ตอนที่ 721 สาวใช้ตัวแสบ 625
“พี่เหอไท้ พี่กลับไปบอกกับคุณแม่หน่อยว่า เย็นนี้ฉันไม่ไปทานข้าวแล้ว”เซี่ยชีหรั่นดึงหน้าต่างรถลงและพูดกับหลี่เหอไท้ เธอมักจะไม่ถามหลี่เหอไท้ต่อหน้าสาธารณชนว่าเขาโกรธหรือไม่ ดังนั้นเธอจึงทำได้แค่เพียงหาข้ออ้างอย่างลวกๆ
เธอเชื่อว่าหลี่เหอไท้นั้นฉลาดเช่นนี้ น่าจะเข้าใจความหมายของเธอ
“ได้ แล้วผมจะบอกให้ พรุ่งนี้เจอกัน!”ขณะที่พูดคำว่าพรุ่งนี้เจอกันออกไปนั้น หลี่เหอไท้ก็จงใจแสดงใบหน้ายั่วยิ้มออกไป เขาเกลียดเย่เชินหลินจนต้องขบกรามแน่น
“ประธานหลี่ พรุ่งนี้เซี่ยชีหรั่นมีธุระ ขอลาหยุดหนึ่งวันได้ไหม?”เย่เชินหลินโผล่หัวออกมาจากในรถและถามขึ้นอย่างช้าๆ
“ชีหรั่น พรุ่งนี้มีธุระอะไร?”หลี่เหอไท้ถาม
เซี่ยชีหรั่นอ้ำๆอึ้งๆ เพราะเธอยังนึกคำพูดที่เหมาะสมไม่ออก เย่เชินหลินจึงพรั่งพรูพูดประโยคหนึ่งขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติว่า:“พรุ่งนี้เธอจะเหนื่อยมาก”
นายนี่บ้าไปแล้ว เซี่ยชีหรั่นคิด เมื่อเย่เชินหลินพูดจบ ก็สตาร์ทรถและจากไปอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงคนกลุ่มหนึ่งที่ตะลึงงันอยู่ตรงนั้น
“เฮ้ย เจ้าหมอนี่ คุณบ้าไปแล้วเหรอ?ทำไมถึงได้ขับรถเร็วขนาดนี้?”
“จะรีบไปโจ๊ะพรึมๆกันในรถ!”
เซี่ยชีหรั่นเห็นคนบางคนหน้าดำหน้าแดง อีกทั้งยังหึงอย่างไม่มีสาเหตุ
รถเคลื่อนที่เร็วมาก ทักษะในการขับรถของเย่เชินหลินนั้นไม่เลวเลย แม้ว่าจะเป็นเวลาหลังเลิกงาน เขาก็ยังสามารถขับรถซิกแซ็กไปมาได้ น่าแปลกใจมากที่ไม่มีใครสามารถขวางทางของเขาได้
“หลิน คุณอย่าขับรถเร็วได้ไหม?ขับแบบนี้มันไม่ปลอดภัยเลย”เซี่ยชีหรั่นพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
เขาไม่ปล่อยให้ผู้หญิงของเขาต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน การที่เขาขับรถเร็วเช่นนี้ แต่เขาก็มั่นใจว่า เขาจะสามารถรับรองความปลอดภัยของเธอได้
“พอได้แล้ว ต่อไปฉันจะระวังให้มากขึ้น จะว่าไปทำไมวันนี้คุณถึงได้พูดเช่นนั้นออกไป ใครๆก็รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเราทั้งสองคนแล้ว ฉันจะไม่ใส่ใจก็คงจะไม่ได้ พอได้แล้ว พอได้แล้ว คุณอย่าขับรถเร็วอีกเลย”
เย่เชินหลิน เหลือบมองเซี่ยชีหรั่นครู่หนึ่ง เธอคิดว่าเขาคงไม่เชื่อฟังในสิ่งที่เธอพูด แต่วินาทีต่อมา เธอกับรู้สึกได้ว่าความเร็วของรถนั้นลดลงอย่างเห็นได้ชัด
โจ๊ะพรึมๆกันในรถคำๆนี้วนเวียนอยู่ในหัวของเซี่ยชีหรั่น เจ้าหมอนี้เป็นเดรัจฉานในคราบมนุษย์ อีกทั้งความต้องการยังไม่มีที่สิ้นสุด เธอนั้นรู้เป็นอย่างดี
“หลิน พวกเรากลับไปกินข้าวกันก่อนเถอะ ฉันหิวมากเลย” เซี่ยชีหรั่นพูดขึ้นอย่างอ้อมค้อม คำพูดนั้นแฝงไว้ซึ่งนัยยะ เพราะเธอนั้นไม่อยากที่จะร่วมรักกับเขาบนรถ
“กลัวเหรอ?”ทันใดนั้นเขาก็เข้ามาสะกิดที่ร่างกายของเธอ มองเธออย่างอมยิ้ม
ใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นนั้นแดงกล่ำ กัดริมฝีปากแล้วจ้องมองไปที่เขา
“ก็ต้องการให้คุณกลัว ให้คุณตกใจ เด็กน้อย ดูซิว่าต่อไปเธอจะกล้าไปคบคนโน้นทีคนนี้ทีไหม”
“ฉันคบคนโน้นทีคนนี้ทีตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?ฉันตั้งหน้าตั้งตาตั้งใจทำงานมาโดยตลอด”
ใช่ เธอหน่ะตั้งหน้าตั้งตาทำงานมาโดยตลอด แต่พวกผู้ชายงี่เง่าพวกนั้นมันไม่มีงานทำกัน ต้องการที่จะออกหน้าแทนเธอ โทรศัพท์หาเขา เตือนเขาว่า พวกเขาเหล่านั้นเป็นหมาป่าที่หิวโหยที่กำลังรอจีบเธออยู่
เซี่ยชีหรั่นมัวแต่พูดอยู่กับเย่เชินหลิน เธอจึงไม่ได้สังเกตว่ารถวิ่งอยู่บนถนนเส้นไหน
กระทั่งเมื่อรถจอดลง เธอถึงพบว่าเขาขับรถพาเธอมาที่บ้านตระกูลหลี่
“หลิน ทำไมถึงมาบ้านแม่ได้หล่ะ?”เซี่ยชีหรั่นถามขึ้นอย่างแปลกใจ
“วันนี้ที่แม่ของคุณโทรหาคุณ ก็เพราะหวังอยากจะให้คุณกลับมาหาท่านไม่ใช่เหรอ?พวกเราไปทานข้าวเป็นเพื่อนท่านกันเถอะ”เมื่อเย่เชินหลินพูดขึ้นเช่นนั้น ก็ทำให้ใจของเซี่ยชีหรั่นนั้นอบอุ่น เธอถึงได้รู้ว่าที่แท้ที่เขาพูดว่าจะร่วมรักกับเธอบนรถนั้นเป็นเพียงขู่เธอก็เท่านั้น
เมื่อมาถึงบ้านตระกูลหลี่ จ้าวเหวินอิงที่ใส่ผ้ากันเปื้อนอยู่นั้น ออกมายืนต้อนรับเธออยู่ที่หน้าประตู ยิ้มและพูดว่า :“พวกเธอนั่งกันก่อน เดี๋ยวกับข้าวก็เสร็จแล้ว หลังจากที่เย่เชินหลินโทรมาบอก แม่ก็รีบเตรียมเลย วันนี้แม่เรียนทำเมนูใหม่ ลูกๆลองชิมดูก็แล้วกันว่ารสชาติใช้ได้หรือเปล่า”
ขณะที่เดินเข้าประตูมา เซี่ยชีหรั่นก็ครุ่นคิด เธอได้ฝากให้หลี่เหอไท้บอกกับแม่ของเธอแล้วว่าพวกเขาจะไม่มาเพราะเกรงว่าจะไม่มีอาหาร คิดไม่ถึงเลยว่าเย่เชินหลินจะโทรบอกแม่ของเธอตั้งแต่แรกแล้ว
เซี่ยชีหรั่นยิ้มและมองไปที่เย่เชินหลินครู่หนึ่ง สายตาของเขาจ้องมองเธออย่างอ่อนโยน เวลานี้กริ่งที่ประตูดังขึ้น หลี่เหอไท้เดินเข้ามา เห็นพวกเขาทั้งสองนั้นยิ้ม เขาก็ยิ้มตาม
เขานั้นดูสนิทสนมกับเซี่ยชีหรั่นมากเป็นพิเศษ เย่เชินหลินนั้นก็แอบอาฆาตเขาอย่างเงียบๆ แต่ว่าสิ่งที่จ้าวเหวินอิงเห็นนั้น เขานั้นเชื่อฟัง และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำให้เธอรู้สึกไม่ดีใจแม้แต่น้อย
“แม่ มีอะไรให้ผมช่วยไหม?”เมื่อหลี่เหอไท้เปลี่ยนรองเท้าเสร็จ ก็เดินไปที่ห้องครัวและถามขึ้น
“ไม่ต้องหรอก ไม่ต้องให้ใครมาช่วย ลูกช่วยโทรศัพท์ถามพ่อของลูกหน่อยว่าจะมาทานข้าวที่บ้านด้วยกันไหม”
เมื่อจ้าวเหวินอิงพูดจบ ประตูก็ถูกเปิดขึ้น เสนาธิการหลี่เดินเข้าประตูมา และตะโกนพูดขึ้นเสียงดังว่า:“ภรรยาสุดที่รัก ผมกลับมาแล้ว”
“พอดีเลย กับข้าวทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว”จ้าวเหวินอิงพูดขึ้นประโยคหนึ่ง หลี่เหอไท้สังเกตเห็นได้ชัดว่าสีหน้าของเธอนั้นมีความสุขเป็นอย่างมาก ทุกครั้งที่พ่อกลับมาบ้าน สีหน้าของเธอก็จะเป็นเช่นนี้ทุกครั้ง
ในฐานะที่เป็นผู้ชาย บางครั้งหลี่เหอไท้ก็รู้สึกอิจฉาพ่อของเขา ที่ได้เคียงคู่กับภรรยาที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ อ่อนโยน จิตใจดี เป็นแม่ศรีเรือน ช่างเอาอกเอาใจและเป็นเช่นนี้นี่เองเขาจึงมีความรู้สึกที่บอกไม่ถูกต่อเซี่ยชีหรั่น เธอนั้นเหมือนกับแม่ของเขามาก
“พ่อครับ!”หลี่เหอไท้ตะลึงงันครู่หนึ่งแล้วก้าวเท้าไปข้างหน้า และเรียกพ่อของเขาเย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นก็เช่นเดียวกัน
“โอเค กินข้าวเถอะ!”หลี่หมิงจุ้นเดินมานั่งที่โต๊ะอาหารก่อน แม่บ้านได้เช็ดโต๊ะไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเริ่มเสิร์ฟอาหาร ทีละอย่างขึ้นโต๊ะ
เมื่อจ้าวเหวินอิงทำเมนูสุดท้ายเสร็จสิ้นก็ ถอดผ้ากันเปื้อนออก ล้างมือแล้วเดินมาข้างโต๊ะรับประทานอาหาร และนั่งลงข้างๆหลี่หมิงจุ้น
“พวกคุณลองชิมซอสเนื้อที่ฉันทำสิว่าอร่อยไหม?และก็ยังมีซุปข้าวโพดทะเล”จ้าวเหวินอิงแนะนำอาหารแต่ละเมนู หลี่หมิงจุ้นเริ่มตักอาหารเป็นคนแรก และชมฝีมือการทำอาหารของเธออย่างไม่หยุดปาก
“ผมคิดว่าเสี่ยวจ้าวคุณจะเป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้แล้วนะ”หลี่หมิงจุ้นพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง จ้าวเหวินอิงยิ้มและถามขึ้นว่า:“ทำไมเหรอ?”
“ปกติฉันไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ไม่ค่อยคุ้นเคยกับอาหารการกิน และคิดว่ากับข้าวที่บ้านอร่อยที่สุด อีกทั้งช่วงนี้คุณก็ไม่ได้อยู่ข้างๆฉัน ฉันหิวจนเกือบจะตายแล้ว”นี่เป็นคำชมที่ดีที่สุด จ้าวเหวินอิงยิ้มอย่างมีความสุข ไม่พูดไม่จา
แต่กลับเป็นเซี่ยชีหรั่นที่รู้สึกเกรงใจ เธอเคยได้ยินมาว่า คุณนายหลี่นับว่าเป็นกองหนุนของเสนาธิการหลี่ ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน เธอก็จะติดตามเขาไปด้วยทุกที่
ตอนนี้เมื่อตงเจียงมีเธอแล้ว แม่ของเธอจึงไม่ได้ติดตามเสนาธิการหลี่อีก
“แม่คะ รอพ่อกลับปักกิ่งแล้ว แม่ก็ติดตามท่านกลับไปเถอะค่ะ แม่อยู่ที่นี่ ลูกก็ไม่มีเวลามาอยู่เป็นเพื่อน แม่คงเหงาแย่”เซี่ยชีหรั่นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
เริ่มแรกหลี่หมิงจุ้นไม่ได้คิดถึงประเด็นนี้ เมื่อเขาได้ยินเซี่ยชีหรั่นพูดเช่นนี้ เขาก็หัวเราะฮ่าฮ่าออกมาและพูดว่า:“ดูสิว่าลูกสาวสุดที่รักของพวกเรารู้ประสาขนาดไหน พ่อถูกแม่ของลูกควบคุมมาหลายปีแล้ว ไม่ง่ายเลยที่จะได้มีอิสระ ไม่ติดตามแหละดีแล้ว”
เมื่อทุกคนยิ้ม สีหน้าของจ้าวเหวินอิงแดงขึ้นเล็กน้อย
“พ่อครับ แม่ครับ ได้ยินมาว่าความรู้สึกของท่านทั้งสองนั้นลึกซึ้งมาก ท่านไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ที่ตงเจียงเพื่อชีหรั่น ผมจะดูแลเธอเป็นอย่างดี ”เย่เชินหลินพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่จริงจัง
หลี่เหอไท้ก็พูดเสริมขึ้นว่า:“ตอนนี้ชีหรั่นทำงานอยู่ที่บริษัทของผม ผมก็จะดูแลเธอเป็นอย่างดีเช่นกันแม่ คุณอยากจะอยู่ที่ตงเจียงก็อยู่ได้ หรืออยากจะไปอยู่ที่ปักกิ่งก็อยู่ได้ ไม่ต้องเป็นกังวล”
“ได้ แม่จะกลับไปอยู่กับพ่อที่ปักกิ่งสักระยะหนึ่ง ตงเจียงกับปักกิ่งก็อยู่ใกล้กันแค่นี้ อยากกลับมา ฉันก็กลับมาได้”เมื่อเห็นว่าลูกสาวของพวกเขานั้นคิดเพื่อพวกเขาเช่นนี้ ภายในใจของจ้าวเหวินอิงก็รู้สึกดีใจ จึงรับปากอย่างรวดเร็ว
“ผมพาชีหรั่นไปเยี่ยมท่านก็ได้ ถือซะว่าพาเธอไปเที่ยว”เย่เชินหลินจับมือของเซี่ยชีหรั่น และพูดขึ้นเบาๆ
เซี่ยชีหรั่นนั้นคิดถึงช่วงเวลาที่เธอกับเย่เชินหลินอยู่บนเรือสำราญที่มีเพียงพวกเขาแค่สองคน ความรู้สึกนั้นหวานจนเลี่ยน นอกจากพูดคำรักหวานต่อกัน กินข้าวและก็นอนด้วยกัน นอกจากนี้ยัง ……
อาจจะเป็นเพราะว่าคนรักกันก็มักจะเป็นเช่นนี้ แม้ว่าพวกเขาจะมีคนที่ใกล้ชิดกับพวกเขามากๆอยู่ด้วย แต่พวกเขาก็ยังรู้สึกว่าโลกนี้มีเพียงเราสองคนเท่านั้น พวกเขาปรารถนาที่จะอยู่เพียงลำพังแค่สองคน เมื่อก่อนความรู้สึกเช่นนี้ของเซี่ยชีหรั่นนั้นไม่ได้รุนแรงเช่นนี้
เธอคิดว่า อาจจะเป็นเพราะว่าในความรู้สึกลึกๆของเธอนั้นคิดว่าส้งหลิงหลิงและลูกของเธอนั้นไม่ได้กลับมา ขอเพียงแค่พวกเขากลับมาก็คงจะไม่สามารถมีช่วงเวลาที่สงบสุขได้
“อืม ยังวัยรุ่นก็ต้องออกไปดูโลกภายนอกบ้าง อย่ารอให้แก่แล้วอยากไปก็ไม่ได้ไป”จ้าวเหวินอิงพูดขึ้น
เธอนั้นดูออกถึงความรู้สึกเศร้าของเซี่ยชีหรั่น คิดว่าการไปจากตงเจียง มันเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเธอ
พวกเขาพูดคุยเรื่องไร้สาระกันสักพัก หลี่หมิงจุ้นถึงมองไปที่หลี่เหอไท้ และถามขึ้นอย่างจริงจังว่า:“วันนี้ได้ยินคนพูดกันว่าคุณกับลูกสาวของจงหวีฉวนจงหยุนซางนั้นแอบคบกันอย่างลับๆ คุณตั้งใจกับการคบหาในครั้งนี้ใช่ไหม?”
คนที่พูดเรื่องนี้ให้เขาฟังก็คือลูกน้องของจงหวีฉวน เขาคิดว่าคนพวกนั้นจงใจที่จะพูดให้เขาได้ยิน
เมื่อเซี่ยชีหรั่นได้ยินหลี่หมิงจุ้นถามเช่นนี้ เธอก็มองไปที่หลี่เหอไท้ เธออยากที่จะฟังจากปากของเขาว่า เขานั้นจริงจัง
หลี่เหอไท้ไม่ได้ตอบคำถามตรงๆ แต่กลับยิ้มอ่อนๆครู่หนึ่ง
“พ่อแม่ ท่านคิดว่าหยุนซางเป็นยังไงบ้าง?”
หลี่หมิงจุ้นรู้ดีว่าลูกชายของตนนั้นเจ้าชู้ และมีข่าวฉาวมานับไม่ถ้วน แต่กลับไม่มีใครที่เขาจริงจังด้วยเลย
เขานั้นหน่วยก้านดี พูดจาดี ดูแลผู้หญิงเป็นอย่างดี หากทำให้คนเข้าใจผิดก็เป็นเรื่องปกติ
แต่ไหนแต่ไรมา ไม่ว่าข้างนอกเขาจะมีข่าวฉาวแค่ไหน ในฐานะที่เขาเป็นพ่อ ก็ไม่เคยถามเขาตรงๆสักครั้ง เขาคิดว่าหากลูกชายของเขาจริงจัง เขาก็จะเอ่ยปากกับเขาเอง หากเขาไม่ได้พูด แสดงว่ามันไม่เป็นความจริง
ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม จงหวีฉวนใช้วิธีให้คนพูดให้เขาได้ยิน แสดงให้เห็นว่าเขานั้นรอคอยการแต่งงานในครั้งนี้เป็นอย่างมาก
หลี่หมิงจุ้นเคยเจอตัวจริงของจงหยุนซางครั้งสองครั้ง ความประทับใจไม่เลว หากเธอไม่ใช่ลูกสาวของจงหวีฉวน หลี่หมิงจุ้นก็คงจะเต็มใจที่จะให้เขาทั้งสองได้เป็นสามีภรรยากัน แต่เธอนั้นเป็นลูกสาวของจงหวีฉวน เขาจึงไม่เห็นด้วยเป็นอย่างมาก
เรื่องๆนี้หลี่หมิงจุ้นไม่ต้องการที่จะปิดบังหลี่เหอไท้ อีกทั้งเย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นก็ไม่ใช่คนนอก เขาจึงพูดออกไปอย่างตรงไปตรงมา
“จงหยุนซางเด็กคนนี้ไม่เลวเลย สง่าผ่าเผย หน้าตาสะสวย รู้กาลเทศะ สิ่งเดียวที่พ่อไม่พอใจก็คือ พ่อของเธอนั้นทำเรื่องไม่ดีไว้มาก ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่ว่าพ่อจะกล้าพูดลับหลังเพียงอย่างเดียว ต่อให้อยู่ต่อหน้าจงหวีฉวนพ่อก็จะพูดเช่นเดียวกันนี้”
หลี่หมิงจุ้นวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของจงหวีฉวน เซี่ยชีหรั่นรู้สึกไม่ค่อยดีนัก เพราะว่าเขานั้นก็เป็นพ่อของเธอ
สีหน้าของเย่เชินหลินนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย ภายในใจนั้นคาดเดาว่า ดูเหมือนว่าหลี่หมิงจุ้นจะรู้ว่าเซี่ยชีหรั่นนั้นเป็นลูกสาวของจงหวีฉวน
สำหรับผู้ชายนั้น เวลาวิจารณ์ศัตรูของตนเองมักจะไม่ไว้หน้า เธอมองจ้าวเหวินอิงด้วยสีหน้าปกติ เธอน่าจะรู้อดีตของจงหวีฉวนตั้งนานแล้ว และไม่ได้คิดว่าเขามีพฤติกรรมที่ไม่ดี หรือมีส่วนใดใดเกี่ยวข้องกับเธอ
สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 721 สาวใช้ตัวแสบ 625
Posted by ? Views, Released on September 29, 2021
, สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน
สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด
Recommended Series
Comment
Facebook Comment