคนเดียว ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันนะ !”
“ลุงติง นายเองก็ใจเย็นหน่อยเถอะ !” ฉู่ยเฉิงจิงเองก็พูดเช่นกัน
เมื่อได้ยินทุกคนพูดแบบนั้น ที่จริงผมก็รู้สึกหงุดหงิดหน่อยๆเหมือนกัน
ผมย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่าตัวเองห่างชั้นกับอีกฝ่ายขนาดไหน แต่ในเมื่อม่หลงเหยียนบอกให้ผมสู้ เธอก็น่าจะมีเหตุผลของเธอ
ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็พูดกับทุกคนอย่างใจเย็น “วางใจได้ ถ้าฉันสู้ไม่ไหวจริงๆ พวกเราก็มาลุยด้วยกัน ยังไง ยังไงพวกเขาก็ต้องการเวลา……”
หลังพูดถึงตรงนี้ ผมก็กวาดสายตามองนักพรตหวัง นักพรตเฉิน เหล่าฉิน มู่หลงเหยียนและคนอื่นๆ
พอทุกคนเห็นแบบนั้น ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
ตอนนี้อยู่ในช่วงเวลาสําคัญของการยับยั้งพลังปีศาจ ถ้าโดนขัดจังหวะเข้า ความพยายามที่ทํามาก่อนหน้านี้ก็จะสูญเปล่า
นักพรตทั้งสองคนและเหล่าฉันรวมเป็นสามคน จะกลายร่างอย่างต่อเนื่อง แล้วสุดท้ายก็จะกลายเป็นปีศาจขั้นแรกสําเร็จ
เมื่อเวลานั้นมาถึง เราก็จะช่วยพวกเขาไม่ได้อีกต่อไป พวกเขาก็จะเปลี่ยนเป็นตัวประหลาดครึ่งคนครึ่งสัตว์ ต้องดูดเลือดคนประทังชีวิต
ด้วยเหตุนี้ พวกเราเลยต้องพยายามยื่อเวลาให้พวกมู่หลงเหยียน
หยางเฉ่วยังไม่วางใจ เธอพูดต่อ “แต่นายจะไหวเหรอ ?”
ผมดูจริงจังมาก พยักหน้าให้เธอทันที “วางใจได้ !”
หลังจากพูดจบ ผมยังฉีกยิ้มแก้มปริให้หยางเจ่ว จากนั้นก็หันหน้าไปมองทางปีศาจหัวงตนนั้น
“ฉันจะสู้กับแกเอง !”
“แกเนี่ยนะ ? แกจะเอามีดเน่าๆนั่น มาสู้กับฉันงั้นเหรอ ?” ปีศาจงพูดด้วยน้ําเสียงดูแคลน
และหลังจากพูดจบ เขาก็หัวเราะ “ฮ่าๆๆ” เสียงดังลั่น ท่าทางไม่เห็นมีดปลิดวิญญาณของผมอยู่ในสายตาเลยสักนิด
“ใช่ มีดเน่าๆเล่มนี้แหละ !” ผมพูดต่อ
หลังฟังจบ ปีศาจงูยังพูดด้วยรอยยิ้ม “ ได้ ! ฉันจะรอด ว่าแกจะทําให้ฉันบาดเจ็บด้วยมีดเน่าๆ นี่ได้ยังไง
เข้ามาเถอะ !”
เมื่อเสียงนี้ดังขึ้น ปีศาจงก็ตัวสั่น กางมือทั้งสองข้างออก ทันใดนั้นเองเกล็ดงก็ปรากฏขึ้นบน
แขนของเขา
มันชัดเจน ปีศาจของเจ้าหมอนี่คือง ดังนั้นร่างกายเลยมีคุณสมบัติเหมือนง
เกล็ดชั้นแล้วชั้นเล่า เปลี่ยนเป็นเกราะคุ้มกันร่างกายของเขา เพิ่มคุณสมบัติป้องกันไปอีกขั้นหนึ่ง
ผมสัมผัสได้ถึงพลังที่มหาศาลของอีกฝ่าย ผมไม่ได้ถอยหนี ผมเองก็เปิดใช้พลังทั้งหมดเช่นกัน
เต้าฉือขั้นสุด แม้จะเป็นพลังที่ไม่สูงมาก แต่ผมมีมีดปลิดวิญญาณอยู่ในมือ
พอพวกเราทุกคนเห็นผมแสดงพลังออกมาแล้ว ก็อดเป็นห่วงไม่ได้
ซงซานเหอทําหน้ามุ่ยยิ่งกว่าใครเพื่อน “ศิษย์น้องจิง เพื่อนของเจ้าคนนี้ไม่มีสมองใช่ไหม เต้าซือขั้นกลางอย่างฉันยังสู้ไม่ได้ แล้ว แล้วพลังน้อยนิดแบบเขาจะไปรนหาที่ตายเหรอ ?”
ช่วงเวลานั้นฉู่ยเฉิงจิงเองก็ไม่รู้จะตอบกลับยังไงดี แต่เมื่อเธอเห็นผมทําท่าทางจริงจัง และ ยังไม่เหมือนคนโง่ที่บ้าบินไปเอง
เหล่าเฟิงและพี่เฟิงก็ขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่าผมกําลังคิดจะทําอะไร
แต่เหนือกว่านั้น พวกเขาเตรียมตัวพร้อมสู้ตลอดเวลา
หากผมส์ไม่ไหว ทั้งสองคนก็จะพุ่งเข้ามาช่วยผมทันที
หยางเฉ่วใจเต้นแรง แต่เธอคิดว่ารู้จักผมมานานขนาดนี้ จึงไม่คิดว่าผมจะออกไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ
ผมคนที่เยือกเย็นและระมัดระวังมาตลอด จู่ๆก็ทําท่าที่แบบนั้นออกมา บางทีผมอาจมีวิธีบางอย่างอยู่
หรือจะพูดได้ว่า หยางเฉวเป็นคนที่เชื่อในตัวผมที่สุด เพียงแต่ไม่เข้าใจว่าในมือผมมีลูกเล่นอะไรอยู่กันแน่
ต่อจากนั้น ผมก็เคลื่อนพลังเข้าไปในมีดปลิดวิญญาณ
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมปล่อยพลังเข้าไปในมีดปลิดวิญญาณ หลังผมถ่ายเทพลังเสร็จแล้ว จุดตันเถียนในตัวผม
ก็เกิดอาการสั่นพักหนึ่ง
ดูเหมือนจุดตันเถียนของผม กําลังเชื่อมโยงกับมีดปลิดวิญญาณ
ต่อจากนั้น ผมก็สัมผัสได้ว่าในมีดปลิดวิญญาณ เหมือนมีกระแสพลังแปลกๆออกมา มันซึมเข้ามาในร่างผมผ่านตัวมีด
เพียงชั่วพริบตา ผมก็รู้สึกเหมือนกระแสพลังแปลกๆที่อยู่ในตัวมีดปลิดวิญญาณ ทําให้พละกําลังในร่างกายเพิ่มขึ้นเยอะมาก และพลังก็เอ่อล้นมากขึ้นเรื่อยๆ
ผมรู้สึกแปลกใจหน่อยๆ หรือแม้แต่รู้สึกคาดไม่ถึง
คิดไม่ถึงว่า มีดปลิดวิญญาณยังมีคุณสมบัติเพิ่มพลังให้ผู้ใช้ได้ด้วย ถึงว่าทําให้มู่หลงเหยียนบอกให้ผมใช้มีดปลิดวิญญาณสู้กับศัตรู
ที่แท้นอกจากจะสามารถดูดซับวิญญาณได้แล้ว มันยังมีความสามารถเพิ่มพลังให้ผู้ใช้ได้อีกด้วย
แต่ในเวลานี้ ผมไม่มีเวลามานั่งทดลอง หลังจับมีดปลิดวิญญาณแน่นแล้วผมก็พุ่งเข้าไปทันที
แต่เจ้าปีศาจงไม่เห็นความวิเศษวิโสอะไร มันเผยรอยยิ้มสุดพิลึกออกมา “เจ้าหนู ให้ข้าได้ลองว่ามีดของเจ้าคมขนาดไหนหน่อยเถอะ !”
น้ําเสียงแฝงไปด้วยความดูถูก หรือแม้แต่ยื่นมือออกมา หามีดในมือของผม
เมื่อเห็นอย่างงั้น ผมก็ดีใจทันที
ผมไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดี แกอาจจะไม่รู้ว่าเจ้ามีดเล่มนี้มันคมขนาดไหน แต่ยังไงเจ้านี่ก็คือ สมบัติที่ตกทอดกันมาของสํานักหยินชื่อ มีดปลิดวิญญาณ
มันคมยิ่งกว่าอะไรดี โต๊ะหินหนาสิบกว่าเซนติเมตร ยังเป็นเหมือนนั่นผัก
แล้วร่างกายที่มีเลือดเนื้อของแก ถึงจะมีเกล็ดงคอยช่วย แต่มันจะเทียบกับโต๊ะหินที่หนากว่าสิบเมตรได้งั้นเหรอ
เมื่อกี้ผมยังค่อนข้างกังวลกับการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย ผมละคิดว่าเขาจะโจมตีอย่างรอบคอบและระมัดระวัง
หากเป็นแบบนี้ อีกฝ่ายก็จะสามารถใช้พลังที่อยู่เหนือผม สังหารผมได้ หรือแม้แต่หาช่องโหว่จากตัวผม
แล้วทําให้ผมพ่ายแพ้ในครั้งเดียว
แต่ตอนนี้ ดูเหมือนผมจะคิดมากไปเอง
ปีศาจงตรงหน้าตนนี้ เป็นพวกบ้าหลงตัวเอง
อีกเดี๋ยวผมจะทําให้เขารู้ว่า การดูถูกมีดปลิดวิญญาณ และผมมันจะมีจุดจบยังไง
ร่างทั้งสองพุ่งเข้าหากัน เพียงชั่วพริบตา พวกเราก็เข้ามาถึงระยะสังหารแล้ว
อีกฝ่ายคิดจะใช้พลังอันมหาศาลมาสยบผม แต่ทันใดนั้นเขาก็พบกับเรื่องแปลก
พลังขั้นเต้าจจิ้นของเขา ในเวลานี้กลับสยบขั้นเต้าฉือขั้นสุดไม่อยู่
สิ่งที่แปลกยิ่งกว่านั้นคือ เขาสัมผัสได้ลางๆ ว่ามีดในมือผม กําลังปลดปล่อยพลังแปลกๆออกมา
แต่เขาเองก็คิดไม่ถึง และไม่คิดว่าคนที่มีพลังเต้าฉือขั้นสุดอย่างผม จะทําร้ายเขาได้
แต่เจ้าหมอนี่จะรู้ได้ยังไง ว่าคนที่มีพลังเต้าฉือขั้นสุดอย่างผม
หลังได้ความช่วยเหลือจากมีดปลิดวิญญาณ พลังของผมก็เพิ่มขึ้นเยอะมาก
ผมรู้ตัวดี ผมในตอนนี้ น่าจะก้าวขึ้นไปถึงเต้าชื่อขั้นกลางแล้ว
แม้จะไม่ค่อยแน่ใจนัก แต่มันก็น่าจะอยู่ในระดับประมาณนั้น
ขณะต้านพลังที่อีกฝ่ายปล่อยออกมา ผมก็พุ่งเข้าไปพร้อมกับมีด
เจ้าปีศาจงตนนั้น ไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่ มันยื่นมือออกมาเหมือนคนโง่ คิดจะจับมีดด้วยมือเปล่า
“เจ้าหนู มีดเน่าๆนี่มันมีประโยชน์เหรอฮะ ?”
ผมกลับเค้นเสียงดัง “โอหัง !”
เสียงเพิ่งเงียบลง มีดก็สัมผัสกับมือที่เต็มไปด้วยเกล็ดงของอีกฝ่ายแล้ว
เจ้าหมอนั่นมั่นใจเต็มร้อย กระชับมือจับอย่างแรง คิดจะดึงมีดออกมาจากมือผม
แต่วินาทีที่สัมผัสกับมีด เขาก็ต้องพบกับเรื่องที่แปลกสุดๆ
มีดในมือผมที่ดูเน่าๆและขึ้นสนิมแล้ว กลับเปลี่ยนไปภายในชั่วพริบตานั้น มันตัดเกล็ดบนมือของเขา
และทะลุเข้าไปถึงเนื้อของเขา ความเจ็บปวดแวบเข้ามาในสมองเขาทันที
ถ้ากํามีดเล่มนี้เอาไว้จริงๆ นิ้วมือของเขาคงรักษาไว้ไม่ได้แน่นอน ปีศาจงูตกใจ แอบพูดว่าแย่แล้ว
มันประเมินความคมและความสามารถของมีดผมต่าไป
ด้วยเหตุนี้ เขาเลยคิดจะดึงมือกลับ เพื่อหลบคมมีดปลิดวิญญาณ
แต่ตอนนี้มันทันเหรอ ผมจะให้โอกาสกับอีกฝ่ายเหรอ
เห็นได้ชัดว่ามันเป็นไปไม่ได้ ผมดึงหน้าลง ปลดหล่อยพลังออกมาทั้งหมด
ผมตวัดมีด ทํามือขวาง แล้วตรงไปที่ข้อมือของอีกฝ่ายทันที
ผมเคลื่อนไหวเร็วมาก เพียงแค่ชั่วพริบตา และตอนนี้ผมยังได้ครองสิทธิโจมตีก่อน
เจ้าปีศาจโง่นี่คิดได้ช้าไปแล้ว ถึงพลังของเขาจะมากกว่า ตอนนี้มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว
เพราะเราอยู่ใกล้กันเกินไป และมีดปลิดวิญญาณในมือผมยังคมมาก
ผลลัพธ์ผมได้ยินเพียงเสียง “ฉีบ” ในเวลานี้มือที่เต็มไปด้วยเกล็ดงูข้างนั้น ลอยออกไปทันที เกล็ดงกระเด็นเซ็นซ่าน พร้อมเลือดที่สาดไปรอบๆ
ส่วนเจ้าปีศาจงตนนั้น ก็มีแววตาสันไหว ทําหน้าตกใจ พร้อมกรีดร้องออกมาเสียงดังลั่น “อ้า !”