สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 414 ผลประโยชน์ของผู้ใด

บทที่ 414 ผลประโยชน์ของผู้ใด

บทที่ 414 ผลประโยชน์ของผู้ใด

ในศาลา ชายหนุ่มผู้หนึ่งกำลังปักปิ่นสีทองเข้าไปในผมของหญิงสาว หลังขับขานบทกวีให้นางฟัง เขาก็ยกย่องความงดงาม และท่าทางขี้อายของหญิงสาวที่กำลังมองตนด้วยความเสน่หา

ทั้งสองดูเหมือนชู้ชิดสนิทกาย หากไม่รู้ก็คงคิดว่าทั้งสองเป็นคู่รักที่ยังไม่ได้แต่งกัน แต่ว่า…

มู่ซืออวี่หันไปมองฉู่หนิงจูข้างกาย

ใบหน้าสง่างามของฉู่หนิงจูสงบนิ่งไม่เปลี่ยนแปลง แต่สาวใช้ที่อยู่ข้างหลังนางโกรธจัด

“คุณหนู จวินอ๋องทำเกินไปแล้วเจ้าค่ะ ท่านมีสัญญาหมั้นหมายกับเขา แต่เขายังไปยุ่งกับคุณหนูรองอีก เดิมทีความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับคุณหนูรองก็ไม่ค่อยดีนักอยู่แล้ว ตอนนี้นางยังจะมุ่งเป้ามาที่ท่านตลอดเวลาอีก ทำเหมือนท่านเป็นฝ่ายแย่งชิงการแต่งงานของนางไปได้”

“จวินอ๋องเป็นหนุ่มจอมเจ้าชู้ที่รู้จักกันดีในเมืองหลวง ต่อให้จะไม่ใช่นางก็ยังมีคนอื่นอีก หากฉลาดพอก็จะมองทะลุแผนการของเขาได้อย่างรวดเร็ว ในเมื่อนางเลือกทำตัวโง่เขลา แล้วข้าจะบ่นอะไรได้เล่า?”

หลังจากที่ฉู่หนิงจูพูดจบ นางก็มองไปที่มู่ซืออวี่ด้วยสีหน้าลำบากใจ

“พี่สาว ข้าอยากพาท่านออกมาเดินคุยสูดอากาศบริสุทธิ์ แต่กลับทำให้ท่านต้องมาเห็นเรื่องอื้อฉาวเหล่านี้ แต่พี่สาวไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา คงจะเข้าใจว่าพวกเราไม่มีทางเลือก”

“เจ้าบอกว่าพาข้ามาชมดอกไม้ ข้าก็จะมองแค่ทิวทัศน์ฤดูใบไม้ผลิในสวน หามองเห็นสิ่งอื่นใดไม่” มู่ซืออวี่พูด “ร่างกายของเจ้าทนได้หรือเปล่า เมื่อครู่นี้ข้าเห็นทะเลสาบอยู่ตรงนั้น มีศาลาอยู่ข้างทะเลสาบด้วย เจ้าอยากไปนั่งตรงนั้นสักครู่หรือไม่?”

“ดีเจ้าค่ะ”

จวนฉู่กั๋วกงใหญ่โต จึงเห็นคนรับใช้มากมายตลอดทาง แน่นอนว่าที่ที่มีผู้คนย่อมมีข้อพิพาท ทำให้ได้เห็นกลอุบายทุกประเภทภายในช่วงเวลาสั้น ๆ

ฉู่หนิงจูได้ช่วยชีวิตสาวใช้ที่ถูกตบจนหน้าบวมเป็นหัวหมู คนที่ถูกเจ้านายใส่ร้ายว่าขโมยของ คนสวนที่เผลอตัดดอกกล้วยไม้โปรดของฮูหยินรองจนเกือบจะถูกตัดมือทิ้งไว้

ในศาลา ฉู่หนิงจูเชิญมู่ซืออวี่กินของว่างและชาหอมกรุ่น นางไม่ได้พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

มู่ซืออวี่พูดคุยกับอีกฝ่ายเรื่องการเปลี่ยนแปลงล่าสุดในเมืองฮู่เป่ย ความเศร้าของฉู่หนิงจูค่อย ๆ หายไป แม้แต่สาวใช้ที่อยู่ข้างหลังนางก็เริ่มสนใจเมืองฮู่เป่ยขึ้นมา

“ข้ามีช่วงเวลาที่ดีมากในเมืองฮู่เป่ย” ใบหน้าของฉู่หนิงจูเต็มไปด้วยความสุข “แต่พี่สาว หากท่านมาที่เมืองหลวง แล้วทุกอย่างในเมืองฮู่เป่ยเล่า พวกท่านจะล้มเลิกหรือ?”

“กิจการยังคงต้องดำเนินต่อไป ลานหรรษาทำให้เราสูญเสียกำลังและเงินทุนไปมาก จึงล้มเลิกเช่นนั้นไม่ได้แน่นอน ข้าวางแผนจะมอบทุกอย่างให้ซูอวี้ดูแล” มู่ซืออวี่กล่าว “สำหรับตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มการค้า ข้าคิดว่าคนตระกูลฉินเหมาะสมกว่า เราจะจัดการประชุมเพื่อหารือเรื่องนี้ หากไม่มีข้อผิดพลาดใด ข้าจะมอบตำแหน่งให้ครอบครัวของนายน้อยฉิน”

“คุณหนู คุณหนูซูมาแล้วเจ้าค่ะ”

สาวใช้เข้ามารายงานฉู่หนิงจู

ฉู่หนิงจูยิ้มแล้วบอกว่า “ให้นางเข้ามา”

“ในเมื่อเจ้ามีแขก…”

“พี่สาวนั่งลงเถิด” ฉู่หนิงจูพูดเบา ๆ “ซูจือหลิ่วเป็นน้องสาวคนสนิทของข้ามาหลายปี นางเป็นผู้หญิงที่ตรงไปตรงมาและรักอิสระ หากท่านได้รู้จักนางจะต้องถูกใจเป็นแน่”

คนรับใช้พาเด็กสาวที่แต่งตัวเรียบง่ายเข้ามา

เด็กสาวแต่งตัวด้วยชุดที่ใส่ได้ทั้งชายและหญิง มีแส้นุ่ม ๆ พันอยู่รอบเอวของนาง ผมถูกมัดไว้เป็นหางม้าสูง แววตาเต็มไปด้วยความกล้าหาญ ท่าทางร่าเริงแจ่มใสไม่น้อย

“ได้ยินมาว่าเจ้าไม่สบาย เจ้าหายดีแล้วหรือ?” ซูจือหลิ่วเดินเข้ามาในศาลา แล้วโยนขวดไปให้ฉู่หนิงจู “นี่เป็นยาที่ข้าได้รับมาจากปู่ของข้า ว่ากันว่ามันมีผลมหัศจรรย์ในการรักษาโรคหวัด เจ้าลองดูสิ”

“ข้าไม่ได้เป็นโรคหวัด ยานี้ไม่มีประโยชน์สำหรับข้า แต่ก็ขอบคุณ ข้าจะเก็บไว้ก่อน เผื่อเอาไว้ใช้ในภายหลัง” ฉู่หนิงจูกล่าว “ให้ข้าแนะนำเจ้า นี่คือพี่มู่ที่ข้ามักพูดถึง ฮูหยินของใต้เท้าลู่ผู้เป็นนายอำเภอของเมืองฮู่เป่ย”

ซูจือหลิ่วมองมู่ซืออวี่ “ท่านคือเจ้าแห่งการค้าจากเมืองฮู่เป่ยหรือ?”

“หนิงจูแนะนำข้าเช่นนั้นหรือ?” มู่ซืออวี่หัวเราะเบา ๆ “ไม่อาจเรียกว่าเจ้าแห่งการค้าได้หรอก แค่ชอบหาเงินและใช้สมองคิดเรื่องเงินเท่านั้น”

“หนิงจูบอกว่าลานหรรษาที่ท่านสร้างนั้นน่าสนใจนัก แม้ว่าข้าจะยังไม่เคยเห็น แต่เพียงแค่ฟังนางเล่าก็รู้สึกสนุกจริง ๆ ครั้งต่อไปที่ข้าผ่านเมืองฮู่เป่ย ข้าจะต้องไปสัมผัสให้ได้เจ้าค่ะ”

“ได้เลย ข้าจะให้ตั๋วสมาชิกพร้อมส่วนลดครึ่งราคาแก่เจ้า” มู่ซืออวี่กล่าว

“ไม่ต้องหรอกเจ้าค่ะ ข้าไม่ได้ขาดแคลนเงิน” ซูจือหลิ่วโบกมือไปมาราวกับว่าเงินเล็กน้อยเช่นนั้นไม่มีความหมายอะไรกับข้าหรอก

“มีเครื่องเล่นห้าสิบชนิดในลานหรรษา แม้ว่าครึ่งหนึ่งจะเป็นของเด็ก แต่อีกครึ่งหนึ่งที่เหลือก็เพียงพอให้เจ้าเล่นได้ อีกทั้งยังมีของอร่อยมากมายที่นั่นให้ลิ้มลอง”

“ส่วนลดครึ่งราคานี้จะช่วยประหยัดเงินได้มาก แน่นอนว่าประโยชน์ที่สำคัญที่สุดของตั๋วสมาชิกไม่ใช่เพื่อเรื่องนี้ แต่เป็นช่องทางการต่อแถวแบบพิเศษ ถ้ามีตั๋วสามารถประหยัดเวลาในการต่อแถวได้มากเชียวล่ะ” ฉู่หนิงจูอธิบายเรื่องลานหรรษาให้ซูจือหลิ่วฟังอย่างละเอียด

“ช่องทางพิเศษช่างน่าสนใจ” ซูจือหลิ่วลูบคางตัวเอง “นำมาใช้กับกิจการอื่นได้”

“ร้านค้าของเจ้ากำลังขาดทุนมาก เจ้าขายไปไม่ดีกว่าหรือ?” ฉู่หนิงจูล้อเล่น

“นั่นคือร้านสินสอดทองหมั้นที่แม่ของข้าทิ้งไว้ให้ ต่อให้จะขาดทุน ข้าก็ไม่อาจขายมันได้” ซูจือหลิ่วพ่นลมหายใจ

“มีเจ้าแห่งการค้าอยู่ตรงนี้ทั้งคน เหตุใดเจ้าไม่ถามวิธีชุบชีวิตคนตายจากพี่ซืออวี่เล่า”

“ร้านนั้นขายอะไร?” มู่ซืออวี่ถาม “ไม่ว่าเจ้าจะทำธุรกิจประเภทใด คุณภาพของสินค้าต้องมาก่อน ตามด้วยทักษะทางการค้า”

“ข้ามีสวนผลไม้ที่บ้านและร้านขายผลไม้”

“ผลไม้เป็นของหายาก นอกจากคนรวยแล้ว คนธรรมดาอาจไม่มีปัญญาซื้อ หากนำผลไม้ไปทำเป็นผลไม้แห้งหรือผลไม้เชื่อม ก็ใช้เป็นอาหารว่างประจำวันได้”

“ทำผลไม้แห้งด้วย แต่ก็ไม่ได้ผล รสชาติมันไม่หวานฉ่ำเหมือนผลไม้สด”

“มันขึ้นอยู่กับวิธีการทำ ข้าจะเขียนสูตรให้เจ้าสองสามสูตร เจ้าสามารถนำไปลองทำตาม หากรสชาติดีก็ลองขายดู”

เมื่อพูดถึงอาหารอร่อย ทุกคนก็สนใจ จากนั้นจึงตรงไปที่ครัวเพื่อทำมันฝรั่งทอด

เมื่อมู่ซืออวี่ทำมันฝรั่งทอดชิ้นแรกเสร็จ ก็ได้รับคำชมจากฉู่หนิงจูและซูจือหลิ่วมากมาย นางจึงพูดถึงสิ่งอื่น ๆ ที่สามารถนำมาปรุงกับมันฝรั่งทอดเหล่านี้ได้อย่างเช่น กุ้ง

ซูจือหลิ่วมีความกระตือรือร้น นางจัดแจงให้คนรับใช้ไปซื้อวัตถุดิบอื่น ๆ มาทันที

วันนั้นพวกนางกินมันฝรั่งทอดทุกชนิดจนรู้สึกเลี่ยน มู่ซืออวี่จึงคั้นน้ำผลไม้แสนอร่อยเพื่อแก้เลี่ยน จากนั้นพวกนางจึงรู้สึกสบายขึ้น

เมื่อถึงเวลาที่ต้องแยกย้าย ซูจือหลิ่วและมู่ซืออวี่ก็สนิทสนมกันแล้ว พวกนางได้นัดกันไปเที่ยวในครั้งต่อไปเสร็จสรรพ

มู่ซืออวี่ชอบนิสัยของซูจือหลิ่ว จึงยินดีที่จะเป็นเพื่อนกับนาง

“ตระกูลของจือหลิ่วเป็นขุนพล ไม่เหมือนตระกูลของข้าที่ได้บารมีจากบรรพบุรุษ ครอบครัวของนางมีอำนาจมาก แต่นิสัยของนางเป็นเช่นนี้มาโดยตลอด ทำให้หญิงสาวคนอื่น ๆ ไม่ชอบท่าทางของนาง มีคนไม่กี่คนที่เป็นเพื่อนที่ดีกับนาง พี่สาวสามารถทำให้นางพึงพอใจได้ หากมีปัญหาใด ๆ ท่านก็สามารถขอความช่วยเหลือจากนางได้ อีกทั้งนางยังเป็นคนที่มีชื่อเสียงมากในเมืองหลวง แม้แต่องค์หญิงก็ยังต้องไว้หน้านาง”

“หนิงจู ขอบคุณนะ” มู่ซืออวี่เข้าใจความเมตตาของฉู่หนิงจู นางช่วยให้เพื่อนและมู่ซื่ออวี่ได้สานสัมพันธ์กัน “เมื่อเจ้าหายดีแล้ว ข้าจะทำอาหารที่เจ้าชอบให้กิน เอาไว้เจ้ามาเยือนบ้านของพวกเรานะ”

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย
Status: Ongoing
อ่านนิยายสาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้ายเรื่องย่อ: 'มู่ซืออวี่ทะลุมิติมาเลี้ยงลูกตัวร้ายแบบนี้ เห็นทีจะต้องร้ายตามบทถึงจะมีชีวิตรอด แต่ลูกชายคนโตของนางกลับจับผิดได้ตั้งแต่วันแรก หากไม่อยู่ในบทเดิม เกรงว่าผู้คนจะคิดว่าวิญญาณสิงสู่ ชีวิตน้อยๆ ก็อาจจะรักษาเอาไว้ไม่ได้ มู่ซืออวี่จึงต้องเริ่มภารกิจแกล้งร้ายให้ครอบครัวตัวร้ายตายใจ จะว่าไป ลูกน้อยของนางก็ช่างน่ารักเสียนี่กระไร ใครจะไปใจร้ายใส่เด็กสองคนนี้ลง มู่ซืออวี่ตัดสินใจแล้วว่า ใครที่กล้าแกล้งวายร้ายตัวน้อยของนาง จะต้องโดนสั่งสอนเสียให้เข็ด!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset