มือของซูสือเยว่ที่กำลังถือโทรศัพท์อยู่นั้นเริ่มสั่น
เธอได้ยินว่าเสียงของตัวเองเริ่มเปลี่ยนไป “เธอบอกว่า ลั่วเยียนถูกผู้ชายสามคนแบกออกไปยังงั้นเหรอ? ”
“ใช่ไง”
เสียงของฟู๋เชียนเชียนที่อยู่ปลายสายนั้นเต็มไปด้วยความสับสน “ทำไมเธอถึงต้องประหลาดใจขนาดนั้นด้วย? ”
“ฉันได้ยินมาว่าคนที่อยู่ในวงการบันเทิงมานานนั้นชอบเล่น ยังไงลั่วเยียนก็เป็นซุปตาร์ และก็เดินทางสายนี้มาหลายปีแล้ว ที่จริงแล้วฉันไม่ได้ประหลาดใจเลยแม้แต่นิดเดียว……”
ฟู๋เชียนเชียนเดินออกมานอกโรงแรมพร้อมกับกำลังซุบซิบนินทาอยู่ “แต่ว่าสือเยว่ แล้วเธออยู่ไหนกัน? ”
“คืนนี้คนที่เป็นนางเอกแล้วนอกจากลั่วเยียนก็ควรจะมีเธอด้วยไม่ใช่เหรอ”
ซูสือเยว่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ “เชียนเชียน เธอฟังฉันนะ ตอนนี้เธอรีบแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้”
“บอกสิ่งที่เธอเห็นเมื่อกี้ให้ตำรวจฟังทั้งหมด”
ซูสือเยว่เสียงสั่น ใจก็สั่นเหมือนกัน “ลั่วเยียนไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้”
“คืนนี้เหมือนกับว่าเธออารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ก็เลยดื่มไปเยอะมาก”
“ที่ฉันไม่ได้อยู่ที่นั่นเพราะว่าเธอไล่ฉันออกมา เธอผิดปกติมาก ผู้ชายสามคนนั้นต้องไม่ใช่เพื่อนของเธออย่างแน่นอน!”
ฟู๋เชียนเชียนที่อยู่ปลายสายก็เงียบไป
ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอก็กัดริมฝีปากของตัวเอง “สือเยว่ แจ้งตำรวจไม่ได้”
“ลั่วเยียนเป็นซุปตาร์ เป็นคนของประชาชน ถ้าเกิดว่ามันเป็นแบบที่เธอพูด แล้วตำรวจเริ่มเคลื่อนไหว ก็มีเพียงแต่จำสร้างผลกระทบให้เธอในอนาคต”
ฟู๋เชียนเชียนสูดหายใจเข้าลึกๆ “เอาแบบนี้ เธอลองไปถามท่านชายฉินก่อน ว่าช่วยคิดวิธีหน่อยได้ไหม ตามหาตำแหน่งที่อยู่ของลั่วเยียนในตอนนี้ เธอพึ่งจะไปได้ไม่นานเท่าไหร่นัก”
“ได้”
ซูสือเยว่บีบโทรศัพท์ “เธอพูดถูก”
เมื่อกี้เธอตื่นตระหนกเกินไป
ถ้าเกิดว่าเรื่องถึงตำรวจแล้ว ต้องทำให้สื่อแตกตื่นอย่างแน่นอน จนถึงตอนนั้นต่อให้ลั่วเยียนไม่มีความผิดอะไร สื่อก็ต้องพูดเกินจริงอย่างแน่นอน
“ถ้ายังงั้นเชียนเชียน ตอนนี้เธอไปหาเบอร์โทรศัพท์ของบริษัทลั่วเยียนมาหน่อย หาเบอร์ของผู้จัดการหรือผู้ช่วยของลั่วเยียน ให้พวกเขาจัดการให้เร็วที่สุด!”
“ตอนนี้ฉันจะโทรหาฉินโม่หาน!”
พอพูดจบ ซูสือเยว่ก็วางสายทันที
ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่าตอนนี้วิธีที่ดีที่สุดคือไปหาฉินโม่หาน
แต่ว่าเธอเลื่อนดูสมุดรายชื่อในโทรศัพท์ สุดท้ายก็หาช่องทางการติดต่อของเขาไม่เจอเลย
เธอเบะปาก รู้สึกเป็นกังวลใจอย่างมาก
ครั้งที่แล้วฉินโม่หานเมมเบอร์ที่โทรศัพท์เธอแล้วไม่ใช่เหรอ?
ทำไมมันถึงไม่มีเลยล่ะ?
ในสานการณ์ที่เร่งรีบแบบนี้ เธอทำได้แค่โทรหาฉินหนานเซิง
ฉินหนานเซิงที่อยู่ปลายสายนั้นเหมือนว่าจะกำลังเมาอยู่
“อาสะใภ้เล็ก มีอะไรรึเปล่า? ”
เสียงของชายหนุ่มดูมึนเมา แถมด้านหลังยังมีเสียงหัวเราะของผู้ชายกับผู้หญิงอีกด้วย
ซูสือเยว่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ “ฉินหนานเซิง ฉันไม่สนหรอกนะว่าระหว่างนายกับลั่วเยียนเกิดเรื่องอะไรที่ไม่ดีขึ้น แต่ว่าตอนนี้สิ่งที่ฉันอยากจะบอกนายก็คือ”
“เมื่อกี้ตอนที่อยู่ที่โรงแรมชุนหม่านลั่วเยียนดื่มเหล้าไปเยอะมาก ฉันไม่แน่ใจว่าเธอดื่มไปเยอะแค่ไหน แต่ว่าบนโต๊ะนั้นมีแต่เหล้าแรงๆ ฉันรู้แค่ว่าเธอดื่มไปทั้งหมดสามเขา ตอนที่ฉันกลับเธอก็ยังดื่มอยู่”
ทันใดนั้นเสียงของฉินหนานเซิงที่อยู่ปลายสายก็เย็นชาลงทันที “ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผม”
“แต่ว่ามันเกี่ยวกับฉัน!”
ซูสือเยว่กัดฟันแน่น เสียงของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ “ลั่วเยียนคือเพื่อนของฉัน!”
“ตอนที่เธอตกอยู่ในอันตรายฉันต้องเป็นห่วงและฉันต้องอยากช่วย นายเป็นหลานฉัน ฉันจะให้นายช่วยนายจะไม่ช่วยเหรอ? ”
“ลั่วเยียนเป็นอะไร? ”
“มีคนเห็นว่าเธอเมา แล้วก็ถูกผู้ชายทั้งสามคนแบกออกไป”
เห็นว่าในที่สุดทัศนคติของฉินหนานเซิงก็เริ่มผ่อนคลายขึ้น ซูสือเยว่ก็กัดฟันแน่น “ลั่วเยียนเป็นผู้หญิงที่ชอบไปยุ่งกับคนอื่นตอนเมารึเปล่า นายน่าจะรู้ดีกว่าฉันนะ”
“เข้าใจแล้ว”
เสียงของฉินหนานเซิงเย็นชา “โรงแรมชุนหม่านใช่ไหม ผมจะพาคนไปตามหาเดี๋ยวนี้”
เธอพูดจบ เขาก็ตัดสายไป
พอได้รับคำตอบแบบนี้จากฉินหนานเซิง ซูสือเยว่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก สุดท้ายหัวใจที่เป็นกังวลก็เริ่มคลายลง
เธอรู้ว่าถึงแม้ว่าท่าทางของฉินหนานเซิงจะดูแข็งกร้าว แต่ว่ายังไงเขาก็คือเพื่อนของลั่วเยียน ไม่มีทางปล่อยให้ลั่วเยียนตกอยู่ในอันตรายต่อหน้าต่อตาได้หรอก
“ทำไมเหรอคะ?”
พอซูสือเยว่วางสายแล้ว ก็เห็นซิงกวงที่นั่งอยู่ตรงหน้ามองซูสือเยว่ด้วยความวิตกกังวล
เด็กน้อยคนนี้สามารถแยกแยะลำดับความสำคัญได้
สีหน้าของซูสือเยว่ในตอนนี้กับสิ่งที่เธอพูดเมื่อกี้นี้ แสดงว่าต้องเกิดเรื่องที่ไม่ดีขึ้นอย่างแน่นอน
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “ซิงกวง น้าซู……ตอนนี้เพื่อนของแม่ตกอยู่ในอันตราย แม่ต้องไปช่วยจัดการ”
เธอยังไม่ลืม ว่าคืนนี้รับปากจะเป็นแม่ให้ซิงกวง
“เพื่อนของแม่ก็คือเพื่อนของหนู”
ซิงกวงสูดหายใจเข้าลึกๆ หยิบโทรศัพท์ออกมาจากด้านข้าง แล้วก็โทรออก
“ทุกคนมานี้หน่อยค่ะ หนูมีเรื่องให้จัดการ”
พอพูดจบ เด็กน้อยคนนั้นก็มองไปที่ซูสือเยว่อย่างสงบ “คุณอาจี้ได้จัดทีมคุ้มกันไว้ให้หนู คนกลุ่มนี้เก่งมากเลยนะคะ บางทีอาจจะช่วยแม่ได้”
ซูสือเยว่มองเธออย่างประหลาดใจ ตอนที่กำลังจะพูดอะไรนั้น ประตูคฤหาสน์ก็ถูกเปิดออก
ชายร่างสูงหลายสิบคนเดินเข้ามา “เจ้าหญิงน้อย สั่งได้เลยครับ!”
ซิงกวงชี้นิ้วเล็กๆ ไปที่ซูสือเยว่ “ท่านนี้คือน้าซู ตอนนี้เพื่อนของเธอตกอยู่ในอันตราย พวกคุณช่วยเธอหน่อยสิคะ”
ผู้ชายที่อยู่หน้าสุดพยักหน้า แล้วก็หันมามองซูสือเยว่ “คุณซูครับ เพื่อนของคุณคือใครครับ ตอนนี้เจอปัญหาอะไรเหรอครับ? ต้องการให้พวกเราช่วยยังไงบ้าง?”
ซูสือเยว่ตกใจกับพวกเขา
เธอมองคนเหล่านั้นด้วยความตกใจ “พวกคุณ……”
“คุณวางใจได้เลยครับ”
น่าจะเพราะว่ามองความสงสัยผ่านทางแววตาของซูสือเยว่ออก ผู้ชายที่เป็นคนนำกระแอม “พวกเราสิบกว่าคน ก่อนที่จะมาเป็นบอดี้การ์ดของเจ้าหญิงน้อย ต่างก็เคยเป็นกองกำลังพิเศษและทหารรับจ้างในยุโรปมาก่อนครับ”
“พวกเพื่อนๆ ของผมต่างก็เป็นผู้ชนะที่รอดชีวิตจากสายฝนกระสุนและสงครามสารสนเทศ คุณไม่จำเป็นต้องสงสัยในความสามารถของพวกเราเลยครับ”
ซูสือเยว่อ้าปากกว้างด้วยความตกใจจนสามารถยัดไข่เข้าไปได้เลยหนึ่งฟอง
จี้หนานเฟิง……เป็นแค่ซุปตาร์ในวงการบันเทิงจริงๆ เหรอ?
ถ้าคนตรงหน้าของเธอเก่งกาจอย่างที่พวกเขาพูดจริงๆ แต่กลับถูกจี้หนานเฟิงเลือกให้มาเป็นบอดี้การ์ดของซิงกวง……ถ้ายังงั้นตัวตนของจี้หนานเฟิงก็ต้องไม่ใช่ธรรมดาอย่างแน่นอน!
พอคิดได้แบบนี้ เธอก็เม้มปาก แล้วก็หันไปมองซิงกวง “พวกเขาเก่งกาจขนาดนี้ ถ้ายังงั้นปกติ……หนูให้พวกเขาทำอะไรกัน? ”
“เล่นเป็นเพื่อนหนูไงคะ”
ซิงกวงยักไหล่ “ย้ายของให้หนู ถือกระเป๋าให้หนู ตอนที่หนูอารมณ์ดีก็จะร้องเพลงกับเต้น แล้วให้พวกเขาเป็นผู้ชม”
ซูสือเยว่:“……”
เธอควรพูดว่านี่มันเป็นการทำงานไม่ตรงกับความสามารถรึเปล่า?
แต่ว่า หญิงสาวกระแอมเบาๆ แล้วก็เงยหน้าขึ้นมองหน้าผู้ชายที่เป็นผู้นำ “ที่จริงฉันได้หาคนไปช่วยตามหาเพื่อนให้ฉันแล้ว ไม่ต้องให้พวกคุณช่วยอะไรก็ได้ค่ะ”
“ถ้าเกิดว่าพวกคุณแข็งแกร่งขนาดนั้นจริงๆ ฉันก็คิดว่าน่าจะส่งคนไปช่วยสักคนสองคนก็ได้”
“แต่ว่าต้องรักษาความลับนะ”
ผู้นำพยักหน้า “วางใจได้เลยครับ”
พอพูดจบ เขาก็เลือกผู้ชายสองคนให้อยู่ต่อ แล้วที่เหลือก็ให้แยกย้ายไป
หลังจากที่ซูสือเยว่ได้มอบหมายงานให้พวกเขาแล้ว ผู้ชายที่เป็นหัวหน้าก็ยิ้ม “คุณซู ขออนุญาตถามหน่อยครับ คุณเคยไปต่างประเทศไหม? ”
หญิงสาวขมวดคิ้วพร้อมกับส่ายหน้า “ทำไมเหรอคะ? ”
“ไม่มีอะไรหรอกครับ”
“ผมแค่รู้สึกว่าคุณคล้ายกับคุณนายท่านหนึ่งที่ผมเคยรู้จักมากเลย”