สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 436 สาวใช้ตัวแสบ340

ตอนที่ 436 สาวใช้ตัวแสบ340
“ขอโทษ หลิน ฉันไม่รู้ว่าท้องไส้ของคุณจะอ่อนไหวมากขนาดนี้ ฉันไม่ควรพาคุณไปกินหม้อไฟหมาล่า ฉันไม่ดีเอง! ” ดวงตาของเซี่ยชีหรั่นมีน้ำตาล้นออกมา ท่าทางที่เย็นชาของเย่เชินหลินก็หายไปทันที
เขาไม่คิดว่าแค่เขาท้องไส้ปั่นป่วนแค่นี้ จะทำให้ผู้หญิงตัวเล็กคนนี้เครียดจนร้องไห้
เขายืนมือมาลูบหัวของเธอ พูดอย่างอบอุ่นว่า : “อย่าโง่เลย นี้จะโทษคุณได้ยังไงกันละ เป็นผมเองที่กินเยอะไปหน่อย แค่ผู้ชายคนหนึ่ง ท้องไส้ปั่นป่วนก็แค่นั้น คุณไปนอน! ”
“แต่ว่าคุณปวดท้องอา คุณดูคุณ สีหน้าแย่ขนาดนี้ ” เซี่ยชีหรั่นเอามือไปลูบหน้าเขา ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยความเป็นห่วงและทุกข์ใจ
“เป็นคนก็มีเป็นโรคไม่สบายบ้าง ไม่เป็นอะไรจริงๆ เลิกจู้จี้จุกจิกได้แล้ว รีบไปนอน! ”
“ฉัน…… ” เซี่ยชีหรั่นอยากอยู่เป็นเพื่อนเขา ถึงแม้เธอจะช่วยอะไรไม่ได้ เธอก็ยังอยากจะอยู่เป็นเพื่อนเขา เหมือนอยากจะให้กำลังใจและปลอบใจเขาแค่นั้น
“อย่าให้ผมทั้งต้องวิ่งเข้าห้องน้ำ และทั้งต้องแบ่งความสนใจมาพูดกับคุณอีก! ถ้าไม่นอน ก็กลับห้องนอนของคุณไปซะ! ” เย่เชินหลินหน้าบึ้ง เซี่ยชีหรั่นทำได้แค่ปีนขึ้นไปนอนบนเตียง
เธอก็นอนไม่หลับ ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเปิดประตู เธอก็จะรู้สึกโทษตัวเองทุกครั้ง
เช้าวันต่อมา อาการของเย่เชินหลินค่อยๆดีขึ้นมานิดหนึ่ง แต่ก็ยังวิ่งเข้าห้องน้ำอยู่
ดีที่วันนี้เป็นวันเสาร์ เซี่ยชีหรั่นไม่ต้องทำงาน สามารถอยู่บ้านเป็นเพื่อนเขาอย่างสบายใจได้
อาหารเช้า เพื่อที่จะให้กำลังของร่างกายเซี่ยชีหรั่นก็กินไปนิดหน่อย แต่ก็ไม่รู้รสชาติอะไร
หลังจากผ่านความทุกข์ทรมานมาทั้งคืน และรวมกับการหยอดน้ำข้าวต้มของเมื่อคืนวานนี้กับวันนี้ ในที่สุดเย่เชินหลินก็ไม่มีแรง นอนอยู่บนเตียง ไม่อยากพูด เซี่ยชีหรั่นนั่งอยู่บนเตียงข้างเขา อยู่เป็นเพื่อนเขาอย่างนิ่งนิ่ง ไม่ถึงสิบโมงเช้า ได้ยินเสียงเคาะประตู เธอคิดว่าเป็นพ่อบ้านมา ก็เลยพูดไปว่า: “เชิญเข้ามา! ”
ประตูเปิดออก เธอไม่คิดว่าคนที่เดินเข้ามาจะเป็นฝู้เฟิ่งหยี ข้างเธอยังมีคุณนายไห่ ด้านหลังของพวกเธอก็คือไห่ฉิงฉิงและเหยนชิงเหยียน
“หลินลูก นี้ลูกเป็นอะไร? พ่อบ้านบอกว่าร่างกายลูกไม่สบาย? ตรงไหนไม่สบาย? ” หลังจากที่ฝู้เฟิ่งหยีถึงก็ถามพ่อบ้าน ทำไมไม่เห็นเย่เชินหลิน พ่อบ้านรายงานว่า เย่เชินหลินไม่สบาย พักผ่อนอยู่ที่ห้อง
“ไม่เป็นไร! พวกเขาพูดเว่อร์ไปเอง ” เย่เชินหลินพูดนิ่งนิ่ง รีบลุกขึ้นทักทายคุณนายไห่ : “คุณน้ามาด้วยเหรอ? แม่ แม่กับคุณน้าไปนั่งคุยที่ห้องรับแขกก่อน ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเดี๋ยวตามไป ”
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ” ฝู้เฟิ่งหยีขมวดคิ้ว
สำหรับทุกคนที่เป็นแม่ ลูกไม่สบายเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใด ฝู้เฟิ่งหยีเป็นคนนิสัยรีบร้อนอยู่แล้ว
เซี่ยชีหรั่นมองความเป็นห่วงของฝู้เฟิ่งหยีออก เดินไปด้านหน้าหนึ่งก้าว พูดเสียงเบาว่า : “ขอโทษนะคะ คุณผู้หญิง ฉันไม่ดีเอง เมื่อวานตอนเที่ยงฉันพาเขาไป……”
เย่เชินหลินไอกระแอมกระแอม เพื่อบอกใบ้เซี่ยชีหรั่นไม่ต้องพูด เธอเพิ่งได้รับการยอมรับจากคนในบ้านตระกูลเย่ แม่ของเขาก็เป็นคนมีความชอบธรรมเป็นอย่างมาก แต่ว่าเรื่องสุขภาพของลูกนั้น มีแม่น้อยคนหนักที่จะมีเหตุผล ถึงแม้ปากไม่โทษเธอ แต่ในใจก็ต้องคิดว่าพฤติกรรมของเธอคนนี้นั้นไม่เหมาะสม
“แม่ ฤดูใบไม้ร่วงอากาศเย็นแล้ว เมื่อคืนวานผมอาจจะถีบผ้าห่มออกแล้วถูกลมเย็นพัด เลยทำให้ท้องไส้ปั่นป่วน เป็นเรื่องเล็กนิดเดียวเอง”
ฝู้เฟิ่งหยีมองเขา และกวาดตาไปมองเซี่ยชีหรั่น รู้ว่าลูกมีเรื่องอะไรบางอย่างที่จงใจปกปิดแทนเซี่ยชีหรั่น
“ร่างกายสำคัญมาก หลังจากนี้ต้องดูแลให้ดี ชีหรั่น คุณออกมากับพวกเราหน่อย ” ฝู้เฟิ่งหยีพูดจบ ก็พูดกับเซี่ยชีหรั่นต่อ เย่เชินหลินขมวดคิ้ว ตะโกนขึ้นมา : “แม่! แม่เรียกเธอไปทำอะไร? เธอกำลังคุยกับผมอยู่นะ ”
ไอ้เด็กคนนี้ รู้จักปกป้องผู้หญิงตั้งแต่ตอนไหนกัน? เธออยากจะทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกไม่สบายใจตอนไหนกัน? เธอก็แค่อยากรู้รายละเอียดของเหตุการณ์
เซี่ยชีหรั่นมองออกว่าเย่เชินหลินอยากที่จะปกป้องเธอ เธอรู้สึกอบอุ่นใจ และซาบซึ้งมาก แต่ว่าร่างกายคือสิ่งที่พ่อแม่เป็นคนให้กำเนิด เธอทำลายลูกชายของบ้านเขา ควรได้รับผิดชอบ
“เชิญค่ะคุณผู้หญิง! ” เซี่ยชีหรั่นยิ้ม เดินตามฝู้เฟิ่งหยีออกไป
“พ่อบ้าน คุณพาคุณนายไห่ กับชิงเหยียน และฉิงฉิงไปนั่งก่อน ฉันจะคุยกับชีหรั่นเป็นการส่วนตัว ” หลังจากออกมาจากห้องฝู้เฟิ่งหยีก็สั่งพ่อบ้าน
“ครับ คุณผู้หญิง! ” หลังจากพ่อบ้านรับคำสั่งก็พาพวกเขาไปที่ห้องรับแขก ระเบียงทางเดินก็เหลือแค่ฝู้เฟิ่งหยีกับเซี่ยชีหรั่น
เซี่ยชีหรั่นมองฝู้เฟิ่งหยีอย่างละอายแก่ใจ พูดเสียงเบาว่า : “”ขอโทษนะคะคุณผู้หญิง เมื่อวานตอนเที่ยงฉันพาคุณเย่ไปกินหม้อไฟหมาล่า เขาก็เลยท้องไส้ปั่นป่วน เรื่องนี้ฉันไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง ทำลายร่างกายของเขา ขอโทษ!
เซี่ยชีหรั่นคิดว่าฝู้เฟิ่งหยีต้องโทษเธอแน่ๆ โดยทั่วไปแล้วคุณผู้หญิงบ้านคนมีเงินมักจะพูดด้วยยาก ถึงแม้เธอจะโทษเธอ เธอก็รู้สึกว่าสมควรแล้ว เธอเอาแต่ใจมากเกินไป คิดไม่เหมือนคนอื่น ถึงทำให้เย่เชินหลินทุกข์ทรมานอย่างนี้
ฝู้เฟิ่งหยีคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไรซะอีก ที่แท้ก็เรื่องแค่นี้ เธอหัวเราะอย่างเอ็นดู และตบไหล่ของเซี่ยชีหรั่นเบาๆ พูดเสียงเบาว่า : “ถ้าหลิงหลิงเรียกเขาออกไปกินหม้อไฟหมาล่า หนูคิดว่าเขาจะไปไหม? ถ้าเขาไม่ยอมไปกับหนู หนูก็ลากเขาไปไม่ได้ ไม่ต้องเอาเรื่องเล็กแค่นี้ไปทำให้ตัวเองทุกข์ใจ ฉันเห็นใจหนูที่ปฏิบัติต่อเขา ก็ดีใจมากๆ พวกหนูคบกันดีๆเถอะ ลูกหลินนิสัยไม่ค่อยดี ก็เป็นข้อบกพร่องที่ปลูกฝังมาจากการทะเลาะกับพ่อเขามาหลายปี ถ้าเขาทำให้หนูทุกข์ใจ หนูก็บอกฉันได้ อย่าเก็บไว้ในใจ ”
เซี่ยชีหรั่นมองแม่ของเย่เชินหลินอย่างตกใจ เธอคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเมตตาเธอมากขนาดนี้ ถ้าเปลี่ยนเป็นไป๋จงเจี๋ย ถ้าเธอไม่ด่าเธอให้ตายไปข้างหนึ่งถึงจะแปลก
แต่เธอกลับมาปลอบใจเธอซะเอง จนทำให้เธอไม่รู้จะตอบสนองยังไงต่อไปชั่วขณะ
น้ำตาที่ซาบซึ้งกลิ้งไปมาในดวงตา สุดท้ายเธอก็กลั้นใจไม่ให้ร้อง พูดเสียงเบาว่า : “ขอบคุณมากค่ะคุณผู้หญิง! ”
“ยังเรียกคุณผู้หญิงอะไร? เรียกป้าสิ! ป้ารอหนูแต่งเข้ามาบ้านตระกูลเย่อยู่นะ ” ฝู้เฟิ่งหยีจับมือของเซี่ยชีหรั่น พูดด้วยความเมตตา
“คุณป้า! ” เสียงของเซี่ยชีหรั่นมีความสั่นเครือนิดนิด ฝู้เฟิ่งหยีพยักหน้า “ดี มีหนูดูแลหลิน ฉันก็วางใจ ฉันไปคุยกับน้าหลี่ของหนูก่อน หนูไปห้องหลินเถอะ ”
เซี่ยชีหรั่นตอบรับกลับไป ฝู้เฟิ่งหยีก็เดินไปทางห้องรับแขก เธอยืนส่งเธอด้วยความเคารพอยู่ด้านหลังที่เดิม
รอจนฝู้เฟิ่งหยีเดินเข้าไปในห้องรับแขก เซี่ยชีหรั่นถึงหมุนตัวเดินกลับไปที่ห้องเย่เชินหลิน เพิ่งเดินถึงหน้าประตูก็ได้ยินเสียงคนเรียกเธอจากด้านหลัง : “ชีหรั่น รอก่อน ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณ! ”
เซี่ยชีหรั่นหันกลับไป ก็เห็นเงาร่างของผู้หญิงวิ่งมาทางเธอ กลับเป็นไห่ฉิงฉิง ลักษณะท่าทางของเธอนั้นร้อนรนวิตกกังวลมาก
เธอรู้สึกแปลกใจนิดหนึ่ง ไห่ฉิงฉิงจะมีเรื่องรีบร้อนอะไรจะคุยกับเธอนะ?
ไม่กี่วันมานี้ ก็ติดต่อโม่เสี่ยวจุนไม่ได้อีกเลย ตอนแรกไห่ฉิงฉิงรู้สึกโกรธมาก ในใจก็คิด ชั่งเถอะชั่งเถอะ ยังไงก็เป็นผู้ชายที่ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย ยังอยากจะรั้งเขาไว้ทำไม?
แต่ว่าผ่านไปหนึ่งสองวัน ความคิดของเธอก็เปลี่ยนไป เธออยากจะหาเขา พยายามหาเขาสุดชีวิต
เธอถึงกระทั่งให้คนไปตามหาเขา แต่ก็หาข้อมูลที่มีประโยชน์อะไรไม่ได้ รู้แค่ว่าเขาทำงานที่ตลาดดอกไม้และนก เจ้านายกับเพื่อนร่วมงานก็ล้วนพูดว่าเขาไม่ได้มาทำงานที่นี่หลายวันแล้ว
เธอคิดว่า เขาต้องหลบหน้าเธอแน่นอน
เธอย้อนกลับไปคิดถึงคืนนั้นเธอจะไปกินข้าวกับเหยนชิงเหยียน เขาพุ่งมาหน้าเธออย่างรุนแรง จูบเธออย่างบ้าระห่ำ และยังพูดอีกว่านับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเธอเป็นผู้หญิงของเขาคนเดียว ทุกครั้งที่คิดถึงตอนนั้น ใจของเธอก็เต้นผิดปกติ
เธอด่าเขา โทษเขา เกลียดเขา แต่ก็กลับลืมเขาไม่ได้
ดังนั้นเธอตัดสินใจว่าไม่ว่ายังไง เธอจะต้องพลิกแผ่นดินตามหาเขาให้เจอ เธอจะต้องถามเขาต่อหน้าให้ได้ ว่าทำไมต้องพูดกับเธออย่างนั้น และไม่เข้าใจสิ่งที่เขาทำ
หรือว่าไห่ฉิงฉิงอยากจะถูกใครหลอกก็ได้ อยากจะโบกมือบอกว่าไม่เอาแล้ว ก็ไม่เอาผู้หญิงคนนี้แล้วก็ได้เหรอ?
ตามหาเขาทุกที่แต่ก็ไม่พบ เขาเหมือนกับระเหยกลายเป็นไอไปแล้ว ไห่ฉิงฉิงคิดไปคิดมาก็มีแค่ต้องถามเซี่ยชีหรั่นว่าเขาอยู่ที่ไหน
แต่ว่าเซี่ยชีหรั่นคนนี้ถูกเย่เชินหลินเอามาไว้เป็นผู้หญิงที่บ้านพักตากอากาศ ถ้ามาหาเธอ จำเป็นต้องมีเหตุผล ทุกวันแม่เธอค่อยถามความสัมพันธ์ของเธอกับเหยนชิงเหยียนมีความคืบหน้าไหม เธอก็พูดไปว่าผู้ชายคนนั้นเขาไม่ได้นัดหนู หรือว่าต้องให้หนูนัดเขา?
เธอพูดคำนั้น ก็ทำให้คุณนายไห่รีบโทรหาฝู้เฟิ่งหยี บอกว่าให้เสี่ยวห้านของบ้านคุณเป็นฝ่ายรุกหน่อย
เหยนชิงเหยียนไม่รู้ความคิดของไห่ฉิงฉิง ครั้งที่แล้วเขามองออกว่าในจิตใจเธอไม่ได้อยู่ที่เขาเลย ดังนั้นก็เลยวางเรื่องนี้ไปแล้ว ครั้งนี้ไห่ฉิงฉิงพูดมาแบบนี้ เขาจะไม่เป็นฝ่ายรุกก็ไม่ได้ ดังนั้นก็เลยบอกกับแม่ว่า ไม่อย่างนั้นพวกเราก็ไปนัดพบกันที่บ้านพี่ชาย
เขามีความคิดของเขา เด็กผู้หญิงคนนั้นไม่มีความสนใจ เจอหน้ากันสองคนก็รู้สึกอึดอัด กลับกันถ้าคนเยอะ คุยเล่นกันเบี่ยงเบนความสนใจ บางที่เธออาจจะสบายใจมากขึ้น
ไห่ฉิงฉิงเดิมทีก็คิดหาวิธีที่จะมาที่บ้านเย่เชินหลินอยู่แล้ว อย่างนั้นก็สามารถถือโอกาสไปเจอเซี่ยชีหรั่นได้ คิดไม่ถึงว่าเหยนชิงเหยียนคิดที่เดียวกันกับเธอ เธอรีบตอบรับจะมากับเขาในทันที
ทุกคนเพิ่งจะนั่งลงที่ห้องรับแขก เธอก็พูดออกมา ว่าจะไปถามเซี่ยชีหรั่นว่ามีอะไรให้เธอช่วยไหม
เหยนชิงเหยียนก็รู้สึกได้เลยว่าที่ไห่ฉิงฉิงอยากจะเจอเขานั้นเป็นเรื่องไม่จริง มาถึงบ้านเพื่อหาเซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลินต่างหากที่เป็นความจริง
“ฉิงฉิง จะไปช่วยอะไร? มีแต่ก่อกวน เสี่ยวห้านอยู่นี้ เขาไม่ง่ายเลยที่จะมีเวลา ” คุณนายไห่พูดออกมา ทำให้เหยนชิงเหยียนยิ้มอย่างอบอุ่น พูดว่า : “ฉิงฉิงไปช่วยเป็นเรื่องที่ดีนะครับ คุณน้า คุณน้าให้เธอไปเถอะ ผมคุยเป็นเพื่อนคุณน้าเอง ”
ไห่ฉิงฉิงมองเหยนชิงเหยียนอย่างซาบซึ้งใจ ไม่หยุดอยู่กับที่ รีบออกมาหาเซี่ยชีหรั่น
“ฉิงฉิง มีเรื่องอะไร? พูดมาเถอะ! ” ไม่มีการพูดคุยกับฝู้เฟิ่งหยีแล้ว เซี่ยชีหรั่นไม่ก็ไม่เคอะเขิน ไม่ต้องเรียกไห่ฉิงฉิง คุณหนูไห่ แต่กลับเรียกเธอเลยว่าฉิงฉิง
เธอรู้ความสัมพันธ์ของไห่ฉิงฉิงกับเย่เชินหลินไม่ใช่แค่ผิวเผิน ก็เหมือนพี่ชายน้องสาว และก็เหมือนเพื่อน เรียกเธออย่างนี้ เธอเองก็สามารถรู้สึกว่าใกล้ชิดความสัมพันธ์กับเย่เชินหลินมากขึ้น
ไห่ฉิงฉิงทำท่าทุกข์ใจมองไปที่ประตู เซี่ยชีหรั่นรู้โดยทันที เจ้าเด็กคนนี้ ไม่อยากให้เย่เชินหลินได้ยิน?
“หรือว่าพวกเราจะเดินออกไปด้านนอก ไปสวนดอกไม้ดูดอกเบญจมาศ” เซี่ยชีหรั่นพูดเสียงเบา
ไห่ฉิงฉิงพยักหน้า เดินไปควงแขนเซี่ยชีหรั่น

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset