ได้ยินคำพูดเช่นนี้ ไอสังหารที่ปรากฏบนใบหน้าของเยี่ยโยวเหยายิ่งเข้มข้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ซูจิ่นซีก็รู้สึกลำบากใจเช่นกัน
นางรีบกระซิบบางอย่างที่ข้างหูของเยี่ยโยวเหยา จากนั้นก็หยิบเข็มเหมันต์เทวะขึ้นมา และใช้ยาพิษชนิดหนึ่งที่หยิบออกมาจากระบบถอนพิษอาบลงไปบนเข็มเหมันต์เทวะนั้น เมื่ออาบยาพิษเรียบร้อยแล้ว นางกลับเหน็บเข็มเหมันต์เทวะไว้ที่นิ้วมือ และปาเข็มเงินธรรมดาออกไปก่อน
หลังจากนั้น ซูจิ่นซีถึงจะปาเข็มเหมันต์เทวะด้ามนั้นออกไป ขณะที่ปาเข็ม เยี่ยโยวเหยาจับมือของซูจิ่นซี และถ่ายทอดพลังภายในเข้าสู่ตัวนาง
กูสือซานสลัดหลุดจากเข็มเงินธรรมดา ทว่าเมื่อหันไปมอง ในวินาทีนั้น เข็มเหมันต์เทวะกลับพุ่งเข้าเสียบร่างของเขา
แม้กูสือซานจะเบี่ยงตัวหลบได้รวดเร็ว ทว่าเข็มเหมันต์เทวะก็ยังพุ่งมาปาดผิวหนังตรงหน้าผากของเขาอยู่ดี เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
กูสือซานยกมือลูบหน้าผาก ในมือมีร่องรอยเลือดสีดำ จากนั้นก็หันไปมองเข็มเหมันต์เทวะด้ามนั้นที่ปักลงบนผนังกำแพง แววตาพลันดุดันจนทำให้คนหวาดกลัว
ซูจิ่นซียกยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา “แม้เจ้าจะไม่คู่ควรให้ข้าลงมือด้วยเข็มเหมันต์เทวะ ทว่าเข็มเหมันต์เทวะเล่มนี้ ข้าขอมอบให้เจ้าเป็นของขวัญ เพื่อเป็นการเตือนสติเจ้า แต่นี้ต่อไป หากเจ้ายังกล้าพูดจาโอหังเช่นนี้อีก ข้าจะไม่ใช้เข็มเหมันต์เทวะกับเจ้าเพียงเล่มเดียว”
ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะแข็งแกร่งหรืออ่อนหัดเพียงใด และไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเชื่อหรือไม่ ในเวลานี้นางต้องแสดงท่าทีวางอำนาจสักครั้ง เรื่องอื่นค่อยว่ากัน
“เข็มเหมันต์เทวะ? ” กูสือซานประหลาดใจอย่างมาก เขารีบกินยาเม็ดที่หยิบออกมาในทันที ต้องทราบว่า เข็มเหมันต์เทวะกับเข็มเงินทั่วไปนั้นแตกต่างกันมาก ประสิทธิภาพในการช่วยชีวิตคนของเข็มเหมันต์เทวะ ดีกว่าเข็มธรรมดาหลายเท่าตัว หากใช้เข็มเหมันต์เทวะร่วมกับพิษก็ยิ่งร้ายกาจขึ้นหลายเท่า และหากอาบยาพิษไว้บนเข็มเหมันต์เทวะ สารพิษนั้นก็จะรุนแรงมากขึ้นสิบเท่า หรือมากกว่าหลายสิบเท่าด้วยซ้ำ
“อย่าคิดทำอันใดให้เสียแรงเปล่า” ซูจิ่นซีพูด “ข้าสามารถกำจัดพิษของพวกเจ้าได้ ทว่าพิษของข้า เจ้าไม่มีทางกำจัดได้”
ซูจิ่นซีใช้ยาพิษของยุคปัจจุบัน ซึ่งเป็นยาพิษชนิดที่ร้ายกาจที่สุดในระบบถอนพิษของนาง
ยิ่งไปกว่านั้น นางยังใช้คู่กับเข็มเหมันต์เทวะ หากไม่มียาถอนพิษของซูจิ่นซี ผู้อื่นไม่สามารถถอนพิษชนิดนี้ได้แน่นอน
แท้จริงแล้ว ซูจิ่นซีไม่คิดจะใช้เข็มเหมันต์เทวะเล่มนั้น เข็มนั้นเป็นของล้ำค่าและมีไม่กี่เล่มเท่านั้น หลังจากปาออกไปแล้วก็ยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถเก็บกลับมาได้หรือไม่ ทว่าฝ่ายตรงข้ามพูดจาโอหังลบหลู่เยี่ยโยวเหยาเยี่ยงนี้
ซูจิ่นซียินยอมสละทุกสิ่ง เพื่อเยี่ยโยวเหยา
กูสือซานดิ้นรนอยู่พักใหญ่ ผลลัพธ์ก็ยังไร้ประโยชน์เช่นเดิม ไม่เพียงเท่านั้น แขนทั้งสองข้างของเขายังไร้เรี่ยวแรงอย่างเห็นได้ชัด และมือทั้งสองข้างก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำ
“เจ้าเป็นใครกันแน่? เจ้าใช้พิษชนิดใดกับข้า? ” กูสือซานถามซูจิ่นซี
“พระชายาโยวอ๋องแห่งแคว้นจงหนิง ซูจิ่นซี”
ชัดเจนอยู่แล้วว่ากูสือซานไม่ได้ถามเรื่องนี้ อีกทั้งทุกคนต่างรู้สถานะของนางดี ทว่าซูจิ่นซียังคงตอบเช่นนี้
นี่เป็นครั้งแรกที่ซูจิ่นซีแสดงฐานะของตนต่อหน้าผู้อื่น ดวงตาดำขลับทั้งสองของเยี่ยโยวเหยาพลันเปล่งประกาย เขามองซูจิ่นซีด้วยสายตาชื่นชม
จากนั้นเยี่ยโยวเหยาก็กวัดแกว่งกระบี่ พุ่งเข้าโจมตีกูสือซานอีกครั้ง กูสือซานถูกพิษจนทั้งร่างกายไร้เรี่ยวแรง ตอนนี้เขาไม่มีแรงแม้แต่จะหยิบกระบี่ขึ้นมาต่อต้าน
กูสือซานถอยหลังอย่างรวดเร็ว หมอพิษทั้งสี่ที่ยืนอยู่ด้านหลังจึงก้าวมาด้านหน้าเพื่อปกป้องเขาและต่อสู้กับเยี่ยโยวเหยา
เหล่าหมอพิษเป็นวรยุทธ์เช่นกัน ทว่าทุกครั้งที่ออกกระบวนท่า พวกเขาก็จะซัดยาพิษออกมาด้วย
เยี่ยโยวเหยารับผิดชอบต้านกระบวนท่า ซูจิ่นซีรับผิดชอบกำจัดพิษ
“เยี่ยโยวเหยา ปริมาณยาที่เก็บไว้ในระบบถอนพิษมีจำนวนไม่มากแล้ว อีกทั้งยาพิษที่ฝ่ายตรงข้ามนำออกมาใช้ ยิ่งแปลกประหลาดมากขึ้นเรื่อยๆ หม่อมฉันเกรงว่ายิ่งนานเข้า พวกเราอาจเสียเปรียบได้ ถอยก่อนดีหรือไม่? ”
แม้ความสามารถในการกำจัดพิษของซูจิ่นซีจะร้ายกาจมาก ทว่าอย่างไรเสีย ความสามารถของนางคือการรักษาคนและช่วยชีวิตคน การต่อสู้ที่ยืดเยื้อและว่องไวเช่นนี้ นางยังมีประสบการณ์ไม่มากพอ จึงไม่สามารถต่อสู้อย่างยืดเยื้อได้
“ถอย! ” เยี่ยโยวเหยาออกคำสั่ง
ทันใดนั้น มือสังหารที่อยู่ด้านหลังพลันหยุดมือจากการต่อสู้ และทยอยถอยออกไปตามทางแคบจนถึงด้านนอก
เดิมทีเยี่ยโยวเหยาถอยออกไปได้ไกลพอสมควรแล้ว ทว่าเขาพาซูจิ่นซีกลับเข้ามาอีกครั้ง กูสือซานที่ถูกพิษ เมื่อเห็นเยี่ยโยวเหยาโจมตีมาทางเขา ก็รีบตะโกนเรียกลูกสมุนของตน “เร็ว เร็ว ขวางพวกเขาไว้ ขวางพวกเขาไว้”
ทว่าน่าเสียดาย ที่เยี่ยโยวเหยาโจมตีในครั้งนี้ เขาไม่ได้ต้องการโจมตีกูสือซาน แต่เพราะเข็มเหมันต์เทวะที่ปักอยู่บนผนังหินด้านหลังกูสือซานต่างหาก
หลังจากที่เยี่ยโยวเหยาได้เข็มเหมันต์เทวะมาอยู่ในมือ เขาก็รีบยัดใส่มือของซูจิ่นซี และถอยออกไปอย่างรวดเร็ว
ระหว่างทางมีองครักษ์พิษใช้พิษเข้ามาโจมตีเป็นระยะ หมอพิษทั้งสี่คนด้านหลังก็ไล่ตามมาติดๆอย่างไม่ยอมลดละเช่นกัน ทว่าซูจิ่นซีสามารถกำจัดพิษได้อย่างราบรื่นตลอดเส้นทาง
ในที่สุดก็มาถึงปากถ้ำหินอีกครั้ง ตรงนี้มีทางออกทางเดียวเท่านั้นคือหน้าผา หากต้องการขึ้นไปถึงด้านบนสุดของหน้าผา ต้องใช้วิชาตัวเบาภายในครั้งเดียว ไม่เช่นนั้นหากพลังภายในถูกใช้จนหมดอาจตกลงมาระหว่างทางได้ ทว่าในสถานการณ์ที่ด้านหลังมีศัตรูไล่ตามมาเช่นนี้ พวกเขาไม่มีทางขึ้นไปถึงด้านบนสุดของหน้าผาแน่นอน จึงทำได้เพียงหันหน้ากลับมาต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามอีกครั้ง
“พิษที่ทำร้ายกูสือซานเมื่อครู่ ยังมีเหลือหรือไม่? ” เยี่ยโยวเหยาถาม
“มีเพคะ” ซูจิ่นซีรีบหยิบออกมาจากระบบถอนพิษ และยื่นให้เยี่ยโยวเหยาทันที
“รอข้าอยู่ตรงนี้ ข้าจะรีบกลับมา”
แม้การยืนอยู่ตรงนี้ จะทำให้ซูจิ่นซีนึกถึงฝูงหนูก่อนหน้า ทว่าซูจิ่นซีไม่มีความหวาดกลัวเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว อีกทั้งระบบถอนพิษของนางยังสามารถตรวจพบว่า บริเวณโดยรอบไม่มีหนูหลงเหลืออยู่แล้ว
“เพคะ” ซูจิ่นซีพยักหน้ารับคำแต่โดยดี
“พวกเจ้าจำนวนหนึ่งตามข้ามา”
เยี่ยโยวเหยาออกคำสั่ง ทั้งยังกำชับให้องครักษ์อีกสองสามนายยืนคุ้มกันซูจิ่นซีอยู่โดยรอบ จากนั้นเยี่ยโยวเหยาก็พาคนจำนวนหนึ่งกลับเข้าไปในถ้ำหินอีกครั้ง
เบื้องต้น เยี่ยโยวเหยาใช้พิษของซูจิ่นซีคู่กับวิชากระบี่ กำจัดหมอพิษทั้งสี่คนได้สำเร็จ หลังจากที่หมอพิษล้มลง เยี่ยโยวเหยาก็พามือสังหารจำนวนหนึ่งบุกลึกเข้าไปในถ้ำหิน
ไม่รู้ว่าเยี่ยโยวเหยาพาพวกเขาเข้าไปทำอันใด
ที่ปากถ้ำ นอกจากเหล่าองครักษ์พิษที่ไล่ตามพวกเขามา ก็ไม่มีองครักษ์พิษนายอื่นอีก
หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ จู่ๆ ก็เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว จนภูเขาทั้งลูกสั่นสะเทือน
หน้าปากถ้ำมีเศษหินจำนวนมากตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
“เยี่ยโยวเหยา” ซูจิ่นซีไม่รู้ว่าด้านในเกิดเรื่องอันใดขึ้น นางตะโกนเรียกเยี่ยโยวเหยาด้วยความตื่นตระหนก
“พระชายาโปรดวางพระทัย ท่านอ๋องทำการใดย่อมมีความคิดเป็นของตนเอง ไม่มีทางเป็นอันใดแน่นอน” มือสังหารที่ปกป้องซูจิ่นซี กลัวว่านางจะบุ่มบ่ามเข้าไปข้างในเพื่อช่วยเหลือเยี่ยโยวเหยา จึงเอ่ยปลอบ
แท้จริงแล้ว แม้ซูจิ่นซีจะเป็นกังวลมากเพียงใด นางก็ยังเชื่อมั่นในความสามารถของเยี่ยโยวเหยา นางไม่มีทางเข้าไปสร้างความเดือดร้อนให้เยี่ยโยวเหยาเป็นแน่
ซูจิ่นซียืนอยู่ปากถ้ำ รอเยี่ยโยวเหยาอย่างเชื่อฟัง
ผ่านไปครู่ใหญ่ ขณะที่เศษหินจำนวนมากหล่นลงมาจนเกือบปิดปากถ้ำ ในที่สุดเยี่ยโยวเหยากับมือสังหารจำนวนหนึ่งก็เหาะออกมาจากกลุ่มฝุ่นที่ลอยคละคลุ้ง
“เยี่ยโยวเหยา” ซูจิ่นซีวิ่งเข้าไปหา
“ข้าไม่เป็นไร”
“ท่านสังหารกูสือซานแล้วหรือ? ”
“ไม่! กูสือซานยังนั่งถอนพิษอยู่ที่เขาวงกต ข้าเพียงเข้าไปทำลายตำหนักใต้ดินของเขาเท่านั้น”
แท้จริงแล้ว หลังจากออกมา ซูจิ่นซีกลับนึกเสียใจ เมื่อครู่พวกเขาควรฉวยโอกาสนี้สังหารกูสือซานเสีย
แม้ยาพิษที่ซูจิ่นซีมอบให้กูสือซานจะร้ายกาจมาก และไม่สามารถกำจัดได้หากไม่มียาถอนพิษจากนาง ทว่านั่นมันภายใต้สถานการณ์ปกติ