สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 206 ความลับของหมู่บ้าน

บทที่ 206 ความลับของหมู่บ้าน

กลางดึก ลู่อี้ลืมตาขึ้นมามองมู่ซืออวี่ที่หลับอยู่ข้าง ๆ จากนั้นลงจากเตียงไปอย่างเงียบเชียบ

เขายืนอยู่ตรงหน้าต่าง ทอดสายตามองออกไปข้างนอก ได้ยินเสียงกรนเบา ๆ คนที่ส่งเสียงนั้นออกมาไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นชาวบ้านที่มาเฝ้าพวกเขา

บ้านหลังที่เช่ามีประตูด้านหลังมุ่งไปสู่เส้นทางอื่น เขาออกจากประตูหลังบ้านอย่างคล่องแคล่ว พร้อมปิดประตูลงเงียบ ๆ

ตอนที่มู่ซืออวี่ตื่นขึ้นมา ที่นอนข้าง ๆ ก็เย็นเฉียบไปนานแล้ว

ลู่อี้ไม่ได้อยู่ในลานบ้าน ในห้องครัวก็ไม่อยู่เช่นกัน นางคิดว่าลู่อี้ออกไปจับเสือเอง แต่เมื่อเห็นกรงยังอยู่ที่เดิม จึงได้รู้สึกโล่งใจ

“พี่ชายเจ้าเล่า?” มู่ซืออวี่เอ่ยถามลู่เซวียนเบา ๆ

ลู่เซวียนส่ายหัว “ไม่รู้สิ! เขาไม่อยู่หรือ? กรงดักสัตว์ยังอยู่หรือไม่?”

“ยังอยู่ มู่ซืออวี่เหลือบมองชาวบ้านที่อยู่ข้างนอก “มีคนคอยเฝ้าประตูอยู่ บางทีเขาอาจจะไม่ได้ออกไปทางประตูหน้า เกรงว่าเขาจะออกไปทางประตูด้านหลังแล้ว”

ไม่รู้ว่าเขาออกไปทำอะไร

“โฮกกกกก! โฮกกกกก!”

เสียงคำรามของเสือดังมาจากในป่า

ชาวบ้านที่เฝ้าอยู่ข้างนอกได้ยินเสียงนั้น สีหน้าพลันตื่นตระหนก

“เกิดอะไรขึ้น?”

“หรือว่าคนนอกพวกนั้นขึ้นเขาไปแล้ว?”

“ไป! รีบเข้าไปดูเร็ว!”

มู่ซืออวี่ไม่รอให้พวกเขาบุกเข้ามา นางเปิดประตูออกไปแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหมดความอดทน “พวกเจ้าจะทำอะไร?”

“ชายที่มากับเจ้าเล่า?”

“ออกไปจับหมูป่าแล้ว”

“หมูป่า? เจ้าจะหลอกใคร? เหตุใดพวกเราจึงได้ยินเสียงเสือ?”

“ข้าจะรู้ได้อย่างไร” มู่ซืออวี่แสดงสีหน้าไม่พอใจ

“อย่ามัวแต่พูดไร้สาระกับนางอยู่ที่นี่ รีบไปบอกหัวหน้าหมู่บ้านเร็วเข้า”

ชาวบ้านที่คอยเฝ้าประตูจากไปแล้ว มู่ซืออวี่เริ่มเป็นห่วงสถานการณ์ด้านลู่อี้ขึ้นมา

เขาขึ้นไปบนเขาทั้ง ๆ ที่ได้รับบาดเจ็บ เหตุใดจึงขึ้นเขาไปเพียงลำพังเช่นนี้?

เมื่อชาวบ้านรู้ว่าคนนอกขึ้นเขาไปแล้ว ทั้งยังมีเสียงเสือคำราม พวกเขาฉวยคราดได้ก็ฉวย หยิบจัดมีดดาบได้ก็หยิบ ใครคว้าอาวุธอะไรได้จากบ้านก็คว้า รีบยกโขยงบึ่งไปยังตีนเขาด้วยความโมโห หากคนนอกเหล่านั้นแตะต้องเทพเจ้าของหมู่บ้านพวกเขา วันนี้จะต้องได้เลือดแน่นอน

“มาแล้ว”

เห็นเงาร่างหนึ่งราง ๆ เดินเข้ามา คนผู้นั้นแบกอะไรบางอย่างที่ใหญ่โตมาด้วย

หรือว่าเขาจะฆ่าเสือแล้วจริง ๆ?

ชาวบ้านมองดูร่างนั้นเดินใกล้เข้ามาด้วยสายตาเยือกเย็น

ชายคนหนึ่งปรากฏขึ้นในครรลองสายตา ทันทีที่เห็นว่าเขาแบกอะไรมา แต่ละคนจึงโล่งใจ

“ไม่ใช่เสือนี่!”

“ที่แท้เขาก็ไปฆ่าหมูป่ามาจริง ๆ”

สิ่งที่ลู่อี้แบกลงมาไม่ใช่เสือ แต่เป็นหมูป่า เลือดของหมูป่าหยดลงพื้น ย้อมทางที่ลู่อี้เดินมาเป็นทางเดินเลือด

“พวกท่านกำลังทำอะไรกัน?” ลู่อี้เห็นชาวบ้านมีสีหน้าถมึงทึงจึงถามขึ้น

“เจ้าขึ้นเขาไปได้เจอเสือหรือไม่?”

“ไม่เจอ” ลู่อี้กระชับหมูป่าที่อยู่บนไหล่ “ข้าได้รับบาดเจ็บ หากเจอสัตว์ตัวใหญ่เช่นนั้น จะรอดออกมาได้อย่างไร?”

“ก็ถูก”

ไม่ใช่ทุกคนที่จะฆ่าเสือได้

ชาวบ้านค่อย ๆ แยกย้ายกัน ตราบใดที่ไม่ใช่เสือก็ไม่เป็นไร

ลู่อี้แบกหมูป่ากลับไปที่พักชั่วคราว

น้องชายและภรรยาเห็นลู่อี้แบกหมูป่ากลับมาจริง ๆ สายตาก็พลันเต็มไปด้วยความแปลกใจ

สายตาของมู่ซืออวี่จับจ้องอยู่บนบาดแผลของลู่อี้ เมื่อเห็นเลือดซึมออกมาจากผ้าพันแผลหลายแห่ง ก็รู้ทันทีว่าแผลคงเปิดแล้ว

“ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือไร” มู่ซืออวี่ทั้งโกรธทั้งกังวลในคราวเดียวกัน

ลู่อี้มองออกไปข้างนอก และพบว่าเป็นไปตามคาด ชาวบ้านคนอื่น ๆ ตามมาดูเขาแล้ว

“ฮูหยิน ช่วยทำแผลให้ข้าหน่อย” ลู่อี้โยนหมูป่าลงไปตรงลานบ้าน “อีกเดี๋ยวพวกเราจะเอาหมูป่าเข้าไปในเมือง ถึงตอนนั้นก็จะมีเงินกลับบ้านแล้ว”

ทั้งตัวของลู่อี้เต็มไปด้วยเลือด ตอนนี้ไม่สามารถบอกได้ว่าส่วนไหนเป็นเลือดของเขา ส่วนไหนเป็นเลือดของหมูป่า เขาต้องล้างเลือดออกจากร่างกายเสียก่อน มู่ซืออวี่จึงจะพันแผลให้เขาได้

“ท่านพี่ เหตุใดท่าน…”

ลู่เซวียนยังพูดไม่จบประโยคก็เงียบปากทันทีเมื่อเห็นลู่อี้ส่งสัญญาณ

ลู่อี้ล้างตัว จากนั้นจึงตักน้ำมาล้างหมูป่า แล้วเปิดประตูออกไปพูดกับชาวบ้านที่อยู่ข้างนอก

“หมู่บ้านของพวกเรามีเกวียนวัว แต่ว่าไม่ให้คนนอกเช่า”

มู่ซืออวี่ดึงปิ่นปักผมที่อยู่บนหัวนางออกมา “ข้าจะเอาสิ่งนี้ค้ำประกันไว้ เช่นนี้เช่าได้หรือไม่?”

ลู่อี้ขมวดคิ้วพลางมองหน้ามู่ซืออวี่

มู่ซืออวี่บอกเขาว่า “ข้ารู้ว่าของสิ่งนี้เป็นของที่สามีมอบให้ข้า แต่ตอนนี้พวกเราไม่มีเงิน ทำได้เพียงใช้มันค้ำประกันก่อน ในตอนที่เรานำเกวียนวัวมาคืน พวกเขาจะต้องคืนให้ข้าอย่างแน่นอน”

นางบอกชาวบ้านว่าพวกนางอยากจะล่าหมูป่าเพื่อนำไปขายแลกเงิน ตอนนี้ไม่อาจนำเงินจำนวนมากออกมาได้ มิเช่นนั้นจะกลายเป็นว่าเปิดโปงตนเอง

“ก็ได้!”

หลังจากเช่าเกวียนวัวในหมู่บ้าน ลู่อี้ก็แบกหมูป่าขึ้นเกวียนวัว แล้วพวกเขาทั้งสามคนก็ออกจากหมู่บ้านไป

ทั้งสามออกมาไกลจากหมู่บ้านมากแล้ว สายตาที่คอยจับจ้องค่อย ๆ หายไป ในที่สุดก็สามารถพูดได้อย่างอิสระเสียที

“ตอนนี้มีหมูป่า เท่ากับว่าพวกเรามีเงินแล้ว หากกลับไป พวกเราก็หาเหตุผลมาไม่ได้แล้ว” ลู่เซวียนเปิดปากขึ้น

“ไม่ต้องกลับไป” ลู่อี้เอ่ยเรียบ ๆ

“หมายความว่าอย่างไร?” มู่ซืออวี่มองเขา “ท่านจะบอกว่าตอนนี้ยังมีเวลาหาเสือตัวใหม่งั้นหรือ?”

“ในระยะหลายร้อยลี้นี้ไม่มีเสือตัวไหนแข็งแกร่งและตัวใหญ่กว่าตัวนี้อีกแล้ว พวกเจ้ารู้หรือไม่ เสือตัวนี้ถูกชาวบ้านเลี้ยงมามากกว่าสิบปี พวกเขาเลี้ยงมันด้วยสัตว์ที่พวกเขาเลี้ยงไว้เป็นจำนวนมากทุกปี คนในหมู่บ้านบอกว่ามันไม่กัดคน นั่นเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว เพราะพวกเขาเลี้ยงมันเป็นอย่างดี มันไม่เคยต้องหิวโหย ไม่จำเป็นต้องกัดคน”

“เสือตัวนี้ถูกชาวบ้านเลี้ยงมางั้นหรือ?”

“อืม”

“เหตุใดจึงต้องเลี้ยงเสือ? หรือพวกเขาไม่รู้ว่าเลี้ยงเสือจะนำภัยพิบัติมาให้?”

“พวกเจ้าไม่ต้องกังวลแล้ว เสือตัวนี้ข้าจัดการได้” ลู่อี้เอ่ย “พวกเจ้าแค่รอฟังข่าวดีจากข้าอยู่ที่โรงเตี๊ยมเป็นพอ”

ลู่อี้บังคับเกวียนวัวกลับไปยังเมืองซูโจว

หลังจากมู่ซืออวี่และลู่เซวียนลงไปแล้ว เขาก็บังคับเกวียนวัวจากไป

ลู่เซวียนมองตามแผ่นหลังของลู่อี้ แล้วพูดกับมู่ซืออวี่ว่า “พี่สะใภ้ ท่านคิดจริง ๆ หรือว่าพี่ชายข้าจะจัดการได้”

“สายตาของเขาบอกข้าว่า เรื่องนี้อีกไม่นานเขาก็จะจัดการให้เรียบร้อย” มู่ซืออวี่ตอบ “ข้าเชื่อความสามารถของเขา”

ลู่อี้บังคับเกวียนวัวไปยังจวนจงอ๋อง

ไม่นานนัก บ่าวรับใช้ของจวนก็ให้เขาเข้าไป จากนั้นเขาจึงบังคับรถม้าเข้าไปถึงลานเซียวเหยาของจงอ๋อง

สถานที่ที่เรียกว่าลานเซียวเหยา เป็นสถานที่ที่จงอ๋องใช้ให้อาหารสัตว์ร้าย ที่นี่มีกรงขังขนาดใหญ่มากมาย แต่ละกรงมีสัตว์ร้ายหนึ่งตัว แค่เสืออย่างเดียวก็มีถึงห้าตัวเข้าไปแล้ว

สัตว์ร้ายเหล่านั้นคงถูกปล่อยให้หิวนานแล้ว เมื่อเห็นคนปรากฏตัวขึ้น พวกมันจึงคำรามลั่น

จงอ๋องนั่งอยู่บนเก้าอี้ มีสาวใช้คอยป้อนองุ่นให้เขา

ทันทีที่ลู่อี้เดินเข้าไปในประตู เขาก็เงยหน้าขึ้นมามอง เมื่อเห็นหมูป่าอยู่ในเกวียนวัว สายตาของเขาพลันเย็นเยือกราวกับน้ำแข็งขึ้นมาทันที

“บังอาจนัก!” จงอ๋องตะคอกด้วยความเกรี้ยวกราด “เจ้ากล้าล้อเล่นกับข้ารึ! โยนเขาเข้าไปในกรงขัง ให้เป็นอาหารของต้าเฮยซะ”

ลู่อี้ได้ยินคำพูดของจงอ๋องก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร เขาเพียงเอ่ยขึ้นเรียบ ๆ “ฝ่าบาทไม่อยากได้ยินเหตุผลที่ข้าน้อยมาหรือ? หากฝ่าบาทอยากฆ่าข้าน้อย ฟังแล้วค่อยฆ่าก็ยังไม่สาย”

“หึ ข้าอยากจะได้ยินนักว่าเจ้าจะแก้ตัวอย่างไร” ฟ่านหยวนซีเย้ยหยัน

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย
Status: Ongoing
อ่านนิยายสาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้ายเรื่องย่อ: 'มู่ซืออวี่ทะลุมิติมาเลี้ยงลูกตัวร้ายแบบนี้ เห็นทีจะต้องร้ายตามบทถึงจะมีชีวิตรอด แต่ลูกชายคนโตของนางกลับจับผิดได้ตั้งแต่วันแรก หากไม่อยู่ในบทเดิม เกรงว่าผู้คนจะคิดว่าวิญญาณสิงสู่ ชีวิตน้อยๆ ก็อาจจะรักษาเอาไว้ไม่ได้ มู่ซืออวี่จึงต้องเริ่มภารกิจแกล้งร้ายให้ครอบครัวตัวร้ายตายใจ จะว่าไป ลูกน้อยของนางก็ช่างน่ารักเสียนี่กระไร ใครจะไปใจร้ายใส่เด็กสองคนนี้ลง มู่ซืออวี่ตัดสินใจแล้วว่า ใครที่กล้าแกล้งวายร้ายตัวน้อยของนาง จะต้องโดนสั่งสอนเสียให้เข็ด!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset