สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 439 สาวใช้ตัวแสบ343

ตอนที่ 439 สาวใช้ตัวแสบ343
“ฉันรู้ ฉันจะคิดหาวิธีการ พอได้แล้ว พวกเราเข้าไปในบ้านเถอะ พวกคุณนายมาแล้ว พวกเราอยู่ด้านนอกนานอย่างนี้ ไม่ค่อยดีนะ”
“อืม! ” จิ่วจิ่วตอบ ควงแขนเซี่ยชีหรั่น จากสวนดอกไม้ไปถึงประตูบ้าน อารมณ์ของจิ่วจิ่วก็แจ่มใสขึ้นมาอีกครั้ง
เธอหันกลับมาพูดยิ้มๆว่า : “ชีหรั่น คุณอย่าคิดโทษตัวเองเด็ดขาด คิดว่าฉันชอบเชอเฮ่าฉันทุกข์มาก ที่จริงฉันกำลังใช้อารมณ์ไล่ตามดวงดาว แค่ฉันคิดถึงเขาในใจก็มีความสุข ฮ่าๆ คุณไม่เข้าใจ แอบรักคือสิ่งที่สวยงามนะ! ”
ความร่าเริงของเธอและความเอาใจใส่ทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกซาบซึ้งใจ ยืนมือไปบีบใบหน้ารูปไข่ของจิ่วจิ่วแล้วพูดว่า : “คุณอา เป็นเด็กผู้หญิงที่จิตใจงดงามมากที่สุดที่ฉันเคยเห็นมาเลยจริงๆ วางใจเถอะ ถึงแม้ไม่ใช่เขา ก็ต้องเป็นคนอื่น ”
“แน่นอน ฉันเป็นเจ้าหญิงจิ่วจิ่ว ก็ต้องเจอเจ้าชายอยู่แล้ว! ” ใบหน้าของจิ่วจิ่วเผยให้เห็นลักยิ้มออกมา ทำให้ใจของเซี่ยชีหรั่นสงบลงมากขึ้น
ประตูห้องรับแขกถูกเปิดออก เมื่อตอนที่เซี่ยชีหรั่นเดินเข้าไป ฝู้เฟิ่งหยีก็เรียกขึ้นมา : “ชีหรั่น เข้ามาคุยกับพวกเราเถอะ ”
เซี่ยชีหรั่นเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยพูด เธอเรียกเซี่ยชีหรั่นให้ไปคุยด้วยกัน ก็รู้ว่าเธอเป็นคนรับผิดชอบในหน้าที่อย่างมาก ในเมื่อเธอกำลังจะกลายเป็นสะใภ้ของตระกูลเย่ เธอก็หวังว่าเซี่ยชีหรั่นจะสามารถเข้ากับกลุ่มนี้ได้
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้ายิ้มๆ เรื่องโม่เสี่ยวจุน เธอไม่สามารถไปคิดหาวิธีทางติดต่อไห่ลี่หมินได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้ก็คือทำให้ทุกคนมีความสุข
ฝู้เฟิ่งหยีเรียกเซี่ยชีหรั่นอย่างนี่ คุณนายไห่รู้โดยทันทีว่า ฐานะของเธอในตอนนี้คือแฟนของเย่เชินหลินอย่างเป็นทางการแล้ว
งานวันเกิดพ่อของส้งหลิงหลิง เพราะว่าพ่อของไห่ลี่หมินไปเยี่ยมลูกชายที่เมืองหลินเจียง จึงไม่ได้มาร่วมงาน แต่ว่าพวกเขาได้ยินเรื่องที่เย่เชินหลินปฏิเสธการแต่งงานแล้ว ตอนนั้นคุณนายไห่ก็รู้ว่า การปฏิเสธการแต่งงานในครั้งนี้ต้องมีเด็กผู้หญิงแซ่เซี่ยเกี่ยวข้องด้วยแน่นอน ในวันนั้นจิตใจลูกชายเขาก็ไม่สงบนิ่ง ทั้งที่เห็นว่ายุ่งแม้แต่เวลากินข้าวอยู่ก็จะจัดการเรื่องเอกสารราชการ แต่กลับวางทุกอย่างกลับมณฑลตงเจียง
เธอเป็นแม่ เห็นอย่างนี้ก็รีบร้อนใจ พาเขาไปหาคู่ทุกครั้ง ก็ไม่ชอบสักครั้ง เธอนอกจากจะรีบร้อนแล้ว ก็เหมือนจะเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้เลย
ช่วงเวลานี้ เธอมองฉิงฉิงลูกสาวของเธอก็เหมือนจะมีอะไรแปลกๆ อย่างกับกำลังคบใครอยู่อย่างนั้น หลังจากที่เธอพูดกับไห่ลี่หมินแล้ว ไม่กี่วันนี้ยิ่งแปลกกว่าเดิม ไห่ฉิงฉิงเหมือนไม่มีกระจิตกระใจ ออกไปด้านนอกทุกวัน ไม่รู้ออกไปทำไม
เธอหวังว่าลูกสาวของเธอจะเก็บใจไว้หน่อย และคบกับเย่จื่อห้านดีๆ วัยรุ่นคนนี้ถึงเธอจะเพิ่งรู้จักไม่นาน แต่ก็มีความประทับใจมาก
เขาไม่หยิ่งยโสไม่ใจร้อน นิสัยอ่อนโยน ไม่เหมือนผู้ชายคนอื่นที่ชอบชื่อเสียงและเงินทอง สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ไอ้เด็กวัยรุ่นคนนี้ก็สนใจในตัวลูกสาวเธอ
หลังจากที่จิ่วจิ่วเดินเข้าประตูมา ก็ไปนั่งข้างๆฝู้เฟิ่งหยี เธอไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าเมื่อทุกคนพูดมา เธอก็ล้วนยิ้มตอบกลับไป
เย่เชินหลินดูไม่ออกว่าเป็นคนที่กำลังป่วยอยู่ ประมาณว่าก็ไม่อยากให้แม่เป็นกังวล ถึงแม้ในสวนดอกทั้งสองคนจะอารมณ์ไม่ค่อยดี แต่เขาก็ไม่แสดงออกมาแม้แต่น้อย
หัวข้อที่สำคัญของฝู้เฟิ่งหยีและคุณนายไห่สองคนนี้ก็คือ พูดอ้อมให้เหยนชิงเหยียนและไห่ฉิงฉิงพัฒนาความสัมพันธ์ เซี่ยชีหรั่นฟังการพูดแนะนำให้เข้าหากันของทั้งสองคนออก
ดูเหมือนว่าพวกท่านยังไม่รู้ว่าในใจของไห่ฉิงฉิงได้ตกหลุมรักโม่เสี่ยวจุนไปแล้ว ถ้ารู้แล้ว คิดว่าตระกูลไห่คงอยู่ไม่สุขแน่ๆมั้ง
คำพูดของเย่เชินหลินก็มีแฝงเรื่องความเหมาะสมของพวกเขาอยู่ เซี่ยชีหรั่นเข้าใจว่าเขาหวังว่าไห่ฉิงฉิงจะแต่งงานกับเหยนชิงเหยียน ได้แต่งเข้าตระกูลเย่จริงๆ
เธอรู้สึกแปลกแปลกขึ้นมา ถ้าสิ่งที่เธอคาดเดาไว้แต่ก่อนเป็นเรื่องจริง ถ้าโม่เสี่ยวจุนเป็นน้องชายของเย่เชินหลินก็คงจะดี ถ้าเขาเป็นน้องชายของเขา เขาก็คงจะไม่ควบคุมอิสระของเขาอย่างแน่นอน ไม่แน่ว่าเขาอาจจะเป็นเหมือนตอนนี้ แนะนำให้เขาและไห่ฉิงฉิงเข้าหากันก็ได้นะ
แต่ว่าเธอรู้สึกว่าความคิดของเธออันนี้เห็นแก่ตัวมากเกินไป ก็เหมือนกับทำลายความรู้สึกของเย่จื่อห้านปะ
เหยนชิงเหยียนและไห่ฉิงฉิงกินข้าวเที่ยงด้วยกัน ตอนกินข้าวเซี่ยชีหรั่นนั่งข้างไห่ฉิงฉิงพอดี เธอพูดขอเบอร์โทรศัพท์เธออย่างเสียงเบา
ตอนที่เธอพูดเสียงเบาขอเบอร์โทรศัพท์เธออยู่นั้น เธอมองเห็นสายตาที่เย็นชาของเย่เชินหลินส่งมา
เพื่อโม่เสี่ยวจุนเซี่ยชีหรั่นเธอถึงอยากได้เบอร์ของไห่ฉิงฉิง เธอกลัวว่าถ้าไห่ลี่หมินก็ไม่ยอมสัญญาที่จะปล่อยคนละก็ ใครเป็นคนผูกคนนั้นก็ต้องเป็นคนแก้ เกรงว่าเรื่องนี้ก็ต้องให้ไห่ฉิงฉิงออกหน้าซะแล้ว
ฝู้เฟิ่งหยีเป็นห่วงสุขภาพของลูกชาย ถึงแม้จะไม่เป็นไรมาก เธอก็ยังคงจะอยู่ที่บ้านพักตากอากาศนี้
ในการขอร้องของผู้เป็นแม่ทั้งสองคน เหยนชิงเหยียนก็พูดชวนไห่ฉิงฉิงไปดูหนังด้วยกัน ไห่ฉิงฉิงก็ไม่อยากเห็นแม่เสียใจไปมากกว่านี้ ดังนั้นก็เลยไปกับเขาแล้ว
เย่เชินหลินสั่งให้คนขับรถไปส่งคุณนายไห่ที่บ้านโดยเฉพาะ บ้านพักตากอากาศของตระกูลเย่กลับมาเงียบสงบเหมือนเดิมอีกครั้ง
ตอนเที่ยงเพราะว่าเย่เชินหลินท้องไส้ปั่นป่วน เลยยังไม่ได้กินอะไร ในใจของเซี่ยชีหรั่นรู้สึกเป็นห่วงอย่างมาก ทุกคนกลับหมดแล้ว เย่เชินหลินก็ไปปูผ้าปูที่นอนให้ห้องนอนแม่ก่อน ให้แม่นอนพักกลางวัน
ตอนที่เย่เชินหลินกลับห้องมา เซี่ยชีหรั่นรอเขาอยู่ในห้อง
ก็เหลือพวกเขาสองคนแล้ว สีหน้าของเย่เชินหลินเข้มขรึม มองไปที่เธอ ถามอย่างเย็นชาว่า : “มาทำอะไรที่นี่? หรือว่าอยากจะถามเรื่องโม่เสี่ยวจุน? ขอร้องไปก็ไม่มีประโยชน์ ”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหัว “ไม่ใช่ ฉันอยู่ที่นี่ เพราะอยากจะถามคุณว่าคุณอยากกินโจ๊กไหม? เสี่ยวหนงชอบกินโจ๊กที่ฉันทำที่สุด ฉันไปต้มโจ๊กก่อน คุณควรจะกินหน่อยนะ ตั้งแต่เมื่อคืนวานจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้กินอะไรเลย ”
ก็นับว่าเธอยังมีจิตใจรู้บาปบุญคุณโทษ เย่เชินหลินมองเธอนิ่งนิ่ง พูดมาประโยคหนึ่ง : “ไม่เอาแล้ว ผมก็ไม่ค่อยอยากกินอะไร ก็แค่หิวสองวัน แต่กลับดีขึ้นเร็วมาก ”
“งั้นก็ดี คุณรีบขึ้นไปนอนพักผ่อนบนเตียงเถอะ อยากกินตอนไหนก็เรียกฉัน ฉันกลับไปจัดการเรื่องแผนโครงการกิจกรรมก่อน ” เซี่ยชีหรั่นพูดเสียงเบาและอ่อนโยน
“ไปเถอะ ” แค่เธอไม่พูดถึงเรื่องโม่เสี่ยวจุน ท่าทางของเย่เชินหลินก็ไม่ได้แย่อะไร
เซี่ยชีหรั่นกลับไปที่ห้อง หยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมา โทรหาไห่ลี่หมิน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นสองครั้ง ไห่ลี่หมินก็รับทันที
“ชีหรั่น? ” เขาดูเหมือนจะตกใจมากที่เซี่ยชีหรั่นเป็นฝ่ายรุกโทรหาเขา น้ำเสียงนั้นมีความตกใจนิดหน่อย
“ฉันเอง ” เซี่ยชีหรั่นตั้งใจพูดเสียงเบา กลัวเย่เชินหลินได้ยินแล้วจะอารมณ์ไม่ดี
“โทรหาผม คงมีธุระใช่ไหม? ” ไห่ลี่หมินถามออกมาอย่างไม่กลัดกลุ้มใจ
ถึงแม้เขาจะหวังว่าเธอจะจำเขาคนนี้ได้ แต่ว่าเขาก็นับว่าเข้าใจเธอ ถ้าไม่มีธุระคงไม่โทรหาเขา
จะเป็นเรื่องอะไร หรือว่าเป็นเรื่องโม่เสี่ยวจุน?
ความคิดของเขาเพิ่งผ่านไป เซี่ยชีหรั่นก็พูดจุดประสงค์ที่เธอโทรมาหาเขาทันที
“ฉันอยากถามคุณ ควบคุมโม่เสี่ยวจุนคุณได้ปรึกษาคุณเย่ใช่ไหม? คุณเป็นคนแนะนำให้ทำใช่ไหม? ”
เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ ไห่ลี่หมินยิ้มมุมปากอย่างกลัดกลุ้มใจ มองไปที่นอกหน้าต่าง สายตาเปลี่ยนมองไปที่แสนไกล
“เย่เชินหลินพูดยังไง? ” ไห่ลี่หมินถามย้อนกลับ เขาเป็นคนรอบคอบ ไม่อยากพูดไม่เหมือนเย่เชินหลิน
“เขาไม่ได้พูด แต่ว่าฉันคิดว่าความจริงควรจะเป็นเช่นนี้ วันนี้ฉิงฉิงมาแล้ว ถามฉันว่าโม่เสี่ยวจุนอยู่ที่ไหน เธอพูดความเป็นมาเป็นไปให้ฉันฟังหมดแล้ว ฉันเดาว่าพวกคุณไม่เห็นด้วยที่เขากับฉิงฉิงจะคบกัน ดังนั้นเลยคิดหาวิธีขัดขวางพวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกัน”
“ใช่ ชีหรั่นคุณฉลาดมาก สิ่งที่คุณพูดนั้นถูกทั้งหมด ” ไห่ลี่หมินยอมรับ เขาก็ไม่มีอะไรที่จะไม่ยอมรับ
“แต่ว่า ไม่มีวิธีอื่นแล้วจริงๆเหรอ? ขังเขาไว้อย่างนี้ หรือว่าจะขังเขาไปตลอดชีวิตเลยเหรอ? ”
“ใช่ ถ้ามันไม่ยอมก้มหัวให้ก็จะขังไปตลอดชีวิต ผมมีน้องสาวแค่คนเดียว ผมไม่ยอมให้มันมาเอาชนะน้องสาวผม ถ้ามันจริงใจจริงๆ ก็ไม่เป็นไร แต่มันใช้ทุกวิถีทางเพื่อเข้าใกล้ฉิงฉิง มันยอมรับแล้ว มันทำเพื่อจะให้เย่เชินหลินปล่อยเธอไป ” เซี่ยชีหรั่นไม่เคยได้ยินไห่ลี่หมินร้อนรนเท่านี้มาก่อน
เธอเข้าใจความคิดของเขา เรื่องที่โม่เสี่ยวจุนตามจีบไห่ฉิงฉิง จุดประสงค์ของตัวเขาเองก็ไม่ได้เผยความบริสุทธิ์ใจ
แต่ก่อนไห่ลี่หมินเคยถามเธอว่าจะเอาเงื่อนไขอะไร เย่เชินหลินถึงจะยอมปล่อย เธอไม่ยอมพูดอะไร ตอนนี้เพื่อที่จะช่วยโม่เสี่ยวจุน เธอพูดจนได้
“คุณไห่ ที่จริงยังมีอีกวิธีหนึ่ง เสี่ยวจุนเข้าใกล้ฉิงฉิง เพื่อที่ต้องการเงินสิบล้าน เงินสิบล้านเป็นสัญญาระหว่างฉันกับเย่เชินหลิน ถ้าฉันไม่อยากรักษากฎอยากจะได้อิสระ ก็ต้องให้เงินเขาสิบล้าน คุณว่าอย่างนี้ได้ไหม คุณก็พูดว่าคุณจะออกเงินสิบล้านให้เสี่ยวจุน ให้เขาวางมือ เงินนี้ ฉันจะคิดหาวิธีการมาคืนคุณเอง ”
แท้ที่จริงแล้วมูลค่าของเซี่ยชีหรั่นที่อยู่กับเย่เชินหลินคือสิบล้าน ไห่ลี่หมินเพิ่งจะรู้
เขาไม่พูดอะไรไปครู่ใหญ่ เซี่ยชีหรั่นเลยพูดอีกว่า : “ฉันเห็นว่าฉิงฉิงหลงใหลในโม่เสี่ยวจุนจริงๆ ฉันจะแนะนำเธอ บอกความจริงกับเธอเรื่องที่เสี่ยวจุนจีบเธอ ฉันคิดว่า ถึงแม้ว่าเธอจะเจ็บ แต่ก็ทำให้เห็นชัดเจนว่าเขาไม่มีความรู้สึกกับเธอจริงๆ เขาก็ไม่ไปหาเธออีก เธอเองก็น่าจะค่อยๆวางมือแล้วนะ ถ้าคุณกลัวว่าเสี่ยวจุนจะไม่วางมือ งั้นคุณช่วยพูดกล่อมคุณเย่ให้ฉันหน่อย ให้ฉันได้เจอเสี่ยวจุนสักครั้ง ฉันจะคิดหาวิธีการเปลี่ยนความคิดของเขาเอง ”
“คุณรอผมกลับมา! ” สุดท้ายไห่ลี่หมินก็พูดมาห้าคำ แล้วก็ตัดสายโทรศัพท์ไป
เซี่ยชีหรั่นไม่รู้ว่าตอนที่เขากลับมาสถานการณ์จะเป็นยังไง เรื่องนี้เป็นเรื่องของตระกูลไห่ ถ้าเขาเสนอความคิดเห็นแล้ว เย่เชินหลินก็น่าจะฟังเขาบ้างแหละ
ถ้าเย่เชินหลินรู้ว่าเธอโทรหาไห่ลี่หมินเป็นการส่วนตัวเพื่อช่วยโม่เสี่ยวจุน เขาต้องโทษเธอแน่นอน เธอก็ทำอะไรได้ไม่มากแล้ว
ยามพระอาทิตย์ตกดิน เมื่อตอนใกล้จะกินข้าวนั้น ไห่ลี่หมินมาถึงแล้ว อีกทั้งคนที่มาพร้อมเขาก็คือไห่ฉิงฉิง
ไห่ลี่หมินพูดในโทรศัพท์ว่าคนที่เธอตามหา เขารู้ว่าอยู่ที่ไหน เขาจะพาเธอไปหา
ไห่ฉิงฉิงกลับไม่ได้ไปดูหนังกับเหยนชิงเหยียน หลังจากที่ทั้งสองคนออกไปจากบ้านพักตากอากาศ เหยนชิงเหยียนก็พูดกับเธอว่า : “เพื่อที่จะให้พวกคุณแม่ดีใจ ผมดูออกว่าคุณไม่มีอารมณ์ดูหนัง พวกเราก็แยกจากกันตรงนี้เถอะ ผมจะกลับร้านของผม ถ้าคุณต้องการคนที่คุยแก้เซ็ง ก็สามารถหาผมได้ตลอดนะ ”
ไห่ฉิงฉิงซาบซึ้งต่อเย่จื่อห้านจริงๆ น่าเสียดายที่ในตาของเธอและในใจของเธอตอนนี้จุผู้ชายคนอื่นไม่ได้แล้ว ดังนั้นเธอได้แค่เพียงพูดกับเขาไปว่าขอบคุณ
ตอนไห่ลี่หมินโทรไป ไห่ฉิงฉิงกำลังคิดหาทุกวิถีทางเพื่อที่จะหาโม่เสี่ยวจุน เธอก็ไม่ยอมแพ้ที่จะไปดูที่ร้านเขาอีกครั้ง
“คุณเย่ คุณไห่กับคุณหนูไห่รออยู่ที่ประตูใหญ่ด้านนอกครับ ” พ่อบ้านเคาะประตูห้องของเย่เชินหลิน รายงานด้วยความเคารพนอบน้อม

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset