สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 26 ให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่สักคนก็ได้

บทที่ 26 ให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่สักคนก็ได้

บทที่ 26 ให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่สักคนก็ได้

“เดี๋ยวก่อนสิ” ถังซื่อขัดหัวหน้าหมู่บ้าน “ท่านหัวหน้าหมู่บ้าน เราลองมาคุยกันใหม่เถอะ นี่เป็นเรื่องใหญ่มาก ครอบครัวเราต้องการเวลาตัดสินใจก่อน”

แต่หัวหน้าหมู่บ้านโบกมือไม่เห็นด้วย “หากมัวรอตัดสินใจแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับแม่หานเอ๋อร์ พวกเจ้าก็หนีไปก่อนพอดี ข้าไม่ยอมให้ใครหนีไปทั้งนั้นแหละ พวกเจ้าต้องเข้าคุกกันให้หมด รีบตัดสินใจมา”

ชาวบ้านที่ฟังอยู่ด้านนอกก็ล้วนเห็นอกเห็นใจถงซื่อ หลายคนเริ่มสาปแช่งคนตระกูลมู่ว่าช่างไร้หัวใจเกินกว่าจะเยียวยาได้ บางคนมองว่ามู่ซืออวี่ช่างโชคร้าย นางน่าจะเอาเนื้อให้คนเป็นแม่ในเวลาอื่นที่ไม่ใช่ตอนนี้ เพราะหากจะต้องแยกบ้านเพียงเพราะเนื้อไม่กี่ชิ้น ช่างเป็นเรื่องน้ำผึ้งหยดเดียวเสียจริง ๆ แล้วต่อไปนี้ใครจะกล้าแต่งงานเข้าตระกูลมู่อีก

ถังซื่อดึงแม่สามีมาด้านหลังแล้วเริ่มออกความคิดเห็น “ท่านแม่ เหตุใดเราไม่แยกบ้านเสียล่ะ เงินตั้งสิบตำลึงจะไปหาที่ไหนมาจ่าย”

“แยกบ้าน? พูดอะไรโง่ ๆ มีใครที่ไหนกล้าแยกบ้านตอนที่พ่อแม่ยังไม่ตายบ้าง” แม่เฒ่าเจียงยืนกราน “ข้าไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นแน่”

“ถ้าอย่างนั้นท่านมีสิบตำลึงจ่ายไหมเล่า?” ถังซื่อถามต่อ “ท่านจะยอมเสียเงินมากพอ ๆ กับตอนแต่งนางเข้ามารึ”

“ให้ตายสิ มันจะเกินไปแล้ว เรื่องเยอะเสียจริง” แม่เฒ่าเจียงกัดฟัน “อย่าว่าแต่เพราะตอนนี้ข้าไม่มีเงินเลย ต่อให้มีเงินก็ไม่มีทางจ่ายให้นางแม้แต่แดงเดียว ข้าหาสะใภ้ใหม่ให้ต้าซานได้ด้วยเงินสิบตำลึงนี่อยู่แล้ว จริงสิ ให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่สักคนก็ได้… เหตุใดข้าจะยังต้องการนางอยู่อีกนะ แยกบ้านงั้นหรือ… หย่าไปเลยดีกว่า จะได้ไม่ต้องเสียเงิน”

ถังซื่อรู้สึกใจชื้นขึ้นมา

โชคดีที่หญิงชราตาสว่างได้เสียที

ทุกอย่างเป็นไปตามที่แม่สามีว่า หย่ากันไปเลย จะได้กำจัดคนไร้ประโยชน์ออกไปจากบ้าน ถ้าทำแบบนั้น น้องชายรองที่เป็นแรงงานชั้นดีของบ้านก็จะยังอยู่ทำงานให้ต่อไปได้ ส่วนงานบ้านอื่น ๆ ก็ยังแบ่งหน้าที่กับคนที่เหลือได้อยู่

“เจ้าใหญ่ เจ้ารอง มานี่ซิ” แม่เฒ่าเจียงเรียกมู่ต้าไห่และมู่ต้าซานให้เข้าไปใกล้

ทั้งคู่ตกใจมากเมื่อได้ยินแผนการของแม่ตัวเอง

แววตาของมู่ต้าไห่ดูมีความหวังขึ้นมา เขามองไปทางน้องชาย “น้องสะใภ้เป็นภรรยาเจ้ารอง เช่นนั้นเรื่องนี้ให้เจ้าตัดสินใจเอง”

มู่ต้าซานดูลังเลอยู่บ้าง “ท่านแม่ แต่ข้าก็อายุปูนนี้แล้ว…”

“เจ้าจะกลัวอะไรเล่า หวังหมาจื่อในหมู่บ้านเราเพิ่งแต่งกับภรรยาคราวลูกไป เจ้าคิดว่าตัวเองด้อยกว่าเขางั้นหรือ” หญิงชราถามต่อ “เงินตั้ง 10 ตำลึง เจ้าสามารถเอาไปแต่งเมียใหม่เข้าบ้านได้ง่าย ๆ แม่หาสะใภ้สาว ๆ สวย ๆ มาให้เจ้าอีกคนก็ได้ ไม่ดีกว่าอยู่กินกับนังนี่หรือ”

“นางให้กำเนิดลูกข้าถึงสองคน จะให้ข้าทำกับนางเช่นนี้…” มู่ต้าซานพูดแบบนั้น แต่ความจริงเขาก็คล้อยตามแม่ไปแล้ว

มู่ต้าไห่รู้จักน้องชายดีว่าทั้งขี้ขลาดและโง่เขลาเพียงใด

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคล้อยตามแล้วก็ยิ่งสนับสนุนเพิ่มอีก

“เจ้ารอง เงิน 10 ตำลึงอาจเก็บรวบรวมได้จากการทำงานหกเจ็ดปี แต่ครอบครัวเราต้องจ่ายภายในหนึ่งปี ข้าไม่เห็นทางที่เราจะหาเงินในเวลาเท่านี้ได้เลยจริง ๆ ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากช่วยน้องสะใภ้ แต่ข้าไม่มีทางเลือกแล้ว”

“พวกท่านไม่สนใจนางเลยหรือ?” มู่ต้าซานถามขึ้น “หัวหน้าหมู่บ้านจะยอมให้เป็นอย่างนั้นหรือ ถ้านางไร้ที่พึ่งแล้วเป็นอะไรไป จะเกิดอะไรขึ้นกับข้าเล่า?”

“แม่หนูอวี่ไม่ทิ้งนางหรอก หากนางทิ้งแม่ตัวเองก็จะต้องถูกมองว่าเป็นคนอกตัญญู เพราะคนที่ทำให้เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นก็คือนางด้วย นางเป็นคนเอาเนื้อนั่นให้แม่ตัวเอง นางก็ต้องรับผิดชอบด้วย”

ยิ่งไตร่ตรองดูเพียงใด แม่เฒ่าเจียงก็คิดว่านี่เป็นทางออกที่ดีที่สุดของเรื่องราวที่เกิดขึ้น นางเดินไปหาหัวหน้าหมู่บ้านแล้วพูดขึ้นว่า “หัวหน้าหมู่บ้าน เราตัดสินใจแล้ว ลูกข้าจะหย่ากับนาง”

หัวหน้าหมู่บ้านคิดว่าตัวเองฟังผิดไป

ไม่มีใครคิดว่าแม่เฒ่าเจียงจะกล้าติดสินใจเช่นนี้ได้

ถ้าแค่แยกครอบครัวยังพอจะเป็นไปได้ เพราะด้วยวิธีนั้น มู่ต้าซานจะยังคอยดูแลถงซื่อในฐานะสามีต่อไป โดยที่ตระกูลมู่จะไม่ต้องจ่ายเงินส่วนนั้น

แต่คนตระกูลมู่กลับเลือกทางออกที่ไร้ยางอายเช่นนี้

แม้แต่หวังซื่อที่เป็นคนปากร้ายไร้ยางอายที่สุดในหมู่บ้าน ยังต้องยอมแพ้ให้กับครอบครัวมู่ในตอนนี้แล้ว

มู่ซืออวี่ตัวสั่นด้วยความโกรธ

มู่เจิ้งหานมองคนในครอบครัวอย่างเคียดแค้น โดยเฉพาะบิดาของตนเอง สายตาของลูกชายนั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

“ท่านพ่อ ท่านไม่ต้องการท่านแม่ของข้าอีกต่อไปแล้วอย่างนั้นหรือ?” น้ำเสียงของมู่เจิ้งหานสงบนิ่งมาก มีเพียงตัวเขาเองที่รู้ว่าภายในใจนั้นเจ็บปวดเพียงใด

ความหนาวเย็นของฤดูหนาวยามไร้อาภรณ์ห่อหุ้ม ยังไม่สามารถทำให้เขาเจ็บปวดและด้านชาในหัวใจเท่านี้ด้วยซ้ำ

“หานเอ๋อร์ พ่อไม่มีทางเลือก” มู่ต้าซานกล่าวอย่างขลาดเขลา “อย่าโกรธพ่อเลย แต่พ่อไม่มีเงินพอจะจ่ายได้จริง ๆ พ่อไม่ได้อยากจะทิ้งนางเลย”

“นางให้กำเนิดลูกแก่ท่านถึงสองคน สู้ทนลำบากเป็นภรรยาท่านในบ้านเส็งเคร็งนี่มามากกว่าสิบปี ท่านไม่มีใจอาทรต่อนางบ้างเลยหรือ?”

“ข้าต้องคิดถึงความอยู่รอดของครอบครัว ไม่สามารถทำให้ทั้งครอบครัวเดือดร้อนเพราะนางคนเดียวได้ นางให้กำเนิดลูกให้ข้าก็จริง แต่ใครแต่งเข้ามาก็มีหน้าที่ให้กำเนิดลูกชายให้ครอบครัวอยู่แล้ว มันเป็นสิ่งที่นางสมควรทำ แต่ในฐานะลูกสะใภ้ นางมักจะทำให้แม่ข้าโกรธอยู่เสมอ ไม่ได้ทำหน้าที่ลูกที่ดีอะไร ครอบครัวเราอดทนกับนางมาตลอด หย่ากันก็ดีแล้ว” มู่ต้าซานกล่าว

“ใช่แล้ว เจ้ารองพูดได้ดี” แม่เฒ่าเจียงมองมู่ต้าซานอย่างภาคภูมิใจ

หัวหน้าหมู่บ้านได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับส่ายหน้า “แม่นางซืออวี่ หานเอ๋อร์ พวกเจ้าเห็นว่าอย่างไร?”

มู่เจิ้งหานกอดมารดาแน่น “อยากจะหย่าก็หย่าไปเสียเถอะ แต่ข้าจะตัดความสัมพันธ์กับพวกเขาด้วย ข้าจะไปกับท่านแม่ของข้า”

“ไม่มีทาง!” แม่เฒ่าเจียงปฏิเสธทันควัน “เจ้าเป็นหลานของบ้านตระกูลมู่ของเรา!”

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องมาต่อรองอะไรกับข้า” มู่เจิ้งหานพูดเสียงเรียบ “ข้าเกิดมาเพื่อท่านแม่เท่านั้น ข้าจะอยู่ในที่ที่มีท่านแม่อยู่ ถ้าท่านอยากจะเก็บข้าไว้ในบ้าน ข้าก็จะไม่ปล่อยให้พวกท่านอยู่อย่างสุขสบายแน่ ไม่แน่สักวันที่ข้าสบโอกาส ระหว่างที่พวกท่านหลับ ข้าจะเผาบ้านนี้ให้วอดทั้งหลัง แล้วฝังศพพวกท่านทุกคนไปพร้อมท่านแม่ของข้า”

มู่ซืออวี่นิ่งอึ้ง “…”

ช่างเป็นเด็กที่จิตใจเด็ดเดี่ยวยิ่งนัก

หรือว่าเด็กคนนี้จะเป็นตัวร้ายตัวจริง

นางอยู่ในที่ที่มีแต่ตัวร้ายเต็มไปหมดอย่างนั้นหรือ?

แม่เฒ่าเจียงและคนอื่น ๆ ตื่นตระหนกกับคำพูดของเด็กชายผู้นี้

“ให้ตายเถอะ! ข้าบอกแล้วว่าไอ้เด็กเลวนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง ดูซิว่านางสั่งสอนลูกชายมาอย่างไร หัวหน้าหมู่บ้าน ท่านเองก็ได้ยินใช่หรือไม่ หานเอ๋อร์ยังเด็กนัก เรื่องพวกนี้แม่ของเขาต้องเป็นคนสอนให้อยู่แล้ว” หญิงชราน้ำตาไหลริน “ชาติก่อนข้าทำเวรทำกรรมอะไรไว้ถึงได้มาเจอกับผู้หญิงเลว ๆ คนนี้ ทำลายครอบครัวข้าให้ไม่ได้สงบสุขเลย”

“เช่นนั้นก็ตามนี้แหละ” หัวหน้าหมู่บ้านขัดจังหวะโศกเศร้าของแม่เฒ่าเจียงอย่างรีบเร่ง “เจ้าไม่ต้องการรับผิดชอบแม่หานเอ๋อร์ และต้องการหย่ากับนาง แล้วนางจะดูแลตัวเองได้อย่างไรกัน ถ้าเอาตามนี้ หานเอ๋อร์จะได้ดูแลแม่ของเขา เจ้าจะยอมตามนี้หรือจ่ายเงินมา”

“เราไม่มีเงินจ่ายหรอก” แม่เฒ่าเจียงปฏิเสธ

“ถ้าเจ้าไม่มีเงินจ่าย ก็ทำตามที่หานเอ๋อร์ต้องการ หานเอ๋อร์ยังเด็ก เขาเต็มใจที่จะอยู่ดูแลแม่ อาจจะหาเงินมารักษาแม่ด้วยตัวเองได้ ถ้าพวกเจ้าไม่ยอมจ่ายก็ปล่อยหานเอ๋อร์ไป” หัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยเร่ง “อย่ามัวอิดออด รีบตัดสินใจเสียที ข้าจะได้ทำหนังสือทุกอย่างให้เรียบร้อย จากนี้หานเอ๋อร์จะไม่เกี่ยวข้องกับบ้านตระกูลมู่ของพวกเจ้าอีก”

“ต้าซาน! ไอ้เด็กนี่มันเกินเยียวยาแล้ว เก็บไว้ใกล้ตัวก็มีแต่จะเป็นหอกข้างแคร่ แม่จะหาสะใภ้ใหม่มาแต่งกับเจ้า แล้วมีลูกชายน่าเอ็นดูให้อีกสักคน” แม่เฒ่าเจียงหันไปชักจูงลูกชาย

มู่ต้าซานจึงจำใจต้องเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย
Status: Ongoing
อ่านนิยายสาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้ายเรื่องย่อ: 'มู่ซืออวี่ทะลุมิติมาเลี้ยงลูกตัวร้ายแบบนี้ เห็นทีจะต้องร้ายตามบทถึงจะมีชีวิตรอด แต่ลูกชายคนโตของนางกลับจับผิดได้ตั้งแต่วันแรก หากไม่อยู่ในบทเดิม เกรงว่าผู้คนจะคิดว่าวิญญาณสิงสู่ ชีวิตน้อยๆ ก็อาจจะรักษาเอาไว้ไม่ได้ มู่ซืออวี่จึงต้องเริ่มภารกิจแกล้งร้ายให้ครอบครัวตัวร้ายตายใจ จะว่าไป ลูกน้อยของนางก็ช่างน่ารักเสียนี่กระไร ใครจะไปใจร้ายใส่เด็กสองคนนี้ลง มู่ซืออวี่ตัดสินใจแล้วว่า ใครที่กล้าแกล้งวายร้ายตัวน้อยของนาง จะต้องโดนสั่งสอนเสียให้เข็ด!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset