สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 463 สาวใช้ตัวแสบ367

ตอนที่ 463 สาวใช้ตัวแสบ367  
ฝู้เฟิ่งหยีตบมือคุณนายไห่เบาๆ แล้วพูดอย่างจริงจัง
ความจริงเธอก็ดูออกว่าเหยนชิงเหยียนมีใจให้ไห่ฉิงฉิง แต่เรื่องแบบนี้มันไม่สามารถบังคับกันได้
เมื่อก่อนเธอก็คิดว่าเย่เชินหลินกับส้งหลิงหลิงเป็นคู่ที่สวรรค์ประทานให้ ตอนนี้คนสองคนก็ต้องแยกจากกัน เธอต้องการจับคู่ให้ แต่มันไม่สำเร็จ เธอก็ต้องเปิดใจยอมรับ
“เสี่ยวห้าน คุณน้าต้องขอโทษด้วย เป็นเพราะคุณน้าเองที่ส่งเสริมให้คุณไปจีบฉิงฉิง คุณดูนี่……” คุณนายไห่มองเหยนชิงเหยียน อย่างละอายใจ
“คุณน้า ฉันชอบฉิงฉิง แต่ความชอบก็ไม่แน่นอนว่าจะขอแต่งงานเสมอไป เธอมีความสุขก็ดีแล้ว ฉันก็อวยพรเธอด้วย ถ้าวันไหนเธอไม่ชอบผู้ชายคนนั้นแล้ว เธอค่อยกลับมาหาฉัน ขอแค่ฉันยังไม่ได้มีคนรัก ไม่ได้แต่งงาน ฉันก็ยินดีจะอยู่กับเธอตลอดไป”
“หายากจริงๆ คุณน้าขอบใจคุณมาก” คุณนายไห่กล่าว ดวงตาค่อยๆเปียก
พวกเขาพูดถึงตรงนี้ ก็ได้ยินเสียงเท้า เงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นไห่ฉิงฉิงกับโม่เสี่ยวจุนจับมือ เดินจากชั้นสองลงมา
“คุณน้า ท่านมาแล้วเหรอ” ไห่ฉิงฉิงได้ยินเสียงมีแขกมาที่บ้าน แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นใคร ช่วงนี้เธอสุขภาพไม่ค่อยดี จึงนอนอยู่บนเตียงเป็นส่วนใหญ่
เพื่อออกมาต้อนรับแขก เธอจงใจให้โม่เสี่ยวจุนรอเธอที่หน้าประตู เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ใส่อยู่บ้าน เปลี่ยนเป็นกระโปรงที่มีสีสดใส แล้วหวีผมให้เรียบร้อยก่อนออกมา
“ฉิงฉิง แม่หนูบอกว่าหนูไม่สบาย ดีขึ้นหรือยัง” ฝู้เฟิ่งหยียืนขึ้น เดินไปหาไห่ฉิงฉิง
เธอไม่อยากให้คุณนายไห่รู้สึกว่าการแต่งงานไม่ประสบความสำเร็จและจะมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง
อีกอย่าง เพราะเธอก็ชอบเด็กคนนี้อยู่แล้ว
“คุณน้าท่านนั่งก่อน ฉันไม่เป็นอะไรมาก” ถึงแม้ไห่ฉิงฉิงจะพูดเช่นนี้ แต่ฝู้เฟิ่งหยีก็ยังเดินเข้าไปหาเธอ พวกเขาเผชิญหน้ากันที่บันได
“เสี่ยวจุน นี่เป็นคุณแม่ของพี่เชินหลิน” ไห่ฉิงฉิงแนะนำโม่เสี่ยวจุนกับฝู้เฟิ่งหยี หลังพูดกับฝู้เฟิ่งหยีว่า “คุณน้าหนูขอโทษ หนูหาแฟนด้วยตัวเองแล้วค่ะ เขาคือโม่เสี่ยวจุน”
โม่เสี่ยวจุน ฝู้เฟิ่งหยีตะลึง เด็กคนนี้ ไม่ใช่คนรักเก่าของเซี่ยชีหรั่นเหรอ
ไม่ใช่เพราะเขาเสียชีวิต เซี่ยชีหรั่นจึงจะแก้แค้นให้เขา เธอถึงได้มาที่ตระกูลเย่
นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ เขายังไม่ตาย
เธอเคยได้ยินเซี่ยชีหรั่นบอกว่าโม่เสี่ยวจุนคนนี้เป็นลูกชายของเธอ ตอนที่เธอเห็นรูปของโม่เสี่ยวจุน ก็มีความรู้สึกว่าเขาเป็นลูกชายของเธอเหมือนกัน
ตอนนี้เขายืนอยู่ต่อหน้าเธอ เธอก็มีความรู้สึกแปลก ๆ ในใจ

“เด็กน้อย คุณ…..คุณยังมีชีวิตอยู่” ฝู้เฟิ่งหยีไม่รู้ว่าทำไมถึงถามไปเช่นนั้น และมีความรู้สึกอยากจะลูบหน้าโม่เสี่ยวจุน

เป็นเพราะเธอเคยคิดว่าเขาเป็นลูกชายของเธอ เธอถึงมีความคิดแปลกๆเช่นนี้อีกครั้ง

โม่เสี่ยวจุนก็จ้องมองฝู้เฟิ่งหยีเช่นกัน นี่เป็นครั้งแรกที่เจอคนที่เซี่ยชีหรั่นบอกว่าเป็นแม่ของเขา เธอดูใจดีและเมตตา ดูอย่างไรก็ยังมีความรู้สึกว่าเธอเป็นแม่ที่แท้จริงของเขา

“แม่ครับ เขายังไม่ตาย เขาก็คือโม่เสี่ยวจุน ท่านก็เคยได้ยิน” เย่เชินหลินฟังออกว่าน้ำเสียงของแม่แปลกๆ รีบลุกขึ้นมาที่ข้างๆแม่ อธิบายกับแม่ด้วยเสียงเบาๆ

“สวัสดีคุณน้า” โม่เสี่ยวจุนเอื้อมมือที่สั่นไปหาฝู้เฟิ่งหยี เจอเธอ เขาหวังเป็นอย่างมากว่าคำพูดของเซี่ยชีหรั่นในเวลานั้นจะเป็นจริง

แต่หลังจากแวบหนึ่ง เขาก็ตื่นจากความรู้สึกของเขา เธอไม่ใช่แม่ของเขา ถึงแม้จะมีความคล้ายกัน แต่ก็ไม่ใช่

ผลการตรวจ DNA ก็วางอยู่ตรงนั้น และเขาก็ฟังไห่ฉิงฉิงพูดว่า ครอบครัวของเขาเจอลูกชายของพวกเขาแล้ว

“สวัสดี” ฝู้เฟิ่งหยีฟังที่เย่เชินหลินพูด แล้วก็มองเหยนชิงเหยียนที่นั่งอยู่บนโซฟา ลูกชายของคุณกลับมาแล้วนะ แต่ทำไมเมื่อเห็นโม่เสี่ยวจุนก็ยังมีความรู้สึกควบคุมตัวเองไม่ได้ นี่เป็นสิ่งที่ไม่สมควร แล้วเสี่ยวห้านจะรู้สึกอย่างไร

ทั้งสองจับมือกัน ไห่ฉิงฉิงก็ประคองฝู้เฟิ่งหยี “คุณน้า ถ้าไม่ได้เจอเสี่ยวจุน ฉันคิดว่าฉันน่าจะอยู่กับเย่จื่อห้าน เขาเป็นผู้ชายที่ดีมาก ขอโทษคุณน้าด้วยนะคะ เรื่องนี้ทำให้ท่านต้องเสียใจ”

“เด็กโง่ เสียใจอะไรกัน คุณน้าเห็นหนูกับเสี่ยวโม่ก็เหมาะสมกันดี ตั้งแต่แรกเห็นก็รู้สึกว่าเด็กคนนี้เป็นคนดี เรื่องพรหมลิขิตไม่สามารถฝืนได้ ไม่ว่าหนูจะตัดสินใจอย่างไร คุณน้าก็พร้อมสนับสนุนหนู อวยพรหนู” ฝู้เฟิ่งหยีตบมือไห่ฉิงฉิงเบาๆ ยิ้มอย่างรักและเมตตา

น้ำเสียงของเธอไพเราะมาก โม่เสี่ยวจุนรู้สึกแปลกๆหลังจากได้ฟัง ทำไมเสียงและรอยยิ้มนี้เหมือนแม่ในความฝันของเขา

โม่เสี่ยวจุน ฉันว่าคุณจะคิดถึงแม่นานเกินไป จนทำให้มีภาพลวงตา

เมื่อเขาหลงใหล ดวงตาเซี่ยชีหรั่นก็มองมา วินาทีที่ไม่มีสติ คงไม่มีใครเข้าใจเท่าเซี่ยชีหรั่นแล้ว

เธอรู้สึกผิด ถ้าในเวลานั้นเธอไม่นั่งยันยืนยันว่าเขาเป็นน้องชายของเย่เชินหลิน เขาคงจะไม่เศร้าเช่นนี้เมื่อมาเจอคุณแม่ของเย่เชินหลิน

ในขณะนี้สายตาของโม่เสี่ยวจุนก็มองไปที่ห้องรับแขก หลังจากสบตากับเซี่ยชีหรั่น หันไป เขาไม่ต้องการให้เย่เชินหลินเห็นพวกเขาส่งสายตาให้กัน เกรงว่าเมื่อเซี่ยชีหรั่นกลับไปแล้วรู้สึกลำบากใจ

“คุณน้า ท่านใจดีมาก ฉันพูดคุณแม่อยู่บ่อยๆว่า ท่านดีกับหนูมากกว่าคุณแม่เสียอีก” ไห่ฉิงฉิงเล่นหูเล่นตา แล้วพาฝู้เฟิ่งหยีกลับไปนั่งที่โซฟา

ขณะนี้ ไห่ฉิงฉิงก็ชงน้ำชาแล้วนำมาให้

ตระกูลไห่ไม่มีพี่เลี้ยง เพราะคุณปู่ไห่กับคุณยายไห่คุณยายไห่ไม่ชอบความรู้สึกที่มีคนนอกอยู่ในบ้าน ดังนั้นงานบ้านทุกอย่างคุณนายไห่จะเป็นคนทำเองทั้งหมด

ในเวลานี้เธอจะต้องพูดคุยกับแขก เรื่องชงชาก็เลยต้องมอบให้คุณพ่อไห่เป็นคนดูแล

หลังจากทุกคนนั่งลง ฝู้เฟิ่งหยีมองดูไห่ฉิงฉิงอย่างละเอียด รู้สึกว่าผอมลงนะ สีหน้าก็ไม่ค่อยดี

เมื่อผู้หญิงหลงใหลในความรัก ก็ไม่มีใครสามารถห้ามได้จริงๆ ฝู้เฟิ่งหยีนึกถึงตอนที่ตัวเองยังสาว รู้สึกว่าไห่ฉิงฉิงเหมือนเธอ เย่เฮ่าหรันในตอนนั้นถึงแม้จะเป็นคนซื่อตรงจริงใจเสียสละยุติธรรมเต็มไปด้วยความสามารถ แต่เสียดายเด็กเกินไป เมื่อเทียบกับตระกูลฝู้ เขาถือว่ายากจนและล้าหลังมาก

แน่นอนตระกูลฝู้ต้องไม่เห็นด้วยที่จะให้แต่งงานกับเย่เฮ่าหรัน เธอก็ใช้มาแล้วทุกวิธีแล้วเช่นกัน

เด็กหนุ่มคนนี้ ดูๆก็เหมือนเย่เฮ่าหรันในตอนนั้น เธอเห็นความทะเยอทะยานในดวงตาของเขา เหมือนแววตาของเย่เฮ่าหรันในตอนนั้น

สำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่รู้จริงๆว่ามันเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี

เซี่ยชีหรั่นเห็นไห่ฉิงฉิงดีขึ้นมากจากวันก่อน แม้แต่โม่เสี่ยวจุนสีหน้าสุขภาพก็ดูดีกว่าวันก่อนมาก

เธอเห็นเช่นนี้ ก็ถือว่าสบายใจแล้ว

เย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นนั่งอยู่ข้างๆ ไม่ค่อยพูดอะไรมาก นั่งฟังพวกเขาคุยกันเสียมากกว่า

แต่ก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย โดยเฉพาะฝู้เฟิ่งหยีกังวลเกี่ยวกับความรู้สึกของเหยนชิงเหยียน รู้สึกว่าให้เขาอยู่ในตระกูลไห่นานๆ มองดูไห่ฉิงฉิงกับโม่เสี่ยวจุนรักกันเช่นนั้น เกรงว่าเขาจะไม่สบายใจ

ทุกคนก็ไม่ได้อยู่นานเกินไป ฝู้เฟิ่งหยีก็พูดขึ้นว่ามันดึกแล้ว ต้องขอตัวกลับก่อน

ตอนที่ฝู้เฟิ่งหยีกลับไป โม่เสี่ยวจุนก็อดไม่ได้ที่จะแอบมองเธออีกครั้ง

เขาอยากจะคุณกับเธอให้มากกว่านี้ ถึงแม้จะรู้ว่าเธอไม่ใช่แม่ของเขา แต่ว่าพอได้ยินว่าเธอจะกลับแล้ว เขาก็รู้สึกใจหาย

เซี่ยชีหรั่นอยากจะหาโอกาสคุยกับโม่เสี่ยวจุนตามลำพัง บอกเขาว่า เธออาจจะได้พบแม่ของเธอแล้ว

เธอรู้ โม่เสี่ยวจุนจะไม่อิจฉาเธอ เขาจะยินดีกับเธออย่างจริงใจ หลายปีมานี้ พวกเขาทุกคนตั้งตารอคอยและอธิษฐานกันหวังจะได้เจอพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด

แต่เซี่ยชีหรั่นคิดๆแล้ว เรื่องที่ยังไม่ได้ยืนยัน เธอยังไม่พูดดีกว่า

อีกอย่างถ้าเธอกับโม่เสี่ยวจุนคุยกันส่วนตัว ไห่ฉิงฉิงกับเย่เชินหลินจะคิดอย่างไรหล่ะ

เธอรู้ว่าระหว่างพวกเธอนั้นไม่มีความสัมพันธ์แบบชายหญิงแล้ว แต่คนอื่นอาจไม่รู้

บางทีวันหนึ่งทุกคนสามารถเข้ากันได้เหมือนเป็นญาติ แต่นั่นก็ต้องใช้เวลา

“ไปกันเถอะ” เย่เชินหลินกอดเอวเซี่ยชีหรั่น ท่าทางนั้น แสดงความเป็นเจ้าของมาก

“เสี่ยวจุน พวกเราออกไปส่งพวกเขากันเถอะ แล้วก็ไปเดินเล่นข้างนอกด้วย ไม่ได้ออกบ้านมาหลายวันแล้ว” ไห่ฉิงฉิงยิ้มแล้วพูดกับโม่เสี่ยวจุน เขาส่ายหัว

“ไม่ได้ ดึกมากแล้ว ข้างนอกอากาศเย็น คุณเพิ่งจะหายเดี๋ยวก็เป็นหวัดอีก”

ถึงแม้จะเป็นประโยคธรรมดา เซี่ยชีหรั่นฟังแล้ว ก็รู้สึกปลื้มใจ

เสี่ยวจุน คุณเป็นคนพูดจริงทำจริง ดีกับฉิงฉิงจริงๆ ฉันหวังว่าความสัมพันธ์ของพวกคุณจะยิ่งอยู่ยิ่งดี ฉิงฉิงมีความสุข คุณก็มีความสุข

หลังจากเย่เชินหลินส่งคุณแม่กับเหยนชิงเหยียนกลับตระกูลเย่ จึงพาเซี่ยชีหรั่นกลับบ้าน

ระหว่างทางกลับวิลล่าเย่เชินหลินมองเซี่ยชีหรั่นอย่างเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไร

ตอนที่เธอมองโม่เสี่ยวจุนอยู่หลายครั้ง เขาก็เห็นมันอย่างชัดเจน

เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าผู้ชายคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ ยิ้มแล้วลูบตัวเขา

“คุณเย่ คุณว่าพวกเขาสองคนเหมาะสมกันมากไหม ฉันว่าอีกไม่นานพวกเขาก็คงจะคุยเรื่องแต่งงาน”

“เหมาะสม คุณไม่มีความรู้สึกอิจฉาแม้แต่นิดเดียวเลยเหรอ” คนแซ่เย่ถามอย่างหงุดหงิด

“ไม่มีแน่นอน ฉันกับเสี่ยวจุน ฉันมีแต่หวังว่าเขาจะมีความสุข เขาก็หวังว่าฉันจะมีความสุขเช่นกัน ฉันจะไม่อิจฉาที่เขาอยู่กับคนอื่นแน่นอน เขาก็จะไม่อิจฉาที่ฉันอยู่กับคุณเช่นกัน นี่คือความผูกพันระหว่างพี่น้อง ความผูกพันของพี่น้องจะไม่มีการครอบครองหรือแสดงความเป็นเจ้าของ”

เย่เชินหลินไม่ได้รู้สึกเช่นนี้ เขาจำได้ว่าตอนที่เขากอดเอวเซี่ยชีหรั่น โม่เสี่ยวจุนมองมา ในดวงตาแสดงถึงความเจ็บปวด แค่กลั้นและกดมันลง

ผู้ชายกับผู้ชาย ต้องรู้จักกันดีกว่าผู้หญิง

คนอื่นพูดว่าเขาเย่เชินหลินเหมือนหมาป่าตัวหนึ่ง เขาว่าคนแซ่โม่ยิ่งเหมือนเสือตัวหนึ่งที่จ้องมองหมาป่า เป็นเพราะเซี่ยชีหรั่นนั้นใสซื่อเกินไป ถึงดูไม่ออกว่าเขาความอยากเป็นเจ้าของเธอมากแค่ไหน

เซี่ยชีหรั่นพิงที่ตัวของเขาอีกครั้ง เอื้อมมือจับแก้มเขา ดึงเบาๆสองที “คุณดูหน้าดำมาก หึงมากเหรอ น่าเกลียดมาก”

ช่างกล้ามาก นี่คืออะไร นี่เรียกว่าการเตะจมูกเพื่อเผชิญหน้า

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset