สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 66ร่วมงานหมั้นของเขา2

บทที่66ร่วมงานหมั้นของเขา2
เขาไม่มีทางทำ เธอควรจะรู้สึกถึงความสงบใจ
อย่างน้อยหลังจากที่เธอแก้ไขความยุติธรรมให้เสี่ยวจุนแล้ว เธอก็จากออกมา จะไม่เป็นห่วงเป็นใยได้หรือ
ใช่ พอนึกถึงเสี่ยวจุน ก็เอาความคิดทั้งหมดไปวางไว้ที่เขาคนเดียว นี่ถึงจะเป็นสิ่งที่เธอควรจะทำ
เซี่ยซีหรั่นไม่ได้พูดจา เงียบมาโดยตลอด สายตาช่างพินิจของฝู้เฟิ่งหยีสามารถรู้สึกได้ถึงความกังวลของเธอ
เธอจะต้องชอบเย่เชินหลินแน่ๆ ไม่งั้นสติคงไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแบบนี้หรอก
ตัวฝู้เฟิ่งหยีเองกลับไม่ได้มีความคิดเห็นอะไรกับเซี่ยซีหรั่น ถ้าเกิดว่าเธอเป็นผู้หญิงคนนอก บางทีเธอคงจะไม่ต่อต้านการคบค้าสมาคมกันของเธอและเย่เชินหลินหรอก
ส้งหลิงหลิงแสดงความไม่เห็นด้วยระหว่างเธอกับเย่เชินหลินออกมาชัดเจน ถึงค่อยจะยอมรับน้องสาว เธอไม่สามารถไปสร้างความรบกวนให้กับครอบครัวของลูกชายเธอได้
พอนึกถึงจุดนี้ ฝู้เฟิ่งหยีจึงลองเอ่ยถามขึ้น “เซี่ยซีหรั่น เธอเข้าใจรึเปล่าว่าทำไมหลิงหลิงถึงยอมรับให้เธอเป็นน้องสาว?”
ความรู้สึกนึกคิดของเว่ยซีหรั่นถูกฝู้เฟิ่งหยีดึงกลับมา เธอไม่อยากจะแกล้งโง่ ดังนั้นจึงตอบกลับไปอย่างตรงไปตรงมา“คุณหญิง ฉันทายออกได้ประมาณหนึ่ง”
ฝู้เฟิ่งหยีพยักหน้ารับ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงติดชม “จริงๆแล้วเธอเป็นเด็กฉลาดอย่างที่คิดไว้จริงๆ ในเมื่อเป็นน้องสาวของลูกสะใภ้ฉันแล้ว ฉันสามารถช่วยเธอได้ส่วนหนึ่ง ก็คือช่วยได้ส่วนหนึ่ง เธอดูว่าเธอต้องการให้ช่วยอะไร ”
ชั่วขณะนั้นในใจของเซี่ยซีหรั่นก็มีอารมณ์มากมายพรั่งพรูออกมา แม่ของเย่เชินหลินก็คือแม่ของเย่เชินหลิน สั่งไล่ผู้หญิงของเขาไปอย่างไม่เหลือร่องรอยได้
ถ้าหากเป็นผู้หญิงปกติธรรมดา คงจะดุด่าเธออย่างแรงว่าทำไมจะต้องมาพัวพันไม่ยอมปล่อยลูกชายเขา ด่าว่าเธอเป็นนางจิ้งจอกเจ้าเล่ห์
หรือคงจะเอาเงินโยนใส่หน้าเธอ ให้เธอเอาเงินแล้วไสหัวไป
เธอถามเธอว่าต้องการให้ช่วยอะไรด้วยความเรียบง่ายจนตั้งตัวไม่ทัน และก็เปลี่ยนไปถามเธออีกว่า ต้องการเงินอีกเท่าไหร่ถึงจะไม่ต้องมากวนใจอีก
เซี่ยซีหรั่นยกยิ้มอ่อนไปครู่หนึ่ง แล้วตอบกลับเสียงเบา “คุณนาย ขอบคุณมากๆเลยค่ะ! ฉันไม่ได้ต้องการความช่วยเหลืออะไรทั้งสิ้น ฉันเข้าใจความหมายของท่าน พี่หลิงหลิงก็ปฏิบัติกับฉันดีมาก คุณเย่ก็เคยช่วยฉันนับครั้งไม่ถ้วน วันนี้ฉันเห็นงานหมั้นของพวกเขากับตาแล้ว ฉันก็จะไปเอง ไปให้ใกลไม่ให้คุณเย่เจอได้”
ฝู้เฟิ่งเย่ก็ยังมองไม่ออกว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงรักเงิน สายตาของลูกชายเขาไม่มีทางจะแย่จนถึงขนาดที่จะหลงรักหลงใหลในตัวของผู้หญิงยโสจอมปลอมคนนี้หรอกมั้ง
พอได้ยินว่าเธอบอกว่าไม่ต้องการอะไรสักอย่างกับหูตัวเอง กลับรู้สึกว่าให้เธอไปแบบนี้ ตระกูลเย่ดูไม่ยุติธรรมกับเธอนัก
เธอครุ่นคิดไปสักพัก ตอนที่จะเปิดปากพูดอีกครั้ง ก็ยังทิ้งทางหนีทีไล่เอาไว้อีกส่วน
“เธอเป็นคนที่ลูกหลินเลือกเข้ามา ในเมื่อไม่อยากอยู่ในตระกูลเย่แล้วจริงๆ ก็ต้องไปบอกเขา”
“ฉันรู้ค่ะ ของคุณคุณหญิง!”
  “อื้ม!”
ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรอีก รถก็ไปข้างหน้าต่อไป ความเศร้าอันแข็งแกร่งเข้ามาสิงเกาะกินใจจิตใจของเซี่ยซีหรั่น
เหมือนกับที่ตัวเธอเองและคุณหญิงคุยกันพอดี เธอเดินไป ก็จะไม่มีวันได้เจอกัยเย่เชินหลินอีก
ชั่วชีวิต ยาวนาน คำแบบนี้ดูจะตัดเยื่อใยเกินไป แม้เพียงแค่คิด ก็ทนใจเอาไว้แทบไม่ไหว
เย่เชินหลิน เย่เชินหลิน
คุณจะต้องคิดออกว่าเคยมีผู้หญิงแบบนี้ อีกนิดเธอจะกลายเป็นผู้หญิงของเขารึเปล่านะ?
ตอนนี้คุณกำลังคิดอะไรอยู่กันนะ? คิดถึงส้งหลิงหลิงหรือว่าฉัน?
เธอมองดูไปยังหลังกระจกอย่างไม่รู้สึกตัว อยากจะมอง ว่าจะเห็นรถของเขาไหม
รถลินคอล์นคันสีดำ เธอเคยเห็นในบ้านของเขา ทว่ากระจกหลังก็มองไม่เห็นร่องรอยอะไรสักอย่าง
พูดตามหลัก รถของพวกเขาควรจะอยู่ห่างจากกันใกล้มากถึงจะถูก แล้วทำไมถึงมองไม่เห็นกัน?
เย่เชินหลิน พวกเรามาบนทางเดียวกัน คุณขับตรงไปทางงานแต่งของคุณ ฉันขับตรงไปตางทางการแก้แค้นของฉัน
วันข้างหน้าไม่มีอารมณ์เรื่องราวอะไรอีกแล้ว พวกเราจะไม่มีวันได้เจอกัน ทำไมตอนนี้อยากจะมองคุณอีกสักครั้งก็เหมือนกับเพ้อฝันไปกันนะ
ไม่มีวันได้เจอกันอีก……..สี่ห้าคำนี้ก็เหมือนกับเวทย์มนต์ไปในพริบตาทำให้ทั่วทั้งหัวของเซี่ยซีหรั่นชาหนึบไปหมด เพราะจู่ๆเธอก็นึกถึงกระดาษโน้ตแผ่นนั้น
อย่าเดินทางไปพร้องเย่เชินหลิน หรือว่า หรือว่าเขามีอันตราย?
พระเจ้า!เธอนึกซ้ายนึกขวาว่าทำไมถึงคิดไม่ถึงจุดนี้ว่าเขาอาจจะมีอันตรายข้างหน้า
ตอนนี้จะทำยังไงดี?เธอไม่มีโทรศัพท์ เธอหมดหนทางติดต่อเขา
จู่ๆเธอก็กดหน้าต่างลงด้วยความกังวล ยื่นหัวออกไปมองหลังรถ ทว่าก็ยังคงไม่มีเงาของรถลินคอล์นคันนั้นอยู่ดี
ท่าทางไม่เหมือนปกตอของเธอทำให้ฝู้เฟิ่งหยีขมวดคิ้วขึ้น เซี่ยซีหรั่นรู้ว่าท่าทางเธอไม่เหมาะสม แต่เธอสนใจเรื่องมากมายพวกนั้นไม่ได้แล้ว
เธอหดเอาหัวกลับเข้ามา ส่งสายตาขอความช่วยเหลือ ไปยังฝู้เฟิ่งหยี ในใจก็คิดไปด้วยความร้อนรน จะสามารถบอกเธอได้ไหม เย่เชินหลินอาจจะมีอันตราย ให้เขาไปไม่ต้องไป
เซี่ยซีหรั่นบังคับให้ตัวเองเย็นลง คิดว่าบางทีอาจเป็นเพราะในใจเธอไม่หวังให้เย่เชินหลินไปงานหมั้น จึงเกิดความคิดเหลวไหลแบบนี้ขึ้น
เธอสามารถบอกเธอได้ เธอมีลางสังหรณ์ กลัวว่าเย่เชินหลินอาจจะเกิดเรื่องขึ้น?
คุณหญิงจะต้องคิดว่าเธอแช่งเย่เชินหลินแน่ๆ หรืออาจคิดว่าอยากจะทำลายงานหมั้นของพวกเขา คงไม่มีทางเชื่อคำพูดเธอ
“มีเรื่อง?”ฝู้เฟิ่งหยีถาม
“ฉัน……คุณหญิง ให้ฉันโทรหาคุณเย่ครั้งหนึ่งได้ไหม? ฉันอยากจะฟังเสียงของเขา”
ความร้อนรนในใจ ยังทำให้เธอทิ้งความคิดต่างๆทั้งหมดไป ให้คุณหญิงคิดว่าเธอเป็นคนเลวก็ได้ เธอต้องได้ยินว่าเขาไม่เป็นไรด้วยหูตัวเอง ถึงจะวางใจได้
“ไม่ได้!”ฝู้เฟิ่งหยีพูดขึ้นอย่างหนักแน่น
นี่เป็นเรื่องของหลักที่ยึดถือกันมา ในเวลานี้เย่เชินหลินอาจจะไปถึงงานหมั้นเรียบร้อยแล้ว ไม่สามารถรับสายโทรศัพท์ของผู้หญิงคนอื่นในงานหมั้นได้หรอก พูดคุยกับผู้หญิงคนอื่นอะไรแบบนี้
เซี่ยซีหรั่นไม่สามารถพูดอะไรต่อได้อีก ทำได้เพียงแค่แอบภาวนากับพระเจ้า ให้อย่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเขาเลย
เวลาผ่านไปเป็นวิเป็นนาที ภายในรถเงียบเชียบ ไม่มีข่าวคราวจากฝั่งของเย่เชินหลิน
บางทีการไม่มีข่าวคราวก็คงเป็นข่าวที่ดีที่สุด เธอแอบคิด
รถมาจอดที่อาคารตี้เหา มีค่อนมาช่วยพวกเขาเปิดประตูรถอยู่ก่อนแล้ว
งานหม้นวันนนี้จะจัดในโถงชั้นแปด ตอนที่เซี่ยซีกรั่นกำลังเดินตามฝู้เฟิ่งหยีขึ้นไปข้างบน แขกผู้มีเกียรติทั้งหลายต่างก็ม

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset