สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 198 ไม้เท้านำทาง

บทที่ 198 ไม้เท้านำทาง

ความวุ่นวายในสกุลหลี่ไม่เกี่ยวอะไรกับมู่ซืออวี่ เมื่อได้ยินเรื่องพวกนี้ของสกุลหลี่แล้ว นางเพียงถอนหายใจเท่านั้น

ช่างวุ่นวายโกลาหลจริง ๆ

นางลืมไปว่าตนเกี่ยวข้องเสียสนิท

กิจการของเรือนกรุ่นฝันนับว่าไม่เลว นางยุ่งหัวปั่นทุกวัน รู้สึกราวกับเท้าไม่ได้แตะพื้น ไม่คิดจะไปสนใจเรื่องของคนอื่นอีก

“เถ้าแก่เนี้ย” เจี่ยงจงเข้ามาจากข้างนอกแล้วเอ่ยขึ้นด้วยความโมโห “สกุลเจิ้งกล่าวว่าระยะนี้ไม่มีงานให้เราทำแล้ว ไม่ให้พวกเราส่งของไปอีก”

“กิจการของพวกเขาไม่ดีหรือ?”

“หอหลิงอวิ๋นเป็นร้านเครื่องประดับที่ใหญ่โตที่สุดของที่นี่ ไม่รู้ว่าแต่ละวันขายได้มากเพียงใด ตอนนี้หอหลิงอวิ๋นอยู่ในความดูแลของนายท่านรองสกุลเจิ้ง ข้ารู้สึกว่ามีสิ่งผิดปกติ จึงแอบสอบถามจนได้ความว่าพวกเขารับกล่องเครื่องประดับมาจากร้านอื่น จึงบอกว่าไม่มีงานให้เราทำ เพราะก่อนหน้านี้เถ้าแก่เนี้ยมีสัญญาระยะยาวกับพวกเขา พวกเขาจึงไม่อยากจ่ายค่าล้มเลิกสัญญา”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ข้าจะไปถามดู” มู่ซืออวี่ขมวดคิ้ว

หากอยากยกเลิกการร่วมมือกัน เช่นนั้นก็ต้องทำตามเงื่อนไขในสัญญา อยากจะถอนสัญญาโดยไม่จ่ายค่าฉีกสัญญา นี่ไม่ใช่ว่าไม่ปฏิบัติตามกฎการค้าหรือ?

มู่ซืออวี่ไปที่หอหลิงอวิ๋น ทว่าไม่ได้พบกับนายท่านรองสกุลเจิ้ง นางจึงไปที่ร้านยวลกลิ่นอิสตรี จึงพบว่าผู้ดูแลร้านถูกเปลี่ยนตัวไปหมดแล้ว ไม่มีคนรู้จักนางสักคน

“ฮูหยินท่านนี้ ท่านอยากซื้ออะไรหรือเจ้าคะ?”

“แม่นางชิวซวงอยู่หรือไม่?”

“พี่ชิวซวงไม่ได้ทำอยู่ที่นี่แล้วเจ้าค่ะ แต่ว่าสิ่งที่นางทำได้พวกเราก็ทำได้เช่นกัน ฮูหยินอยากซื้อสิ่งใด เพียงบอกพวกเราก็ได้แล้วเจ้าค่ะ”

“ฮูหยินลู่” เจิ้งซินเยว่เดินออกมาจากข้างในก็พบมู่ซืออวี่เข้าพอดี “ท่านมาหาน้องหญิงรองหรือ? ตอนนี้ร้านนี้อยู่ในการดูแลของข้า นางไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว”

มู่ซืออวี่กวาดตามองเจิ้งซินเยว่ “เช่นนั้นขอแสดงความยินดีกับคุณหนูใหญ่เจิ้งที่ได้รับสืบทอดอำนาจของสกุล”

“ฮูหยินลู่มีความสามารถจริง ๆ บางทีพวกเราอาจจะร่วมมือกันได้” เจิ้งซินเยว่แย้มยิ้ม

“ข้าเป็นเพียงคนทำงานไม้ เกรงว่าจะไม่ต้องตาคุณหนูใหญ่เจิ้ง” มู่ซืออวี่กล่าว “ในเมื่อคุณหนูรองไม่อยู่ที่นี่ เช่นนั้นข้าต้องขอตัวแล้ว”

“ท่านอารองเปลี่ยนร้านทำกล่องเครื่องประดับเป็นร้านอื่นแล้ว ไม่ต้องการของท่านแล้ว!” เจิ้งซินเยว่ตะโกนไล่หลัง “ฮูหยินลู่ช่างใจกว้างจริง ๆ เป็นเช่นนี้ยังไม่โกรธ ยังต้องการสานสัมพันธ์กับน้องรองอีก”

“พ่อของนางก็คือพ่อของนาง ส่วนนางก็คือนาง ข้าเชื่อว่าหากเป็นนางคงไม่มีวันทำเรื่องเช่นนี้ ข้าไม่สนใจเรื่องในตระกูลของพวกท่าน แค่เพียงคิดว่าคุณหนูรองควรค่าแก่การสานสัมพันธ์” มู่ซืออวี่เอ่ยต่อไปว่า “แน่นอนว่าข้าไม่ได้มีความแค้นอะไรกับคุณหนูใหญ่ หากมีโอกาส บางทีพวกเราอาจได้ร่วมมือกัน”

เพียงแต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนางว่าจะมีโอกาสเช่นนั้นหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความต้องการของอีกฝ่าย หากนางกล่าวว่าไม่มี เช่นนั้นก็ไม่มีโอกาสแล้ว

“อี๋เหนียง*[1] เสื้อผ้าของที่นี่สวยงามที่สุดในเมืองของเราแล้ว อีกเดี๋ยวท่านเลือกให้มากหน่อย ถึงตอนนั้นก็เอาให้คุณชายดูว่าเหมาะหรือไม่”

“แน่นอนสิ… มู่ซืออวี่ เหตุใดเจ้าจึงมาอยู่ที่นี่?”

มู่ซืออวี่เงยหน้าขึ้นเห็นมู่ซือเจียวที่ถูกสาวใช้พยุง นางไม่แม้แต่จะสนใจมองต่อ รีบเดินผ่านไปทันที

“อี๋เหนียง นางเป็นใครหรือเจ้าคะ?”

“หญิงสารเลวคนหนึ่ง” มู่ซือเจียวจ้องมองตามหลังมู่ซืออวี่อย่างเคียดแค้น

นังหญิงสารเลวมู่ซืออวี่นั่นสวยขึ้นมากกว่าเดิมแล้ว ดูผิวเนียนละเอียดนั่นสิ ราวกับแม่นางน้อยที่ไม่เคยออกนอกเรือน แล้วหันกลับมามองนางเอง…

ทางด้านมู่ซืออวี่นั้นลูบแขนของตน หัวใจของนางราวกับถูกกรีดจนเลือดไหลรินออกมา

“เจียวอี๋เหนียง เชิญเข้ามาเร็ว” เจิ้งซินเยว่ทักทายมู่ซือเจียว “พอดีวันนี้มีแบบใหม่มา ยังไม่นำออกมาแสดงเลย ข้าจะหยิบออกมาให้ท่านดูเสียก่อน”

“จริงหรือ?” มู่ซือเจียวกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที

ตอนนี้นางเป็นอนุของคุณชายหวัง อีกทั้งยังเป็นอนุเพียงผู้เดียว เขาจึงไม่เคยตระหนี่ถี่เหนียวเรื่องเงินกับนาง อีกอย่างนั้นคุณชายหวังไม่มีภรรยาแต่ง เรือนหลังนั้นย่อมมีนางเพียงคนเดียว

ตอนนี้นางใช้ชีวิตอย่างที่เมื่อก่อนเคยทำได้เพียงเฝ้าฝัน ถึงแม้ในตอนแรกที่เข้าไปในเรือนหลังของคุณชายหวังจะรู้สึกผิดที่ตนกำลังอุ้มท้องลูกของญาติผู้พี่ ทว่าพอทุกคนเห็นเด็กในท้องเป็นก้อนทองคำ โดยเฉพาะนายท่านและฮูหยินของจวนสกุลหวัง ทั้งสองมักส่งของอร่อยมาให้นาง ความรู้สึกผิดจึงค่อย ๆ เหือดหายไป บางครั้งนางก็คิดว่าเด็กคนนี้เป็นของคุณชายหวัง

“จากนี้จะไปที่ใด?” เซี่ยคุนที่นั่งอยู่บนรถม้าถามมู่ซืออวี่ที่อยู่ด้านใน

“ร้านช่างเหล็ก”

เมื่อมาถึงร้านช่างเหล็ก นางก็รับของที่ต้องการ จากนั้นก็กลับไปร้านของตน

“เถ้าแก่เนี้ย คุณชายอันมาถึงแล้วขอรับ”

“ได้ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”

เวลานี้เฟิงเจิงกำลังพูดคุยกับคนงานใหม่ ครั้งนี้จ้างคนงานคนใหม่มาเพิ่มห้าคน มีทั้งมือใหม่และผู้ชำนาญการ เฟิงเจิงจึงบอกกฎของเรือนกรุ่นฝันให้พวกเขาฟัง

มู่ซืออวี่เพียงแค่ปรายตามอง จากนั้นก็ปล่อยให้เฟิงเจิงจัดการ นางนำสิ่งที่ซื้อมาจากร้านช่างเหล็กเข้าไปในห้องทำงาน

“คุณชายอัน ทำให้ท่านต้องรอแล้ว”

อันอี้หางลุกขึ้นยืน “ไม่รบกวนฮูหยินลู่ก็พอแล้ว”

“ท่านมาที่นี่เพราะเรื่องภาพประกอบใช่หรือไม่?” มู่ซืออวี่เอ่ยขึ้น “รอสักครู่ ข้าจะให้ท่านดูของบางอย่าง”

มู่ซืออวี่เริ่มประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ขณะที่อันอี้หางดูการเคลื่อนไหวของนางครั้งแล้วครั้งเล่า ครั้นเห็นหญิงตัวเล็กเช่นนางทำ ‘งานหนัก’ เหล่านี้อย่างคล่องไม้คล่องมือก็เกิดความสงสัยขึ้นมา

หญิงผู้นี้ไม่เหมือนคนที่เขาเคยพบเจอ

เขาจำคำพูดของสามคนนั้นที่เขาบังเอิญได้ยินขึ้นมาได้ ไม่นานมานี้นางเพิ่งผ่านเรื่องราวหนักหนามา ทว่ากลับไม่ส่งผลใด ๆ ต่อนางแม้แต่น้อย จิตใจนางคงเข้มแข็งยิ่งนัก

“เอาล่ะ” มู่ซืออวี่หันมาบอกอีกฝ่าย “ท่านมาดูสิ่งนี้”

อันอี้หางเดินเข้าไปหาจึงเห็นมู่ซืออวี่ถือไม้เท้าอยู่

“วันนั้นท่านบอกว่าอยากได้ไม้เท้าให้น้องสาวของท่านใช่หรือไม่? ท่านดูไม้เท้านี้สิ มันสามารถหดได้ หลังจากหดไปแล้วก็เหลือความยาวเพียงเล็กน้อย ตรงนี้มีกลไกพิเศษ กดหนึ่งครั้งจะมีเข็มบาง ๆ โผล่ขึ้นมา ให้นางเอาไว้ป้องกันตัวเพื่อความปลอดภัย จำเป็นต้องกดแรง ๆ หากกดเบาไปมันจะไม่โผล่ขึ้นมา”

“ท่านทำสิ่งนี้ออกมาได้อย่างไร?” อันอี้หางประหลาดใจ

“ข้าออกแบบแล้วไปหาช่างเหล็ก ให้เขาทำชิ้นส่วนที่ข้าต้องการออกมา จากนั้นค่อยประกอบเข้าด้วยกัน” มู่ซืออวี่ค่อย ๆ อธิบาย

อันอี้หางไม่สามารถวางไม้เท้านี้ลงได้เลย

จากนั้นมู่ซืออวี่ได้ดูรูปประกอบที่อันอี้หางนำมาแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ไม่เลวจริง ๆ ทักษะวาดภาพของคุณชายอันโดดเด่นจริง ๆ”

“ขอบคุณ! เช่นนั้นภาพประกอบนี้…”

“ข้าจะเอากลับไปให้น้องสามีของข้าดู”

“ย่อมได้”

เย็นวันนั้น มู่ซืออวี่นำภาพประกอบไปให้ลู่เซวียนดู เขาเห็นแวบแรกก็รู้สึกชอบทันที บอกมาว่าไม่มีปัญหา

หลังจากนั้นนางจึงไปที่หอหนังสือหงเหวินอีกครั้ง เพื่อปรึกษาเรื่องภาพประกอบกับผู้ตรวจหนังสือฟาง

เรื่องนี้ก็เป็นอันว่าจัดการเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงรอให้ทางหอหนังสือปล่อยหนังสือออกมา

มู่ซืออวี่ยุ่งอยู่กับงานที่เย่อิงเกอสั่งทำอยู่หลายวันติดต่อกัน ครั้งนี้ไม่เกิดปัญหาอะไร หลังจากส่งสินค้าไปแล้ว เย่อิงเกอจึงจ่าย 100 ตำลึงเงินให้ ในที่สุดมู่ซืออวี่ก็ได้พักหายใจหายคอ

“พวกท่านมารวมกันตรงนี้” มู่ซืออวี่เรียกคนงานมาแล้วเอ่ยว่า “ก่อนหน้านี้ข้าบอกแล้วว่าสินค้าในร้านของพวกเราขายได้เพราะความสามารถในการขายของทุกคน พวกท่านจะได้รับเงินตามความสามารถของพวกท่าน แต่คำสั่งซื้อที่มาจากข้างนอกจะแบ่งตามหน้าที่ของพวกท่าน ครั้งนี้เจี่ยงจงและหวังต้าชุนเป็นผู้รับผิดชอบหลัก จะได้คนละ 3 ตำลึงเงิน เฟิงเจิงยุ่งอยู่กับการรับคนงานคนใหม่ แทบจะรับผิดชอบจัดการเรื่องต่าง ๆ ในร้านทั้งหมด จึงได้ 3 ตำลึงเงินเช่นกัน”

“คนงานคนเก่าจะได้รับประมาณ 2 ตำลึงเงิน คนใหม่ยังไม่มีหน้าที่รับผิดชอบมากนัก ยังไม่ได้รับเงินเป็นการชั่วคราว จากนั้นก็จะได้รับค่าจ้างตามความสามารถ พวกท่านคิดเห็นอย่างไร?”

[1] อี๋เหนียง คือคำเรียกอนุภรรยา

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย
Status: Ongoing
อ่านนิยายสาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้ายเรื่องย่อ: 'มู่ซืออวี่ทะลุมิติมาเลี้ยงลูกตัวร้ายแบบนี้ เห็นทีจะต้องร้ายตามบทถึงจะมีชีวิตรอด แต่ลูกชายคนโตของนางกลับจับผิดได้ตั้งแต่วันแรก หากไม่อยู่ในบทเดิม เกรงว่าผู้คนจะคิดว่าวิญญาณสิงสู่ ชีวิตน้อยๆ ก็อาจจะรักษาเอาไว้ไม่ได้ มู่ซืออวี่จึงต้องเริ่มภารกิจแกล้งร้ายให้ครอบครัวตัวร้ายตายใจ จะว่าไป ลูกน้อยของนางก็ช่างน่ารักเสียนี่กระไร ใครจะไปใจร้ายใส่เด็กสองคนนี้ลง มู่ซืออวี่ตัดสินใจแล้วว่า ใครที่กล้าแกล้งวายร้ายตัวน้อยของนาง จะต้องโดนสั่งสอนเสียให้เข็ด!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset