สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน – ตอนที่ 205 สตรีงามล่มเมือง? ไม่เหมือน!

แม้หุบเขาร้อยบุปผาจะตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา ทว่าศาลาและเรือนพักต่างๆ กลับสามารถจัดวางได้อย่างสวยงามเป็นระเบียบไม่ด้อยไปกว่าจวนขุนนางในเมือง ช่างโอ่อ่าและหรูหรา

ระหว่างทาง ซูจิ่นซีได้แต่นึกอุทานในใจว่าเหตุใดภายในหุบเขาถึงมีสถานที่หรูหราได้ถึงเพียงนี้ ขณะเดียวกันระบบถอนพิษก็ทำการค้นหาจุดที่ตั้งของตัวยาทั้งสามชนิด ได้แก่ ใบชีเย่ ซงหมา และหญ้าเถาเซียน

ทว่าน่าเสียดาย ระบบถอนพิษพบเพียงสมุนไพรหญ้าเถาเซียนและซงหมา อีกทั้งพวกมันยังมีจำนวนมาก ทว่าไม่พบตำแหน่งของใบชีเย่

“ทั้งสองท่าน เชิญด้านใน! ”

ชื่อของห้องหับและเรือนพักของที่นี่แต่ละแห่งล้วนตั้งเป็นชื่อดอกไม้ ชายชราได้นำทางซูจิ่นซีกับเยี่ยโยวเหยาไปที่เรือนโบตั๋น

“ท่านทั้งสองเชิญนั่งรออยู่ตรงนี้! ” ชายชรากล่าว

ซูจิ่นซีสงสัยเป็นอย่างมาก “พวกเราขอสมุนไพรทั้งสามชนิดได้หรือไม่? ”

“ในเมื่อข้าพาท่านทั้งสองเข้ามาในหุบเขาร้อยบุปผาแล้ว แน่นอนว่าจะต้องมีคำตอบให้กับท่านทั้งสอง เชิญโยวอ๋องและพระชายาพักผ่อนให้สบายใจอยู่ตรงนี้สักครู่”

เมื่อพูดจบ ชายชราก็เดินออกนอกประตูไป

ซูจิ่นซีกับเยี่ยโยวเหยาสบตากัน จากนั้นก็นั่งลงบนเก้าอี้ รอคนรับใช้ยกน้ำชามาให้ เมื่อระบบถอนพิษตรวจไม่พบพิษ ซูจิ่นซีจึงดื่มด้วยความสบายใจ

“ฮูหยินเตี๋ยเมิ่งมาถึงแล้ว! ” จู่ๆ เสียงบ่าวรับใช้ก็ดังขึ้นจากด้านนอก

ซูจิ่นซีกับเยี่ยโยวเหยาเงยหน้าขึ้นมอง เห็นเพียงคนจำนวนหนึ่งเดินห้อมล้อมสตรีวัยกลางคนเข้ามา

ฮูหยินเตี๋ยเมิ่ง?

ชายชราบอกว่านางไม่อยู่ที่หุบเขาร้อยบุปผามิใช่หรือ?

“อาหญิง สองท่านนี้คือโยวอ๋องและพระชายาโยวอ๋องพวกเขาต้องการมาขอสมุนไพรที่หุบเขาร้อยบุปผาของเรา” ชายชราที่เดินตามหลังฮูหยินเตี๋ยเมิ่งเป็นผู้แนะนำ

อาหญิง?

ซูจิ่นซีประหลาดใจชั่วขณะ

เดิมทีซูจิ่นซีก็ครุ่นคิดว่าอาหญิงที่ชายชรากล่าวถึงนั้นเป็นผู้ใด!

ที่แท้ก็เป็นฮูหยินเตี๋ยเมิ่ง

ทว่าฮูหยินเตี๋ยเมิ่งผู้นี้… หลอกลวงกันเกินไปแล้ว?

ตามข้อมูลที่ได้มา ฮูหยินเตี๋ยเมิ่งมีสมญานามว่า ‘สตรีงามอันดับหนึ่งในใต้หล้า’ นางมีศิริโฉมงดงาม

ทว่าสตรีที่อยู่ตรงหน้า จะพินิจเช่นไรนางก็ไม่เหมือนสตรีงามล่มเมืองอย่างที่ร่ำลือไม่ใช่หรือ?

นางมีรูปร่างเล็กกว่าซูจิ่นซี ผิวพรรณแม้จะดูแลรักษาเป็นอย่างดี แลดูงดงาม ทว่านางมีไฝบนใบหน้าหลายแห่ง กิริยาท่าทางแม้จะดูสูงศักดิ์ ทว่ายังสง่างามไม่พอ

ซูจิ่นซีรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

สุนทรียภาพความงามของคนแคว้นหนานหลี แปลกประหลาดเกินไปหรือไม่?

“ข้าได้ยินเฒ่าลวี่บอกว่า พวกเจ้าต้องการสมุนไพร ใบชีเย่ ซงหมา และหญ้าเถาเซียนใช่หรือไม่? ” ฮูหยินเตี๋ยเมิ่งก้าวเดินไปพลาง พร้อมกับสอบถามซูจิ่นซีกับเยี่ยโยวเหยา

“ถูกต้อง! ” ซูจิ่นซีพูด

“ผู้ที่มาขอสมุนไพรจากหุบเขาร้อยบุปผามีมาก ทว่าสมุนไพรของหุบเขาร้อยบุปผาเรา มิใช่สิ่งที่ใครสามารถนำออกไปได้โดยง่าย”

“ฮูหยินมีเงื่อนไขเช่นไร สามารถเอ่ยปากได้ทันที” ซูจิ่นซีพูด

“เจ้าเป็นคนที่พูดจาตรงไปตรงมาเสียจริง ข้าชอบ” ฮูหยินเตี๋ยเมิ่งแสดงท่าทางดีใจ “ได้ยินมาว่าท่านโยวอ๋องมีวรยุทธ์ล้ำเลิศ! ”

วรยุทธ์ของเยี่ยโยวเหยายอดเยี่ยมตามที่กล่าวขานจริงๆ แม้ไม่รู้ว่าหากเทียบในอาณาจักรเทียนเหอแล้วจะเป็นเช่นไร เพราะซูจิ่นซีไม่ค่อยเข้าใจเท่าใดนัก ทว่าในแคว้นจงหนิง เขามีวรยุทธ์เป็นอันดับหนึ่ง จนบัดนี้ยังไม่มีผู้ใดล้มเขาได้

ท่าทีของเยี่ยโยวเหยาเรียบเฉย เหมือนยอมรับอยู่กลายๆ

ฮูหยินเตี๋ยเมิ่งมิได้ติดใจ นางพูดอีกว่า “เงื่อนไขของข้าไม่ยาก ขอเพียงท่านทั้งสองจับตัวจอมวายร้ายไป๋เฉ่าจากหุบเขาเทพโอสถมาให้ข้า สมุนไพรที่ท่านต้องการทั้งสามชนิด ข้าจะมอบให้ท่านกับมือ”

พวกเขาเดินทางมาหุบเขาร้อยบุปผา เพื่อจับตัวจอมวายร้ายไป๋เฉ่า?

ซูจิ่นซีไม่ทราบว่าจอมวายร้ายไป๋เฉ่าคือผู้ใด ทว่าแววตาของเยี่ยโยวเหยากลับถมึงทึง

ดูเหมือนฮูหยินเตี๋ยเมิ่งจะล่วงรู้สิ่งที่เยี่ยโยวเหยากำลังคิดอยู่ “ข้ารู้ว่าท่านโยวอ๋องกำลังคิดสิ่งใด และยังทราบอีกว่า วิชาพิษของพระชายาโยวอ๋องร้ายกาจมาก ทว่าหากพวกท่านทั้งสองคิดจะแย่งชิงเอาไปดื้อๆ พวกเราคนจากหุบเขาร้อยบุปผามิใช่ผู้ที่จะให้ใครมารังแกกันได้ง่ายๆ เมื่อถึงเวลานั้นก็คงปลาตายอวนพัง [1] ”

สิ้นเสียงฮูหยินเตี๋ยเมิ่ง เฒ่าลวี่ที่ยืนข้างกายนางก็พูดว่า “ในเมื่อทั้งสองท่านมาขอสมุนไพร ก็ควรทำตามกฎของหุบเขาร้อยบุปผาเรา สิ่งของในหุบเขาร้อยบุปผาเรา ไม่เคยมีผู้ใดนำออกไปได้โดยไม่มีผลตอบแทน”

ตั้งแต่เข้ามาในหุบเขาร้อยบุปผา ซูจิ่นซีไม่เพียงใช้ระบบถอนพิษตรวจสอบสถานการณ์พิษของที่นี่เท่านั้น นางยังใช้อาคมกำไลปี่อั้นตรวจสอบการเคลื่อนไหวทั้งหมดในหุบเขาร้อยบุปผาด้วย

เสียงกลไกในสถานที่แห่งนี้ดังชัดเจนมาก ทั้งยังไม่ได้มีเพียงแค่จุดเดียว ทั่วทั้งหุบเขาล้วนซุกซ่อนกลไกไว้จำนวนมาก ไม่ใช่แค่พิษเท่านั้นที่อยู่ทุกตารางนิ้ว ทว่ายังมีกลไกวางอยู่ทั่วทุกแห่ง

ไม่ต้องกล่าวถึงตำแหน่งที่ตั้งของใบชีเย่ที่ระบบถอนพิษตามหาไม่เจอ แม้จะพบสมุนไพรทั้งสามชนิดแล้ว ทว่าพวกเขาไม่คุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ หากไปสัมผัสกลไกเข้า อาจทำให้เสียเวลาไปมาก

พวกเขารอได้ ทว่าคนในเมืองตี้จิงเสียชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ คนที่ใกล้ตายไม่สามารถรอได้แล้ว

ซูจิ่นซีขมวดคิ้วมองหน้าเยี่ยโยวเหยา ภายในดวงตาส่วนลึกของเยี่ยโยวเหยายังคงลังเล ทั้งสองบรรลุข้อตกลงร่วมกัน

“ฮูหยินเป็นคนพูดคำไหนคำนั้นหรือไม่? ” ซูจิ่นซีถาม

“แน่นอน! ”

“ตกลง! เช่นนั้นก็ให้เราเห็นสมุนไพรทั้งสามชนิดนี้ก่อนได้หรือไม่ เพื่อยืนยันว่าหุบเขาร้อยบุปผาของท่าน มีสิ่งที่พวกเราต้องการ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ” จู่ๆ ฮูหยินเตี๋ยเมิ่งก็หัวเราะออกมาคำโต “พระชายาโยวอ๋อง ท่านเป็นคนฉลาดหลักแหลม วรยุทธ์ของท่านอ๋องสูงส่ง หากนำสมุนไพรออกมา พวกท่านไม่แย่งชิงไปซึ่งๆ หน้าหรอกหรือ? ท่านคิดว่าข้าโง่หรือ? อย่าคิดทำสิ่งใดที่ไร้ประโยชน์และมัวเสียเวลาอยู่ที่นี่อีกเลย บางทีตอนนี้พวกท่านอาจถึงหุบเขาเทพโอสถแล้ว ในเมื่อข้าเสนอเงื่อนไขกับพวกท่าน แน่นอนว่าต้องมีสมุนไพรให้กับพวกท่าน”

เดิมทีซูจิ่นซีคิดจะหลอกให้นางนำสมุนไพรออกมา และให้เยี่ยโยวเหยาแย่งชิงไปจริงๆ กลับไม่คิดว่าฮูหยินเตี๋ยเมิ่งจะมองออก

“หวังว่าหุบเขาร้อยบุปผาจะยึดมั่นคำสัญญา มิฉะนั้นแล้ว… ”

คำพูดต่อจากนั้นของเยี่ยโยวเหยามิได้พูดออกมา ทว่ากลับส่งสายตาเย็นชา แสดงท่าทีคุกคามอย่างเห็นได้ชัด

แม้หุบเขาร้อยบุปผาจะอยู่ในแคว้นหนานหลี ไม่ได้อยู่บนแผ่นดินของแคว้นจงหนิง อีกทั้งยังมีพิษรอบด้านและกลไกรอบพื้นที่ ทว่าหากเยี่ยโยวเหยาที่เป็นเหมือนดั่งเทพนิยายต้องการให้หุบเขาร้อยบุปผานี้หายไปจากแผ่นดินของแคว้นเทียนเหอ ก็เป็นสิ่งที่เขาสามารถทำได้

ใบหน้าของฮูหยินเตี๋ยเมิ่งเย็นชาอย่างเห็นได้ชัด

เยี่ยโยวเหยามิได้กล่าวอันใดต่อ เขาจูงมือซูจิ่นซีเดินออกไปนอกเรือนรับรอง

“เฒ่าลวี่ เดินไปส่งโยวอ๋องกับพระชายาโยวอ๋อง” เสียงของฮูหยินเตี๋ยเมิ่งดังมาจากทางด้านหลัง

ไม่รู้เพราะเหตุใด ซูจิ่นซีจึงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

ก่อนจะมาที่นี่ อวิ๋นจิ่นเคยพูดไว้ว่าอุปนิสัยของฮูหยินเตี๋ยเมิ่งแปลกประหลาด หากคิดจะเอาสิ่งของจากนางมิใช่เรื่องง่าย คิดไม่ถึงว่านางจะเสนอข้อแลกเปลี่ยนง่ายดายถึงเพียงนี้

อีกทั้ง เงื่อนไขเป็นเพียงจับคนผู้หนึ่งมาให้นาง

เรื่องนี้มันง่ายดายเกินไปหรือไม่?

ดูเหมือนข้อมูลต่างๆ ที่ซูจิ่นซีได้ทำความเข้าใจก่อนจะมาที่นี่นั้น ฮูหยินเตี๋ยเมิ่งท่านนี้สามารถทำได้ทุกอย่าง

“เยี่ยโยวเหยา ข้าคิดว่าต้องมีปัญหาเป็นแน่” เมื่อเดินทางออกจากหุบเขาร้อยบุปผา ซูจิ่นซีก็พูดกับเยี่ยโยวเหยาด้วยท่าทีสงสัย

“ไปหุบเขาเทพโอสถกันก่อน”

เยี่ยโยวเหยาไม่ได้แสดงความคิดเห็นอันใดมากไปกว่านั้น

ครั้งนี้ภายในใจของซูจิ่นซีรู้สึกว้าวุ่นยิ่งนัก แม้แต่นางยังมองออก ทว่าเยี่ยโยวเหยากลับมองอันใดไม่ออกเลยหรือ?

บุคคลผู้นี้มักจะแสดงท่าทางไร้อารมณ์ ช่างทำให้คนร้อนใจเสียจริง

เขากำลังคิดอันใด?

เดิมทีซูจิ่นซีคิดว่าพวกเขายังต้องเสียเวลาอีกพักใหญ่ในการค้นหาหุบเขาเทพโอสถ กลับคาดไม่ถึงว่าเยี่ยโยวเหยาจะพานางมายังหุบเขาเทพโอสถได้ในทันที

“เยี่ยโยวเหยา ท่านรู้จักตำแหน่งที่ตั้งของหุบเขาเทพโอสถตั้งแต่เมื่อใด? ” ซูจิ่นซีเกิดความสงสัย หรือว่าเยี่ยโยวเหยารู้แต่แรกแล้วว่าฮูหยินเตี๋ยเมิ่งต้องการให้พวกเขาไปจับตัวจอมวายร้ายไป๋เฉ่าที่หุบเขาเทพโอสถ ดังนั้นจึงส่งคนมาสืบไว้ก่อนล่วงหน้า

ทว่าผิดคาด เยี่ยโยวเหยาตอบว่า “หลายปีก่อนข้าเคยมาขอสมุนไพรที่หุบเขาเทพโอสถ”

……

เชิงอรรถ

[1] ปลาตายอวนพัง สำนวนจีน หมายถึง บาดเจ็บกันทั้งสองฝ่าย ไม่เป็นผลดีกับทั้งคู่

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน สามพันปีก่อนที่แผ่นดินเทียนเหอจะได้รับการจดบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ สกุลซู ตระกูลแพทย์ที่เก่าแก่และร่ำรวยแห่งแคว้นจงหนิง ภายในห้องที่รกร้างทรุดโทรมห้องหนึ่ง บุตรสาวคนที่เจ็ด ‘ซูจิ่นซี’ เสื้อผ้าขาดลุ่ย ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลถูกมัดติดกับเสา ข้างกายคือสาวงามนางหนึ่ง นางสวมอาภรณ์หรูหรา ในมือถือกริชค่อยๆ เฉือนลงบนร่างกายของซูจิ่นซี “ไอ้โง่ เจ้ายังไม่ยอมอ้าปากพูดอีกหรือ หยกกิเลนอยู่ที่ใด” ร่างของซูจิ่นซีสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวด ทว่าปากก็ยังถูกปิดสนิทให้ไม่สามารถพูดได้แม้แต่คำเดียว ดวงตาสีเข้มมืดมนคลอด้วยหยาดน้ำตา ส่งสายตาวิงวอนต่อสาวงามนางนั้น หญิงสาวยิ้มมุมปากอย่างพอใจแล้วดึงผ้าที่อุดปากซูจิ่นซีออก สาวงามตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด “พูด! ” แต่นางกลับคาดไม่ถึงว่าซูจิ่นซีจะร้องไห้ส่งเสียงดังสนั่นราวกับเด็กน้อยขึ้นมา “พี่หญิงเป็นคนหลอกลวง ฮือ…ฮือฮือ…บอกว่าจะให้ข้ากินปลา ท่านพี่หลอกข้า ฮือฮือ ลวี่หลี… ข้าเจ็บเหลือเกิน! ลวี่หลี…ฮือฮือฮือ…ข้าเลือดไหล ลวี่หลี…” ดวงตาส่องประกายของสาวงามหม่นแสงลงทันที กริชในมือยกขึ้นจ่อคอของซูจิ่นซีอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “หุบปาก! หากยังตะโกนอีก ข้าจะฆ่าเจ้าเสียตอนนี้! ” ซูจิ่นซีหวาดกลัวเสียจนหยุดส่งเสียงร้องไห้ในทันใด อีกทั้งยังมองสาวงามด้วยแววตาขยาด ทว่าในขณะที่ดวงตาอันสับสนของซูจิ่นซีมองทะลุผ่านสาวงามไปยังบุรุษผู้มีรังสีมืดมนบนเก้าอี้ไม้จันทน์สีแดงแปดเหลี่ยมข้างหลังนาง ซูจิ่นซีก็รู้สึกกระสับกระส่ายขึ้นมา

Comment

Options

not work with dark mode
Reset