สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 152 ทำไมตอนแรกถึงไม่จับพวกเราล่ะ

“เพล้ง–!”

ชั้นสองของบ้านตระกูลฉินเย่เชียนจิ่วยกแจกันดอกไม้ขึ้น จากนั้นก็ทุ่มลงพื้นอย่างแรง

เมื่อแจกันแตกไปแล้วหนึ่งใบ เธอก็ยกแจกันอีกใบขึ้นมาทันที

“แกทุบแจกันยิ่งมากเท่าไหร่ แต่เรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้ว”

หยางชิงโยวนั่งอยู่บนโซฟา สายตาจ้องมองเธอที่กำลังบ้าคลั่งอยู่ “ถ้าแกทำแจกันแตกมากขึ้น แล้วสามารถทำให้ฉินโม่หานกลับใจได้ จนถึงขั้นยอมหย่ากับซูสือเยว่ แล้วมาแต่งงานกับแก งั้นแกก็เอาเลยเขวี้ยงต่อไปเลย”

“เพล้ง–!”

เย่เชียนจิ่วกัดฟันแน่น จากนั้นก็เขวี้ยงแจกันใบสุดท้ายลงบนพื้น พร้อมทั้งเตะเศษแจกันที่แตกละเอียดอย่างแรง จึงนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ข้างๆ พร้อมทั้งจ้องมองหยางชิงโยวอย่างเย็นชา “วันนี้ที่แกพูดกับฉัน เหลียงหยูซินของแกคนนั้น จะทำให้ซูสือเยว่ทรมานมาก”

“ผลลัพธ์ที่ได้ล่ะ?”

“วันนี้ฉินโม่หานดันจัดแถลงข่าวประกาศอย่างเป็นทางการเรื่องซูสือเยว่เสียนี่!”

ก่อนหน้านี้เรื่องของฉินโม่หานและซูสือเยว่ก็ไม่ได้เปิดเผยอย่างเป็นทางการ บางครั้งเธอก็ยังอาศัยฉินโม่หานในสถานะว่าที่สามี ในการเข้าไปอยู่ในวงการทางสังคม

ทว่าในเวลานี้ ฉินโม่หานเป็นคนออกโรงเอง นั่นก็เท่ากับว่าเส้นสายในธุรกิจของเธอนั้นถูกตัดขาดอย่างสิ้นเชิง!

วันก่อนเธอยังคุยกับคนอื่นเรื่องงานแต่งงานระหว่างเธอกับฉินโม่หานอยู่เลย แต่ที่ไหนได้หนึ่งวันให้หลัง ฉินโม่หานประกาศท่ามกลางงานแถลงข่าว บอกกับทุกคนทั่วโลก ว่าเขากับซูสือเยว่เป็นคู่สามีภรรยากันซะนี่!

“ฉินโม่หานช่างกล้าหาญเกินไปแล้ว”

หยางชิงโยวถอนหายใจออกตามปกติ “ฉันก็คิดว่าเขาจะปิดบังเรื่องนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้กระทบกับงานของซูสือเยว่”

ขอแค่ฉินโม่หานยอมปิดบังต่อ พวกเธอก็จะมีโอกาสในการสร้างหัวข้อข่าวต่อ

เรื่องซูสือเยว่กับเฉิงเซวียนก็ดี หรือซูสือเยว่กับจี้หนานเฟิงก็ดี

ขอแค่เวลาเหมาะเจาะ ไม่ต้องกลัวด้วยซ้ำว่าฉินโม่หานกับซูสือเยว่ทั้งสองคนจะไม่ถกเถียงกันขึ้นมา

ใครเล่าจะรู้ว่า ฉินโม่หานไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น พร้อมทั้งส่งมอบระเบิดลูกใหญ่ลูกสุดท้ายให้พวกเขาอย่างจัง

หลังจากที่มีการประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว ในอินเทอร์เน็ตก็ไม่มีข่าวคราวเสียๆ หายๆ เรื่องของซูสือเยว่กับผู้ชายคนไหนอีกเลย ขนาดข่าวคราวเชิงลบก็ยังไม่เลย

บรรดานักข่าวและสื่อมวลชนต่างๆ ก็ไม่ใครที่กล้าแม้แต่แกว่งเท้าหาเสี้ยนผู้น่ายำเกรงฉินโม่หานท่านนี้ได้

ส่วนซูสือเยว่นั้น นอกจากเรื่องของการถูกวิจารย์จากการแสดงแล้ว ถ้าไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด จะไม่มีใครเขียนข่าวเรื่องส่วนตัวของเธออีกเลย

นี่แหละเป็นสิ่งที่ทำให้หยางชิงโยวกับเย่เชียนจิ่วลำบากใจที่สุด

“ฉันไม่สนใจแล้ว!”

เย่เชียนจิ่วกัดฟันเอาไว้แน่น “ก่อนหน้านี้ฉันยังรู้สึกว่าสามารถจัดการซูสือเยว่ได้เรื่อยๆ เพราะว่าเธอเพิ่งแต่งงานกับฉินโม่หานไม่นานนี้เอง”

“ทว่าตอนนี้…”

หญิงสาวหรี่ตาลงอย่างเอาเป็นเอาตาย

วันนี้ซูสือเยว่ไม่ตายสักที ก็เท่ากับว่าเธอไม่สามารถสงบใจไปอีกหนึ่งวันนะสิ!

หยางชิงโยวถอนหายใจ พร้อมทั้งตบไหล่เธอเบาๆ “เรื่องมันยังไปไม่ถึงขั้นนี้หรอก”

“ยังไม่ถึงขั้นที่ว่าไม่สามารถจัดการซูสือเย่ได้นี่”

เย่เชียนจิ่วขมวดคิ้ว “คุณมีวิธีเหรอ?”

“ฉันไม่มี แต่ว่าแกมีนี่”

หัวเราะแห้งๆ “อย่าลืมนะ ที่ฉินโม่หานนั้น…”

“แม่ที่แท้จริงของซิงหยุนกับซิงเฉิน เคยเป็นเพื่อนรักของแกนี่”

“ในมือของแกกำบุคคลสำคัญเช่นนี้เอาไว้ ยังกลัวที่จะต่อกรกับซูสือเยว่ไม่ได้อีกเหรอ?”

เย่เชียนจิ่วขมวดคิ้ว และครุ่นคิดอยู่นาน ถึงได้ถอนหายใจออกมายาวๆ “ฉันขอคิดดูก่อน”

หยางชิงโยวไม่รู้ว่า แม่ที่แท้จริงของซิงหยุนกับซิงเฉิน นั้นคือซูสือเยว่

ทั่วทั้งเมืองหรงนี้ มีเพียงสามคนเท่านั้น ที่รู้ว่าซูสือเยว่เป็นแม่ที่แท้จริงของซิงหยุนกับซิงเฉิน

แม้ว่าคนที่รู้เรื่องจะน้อยมากก็ตามที แต่ว่าความสัมพันธ์ทางสายเลือดนั้นไม่สามารถหลอกลวงคนได้

การที่เอาเรื่องแม่ที่แท้จริงของซิงหยุนและซิงเฉินออกมาทำข่าว มันช่างอันตรายเกินไป

“แต่ว่านี้คือโอกาสสุดท้ายแล้วนะ”

หยางชิงโยวจ้องมองเธอ “ถ้าครั้งนี้ไม่ได้แล้ว งั้นแกก็ต้องจัดการฆ่าซูสือเยว่ทิ้งซะ ถึงได้เรียกในสิ่งที่แกต้องการกลับคืนมา”

“ฉันคิดว่า คนที่เกิดในครอบครัวทหารอย่างแก ก็คงไม่อยากใช้ชีวิตคนนำมาแลกเป็นความสุขหรอกมั้ง?”

“อีกอย่าง …”

หยางชิงโยวถอนหายใจ “เมื่อครู่ฉันเพิ่งเห็นพ่สองตระกูลฉินอยู่ชั้นล่าง”

“แม้ว่าเขาจะรักแกที่สุด แต่ว่าเขาก็เป็นคนเถรตรงที่สุด”

“ถ้าหากแกใช้แผนเล่นตุกติกกับซูสือเยว่ เขายังปกป้องแก แต่ถ้าแกลงมือฆ่าซูสือเยว่…”

“ฉันคิดว่าเขาก็คงยืนอยู่ในฝ่ายความยุติธรรมทางนั้น แกคิดว่าไง?”

คำพูดของหยางชิงโยว ขจัดความลังเลและความสงสัยที่อยู่ในใจของเย่เชียนจิ่วอย่างหมดสิ้น

ใช่สิ

การใช้ “คนตาย” มันง่ายดายก็การทำร้าย “คนเป็น” ให้เสียชีวิตไป

อีกอย่างถ้าเรื่องมันถูกเปิดเผยขึ้นแล้วผลลัพธ์ที่ตามมายากแก่การจินตนาการถึง ยังมีฉินหลิงยี่คอยหนุนหลังให้เธออีก

“แกค่อยๆ คิดเอาเองแล้วกันนะ”

หยางชิงโยวแสยะยิ้มให้ จากนั้นก็หยิบกระเป๋าถือ และเดินหันหลังจากไป

ส่วนเย่เชียนจิ่วไม่ได้ไปส่งเธอ

ตอนที่หยางชิงโยวกำลังเดินลงจากชั้นบนนั้น เป็นเวลาที่ฉินหลิงยี่กำลังนั่งดื่มชาอยู่ในห้องรับแขกพอดี

เมื่อเห็นว่าเธอเดินลงมาจากชั้นบน ชายหนุ่มก็แสยะยิ้มให้อย่างเย็นชา “ไม่คิดเลยว่าพวกคุณสองคนยังติดต่อกันอีก”

ผู้หญิงคนนี้ ฉินหลิงยี่เคยเจอมาก่อนแล้ว

ตอนนั้นเย่เชียนจิ่วหาผู้หญิงมาเป็นนกต่อ ก็คือเธอนั่นเอง

ในเวลานั้นเอง เธอกับเย่เชียนจิ่วได้วางแผนการอันแสนวิเศษเลิศหรูเอาไว้

โดยการไปหาผู้หญิงคนหนึ่งมานอนกับฉินโม่หานทั้งคืน จากนั้นก็ทำเป็นว่าผู้หญิงคนนั้นคือเย่เชียนจิ่วที่อยู่กับฉินโม่หาน รอจนที่ผู้หญิงคนนี้คลอดลูกออกมา ก็เอาเด็กมาเป็นลูกของเธอซะ เพื่อเป็นการบีบบังคับให้ฉินโม่หานแต่งงานกับเธอ

แต่ช่างน่าเสียดาย สุดท้ายแล้วเรื่องทุกอย่างไม่ได้สวยงามตามแผนการที่พวกเธอวางเอาไว้

เพราะว่า หลังจากคืนนั้นแล้ว ฉินโม่หานก็รู้ทันและเปิดเผยเรื่องราวออกมา ว่าเย่เชียนจิ่วไม่ใช่เด็กสาวในคืนก่อน

ไม่ว่าเย่เชียนจิ่วจะพูดอย่างไร เขาก็ไม่เชื่อ

จนสุดท้ายฉินโม่หานแหวกตรงคอเสื้อของเย่เชียนจิ่ว บริเวณด้านล่างของคอเสื้อขาวสะอาดไม่มีร่องรอยใดๆ

แต่ในคืนวันนั้น ฉินโม่หานได้ขบเม้มต้นคอของผู้หญิงคนนั้นตลอดทั้งคืน

คำโกหกถูกการเปิดเผย จนทำให้เย่เชียนจิ่วไม่มีวิธีที่จะเสแสร้งต่อ ได้แต่พูดว่าเด็กสาวในคืนนั้นเป็นเพื่อนของเธอเท่านั้น

ส่วน หยางชิงโยว ในตอนแรกเธอยังคิดเอาเองว่า เย่เชียนจิ่วจะพูดว่า เพื่อนนักเรียนคนที่นอนกับฉินโม่หานคือเธอ

ทว่าเย่เชียนจิ่วก็มองความคิดของเธอออก แต่ได้หน้าด้านทำว่าเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเธอแทน

หลังจากนั้นแล้ว หญิงสาวคนนั้นก็ตั้งท้องขึ้น ฉินหลิงยี่เห็นอาการพิรุธของเย่เชียนจิ่วที่แปลกไปจากปกติตามที่เป็นอยู่ เลยจัดการกักบริเวณเย่เชียนจิ่วเอาไว้ ถึงได้รู้ว่ามันเป็นแผนการของเย่เชียนจิ่วกับหยางชิงโยว

จนสุดท้าย เขาก็ไปหาเด็กสาวคนนั้นจนเจอ และก็หาเด็กสองคนนั้นเจอ

เขาโทรศัพท์ให้ฉินโม่หานกลับมากลางดึกนั้นคืนนั้นเลย และจัดการพาตัวเย่เชียนจิ่วสั่งสอนทั้งคืน

ทว่าเช้าวันรุ่งขึ้น เขาเพิ่งรู้ว่า เมื่อคืนเกิดไฟไหม้ขึ้นที่โรงพยาบาล

ตอนที่ฉินโม่หานมาถึงด้วยความเร่งรีบ ก็สามารถช่วยเด็กสองคนเอาไว้ได้ แต่ไม่สามารถช่วยแม่ของเด็กเอาไว้ได้

คืนนั้นเย่เชียนจิ่วอยู่กับฉินหลิงยี่ตลอด

ใครเป็นคนวางเพลิง ไม่ต้องพูดออกมาก็พอน่าจะรู้ได้

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฉินหลิงยี่ใช้สายตาเย็นฉาจ้องมองหยางชิงโยวมากกว่าเดิม “พวกแกกำลังคิดวางแผนการอะไรอีก?”

“ยังจะคิดวางเพลิงอีกใช่ไหม?”

หยางชิงโยวยิ้มให้อย่างเรียบเฉย “พี่สอง คุณก็อย่าพูดให้ซะไม่น่าฟังซะขนาดนั้นสิ”

“พวกเราก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว แล้วทำไมต้องส่งสายตาให้ฉันอย่างกับอริศัตรูกันอย่างนี้ล่ะ?”

ฉินหลิงยี่วางแก้วชาลงบนที่วางหน้าโซฟาเสียงดัง “ปึง” แก้วกระจกกับโต๊ะกระจกกระแทกเข้าหากัน จนเกิดเป็นเสียงดังลั่น

เขาถลึงตาจ้องมองเธออย่างเย็นชา “ใครลงเรือลำเดียวกับคุณ?”

“ก็คุณไง”

เสียงหัวเราะของหยางชิงโยวดังกังวาน “ถ้าคุณไม่ใช่พวกเดียวกับเรา แล้วทำไมตอนนั้นไม่แจ้งความฉันกับเชียนจิ่ว แล้วทำไมไม่จับพวกเราส่งตัวไปล่ะ?”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset