สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 719 สาวใช้ตัวแสบ 623

ตอนที่ 719 สาวใช้ตัวแสบ 623
เธอเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองนั้นกระวนกระวายเกินไป
เธอทำตัวไม่ถูกอยู่สักพักแล้วค่อย ๆ ฝืนยิ้มออกมา “ฉันรู้ แต่ช่วยไม่ได้จริง ๆ ตระกูลส้งของเราก็เป็นแบบนี้แล้ว แม้ฉันจะเพิ่งคลอดลูกก็จริง แต่ก็อดเป็นห่วงเรื่องนี้ไม่ได้ แต่นอกจากฉันจะคิดถึงพ่อและน้อง ๆ ของฉันแล้ว ใจของฉันก็ยังอยู่ที่ลูกนะ ลูกเป็นลูกของฉัน ตั้งท้องตั้งสิบเดือน จะไม่ให้รักได้ไงล่ะ เมื่อลูกร้องไห้ทีไร ฉันก็รู้สึกแย่เหมือนกันนะ เฮ่อ! ฉันคงไม่ดีพอจริง ๆ ที่คุณพูดก็จริงเหมือนกัน ต่อไปฉันจะใส่ใจลูกให้มากกว่านี้นะ”
หลังจากที่ส้งหลิงหลิงพูดจบ น้ำตาของเธอก็ไหลรินลงมาทีละหยด ทำให้คนเห็นแล้วรู้สึกสงสารเธอเหมือนกัน
สีหน้าเคร่งขรึมของเย่เชินหลินค่อย ๆ จางหายไปเล็กน้อย แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “พอแล้ว หยุดร้องได้แล้ว แม่คุณบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าร้องไห้ช่วงอยู่เดือน? ร่างกายเป็นของคุณเองนะ ถ้าไม่รักษาเองแล้วใครจะช่วยล่ะ”
แม้ว่าประโยคนี้จะดูเย็นชา แต่ก็มีความเป็นห่วงอยู่ ส้งหลิงหลิงจึงร้องไห้หนักขึ้น
“ขอบคุณนะ เชินหลิน ฉันรู้ว่าคุณเป็นห่วง ฉันรู้ ฉันจะไม่ร้องไห้แล้ว จะไม่ร้องไห้แล้ว” แม่บ้านคนหนึ่งหยิบทิชชู่มาให้เธอ แต่ส้งหลิงหลิงกำลังให้นมลูก เธอจึงช่วยเช็ดน้ำตาให้เธอเบา ๆ แล้วปลอบใจเธอ “คุณส้งอย่าร้องไห้นะคะ ร้องไห้ตอนอยู่เดือนจะส่งผลกระทบต่อสายตานะคะ”
ยุ่งจริง ๆ ส้งหลิงหลิงคิดในใจ ตอนนี้เย่เชินหลินก็ยืนอยู่ไม่ไกล เธอตั้งใจอยากให้เขามาช่วยซับน้ำตามากกว่า
“ดูแลกันดี ๆ นะ มีเรื่องอะไรโทรหาผมล่ะ” เย่เชินหลินไม่ได้มองส้งหลิงหลิงอีก เขาหันไปคุยกับผู้ดูแลบ้านแล้วเดินจากไป
เย่เชินหลินเข้าไปในรถหลังออกจากโรงพยาบาล เขาสั่งให้คนขับส่งเขาไปที่บริษัท แล้วหลับตาลงเพื่อพักสายตา แต่สีหน้าอันเคร่งเครียดของเขายังคงอยู่
พฤติกรรมของส้งหลิงหลิงทำให้เขาไม่มีความสุขเลยจริง ๆ
ตอนนี้เด็กก็ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ มันจึงทำให้เขาไม่สามารถดีดตัวออกห่างจากผู้หญิงคนนี้ได้ เขาต้องหาวิธีเพื่อที่จะแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังแล้ว
แต่ก็หวังว่าคำเตือนอันเย็นชาที่พูดกับส้งหลิงหลิงในวันนี้จะทำให้เธอไตร่ตรองตัวเองให้มากขึ้น และให้เธอได้เข้าใจอย่างชัดเจนว่าเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก
จะดีกว่าไหมหากบอกความจริงให้เธอรู้ว่าเด็กมีโรคหัวใจ เธออาจจะใส่ใจกับเด็กมากขึ้นก็เป็นไปได้ เย่เชินหลินคิดแล้วคิดอีก แต่ก็รู้สึกว่าไม่เหมาะสม เพราะถ้าเธอรู้ว่าเด็กมีโรคหัวใจแล้ว เธอต้องหาข้ออ้างต่าง ๆ นา ๆ เพื่อจะรั้งตัวเขาไว้ และเธออาจจะใช้เด็กที่ไร้เดียงสาคนนี้เป็นประโยชน์ส่วนตัวได้ด้วย
หลังจากคิดไปสักพักเขาก็โทรหาหลินหลิง
“คุณเย่คะ!”
“วันนี้คุณลองหาแม่เลี้ยงให้ผมหน่อย จ้างมาสักสองคน แล้วลองให้เขามาดูแลลูก”
“ได้ค่ะคุณเย่! หนูไปจัดการเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”
ส้งหลิงหลิง ขอเพียงลูกยอมกินนมของคนอื่น ไม่ว่าลูกจะอยู่กับใครก็ดีกว่าอยู่กับเธอ
ต่อจากนี้ผมจะดูพฤติกรรมของคุณก่อน ถ้าคุณซื่อสัตย์และทำตัวดี ๆ ผมก็อาจจะให้คุณได้อยู่ใกล้ลูกต่อไป แต่ถ้าคุณยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน สักวันผมจะหาวิธีให้คุณออกไปจากลูกให้ได้โดยไม่มีผลกระทบต่อลูกใด ๆ
หลังจากเย่เชินหลินเข้าไปถึงบริษัท ก็มีสายโทรเข้าจากไห่ลี่หมิน
“ได้ข่าวว่านายเป็นพ่อคนแล้วเหรอ?” น้ำเสียงของไห่ลี่หมินไม่ได้แสดงถึงความยินดีใด ๆ เลย
“อือ” เขาก็ตอบอย่างไม่พอใจ
“ลูกชาย?”
“อืม”
“ขอแสดงความยินดีด้วยที่ได้ลูกชาย! ถ้างั้นคนอื่น ๆ และเรื่องอื่น ๆ ของนายก็ไม่สำคัญแล้วสินะ?” ไห่ลี่หมินพูดจาอย่างมีเลศนัย ส่วนเย่เชินหลินสีหน้าเย็นชา เขาจะไม่เข้าใจได้อย่างไรว่าเขาหมายถึงอะไร
“อย่ามาพูดจาอ้อมค้อม มีอะไรรีบพูด!” น้ำเสียงเย่เชินหลินเริ่มตึงเครียด
“อารมณ์ร้อนจริง ๆ เลยนะ เป็นไง หรือว่าเป็นพ่อคนแล้วต้องวิ่งไปมาสองทางแล้วรู้สึกเหนื่อย? สมควรแล้วล่ะ! เคยเตือนนายแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่ารับเด็กคนนี้ ไม่ฟัง! ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่อยากโทรมาเตือนนายสักหน่อย นายอยากเป็นพ่อคนก็เป็นไป แต่อย่าเพิกเฉยกับเซี่ยชีหรั่นนะ ถ้านายปฏิบัติต่อเธอไม่ดี……”
“อยากมาแย่งอีกเหรอ? ฝันไปเถอะ! นายดูแลตัวเองให้ได้ก่อนดีกว่า!” เย่เชินหลินตัดคำพูดของเขา
ดูสิ ดูไอ้หนุ่มคนนี้สิ น่าดึงดูดมากแค่ไหน ยังไม่ทันทำอะไรเลย ก็มีผู้ชายหลายคนโทรมาเตือนเขาแล้ว ดีที่เขาเลิกคบกับคนแซ่โม่คนนั้นไปแล้ว ไม่งั้นก็คงได้รับการแจ้งเตือนจากเขาเหมือนกัน
ไห่ลี่หมินสามารถฟังออกว่าเย่เชินหลินนั้นไม่สบอารมณ์ เขาอาจจะมีลูกแล้วเกิดปัญหาเล็กน้อยระหว่างเขากับเซี่ยชีหรั่น แต่ไม่ถึงกับต้องซีเรียสขนาดนี้นี่นา
เขาไม่พูดเย้ยหยันอีก แต่กลับพูดอย่างจริงจังขึ้นมา “เกิดอะไรขึ้น? มีปัญหาอะไรใช่ไหม? มันไม่ปกติสำหรับนายเลยนะ”
“เปล่าไม่มีอะไร ถ้านายไม่มีธุระอื่นก็แค่นี้ก่อนนะ เราต้องประชุมต่อ” เย่เชินหลินเดินถึงหน้าประตูบริษัทแล้วกดวางสายเขาไป
……
ในระหว่างการทำงานของเซี่ยชีหรั่น เธอจะนึกถึงความฝันของเย่เชินหลินเป็นครั้งคราว แต่เวลาส่วนก็ยังคงอยู่ในสาระการทำงานปกติ
“ชีหรั่นลูกรัก คืนนี้จะกลับมากินข้าวที่บ้านไหม?” จ้าวเหวินอิงแม่ของเซี่ยชีหรั่นโทรหาเธอ
“ตอนนี้หนูยังไม่แน่ใจเลยค่ะแม่ เพราะส้งหลิงหลิงเพิ่งคลอด สองวันนี้เย่เชินหลินก็กำลังยุ่งอยู่ด้วย รอเขามีเวลาก่อนหนูค่อยพาเขากลับบ้านด้วยกันนะคะ ถ้าหนูไปคนเดียวเขาจะเป็นห่วงหนูค่ะ” เซี่ยชีหรั่นพูดตามความจริง
“คลอดแล้วเหรอ? เป็นยังไงบ้าง? เขาเปลี่ยนไปไหม?”
“เปล่าค่ะแม่ ชีวิตของหนูปกติหมดทุกอย่างเลยค่ะ”
“ดีแล้ว แต่นี่มันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ต่อไปลูกก็ต้องเผื่อใจไว้ด้วยนะ ลูกก็เป็นลูกของพวกเขา ถ้าจะให้เขาไม่ลำเอียงเลยก็เป็นไปไม่ได้หรอก ไหน ๆ ลูกก็เลือกแล้วก็ต้องใจกว้างให้มาก ๆ แล้วอย่าคิดมากล่ะลูก” จ้าวเหวินอิงเตือนเธอด้วยความไม่ไว้ใจ
แน่นอนว่าคนเป็นแม่ต้องผ่านอะไรมาเยอะกว่าและเข้าใจความรู้สึกของเธออย่างแน่นอน เซี่ยชีหรั่นคิดว่าสิ่งที่แม่เคยเจอนั้นต้องลำบากกว่าเธอแน่นอน แต่แม่ก็ผ่านมันมาได้ไม่ใช่เหรอ?
เย่เชินหลินก็ดีกับเธอขนาดนี้ แล้วเธอยังต้องการอะไรอีกล่ะ ทำไมเธอต้องเศร้าใจด้วยล่ะ
“หนูรู้แล้วค่ะคุณแม่ หนูไม่ติดใจอะไรเลย สองวันนี้จิ่วจิ่วไม่ได้อยู่กับแม่ แม่รู้สึกเหงามั้ย? ดูก่อนนะ ถ้าคืนนี้เย่เชินหลินไปโรงพยาบาล หนูกลับบ้านแล้วจะคุยเป็นเพื่อนแม่นะ”
“ไม่ต้องห่วงแม่หรอก เธอมีงานก็รีบทำให้เสร็จก่อน อีกอย่างพ่อของเธอก็กลับมาแล้วไม่ใช่เหรอ? แกชวนแม่ไปเดินตลาดทุกวันเลย แม่เที่ยวจนเหนื่อยแล้ว” เมื่อจ้าวเหวินอิงพูดถึงหลี่หมิงจุ้น น้ำเสียงของเธอก็ฟังดูมีความสุขมาก เซี่ยชีหรั่นเม้มปากแล้วคิดถึงอนาคตของเธอกับเย่เชินหลินที่รักใคร่กันแบบนี้
ความลำบากในช่วงหนุ่มสาวนั้นสักวันต้องผ่านไปอย่างแน่นอน เขาทั้งสองต้องมีความสุขตลอดไป ขอเพียงเธอเชื่อมั่นและเขาไม่ยอมแพ้
ตอนเที่ยงวัน หลังจากที่เย่เชินหลินเสร็จงานในช่วงเช้าก็มารับเซี่ยชีหรั่นไปกินข้าวด้วยกัน
“หลิน คุณไป ๆ มา ๆ แบบนี้ฉันรู้สึกไม่สบายใจนะ มื้อเที่ยงฉันกินเองก็ได้ คุณไม่ต้องมาหาฉันทุกวันหรอก โอเคไหม?”
“ไม่โอเคหรอก ถ้าผมไม่มาหาคุณ คุณก็จะกินอะไรไปเรื่อยเปื่อย”
“ฉันสัญญาว่าจะไม่กินเรื่อยเปื่อยหรอก คุณให้เซี่ยอี้ชิงมาดูแลฉันแล้วไม่ใช่เหรอ? ให้เขาเป็นพยานก็ได้” เซี่ยชีหรั่นเป็นห่วงเย่เชินหลินจริง ๆ ถึงได้พูดแบบนี้
“ให้ใครเป็นพยานผมก็ไม่ไว้ใจหรอก ผมต้องเห็นกับตา ที่สำคัญ ผมต้องเห็นหน้าคุณถึงจะทานข้าวอร่อย”
“จริงดิ?”
“แน่นอนสิ!” เขาลูบผมเธอเบา ๆ โอบเอวเธอไว้แล้วพูดอย่างนุ่มนวล “หยุดเถียงกันได้แล้ว เริ่มดื้อแล้วนะ”
“ก็ได้ ไม่เถียงคุณแล้ว แต่คุณต้องรับปากนะ ว่าถ้าวันไหนคุณรู้สึกเหนื่อยจริง ๆ คุณก็จะไม่มาหาฉัน อย่าฝืนนะเข้าใจไหม ฉันไม่ชอบคนฝืนตัวเองนะ”
“รู้แล้ว!” เย่เชินหลินแกล้งทำหน้าดุใส่เธอ แล้วเซี่ยชีหรั่นก็แลบลิ้นใส่เขา ทั้งสองต่างรู้สึกหวานชื่นในใจ
……
แม่บ้านหาง่ายแต่แม่เลี้ยงหายาก หลินหลิงได้รับคำสั่งแล้วมอบหมายงานให้คนไปหาแม่เลี้ยงที่เหมาะสมที่สุดมา
เธอเป็นคนทำงานละเอียดมาก เมื่อได้รับคำสั่งแล้วก็ขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทันที ควรหาแม่เลี้ยงที่คลอดเดือนเดียวกับลูก เพราะน้ำนมของแม่จะแตกต่างกันไปตามเดือนที่คลอด และน้ำนมของแม่จะปรับเปลี่ยนไปตามอายุขัยของทารกโดยอัตโนมัติ ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้หาแม่เลี้ยงที่เหมาะสมได้ยากขึ้น
จนถึงสี่โมงครึ่งของเย็นวันนั้น หลินหลิงก็ได้หาแม่เลี้ยงที่เหมาะสมที่สุดได้สองคนแล้ว เธอจริงรายงานให้เย่เชินหลินทราบแล้วรีบพาเขามาที่โรงพยาบาล
สำหรับเด็กทารกคนหนึ่งแล้ว มันไม่ใช่เรื่องเล็กเลย เย่เชินหลินรีบทำงานให้เสร็จแล้วเข้าไปที่โรงพยาบาลและเขาได้ไปถึงก่อนหลินหลิง
“เชินหลิน เสร็จงานแล้วเหรอ?” ส้งหลิงหลิงเห็นเย่เชินหลินกลับมาอีกครั้ง แต่สีหน้าของเธอไม่มีความสุขเหมือนช่วงเช้าที่เห็นเขาเลย
เธอเห็นได้ชัดว่าสีหน้าของเย่เชินหลินนั้นไม่ค่อยสบอารมณ์ต่อเธอเท่าไหร่ ช่วงเช้าแม่ของเธอเข้ามาแล้วสั่งให้คนใช้ออกไปนอกห้องเพื่อจะบอกเธอโดยส่วนตัวว่าอย่าเพิ่งรีบร้อน
“คนอย่างเย่เชินหลินไม่ได้หลอกง่าย ๆ นะ เธอลองคิดดูสิ นอกจากเรื่องที่ทำให้เขามีทารกคนนี้แล้ว เธอเคยปิดบังอะไรเขาได้อีก?”
“หนูรู้แล้วค่ะแม่ ไม่ต้องย้ำหนูซ้ำ ๆ หรอก ถ้าหนูทำให้เขามีลูกกับหนูโดยที่ไม่ทันตั้งตัวได้ หนูก็สามารถทำให้เขาเปลี่ยนใจได้ คอยดูก็แล้วกัน” ส้งหลิงหลิงวางมือไว้บนใบหน้าเล็ก ๆ ของลูกแล้วลูบเบา ๆ
“คุณน้าครับ!” เย่เชินหลินทักทายนายหญิงส้งตามมารยาท
“เชินหลิน” นายหญิงส้งก็เรียกชื่อเย่เชินหลินตามมารยาทเหมือนกัน ไม่มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกว่านี้ เพราะทัศนคติของเย่เชินหลินที่มีต่อนายหญิงส้งมันไม่สำคัญอะไรเลย
“ลูกไม่งอแงเลย วันนี้ทั้งวันก็ไม่ได้ร้องไห้เลยนะ แม่บ้านก็ดูแลได้ดีมาก ทุกคนต่างก็มีไหวพริบการทำงานเยี่ยมมาก” ส้งหลิงหลิงพูดเบา ๆ เมื่อเทียบกับตอนเช้า เธอเปลี่ยนไปมาก อย่างน้อยคำพูดคำจาของเธอก็ให้ความสำคัญกับลูกมากขึ้น ซึ่งทำให้เย่เชินหลินพอใจกับการปรับตัวของเธอ
ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ เย่เจิ้งเหิงตัวน้อยก็ตื่นขึ้นมา แล้วส่งเสียงออกมา
แม่บ้านหลี่ที่รับผิดชอบอุ้มเด็กจึงรีบเข้าไปอุ้มเด็กขึ้นมา เมื่อเห็นปากของเด็กกำลังขยับอยู่ เธอก็รีบเอาเด็กไปให้ส้งหลิงหลิง “คุณส้งคะ ปากของเด็กกำลังขยับ น่าจะหิวแล้วค่ะ”
ในเวลานั้นหลินหลิงก็ได้พาแม่เลี้ยงมาถึงโรงพยาบาล เธอเคาะประตูเข้ามา เมื่อเย่เชินหลินเห็น เขาจึงพูดกับส้งหลิงหลิงที่กำลังจะให้นมลูก “ผมให้หลินหลิงไปหาแม่เลี้ยงมาสองคน ให้พวกเธอลองดู ถ้าลูกกินนมพวกเธอ คุณก็จะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset