สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 364 ท่านทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องทำ

บทที่ 364 ท่านทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องทำ

บทที่ 364 ท่านทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องทำ

“มีอะไรหรือ?” เวินเหวินซงเห็นความเคลื่อนไหวทางนี้จึงเข้ามาถาม

เจ้าหน้าที่คนนั้นเล่าที่มาที่ไปให้เขาฟัง

เวินเหวินซงไปหมู่บ้านสกุลลู่บ่อยครั้งจึงพอจะรู้จักมู่ต้าซาน

“ท่านแก่มากแล้ว คุณสมบัติไม่เข้าข่าย ไม่ทำจะดีกว่า”

เขาทำเช่นนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของมู่ต้าซานทั้งนั้น หาได้ใช้อำนาจเบียดเบียน

มู่ต้าซานเผยสีหน้ากระดากอายออกมา

แน่นอนว่าเขารู้ว่าตนทำไม่ได้ เพียงแต่มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเขา

หากเขาไม่ทำงานนี้ เขาคงทะเลาะกับภรรยาใหม่อีกครั้งแน่ ชีวิตเช่นนี้เมื่อไหร่จะจบสิ้นเสียที?

มู่ต้าซานเหลือบมองหนิวเหมยที่อยู่ข้าง ๆ ก็พบว่าเป็นอย่างที่คิด สีหน้าของนางย่ำแย่มาก เดิมทีก็ไม่น่ามองอยู่แล้ว ยิ่งทำหน้าเยือกเย็นเช่นนี้ยิ่งเหมือนยักษ์เข้าไปใหญ่

“ข้าทำได้” มู่ต้าซานเอ่ยด้วยสีหน้าเจื่อน ๆ

หนิวเหมยพยักหน้าอีกครั้ง “ใช่แล้ว ใต้เท้า สามีของข้าทำได้ เขาแข็งแรงมากนะเจ้าคะ!”

เวินเหวินซงลังเล

หากอีกฝ่ายยืนกรานไม่ฟังคำเตือน เขาพูดมากไปก็ไม่ดีเช่นกัน ชีวิตของราษฎรลำบากยิ่งนัก หากพวกเขามีเงินเหลืออยู่ในมือ ผู้ใดจะอยากขายชีวิตกัน?

หนิวเหมยเห็นเวินเหวินซงยังคงไม่เชื่อ นางเหลือบไปเห็นว่าข้าง ๆ มีท่อนไม้จึงเสนอว่า “หากท่านไม่เชื่อ เขาสามารถพิสูจน์ให้ท่านดูได้”

“พิสูจน์อย่างไร?” เวินเหวินซงเอ่ยถาม

“เขายกท่อนไม้ท่อนนั้นได้” หนิวเหมยชี้ไปยังท่อนไม้ท่อนใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลนัก

ณ โรงหมอถงตั๋ว ท่านหมอจูนับวัตถุดิบสมุนไพร จากนั้นจึงเอ่ยกับคนจัดยา “สมุนไพรชุดนี้ใช้ไม่ได้ เจ้าไม่ได้ซื้อจากร้านสมุนไพรร้านที่สองที่ข้าบอกหรือ?”

คนจัดยาเอ่ยว่า “อาจารย์ขอรับ ร้านที่สองต่อรองเก่งยิ่งนัก ราคาพุ่งสูงทุกอย่าง ข้าไม่มีทางเลือก ได้แต่เปลี่ยนร้านสมุนไพรใหม่”

“เหตุใดเจ้าไม่บอกข้า? เรื่องสำคัญเช่นนี้เจ้าตัดสินใจเองได้หรือ?” ท่านหมอจูไม่สบอารมณ์

“ข้าสำนึกผิดแล้วขอรับอาจารย์” คนจัดยากังวลใจขึ้นมา

ถงซื่อเดินเข้ามาแล้วเอ่ยว่า “ก่อนหน้านี้ไม่นาน ตอนที่ท่านออกไปรักษาคนไข้นอกสถานที่ มีเถ้าแก่แซ่หวังผู้หนึ่งบอกว่าเขามีกิจการร้านขายสมุนไพร และอยากทำงานร่วมกับเรา ข้าจึงขอที่อยู่ไว้ ท่านอยากไปดูหน่อยหรือไม่?”

“ข้าค่อยไปดูทีหลัง” ท่านหมอจูเอ่ยอย่างอ่อนโยน “ข้าให้เจ้าพักผ่อนไม่ใช่หรือ? เหตุใดเจ้าจึงทำความสะอาดห้องอีกแล้ว?”

คนจัดยารีบฉวยผ้าไปอย่างชาญฉลาดทันที “นายหญิง ตอนนี้ท่านกำลังแบกสองร่างเลยนะ ไม่ต้องทำงานหนักพวกนี้แล้ว ระวังจะทำให้ตนเองเหนื่อยเอาได้นะขอรับ”

“ทังหยวน เจ้าเด็กคนนี้หลักแหลมยิ่งนัก ตั้งแต่เขามา เขาก็ง่วนอยู่กับการจัดการเรื่องต่าง ๆ ในโรงหมอ ความผิดครั้งนี้ถือว่าแล้วไปเถิด ภายหน้าเขาคงระวังมากขึ้นแล้วล่ะ” ถงซื่อพูดแทนคนจัดยา

ท่านหมอจูรู้ว่าถึงแม้คนจัดยาคนนี้จะไม่ฉลาดเท่าคนก่อน แต่ก็ขยันขันแข็งและซื่อสัตย์ ทั้งยังนิสัยดี ไม่เคยทำให้ลำบากใจมาก่อน เพียงแค่เตือนให้อีกฝ่ายระมัดระวังในครั้งต่อไปก็เพียงพอแล้ว

“ท่านหมอจู รีบตามข้าไปดูเถอะขอรับ มีคนได้รับบาดเจ็บแล้ว” นักการคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในโรงหมอ เขาพูดพลางหอบหายใจ

“ผู้ใดบาดเจ็บหรือ?”

“มีหลายคนเลยขอรับ”

“บาดเจ็บร้ายแรงหรือไม่?” ท่านหมอจูเอ่ยถาม “ข้าจะได้รู้ว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง”

“คนหนึ่งลื่นไถลตอนยกท่อนไม้ขึ้น ตอนที่ท่อนไม้นั้นตกลงมาจึงหล่นใส่คนสามคนที่อยู่ข้าง ๆ เขา รวมแล้วได้รับบาดเจ็บทั้งหมดสี่คนขอรับ”

ท่านหมอจูพอทราบคร่าว ๆ แล้วจึงเตรียมสมุนไพรตามนักการคนนั้นไป

ถงซื่อก็จะตามไปเช่นกัน

“เจ้าไม่ต้องไป” ท่านหมอจูห้ามนางไว้

“เขาไม่ได้บอกหรือไรว่ามีคนบาดเจ็บหลายคน? ท่านคนเดียวจะไหวหรือ? เพียงแค่งานทำแผล ข้าทำได้” ถงซื่อเร่งเร้า “รีบไปเถอะ ไม่ต้องมัวเสียเวลาแล้ว”

คนมากมายรุดเข้าไปในสถานที่รับสมัคร

เมื่อเห็นกลุ่มคนที่นอนอยู่บนพื้น สายตาของท่านหมอจูก็เลื่อนไปหยุดอยู่ที่มู่ต้าซาน

หนิวเหมยกำลังกระวนกระวายอยู่ตรงนั้น เมื่อท่านหมอจูมาถึง นางก็รีบกล่าว “ท่านหมอจู รีบดูอาการบาดเจ็บให้สามีของข้าเถอะ ดูเหมือนเอวเขาจะเคลื่อน”

ถงซื่อเผยสีหน้าเหลือเชื่อออกมา

คนจัดยาถือล่วมยามาหนึ่ง ท่านหมอจูก็ถือล่วมยามาหนึ่ง

ท่านหมอจูวางล่วมยาในมือลง จากนั้นจึงเอ่ยกับคนจัดยา “ดูแลอาจารย์หญิงของเจ้าให้ดี หากนางรู้สึกไม่สบาย เจ้าก็คอยดูแลนาง ที่เหลือให้เป็นหน้าที่ข้า”

“อาจารย์วางใจได้เลย สุขภาพของนายหญิงสำคัญที่สุด ข้าจะต้องดูแลนางเป็นอย่างดีแน่นอน”

สายตาของมู่ต้าซานหยุดอยู่ที่ร่างของถงซื่อ

นางดูอ่อนเยาว์ลงกว่าเดิมมาก

อีกทั้ง…

ยังหาตาเฒ่าคนหนึ่งได้แล้ว

หนิวเหมยบิดสีข้างของมู่ต้าซานอย่างแรง

“ซี้ด…” มู่ต้าซานสูดปากด้วยความเจ็บปวด

“สวยหรือไม่?” หนิวเหมยเอ่ยอย่างเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ไม่ว่าจะสวยเพียงใดก็ไม่ใช่ของท่าน ดูซิว่าผู้อื่นชีวิตดีเพียงใด หันกลับมามองท่านสิ…”

มู่ต้าซานปิดตาลงด้วยความอับอาย

พบกันในสถานการณ์เช่นนี้ เขาหวังเหลือเกินว่าตนจะสามารถหารอยแยกบนพื้นมุดหนีไปได้

ถงซื่อเมินความเคลื่อนไหวทางด้านนั้น แล้วนั่งยอง ๆ ทำแผลให้คนที่ถูกลูกหลงจนได้รับบาดเจ็บ

“ข้าว่านะท่านลุง หากท่านยกไม่ได้ก็คือยกไม่ได้ เหตุใดต้องดึงดันด้วยเล่า? ดีเสียจริง อยู่ ๆ สามีของข้าก็ต้องมาบาดเจ็บ ท่านว่ามาเลยว่าจะทำอย่างไร?” สตรีเสียงแหลมปรี้ดนางหนึ่งเอ่ยขึ้น

“นั่นสิ พวกเรายังต้องทำงานแทนการจ่ายภาษี ท่านทำให้พวกเราบาดเจ็บเช่นนี้ ต่อไปพวกเราจะทำงานอย่างไร?” เหยื่ออีกคนต่อว่า

“จ่ายเงินมานะ”

หนิวเหมยมีสีหน้าขมขื่น “หากพวกเรามีเงิน คงไม่ดื้อดึงมาทำงานหรอก ทุกท่านเห็นใจเราเถิด ให้อภัยพวกเราเถอะ พวกเราก็ไม่ได้ตั้งใจเช่นกัน”

“หากพวกเราให้อภัยพวกเจ้า เช่นนั้นพวกเราจะทำอย่างไรต่อ?”

“ถูก พวกเราได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้พวกเราทำงานไม่ได้แล้ว”

สีหน้ามู่ต้าซานซีดแล้วซีดอีก

หนิวเหมยหันมามองถงซื่อ “พี่หญิงถง ท่านช่วยพวกเราด้วยเถอะ!”

ถงซื่อชะงักไปครู่หนึ่ง “ข้า?”

“ใช่แล้ว อย่างน้อยพวกท่านก็เคยแต่งงานกันครั้งหนึ่ง อีกทั้งยังคลอดลูก…”

“พอแล้ว!” มู่ต้าซานตะโกนขึ้นอย่างโกรธเกรี้ยว “ไม่ต้องพูดแล้ว”

ถงซื่อขมวดคิ้ว ไม่สนใจหนิวเหมยที่แสดงสีหน้าดูไม่ได้และมู่ต้าซานที่อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี

ท่านหมอจูมองมู่ต้าซานแล้วเอ่ยเสียงเรียบ “หากเป็นบุรุษก็ไม่ควรรบกวนชีวิตของนาง นางไม่เคยติดค้างสิ่งใดกับครอบครัวพวกเจ้า ในทางกลับกันครอบครัวพวกเจ้าต่างหากที่ติดค้างนาง นางไม่ทวงหนี้ก็ดีเพียงใดแล้ว”

“ข้าไม่ได้…” มู่ต้าซานก้มหัวลง “เมื่อไหร่แผลของข้าจะหายดีขอรับ?”

“บาดเจ็บกล้ามเนื้อและกระดูกยังใช้เวลาร้อยวันรักษา สะโพกของเจ้าบาดเจ็บ จะง่ายดายเพียงนั้นได้อย่างไรกัน? ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้เจ้าดีขึ้นแล้ว เจ้าก็ทำงานนี้ไม่ได้” ท่านหมอจูเอ่ย

คนที่ได้รับบาดเจ็บเหล่านั้นยังคงเรียกร้องการรับผิดชอบจากมู่ต้าซาน สร้างความวุ่นวายโกลาหลจนกระทบไปถึงการลงทะเบียนของคนอื่น ๆ

เวินเหวินซงรู้สึกราวกับหัวจะระเบิด

ท่านหมอจูทำเพียงตรวจดูอาการและทำแผลให้คนเหล่านั้น จากนั้นเขาจึงจูงถงซื่อจากไป

หนึ่งในคนเหล่านั้นมีคนหนึ่งผลักหนิวเหมย นางทำท่าจะล้มลงไปบนร่างของถงซื่อ

ทว่าท่านหมอจูขวางหนิวเหมยไว้และกันถงซื่อไปข้างหลัง เขาเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา “พวกเจ้าก่อปัญหาพอแล้วหรือยัง? ฮูหยินของข้ากำลังตั้งครรภ์ หากทำร้ายนางแม้เพียงปลายผม ข้าจะทำให้พวกเจ้าได้รู้ซึ้งอย่างแน่นอน”

“เอาล่ะ ๆ” นักการเข้ามารักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย

“ใต้เท้า พวกเราถูกพวกเขาทำร้ายแล้ว…”

“ใช่ เขาต้องรับผิดชอบ”

หนิวเหมยร้องไห้ออกมา “พวกเราไม่มีเงินจริง ๆ”

“เอาล่ะ ไม่ต้องเถียงกันแล้ว” เวินเหวินซงเอ่ยขึ้น “พวกเจ้าเพียงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย พักฟื้นสามถึงห้าวันก็หายดี ไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต เอาอย่างนี้ ให้เขาจ่ายค่าตรวจอาการกับค่ายาพวกเจ้าก็แล้วกัน”

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย
Status: Ongoing
อ่านนิยายสาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้ายเรื่องย่อ: 'มู่ซืออวี่ทะลุมิติมาเลี้ยงลูกตัวร้ายแบบนี้ เห็นทีจะต้องร้ายตามบทถึงจะมีชีวิตรอด แต่ลูกชายคนโตของนางกลับจับผิดได้ตั้งแต่วันแรก หากไม่อยู่ในบทเดิม เกรงว่าผู้คนจะคิดว่าวิญญาณสิงสู่ ชีวิตน้อยๆ ก็อาจจะรักษาเอาไว้ไม่ได้ มู่ซืออวี่จึงต้องเริ่มภารกิจแกล้งร้ายให้ครอบครัวตัวร้ายตายใจ จะว่าไป ลูกน้อยของนางก็ช่างน่ารักเสียนี่กระไร ใครจะไปใจร้ายใส่เด็กสองคนนี้ลง มู่ซืออวี่ตัดสินใจแล้วว่า ใครที่กล้าแกล้งวายร้ายตัวน้อยของนาง จะต้องโดนสั่งสอนเสียให้เข็ด!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset