สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 113 เรื่องนอนแยกห้องเป็นไปไม่ได้

บทที่ 113 เรื่องนอนแยกห้องเป็นไปไม่ได้

บทที่ 113 เรื่องนอนแยกห้องเป็นไปไม่ได้

ลู่อี้มองแขนที่กอดเขาไว้อีกครั้ง ก่อนจะมองศีรษะที่ซุกอยู่กับหัวไหล่เขา เจ้าแมลงขี้เซาหลับไปอีกครั้งแล้ว

เขาพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะเมินเฉยต่อการมีอยู่ของนาง แต่แขนเรียวงามประหนึ่งหนักถึงพันชั่งทำให้เขาชาไปทั่วทั้งตัว ไม่กล้าแม้แต่จะขยับเขยื้อน

มู่ซืออวี่ครางงึมงำออกมาหนึ่งเสียง กอดแน่นยิ่งกว่าเดิม

ลู่อี้สูดหายใจเข้าลึก ๆ พยายามทำให้สมองตัวเองว่างเปล่า ไม่คิดถึงสิ่งใด ให้คิดว่าตนเองเป็นเพียงหินหนึ่งก้อนเท่านั้น และตอนนี้ก้อนหินก้อนนี้ก็ต้องพักผ่อนแล้ว

ทว่ามือคู่นั้นกลับสอดเข้าไปในเสื้อผ้าของเขา

ลู่อี้ถึงกับตะลึง “…!”

เขาดึงมือของนางออกมา ค่อย ๆ ดึงออกมาอย่างระมัดระวัง เกรงว่าจะไปปลุกนางให้ตื่น

แต่มันกลับไม่ได้ผล มือคู่นั้นล้วงเข้าไปอีกครั้ง

หลังจากเป็นอยู่อย่างนั้นซ้ำ ๆ ลู่อี้จึงยอมแพ้ ปล่อยให้มือข้างนั้นวุ่นกับเสื้อผ้าของเขา

คืนนี้คงเป็นอีกคืนที่ลงเอยด้วยการนอนไม่หลับ

เสียงไก่ในหมู่บ้านขันดังขึ้น นาฬิกาจากธรรมชาติปลุกหญิงสาวที่หลับใหลให้ตื่นขึ้นมา

มู่ซืออวี่อ้าปากหาว ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ทันใดนั้นนางก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

อะไรกัน ทั้งอุ่น นุ่ม สัมผัสแล้วยังรู้สึกสบาย

เมื่อมองลงไปจึงเห็นร่างกายของชายผู้หนึ่ง พอเงยหน้าขึ้นมา นางก็สบตาแดงก่ำของชายผู้นั้น

“ข้าขอโทษ…” มู่ซืออวี่ตื่นขึ้นมา ลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว “ข้าหลับไป ไม่ได้ตั้งใจนะ”

ลู่อี้ผู้ที่ไม่ได้นอนหลับทั้งคืนรู้สึกเพียงปวดหัวราวกับหัวจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงระโหยโรยแรง “ไม่เป็นไร ข้าจะไปอาบน้ำ”

“ยังเช้าอยู่เลย…” มู่ซืออวี่เงียบเสียงลง

ตอนนี้นางเสียใจมากที่สายตาของตัวเองดีเกินไป จึงได้เห็นสิ่งที่ควรเห็นและสิ่งที่ไม่ควรเห็น

นางทำอะไรกับเขากันแน่?

ขณะที่ทำอาหาร มู่ซืออวี่ก็คิดถึงปฏิกิริยาตอบสนองของลู่อี้เมื่อครู่นี้ หน้านางยังคงแดงก่ำราวกับผลลูกท้อ

ท่านอนของนางแย่ขนาดนั้นเลยหรือ?

เห็นได้ชัดว่าเมื่อคืนนี้นางนอนหันหลังให้เขา วันนี้ตื่นขึ้นมากลับเป็นเช่นนี้….

มือของนางคงไม่ได้ซุกอยู่ในเสื้อเขาตลอดทั้งคืนใช่หรือไม่? เหตุใดเขาจึงไม่ดึงออกมา?

นางคง… คงไม่ได้จับสิ่งที่ไม่ควรจับเข้าหรอกนะ? ว่ากันว่าบุรุษในตอนเช้าก็ต้องมีปฏิกิริยาตอบสนองเช่นนั้น ดังนั้นเขาจึงดู ‘ไม่สงบ’ จะต้องเป็นไปตามกลไกร่างกายเป็นแน่ ไม่ใช่เพราะนางยั่วยวน

ใช่ จะต้องไม่ใช่เพราะนางยั่วยวนเป็นแน่

นางมองไปยังห้องอาบน้ำนั้น มองแล้วมองอีก

ดูเหมือนวันนี้จะช้ากว่าปกติ

“เฮ้อ คิดอะไรของเจ้าน่ะ?”

มู่ซืออวี่ตบแก้มตัวเอง

ในนิยายต้นฉบับ ลู่อี้เป็นตัวร้าย เป็นศัตรูกับพระเอกและนางเอก อยากจะล้มล้างทั้งราชวงศ์ อย่างไรก็ตาม นักเขียนใช้พู่กันกับหมึกแต่งแต้มเพียงแค่อดีตของเขา ช่วงระยะปีแรกเขาเป็นคนเช่นไรก็ไม่ได้กล่าวถึงในนิยายเล่มนั้น

แต่สิ่งที่แน่นอนคือเขาไม่มีภรรยา อีกทั้งลูกชายและลูกสาวทั้งคู่ก็เป็นตัวร้าย ราวกับยกขบวนตัวร้ายมาทั้งตระกูล

มู่ซืออวี่กำลังคิดว่าบางทีอาจเป็นเพราะถูกหญิงสาวหลอกตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นตัวร้ายตัวนี้จึงไม่ชอบสตรี

ตอนนี้ดูเหมือนไม่ว่าเขาจะชอบสตรีหรือไม่ อย่างไรเสียร่างกายของเขาก็ไม่มีปัญหาอะไร

ลู่อี้อาบน้ำเย็นในตอนเช้า รู้สึกตื่นตัวขึ้นมาไม่น้อย

“น้ำเดือดแล้ว”

เขาเอ่ยกับหญิงสาวที่ยังนิ่งงันผู้นั้น

มู่ซืออวี่จึงได้สติ “อ๊ะ! ข้าขอโทษ ข้าจะทำบะหมี่เดี๋ยวนี้”

“เจ้าไม่จำเป็นต้องคิดมาก ข้านอนไม่หลับเพราะคดีของศาลาว่าการ” ลู่อี้ถูจมูกตนเอง

“ก่อนที่บ้านใหม่จะสร้างเสร็จ ข้าจะไปนอนกับอวิ๋นเอ๋อร์ก่อน ท่านอนของข้าแย่เหลือเกิน จะปล่อยให้กระทบต่อเจ้าเช่นนี้ต่อไปได้อย่างไร? ถึงเจ้าไม่ได้รำคาญข้า ข้าก็รำคาญตัวเอง” มู่ซืออวี่เอ่ยพร้อมใบหน้าแดงระเรื่อ

“ไม่ต้อง ข้าชินแล้ว”

ลู่อี้หยิบแปรงสีฟันที่ทำจากหวายขึ้นมาแล้วออกไปแปรงฟัน

มู่ซืออวี่มองตามแผ่นหลังเขาแล้วพึมพำ “ชอบถูกกระทำหรือ? เห็นอยู่ชัด ๆ ว่านอนไม่หลับ ยังไม่ให้ข้าย้ายออกอีก”

“อ๊ะ” มู่ซืออวี่ตระหนักบางอย่างขึ้นมาได้ “เขากลัวว่าข้าจะไปรบกวนการนอนของอวิ๋นเอ๋อร์ใช่หรือไม่ ก็เลยเสียสละตัวเองแทน?”

เช่นนั้นก็สมเหตุสมผลแล้ว

นึกไม่ถึงว่าจะมีจิตใจของคนเป็นพ่อจะซ่อนอยู่ภายใต้ใบหน้าเย็นชานั่น

“บะหมี่เสร็จแล้ว! เจ้ากินไปก่อน ข้าจะออกไปข้างนอกสักเดี๋ยว” มู่ซืออวี่ตะโกนเข้าไปข้างใน

เมื่อลู่อี้เดินออกมา บนโต๊ะก็มีบะหมี่ที่เพิ่งทำเสร็จร้อน ๆ ถ้วยหนึ่งวางอยู่ แต่เงาร่างของมู่ซืออวี่กลับหายไปแล้ว

เขากินไปได้ครึ่งทาง ข้างนอกก็มีเสียงดังเข้ามา เป็นมู่ต้าหนิวที่กำลังขับเกวียนวัวเข้ามาในลานบ้าน

“นี่กำลังจะทำอะไร?” ลู่อี้ถามขึ้น

“เจ้าไม่ได้นอน ข้าคิดว่าถ้ามีเกวียนวัว เจ้าจะได้หลับระหว่างเดินทางสักครู่หนึ่ง ข้าอยากเข้าไปในเมืองอยู่พอดี เช่นนั้นก็เข้าเมืองไปพร้อมกับเจ้าเสียเลย” มู่ซืออวี่บอก “ข้าเลยไปยืมเกวียนวัวของผู้ใหญ่บ้านมา”

มู่ต้าหนิวเอ่ยขึ้นอย่างอิจฉา “พี่อี้ พี่สะใภ้ช่างรักท่านจริง ๆ เลย”

มีหญิงสาวหลายคนในหมู่บ้านทำงานเป็นวัวเป็นม้าเพื่อชายหนุ่ม แต่ทำเพื่อชายหนุ่มสักคนจากใจจริงเช่นนี้มีไม่มากนัก หญิงสาวเหล่านั้นส่วนมากยอมแพ้ให้กับโชคชะตา ไม่เป็นห่วงเป็นใยบุรุษเหล่านั้นอีก

“ต้าหนิว ลองชิมฝีมือข้าดู”

“ไม่ต้อง ๆ ไม่ต้องจริง ๆ”

ของพวกนั้นเป็นบะหมี่ราคาแพง ข้างบนยังโปะด้วยหมูตุ๋นจำนวนมาก ถ้วยหนึ่งคงใช้เงินไม่น้อย

“อย่ามาเกรงใจข้า ไม่เช่นนั้นจะถือว่าเจ้าดูถูกข้า ลองชิมฝีมือของข้าเร็วเข้า มีโอกาสหน้าที่ข้ายังต้องรบกวนเจ้าอีก”

มู่ต้าหนิวหลบเลี่ยงไม่ได้ ทำได้เพียงรับน้ำใจนี้เอาไว้

“พี่สะใภ้ ฝีมือท่านเยี่ยดยอดมาก”

“ชอบก็ดีแล้ว ในหม้อยังมีอีก เติมอีกหน่อยเถอะ”

ลู่เซวียนออกมาในสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง “เจ้าจะเข้าเมืองหรือ?”

มู่ซืออวี่เงยหน้าขึ้นมองเขา “ใช่แล้ว! ข้าวาดแบบห้องให้คุณหนูหลี่เสร็จแล้ว จะเอาไปให้นางดูว่ามีปัญหาตรงไหนหรือไม่ ข้าจะได้เริ่มเตรียมตกแต่งห้องของนางเสียที”

“ตกแต่งอันใด?”

คำนี้เป็นคำใหม่ ไม่มีผู้ใดในยุคนี้เคยได้ยินมาก่อน

“พวกเราสร้างบ้านสักหลัง หลังจากสร้างเสร็จก็ไม่มีอะไร ว่างเปล่าโล่งโจ้ง ชาวบ้านธรรมดาแน่นอนว่าต้องอยู่แบบนั้น แต่คนมั่งมีย่อมต้องหาทางตกแต่งประดับประดาให้มันสวยงาม”

ครั้นนางอธิบายเช่นนี้ ชายไม่กี่คนนี้ก็เข้าใจแล้ว

ที่แท้เป็นเพราะคนมีเงินเหล่านั้นพิถีพิถันนี่เอง

“ข้าคนเดียวเดิมทีก็ทำงานใหญ่เช่นนี้ไม่ไหว ฉะนั้นถึงเวลาก็คงต้องหาคนสักสองสามคนมาช่วยข้า ต้าหนิว เจ้ากับเอ้อร์หนิวทำได้หรือไม่?”

“พวกเราหรือ?” มู่ต้าหนิวประหลาดใจ

“อันที่จริงมันไม่ได้ยากขนาดนั้น แค่ฟังคำสั่งของข้าก็ใช้ได้แล้ว ข้าจะเตรียมสิ่งของเอาไว้ล่วงหน้า จากนั้นค่อยย้ายมันไปยังจวนตระกูลหลี่เพื่อติดตั้ง ห้องของนางยังต้องมีการปรับเปลี่ยนสักหน่อย ถึงอย่างไรข้าก็ต้องการคนมาช่วย”

“ถ้าท่านคิดว่าพวกเราทำได้ พวกเราก็ยินดีที่จะตามไปอย่างแน่นอน”

พี่น้องสองคนนี้ร่างกายแข็งแรง ปกติแล้วมักจะถูกเรียกไปช่วยซ่อมแซมบ้านหรืออะไรจำพวกนั้นเสมอ แต่คำว่า ‘ตกแต่ง’ นี้นับว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ยิน

“ไม่รีบร้อน ยังเช้าอยู่เลย!” มู่ซืออวี่ยิ้มแย้ม

“หากมีคนไม่พอก็จ้างคนสักสองคนที่รู้งานไม้” ลู่อี้พูดขึ้น “เจ้าอย่าได้ทำงานหนักเกินไป”

“ข้ารู้” มู่ซืออวี่ยิ้มน้อย ๆ “เรื่องในบ้านมีข้า โชคไม่ดีก็ยังมีน้องสามี เจ้าก็ทำเรื่องของเจ้าไป ในวงราชการมีเล่ห์อุบายมากมาย หากเจ้าไม่ใส่ใจก็จะมีคนมาแทงข้างหลังเจ้า เจ้ายังลำบากกว่าพวกเรานัก”

ลู่เซวียนนึกไม่ถึงว่ามู่ซืออวี่จะพูดเรื่องเช่นนี้ เขามองนางด้วยความนับถือ

“ข้าเขียนหนังสือเสร็จหนึ่งเล่มแล้ว เจ้านำไปที่ร้านขายหนังสือ ถามเจ้าของร้านดู หากสำเร็จ ครอบครัวของพวกเราก็นับว่ามีรายรับเพิ่มเติมแล้ว”

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย
Status: Ongoing
อ่านนิยายสาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้ายเรื่องย่อ: 'มู่ซืออวี่ทะลุมิติมาเลี้ยงลูกตัวร้ายแบบนี้ เห็นทีจะต้องร้ายตามบทถึงจะมีชีวิตรอด แต่ลูกชายคนโตของนางกลับจับผิดได้ตั้งแต่วันแรก หากไม่อยู่ในบทเดิม เกรงว่าผู้คนจะคิดว่าวิญญาณสิงสู่ ชีวิตน้อยๆ ก็อาจจะรักษาเอาไว้ไม่ได้ มู่ซืออวี่จึงต้องเริ่มภารกิจแกล้งร้ายให้ครอบครัวตัวร้ายตายใจ จะว่าไป ลูกน้อยของนางก็ช่างน่ารักเสียนี่กระไร ใครจะไปใจร้ายใส่เด็กสองคนนี้ลง มู่ซืออวี่ตัดสินใจแล้วว่า ใครที่กล้าแกล้งวายร้ายตัวน้อยของนาง จะต้องโดนสั่งสอนเสียให้เข็ด!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset