สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 70 รักเขาเข้าแล้ว 2

บทที่70รักเขาเข้าแล้ว? 2
น้ำเสียงรีบร้อนของเซี่ยซีหรั่นทำให้ในใจของไห่ลี่หมินอิจฉาเล็กน้อย พูดออกมาก็ไม่คิดว่าจะมีความจริงจังเกินไป
“เธอห่วงเขาขนาดนี้? คือรักเขาเข้าแล้วหรอ?”
  “ฉัน……”
เซี่ยซีถูกถามดักแล้ว เพราะคำถามนี้เธอก็เคยถามตัวเองในใจมาหลายรอบแล้วเหมือนกัน
เธอบอกกับตัวเองว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องพวกนี้ เธออย่าไปคิด
“เขาเคยช่วยฉันไว้ คุณไห่”เธอตอบกลับเหมือนโดนบังคับ
“แล้วทำไมไม่เรียกว่าลี่หมินอีกล่ะ? นี่ไม่ได้อยู่ที่ตระกูลเย่ แล้วก็ไม่ได้มีใครอยู่ตรงนี้หนิ?”
ไห่ลี่หมินขมวดคิ้วมาตลอด สายตาแวววาวจ้องมองมาที่เธอ
“ขอโทษค่ะ ฉันอาจจะเรียกคุณไห่จนชินไปแล้ว อย่าโกรธเลยนะ ที่ตอนนี้ฉันเป็นห่วงเขานั้น เรื่องจริง เขาเคยช่วยเหลือฉันมาตั้งหลายครั้ง ดังนั้น……..”
“หรือว่าเธอลืมไปแล้วว่าเขาก็เคยทำร้ายเธอตั้งหลายครั้ง? เธอจำแผลที่ข้อมือเธอไม่ได้หรอ? จำไม่ได้หรอว่าทำไม่นับวันเธอยิ่งผอมลง? เป็นห่วงเขาแบบนี้ เห็นเขาสำคัญขนาดนั้นแล้วเขาเห็นเธอเป็นอะไร? ถ้าเขาจะชอบเธอ สนใจเธอ วันนี้ยังจะมางานหมั้นอยู่ไหม? นี่เป็นอุบัติเหตุที่เกิดกับเขา ถ้าหากเขาไม่ได้เกิดอุบัติเหตุ ตอนนี้เขาก็เป็นลูกเขยของตระกูลส้งไปแล้ว แล้วเธอคืออะไรล่ะ?”
ไห่ลี่หมินไม่รู้จะทำยังไงแล้ว พอเห็นเธอใส่ใจเย่เชินหลินขนาดนั้น เขาก็สงบลงไม่ได้
ปกติเขาเป็นคนอ่อนโยนมาโดยตลอด ไม่เคยมีทัศนคติที่อคติแบบนี้ไม่ว่ากับใครเลยก็ตาม
เซี่ยซีหรั่นโดนเขาเค้นถามก็ขบริมฝีปากไว้แน่น ไม่มีคำจะเถียงต่อ
ไม่ผิดเลย ที่เขาพูดไม่ผิดเลยสักนิด
จากที่เย่เชินหลินไม่เคยมองเธอเป็นคนสำคัญอะไร ทว่าตอนนี้เธอก็กลายเป็นผู้ดูแลของเขา ความหวังกระหายที่มองไปยังเขาแทบจะเหมือนว่ามันพังทลายลงไปแล้ว
เพียงแค่เห็นสักครั้งก็ยังดี เธอต้องยืนยันได้ว่าเขาไม่เป็นอะไรจริงๆถึงจะวางใจได้
ท่าทางของเธอทำให้ไห่ลี่หมินโกรธยิ่งขึ้นไปอีก เอ่ยประโยคแสนเย็นชาออกมา “เดิมทีฉันนับถือจริงๆที่เธอช่วยทำเรื่องทุกอย่างแทนโม่เสี่ยวจุน ไม่คิดว่าเธอจะเปลี่ยนไปเห็นอกเห็นใจได้เร็วขนาดนี้ คงจะลืมเรื่องที่มาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมทั้งหมดแทนเขาไปจนหมดจดแล้วสินะ”
คำพูดของเขาเหมือนกับใบมีดคม ที่ทิ่มแทงใจของเซี่ยซีหรั่น
ใบหน้าของเธอแดงก่ำขึ้นทันทีด้วยความอับอาย ผ่านไปช่วงหนึ่งถึงจะหาเสียงของตัวเองเจอ แล้วพูดอธิบาย “ฉันไม่ได้เป็นอย่างนั้นนะ แต่ไหนแต่ไรฉันก็ไม่เคยลืมเรื่องของเสี่ยวจุนหรอก ตอนนี้ที่ฉันอยากไปเยี่ยมคุณเย่ ก็แค่เพื่อที่จะให้ความเป็นธรรมกับเสี่ยวจุนเร็วขึ้นอีกนิด ”
รถห่างออกจากโรงแรมตี้เหามาแล้วสักระยะหนึ่งแล้ว จู่ๆไห่ลี่หมินก็เหยียบเบรกรถกะทันหัน จอดรถไว้ที่ข้างทาง
“ลงรถ!”เขาพูดจบก็เปิดประตูรถลงไป ยืนรอเธอที่บนถนน
เขาพูดดีๆกับเซี่ยซีหรั่นแล้ว นี่ทำให้เขา สำหรับเธอแล้วล้วนแต่เป็นช่วงเวลาสำคัญในการเลือกทั้งสิ้น
หลังจากที่เซี่ยซีหรั่นลงจากรถมา เขาจ้องมองเธอ แล้วเอ่ยขึ้นด้วยความตั้งใจที่สุด “เซี่ยซีหรั่น เธอฟังฉันนะ วันนี้ที่เธอหนีออกมาจากตระกูลมันโอกาสที่ดีที่สุด ถ้าเกิดเธอกลับไป หลังจากนี้เย่เชินหลินอาจจะไม่ปล่อยเธอไปอีกง่ายๆแล้ว เธอต้องรู้ว่าฉันส่งเธอเข้าไปมันง่าย แต่พาเธอกลับออกมาน่ะมันยาก”
เขาพยายามตัดคำพูดให้สั้นและเข้าใจง่ายที่สุด อย่างไรก็ตามเซี่ยซีหรั่นที่ตอนนี้ยังพะว้าพะวังกับเย่เชินหลินไปหมด ปกติแล้วเวลานี้ก็ฟังไม่เข้าใจหรอกว่าเขากำลังพูดอะไร เธอก็ส่ายหัวอย่างเดียว
“ไม่ ไม่ว่าจะเป็นยังไง ตอนนี้ฉันก็ไม่สามารถหนีจากตระกูลเย่ไปได้ ฉันยังไม่ทันได้โต้ตอบเรื่องของเสี่ยวจุนกับประธานเย่ ยังไปไม่ได้หรอก”
“สรุปแล้วตอนนี้เธอกำลังกังวลเรื่องของเสี่ยวจุน หรือกังวลเรื่องความปลอดภัยของเย่เชินหลินกันแน่?”
ไห่ลี่หมิงจ้องเขม็งไปที่เธอด้วยสายตาเย็นยะเยือก ต้องการให้เธอชัดเจนกับจิตใจของตัวเธอเอง
พอเห็นว่าเธอยังไม่พูด ไห่ลี่หมินก็พูดเติมเสริมเข้าไป“ถ้าหากว่าเป็นเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของคนสกุลเย่ล่ะก็ ไม่จำเป็นแล้ว บาดแผลของเขาไม่ได้ร้ายแรง ไม่ได้อันตรายอะไร”
“คุณรู้?”เซี่ยซีหรั่นจดจ้องไปที่ไห่ลี่หมิน เอ่ยถามด้วยความไม่เชื่อใจ
เซี่ยซีหรั่นก็นึกถึงเรื่องกระดาษโน้ตแผ่นนั้นขึ้นมาอีกครั้ง เธฮถามเขาทีละคำทีละคำ “คุณอย่าบอกฉันนะว่า คุณรู้ว่าเย่เชินหลินมีอันตราย แต่กลับไม่บอกเขา หรือว่าเขาไม่ใช่เพื่อนของคุณแล้ว?”
ถ้าเกิดให้เธอคาดเดา นั่นก็คือเขารู้อยู่จริงๆ เธอไม่สามารถยอมรับเรื่องระหว่างเพื่อนได้ แม้แต่เรื่องแบบนี้ก็ยังทำเป็นไม่ใส่ใจไม่แยแสได้
ว่าเธอจริงจังแล้ว ไห่ลี่หมินจริงงจังยิ่งกว่า
“อย่าถามอะไรมากขนาดนั้น เธอรู้แค่ว่าเขาไม่ได้อันตรายถึงชีวิตก็พอแล้ว!”
“ฉันก็จะถาม ฉันจะต้องทำให้เข้าใจ ว่าสรุปแล้วใครกันที่ตั้งใจขับรถชนเขา คุณบอกฉันมา!ใครกัน!เพราะอะไร?”
เซี่ยซีหรั่นเงยหน้าขึ้น น้ำเสียงตื่นเต้นเต็มไปด้วยความโกรธ
“ไม่ต้องถามแล้ว!ยิ่งเธอรู้มาก ก็จะยิ่งอันตรายมากขึ้น”
ไห่ลี่หมินจับไหล่ของเธอไว้ ใช้แรงจับ เขาไม่อยากจะพูดอะไรไปมากกว่านี้แล้ว ตอนนี้เรื่องที่เขาพูดพวกนี้รวมทั้งประกาศเตือนเธอไว้ก่อน คงไม่จำเป็นแล้วล่ะ
“เป็นใครกัน? ใครต้องการทำร้ายเขา?”
เซี่ยซีหรั่นคิดได้เพียงแค่เย่เชินหลินโดนรถชน ทว่าไห่ลี่หมินรู้ว่าเป็นใคร เธอก็ควบคุมตัวเองไว้ไม่ได้ จะต้องลากตัวคนร้ายมาให้ได้
“เธอไม่กลัวตายหรอ? แล้วก็ไม่อยากจะแก้แค้นให้โม่เสี่ยวจุนแล้ว ใช่ไหม?”ไห่ลี่หมินออกแรงโยกเขย่าตัวเธอ
เขาเกลียดท่าทางดื้อรั้นที่เพื่อเย่เชินหลินแล้วก็จะไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นของเธอ
สมมติว่าที่เธอหัวรั้นขนาดนี้ เพื่อเขา คงจะดีมากขนาดไหนกันนะ?
โม่เสี่ยวจุนทั้งสามคำนี้ ในที่สุดก็ทำให้เซี่ยซีหรั่นค่อยๆใจเย็นสงบลง
เธอถอนหายใจยาวเหยียด แล้วพูดกับเขา“โอเค ฉันไม่ถาม แต่ฉันจะต้องได้ไปดูเขา ฉันไม่เชื่อว่าอุบัติเหตุรถชนมันจะคำนวณการชนได้แม่นยำขนาดนั้น ร่างกายคนมีเลือดมีเนื้อ หากพลาดไปเพียงเล็กน้อย ชีวิตของเขาก็จบสิ้น”
เธอพูดจบ ก็ยื่นมือไปโบกรถแท็กซี่
ไห่ลี่หมินไม่สามารถทำอะไรเธอได้ จึงทำได้เพียงพูดขึ้นด้วยความโกรธพร้อมน้ำเสียงดุร้าย“ขึ้นรถ! ฉันจะพาเธอไปส่ง! ฉันก็จะไปดูเขาเหมือนกัน!”
เซี่ยซีหรั่นไม่พูดอะไร จึงค่อยๆเปิดประตูรถออก แล้วขึ้นนั่งรถ
รถกระชากออกตัวอย่างแรง มุ่งไปยังโรงพยาบาลประจำมณฑนอย่างรวดเร็ว
ระหว่างเดินทาง ขณะเดียวกันที่นึกกังวลถึงเย่เชินหลิน เซี่ยซีหรั่นก็หยุดคิดวิเคราะห์ตามคำพูดของไห่ลี่หมินเอาไว้ไม่ได้
อันตรายมาก งั้นก็แสดงว่าอุบัติเหตุรถชนมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนใหญ่คนโต
ทำไมจะต้องมาประสบอุบัติเหตุวันนี้ด้วย ทั้งยังบอกว่าเย่เชินหลินไม่ได้เป็นอันตราย หรือว่าจะมีคนที่ไม่อยากให้เย่เชินหลินกับส้งหลิงหลิงหมั้นหมายกัน?
จู่ๆเธอก็นึกขึ้นได้ เย่เชินหลินเป็นลูกชายของประธานเย่ ส้งหลิงหลิงเป็นลูกสาวของรองประธาน
การแต่งงานของพวกเขาทั้งสอง ก็เท่ากับว่าเป็นการรวมกันของทั้งสองอิทธิพลอันแข็งแกร่ง
คิดได้แบบนี้ ก็เหมือนจะเข้าใจแล้วว่า มีคนไม่ยินยอมให้พวกเขาทั้งสองรวมพันธมิตรกัน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset