สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ตอนที่ 763 เหมือนว่าฉัน ไปก่อเรื่องทำให้มันยุ่งยากขึ้น

ลมหายใจของชายหนุ่มเขยิบเข้ามาเรื่อยๆ เย้นหว่านรู้สึกว่าตนเองเซถลาเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดขนาดใหญ่ แขนของเขาพันรอบเอวคอดของเธอ และกอดเอาไว้แน่น แถมพละกำลังมากมายมหาศาลราวกับต้องการบีบเข้าไปในกระดูก

ส่วนเธอนั้นเพิ่งรู้สึกได้ว่า ร่างกายที่เขารัดไว้แน่น เริ่มสั่นเทาเล็กน้อย

เย้นหว่านเบิกตาโตด้วยความรู้สึกตกใจ และนิ่งอยู่นานยังไม่สามารถเรียกสติกลับมาได้

โห้หลีเฉิน เป็นอะไรไปเนี่ย?

ความอาฆาตยังคงอบอวลอยู่ทั่วตัว แต่กลับไม่รู้สึกถึงอันตรายแม้แต่น้อย แม้กระทั่งเธอรับรู้ได้ว่าเขานั้นเริ่มมีอาการประหม่า ราวกับหวาดกลัว

ในใจของเธอนั้นสับสนไปหมด มือเล็กๆ ค่อยกอดเขาตอบ

“โห้หลีเฉิน ….”

“ตอนนี้รู้ว่าต้องเรียกผมแล้วใช่ไหม?”

น้ำเสียงของโห้หลีเฉินทุ้มต่ำ พร้อมทั้งอาการโกรธเคือง ราวกับมันเล็ดลอดออกมาจากไรฟัน

“เมื่อเจอกับอันตราย ทำไมไม่มาหาผมก่อน? คุณรู้ไหมว่าตอนที่ผมได้ยินว่าคนพวกนั้นทำร้ายคุณ มันน่าหวาดกลัวถึงเพียงไหน ทั้งกังวลว่าคุณจะถูกทำร้ายตรงไหนไหม”

“แล้วทำไมต้องไปเดินออกไปกับเซอร์ยุนซีด้วย? เรื่องออกไปหาตัวยาผมจัดการเองก็หมดเรื่อง คุณไม่ยอมอยู่ข้างกายผม คุณรู้ไหมว่าผมเป็นห่วงว่าจะเกิดเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับคุณบ้าง?”

แค่ระยะไม่กี่ชั่วโมง โห้หลีเฉินก็เหมือนกับขึ้นไปยังภูเขาที่เต็มไปด้วยอันตรายเลวร้ายที่สุด แวบเดียวก็ดำดิ่งลงไปยังทะเลเพลิง

เขาหาเธอไม่เจอ หัวใจของเขาทั้งดวงดั่งลอยเคว้งคว้างขึ้นมา กลัวว่าเขามาไม่ทัน เธอจะเจอกับอันตราย จนถูกทำร้าย

ยิ่งเมื่อรู้ข่าวตอนที่เย้นหว่านถูกคนรังแกนั้น อารมณ์ที่กำลังเป็นอยู่เช่นนั้นยิ่งระเบิดออกมาทั้งหมดทั้งมวล

เซอร์ยุนซีแอบพาเย้นหว่านออกไปโดยพลการ แถมยังไม่สามารถปกป้องคุ้มครองเย้นหว่านไม่ได้ดีอีก สมควรตายไปซะ!

ที่ยังไว้ชีวิตเขาอยู่นั้น นั่นมันเป็นสิ่งที่โห้หลีเฉินพยายามอดกลั้นอย่างยิ่งยวด ทั้งหมดก็คือนึกถึงเรื่องว่าเย้นหว่านไม่ได้ถูกรังแกจริงๆ

เย้นหว่านได้แต่ตัวแข็งทื่ออยู่อย่างนั้น ปกติแล้วโห้หลีเฉินจะเป็นคนพูดน้อยแต่กลับพูดพล่ามออกมาเป็นชุด แถมยังเน้นทุกถ้อยคำในเวลานี้ ทั้งหมดมันเหมือนโดนตอกตะปูในก้นบึ้งหัวใจของเธอ

เธอไม่ได้คิดอะไรมากมายขนาดนี้จริงๆ

เธอก็แค่อยากช่วยเขา อยากใช้โอกาสนี้ไปเดินสำรวจในเขตสวนพฤกษศาสตร์วังหลวง เพื่อไปหาร่องรอยของเมล็ดแมกโนเลีย แต่กลับไม่รู้ว่าจะยิ่งทำให้โห้หลีเฉินเป็นห่วงได้ถึงเพียงนี้ ที่ทำให้คนที่แข็งแกร่งอยู่ยงคงกระพันอย่างเขา หวาดกลัวจนใกล้จะสิ้นสภาพอยู่แล้ว

“ขอโทษ ขอโทษด้วยค่ะ …”

เย้นหว่านกอดโห้หลีเฉินเอาไว้ พลางสะอึกสะอื้นและพึมพำด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ฉันไม่เป็นไร ฉันก็ยังครบสมบูรณ์ทุกอย่าง คุณไม่ต้องเป็นห่วง ต่อไปฉันจะไม่ไปไหนคนเดียวอีกแล้ว ฉันจะไปไหนก็ต้องไปกับคุณ ตกลงไหม?”

เธอรู้ดีว่า การที่โห้หลีเฉินเคร่งเครียดซะขนาดนี้นั้น ก็เพราะว่าในพระราชวังนี้สำหรับเธอแล้ว มันช่างอันตรายเกินไปจริงๆ

หลายวันก่อน เย้นหว่านก็ถูกตามฆ่ามาแล้ว แม้ว่าเธอไม่ได้พูดกับโห้หลีเฉินตรงๆ แต่โห้หลีเฉินก็รู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว

รู้เรื่องที่เธอถูกซาอินติตามไล่ฆ่า และรู้ว่าเธอเข้าห้องน้ำยังถูกคนข่มขู่ รู้ว่ายังมีคนเอางูพิษไปปล่อยในห้องพักของเธออีก…

รอบกายเธอมีแต่อันตรายแอบซ่อนเร้นอยู่รอบด้าน ถ้าไม่มีเขาคอยเฝ้าอยู่ มีความเป็นไปได้ว่าแค่เธอหันตัวกลับก็คงถูกคนเอาชีวิตไปแล้ว

การที่เย้นหว่านถูกต้อนและถูกทำร้ายในสวนดอกไม้ ก็เป็นฝีมือของซาอินติ

นางก็เป็นเหมือนงูพิษที่อยู่ในมุมมืด เพื่อต้องการห้อมล้อมตัวเธอเอาไว้ เพื่อจะได้ใช้เวลาและโอกาสที่เหมาะสมในการฆ่าของเย้นหว่าน

ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ โห้หลีเฉินจะปล่อยผ่านไปได้ยังไงล่ะ?

หลายวันมานี้เขาและเธอตัวติดกัน ไม่ใช่ก็เพื่อเป็นห่วงถึงความปลอดภัยและอันตรายของเธอทุกวินาทีหรอกเหรอ วันนี้เย้นหว่านหายไปนาน โห้หลีเฉินก็ควรจะเป็นห่วงมาก และกระวนกระวายมากเช่นเดียวกัน

เขาแข็งแกร่งอยู่ยงคงกระพันก็ตาม แต่ว่าเธอ เป็นจุดอ่อนของเขาเพียงสิ่งเดียว

“อย่าได้ หายไปจากสายตาของผมอีก”

น้ำเสียงของโห้หลีเฉินกระซิบทุ้มต่ำมาก แขนทั้งสองข้างเพิ่มแรง กอดเย้นหว่านให้อยู่ในอ้อมกอดเอาไว้แน่น

ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากจะโอบเอาเย้นหว่านไปไว้ในกระดูกและเลือดของตนเองเลยทีเดียว จะไม่ได้ไม่จากไปไหนแม้เพียงเสี้ยววินาที ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน

เขาจะได้ปกป้องเธอเอาไว้ทุกวินาทีทุกลมหายใจ

เมื่อสัมผัสได้ชายหนุ่มนั้นเคร่งเครียดถึงเพียงใด หัวใจของเย้นหว่าน พลันอ่อนระทวยทันที

เบ้าตาของเธอนั้นเริ่มแสบ และก็ใช้กำลังกอดโห้หลีเฉินกลับคืน

ตอนนี้เธอตกเป็นเป้าสายตาของซาอินติ ต่างวุ่นวายรอบตัว เหมือนการมีเธออยู่จนกลายเป็นตัวถ่วง แต่ว่าโห้หลีเฉินกลับไม่รังเกียจรังงอนเธอสักนิด แถมยังคอยปกป้องเธอเคร่งครัดยิ่งกว่าดวงตาเสียอีก

ความรู้สึกปลอดภัย แค่อยู่ใกล้ตัวเขาเท่านั้นถึงสามารถสัมผัสได้

ผ่านไปชั่วครู่ เย้นหว่านถึงได้ผ่อนคลายความเกลียดชังของโห้หลีเฉินได้ ร่างกายของเขายังคงแน่นตึงอยู่เช่นเดิม บรรยากาศก็ยังเคร่งขรึมอยู่เช่นเดิม

อารมณ์ความรู้สึกยังไม่กลับมาเหมือนเดิม

เย้นหว่านรู้ว่าครั้งนี้ทำให้เขาโกรธจริงๆ แล้ว ต้องค่อยๆ ปลอบไปเรื่อยๆ ถึงจะได้

มือเล็กๆ ของเธอเริ่มจับฝ่ามือใหญ่ของเขา พร้อมทั้งกล่าวรายงานทั้งหมดออกไป

“โห้หลีเฉิน ฉันไปเจอด้านในเขตของสวนพฤกษศาสตร์วังหลวงมีห้องพิเศษอยู่ห้องหนึ่ง ในห้องนั้นอากาศมันทั้งหนาวทั้งชื้น แถมยังถูกเฝ้ายังรัดกุมหนาแน่น ว่ากันว่าด้านในมีตัวยาที่มีค่ามาก ฉันเลยเดาว่า มีความเป็นไปได้มากว่าเมล็ดแมกโนเลียจะอยู่ด้านใน”

หาตัวยามาตั้งนาน นี่เป็นครั้งแรกที่เข้าใกล้ได้ขนาดนี้

เย้นหว่านคิดว่า เมื่อโห้หลีเฉินได้ยินข่าวนี้แล้ว บางทีอารมณ์อาจจะดีขึ้นมาหน่อย

แต่ทำไม สีหน้าอันเคร่งเครียดของโห้หลีเฉินยังไม่เปลี่ยนแปลงสีหน้าไปสักนิดเลย

เขาค่อยพูดออกมา “เมล็ดแมกโนเลียอยู่ด้านใน”

เย้นหว่านอึ้งทันที น้ำเสียงของเขา แต่ไม่เหมือนความคาดเดาของเธอเลย เพราะนั้นเป็นคำตอบที่แน่ชัดแล้ว

เธอถามทันที “คุณสามารถแกะตัวเอกสารนั้นได้ไหม?”

โห้หลีเฉินพยักหน้าเล็กน้อย “อืม”

ในเอกสารนั่น มันก็คือเอกสารและตำแหน่งที่อยู่ของเมล็ดแมกโนเลีย

เย้นหว่านเริ่มอึดอัดอยู่นิดหน่อย เธออุตส่าห์วิ่งออกไปหาอย่างยากลำบาก แต่ไม่คิดเลยว่า ยังช่วยโห้หลีเฉินไม่ได้อยู่ดี เพราะว่าทางเขานั้นได้แกะร่องรอยจนเจอแล้ว

ดังนั้น มันเท่ากับว่าเธอลงมือทำอย่างทรมานมันเปล่าประโยชน์ไปนะสิ?

“คุณเสียเวลาลงมือทำอย่างไร้ประโยชน์”

เขามองความคิดที่อยู่ในใจของเธอออก โห้หลีเฉินพูดกระทบใจเธอไม่เห็นใจเธอสักนิด

เย้นหว่าน “….” อึดอัดใจ

เธอก้มหน้าก้มตา ขยับนิ้วไปมา หลังจากหมกมุ่นอยู่กับตรงนั้นผ่านไปสักพักแล้ว ถึงได้มองโห้หลีเฉินด้วยสายตาทอประกาย

พร้อมทั้งพูดอย่างอ่อนแอ “เรื่องนั้น เอ่อ โห้หลีเฉิน ฉันไปเขตสวนพฤกษศาสตร์วังหลวงไม่ได้แค่ไปทรมานอย่างไร้ประโยชน์อย่างเดียวนะ เหมือนว่า….ไปก่อเรื่องไว้ด้วยแหละ”

“ไปก่อเรื่องอะไร?”

คำถามของโห้หลีเฉินถามกลับอย่างเฉยเมย ราวกับว่าคำว่าก่อเรื่องของเธอนั้น สำหรับเขาแล้ว ก็แค่ต้องไปจัดการปัญหาให้เท่านั้นเอง

แต่เย้นหว่านรู้สึกเคอะเขินมาก

เพราะตอนที่อยู่ในเขตสวนพฤกษศาสตร์วังหลวงนั้น เธอได้คุยกับทหารรักษาการณ์ และยังได้รู้กฎในการเข้าไปในห้องสมบัติด้วย ดูจากภายนอกแล้วคือการขออนุญาต ความจริงแล้วมันยากมากที่จะเข้าไปได้ จำเป็นต้องมีสถานการณ์ที่พิเศษจริงๆ ถึงจะเข้าไปได้

แต่ด้วยอาศัยวิธีการของโห้หลีเฉินแล้ว หลังจากที่เขาได้ตรวจสอบกฎระเบียบแล้วนั้น ก็ต้องสร้างสถานการณ์ที่พิเศษให้เกิดขึ้น จึงจะสามารถเข้าไปด้านในเพื่อเอาเมล็ดแมกโนเลียออกมาได้สำเร็จทว่าในเวลานี้ เพราะว่าเธอได้ทำให้เซอร์ยุนซีฉีกหน้าโอหยางฝู่อย่างเป็นทางการแล้ว โอหยางฝู่ได้หมายหัวว่าเธอกลายเป็นจุดด้อยเป็นเป้าโจมตีของเซอร์ยุนซี เลยต้องหาวิธีการร้อยแปดพันเก้ามาทำให้เธอยากลำบากไปด้วย

ส่วนโห้หลีเฉินดูจากภายนอกแล้วเป็นพี่ชายของเย้นหว่าน โอหยางฝู่เลยหมายหัวให้โห้หลีเฉินเป็นศัตรูทางอำนาจของเขา

โห้หลีเฉินได้สร้างสถานการณ์ขึ้นมาเป็นพิเศษ โดยสันนิษฐานว่าโอหยางฝู่ตกทุกข์ได้ยากเช่นกัน ที่จะไม่ให้โห้หลีเฉินเข้าไปในห้องสมบัติที่อยู่ในเขตสวนพฤกษศาสตร์วังหลวง

“ฉัน ฉันก่อเรื่องไว้กับโอหยางฝู่ด้านในเขตสวนพฤกษศาสตร์วังหลวง กุญแจห้องสมบัตินั่นเขาเป็นคนดูแล….”

เย้นหว่านเหมือนเด็กที่ทำผิดมา จากนั้นก็เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเขตสวนพฤกษศาสตร์วังหลวงออกมาด้วยความอ่อนแอ ให้โห้หลีเฉินได้ฟังอย่างหมดเปลือก

โห้หลีเฉินฟังอยู่ด้วยท่วงท่าเงียบขรึม สีหน้ายิ่งดูไม่ได้หนักขึ้นเรื่อยๆ

เย้นหว่านยิ่งรู้สึกละอายใจและหดหู่มากขึ้น “ขอโทษ ฉันผิดเอง….”

“โอหยางฝู่ แกกำลังรนหาที่ตาย”

โห้หลีเฉินกัดฟันพูด ความเกลียดชังอย่างรุนแรงรายล้อมอยู่รอบตัว จากนั้นก็กำหมัดไว้แน่นจนนิ้วมีเสียง “กรอบแกรบ” ดังออกมา

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset